มองดูท่าทางของเหลียงหยูซิน ที่มองซูสือเยว่ด้วยความชื่นชม หยางชิงโยวก็ขมวดคิ้วอย่างรุนแรง
ไม่ได้!
เธอจะให้เหลียงหยูซินมีความรู้สึกดีๆ ต่อซูสือเยว่ไม่ได้!
ถ้าเกิดว่าเหลียงหยูซินไม่เกลียดซูสือเยว่แล้ว แล้วหมากตัวต่อไปของเธอจะวางยังไงกันล่ะ?
พอคิดได้แบบนี้ เธอก็หัวเราะอย่างเย็นชา “ความสามารถแค่นี้ของซูสือเยว่ ก็สอนเซี่ยงหวั่นฉิงที่เป็นเน็ตไอดอลผันตัวมาเป็นนักแสดงได้”
“นักแสดงมืออาชีพ มีคนไหนที่ไม่เก่งเท่าเธอบ้าง? ”
หยางชิงโยวเบะปาก แล้วก็ยื่นมือออกไปจับเหลียงหยูซิน “เธอเก่งกว่าหล่อนตั้งเยอะ”
“ได้ว่าหล่อนได้เป็นนางเอก เธอเป็นนางรอง น่าเสียดายจริงๆ ”
“ก็ยังดีนะ”
เหลียงหยูซินค่อยๆ ดึงมือกลับมาจากหยางชิงโยว “เมื่อกี้ซูสือเยว่เล่าเรื่องอะไรบางอย่างให้ฉันฟังด้วยแหละ”
หญิงสาวหันหน้ามา แล้วก็ถอยหลังไปหนึ่งก้าว รักษาระยะปลอดภัยกับหยางชิงโยว “มันเป็นเรื่องที่ล้าสมัยมากเลย แต่ว่าก็ค่อนข้างน่าสนใจเลยนะ”
“ฉันคิดว่า ฉันควรจะกลับไปทบทวนเรื่องนี้ด้วย”
เหลียงหยูซินสูดลมหายใจเข้าลึกๆ รอยยิ้มเธอดูเย้ยหยันเล็กน้อย
หยางชิงโยวขมวดคิ้ว “เรื่องอะไรกัน? ”
“ เรื่องนกกับหอยทะเลาะกัน แต่คนตกปลากับได้ประโยชน์น่ะ”
เหลียงหยูซินหัวเราะเยาะ “หยางชิงโยวฉันจำได้ว่า ถ้าเกิดว่าไม่ใช่เพราะว่ามีการเปลี่ยนนางเอกของเรื่องนี้ เธอก็จะได้เป็นนางรองใช่ไหม”
“นางรองคือบทบาทที่เธอชอบ เพราะว่าได้หมกมุ่นอยู่กับพระเอก แล้วก็เห็นแก่ความรักอย่างจริงจัง”
“แต่ว่าตัวรองของนางรองอีกที ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของบุคลิกภาพหรือความรักต่อพระเอกก็แย่กว่ามาก “
“เธอเคยบอกฉัน ว่าไม่ชอบตัวรองของนางรอง”
“ถ้าเกิดว่าฉันตั้งตัวเป็นอริกับซูสือเยว่ไปเรื่อยๆ พวกเราสองคนทะเลาะกัน ไม่ว่าสุดท้ายแล้วใครจะได้เป็นตัวเอก บทนางรอง ก็จะกลับไปเป็นของเธอ”
พอพูดจบเหลียงหยูซินหายใจเข้าลึกๆ “ข้อนี้ ฉันน่าจะคิดได้ตั้งนานแล้ว”
“แต่ว่าน่าเสียดาย ที่คนที่อยู่ในเกมจะมองไม่ทะลุ ต้องรอให้เด็กผู้ชายคนนั้นช่วยวิเคราะห์ให้ ฉันถึงจะเข้าใจ”
ใบหน้าของหยางชิงโยวซีดลงอย่างมาก
เธอกัดริมฝีปาก “หยูซิน ฉันไม่ได้คิดแบบนั้นน่ะ!”
“เธออย่าไปโดนซูสือเยว่ล้างสมองนะ ความสัมพันธ์หลายปีของเรา เธออย่า……”
“งั้นเหรอ?”
เหลียงหยูซินหัวเราะเยาะ แล้วก็หยิบโทรศัพท์ออกมาเปิดรูป “แล้วนี่เธอจะอธิบายยังไง? ”
พอหยางชิงโยวเห็น ก็หน้าซีดเป็นกระดาษทันที
ในรูปนั้น คือรูปที่เธอกำลังพูดคุยกับนักข่าวบันเทิงคนหนึ่งอยู่!
และความร่วมมือของเธอกับนักข่าวคนนี้ ก็คือสคริปต์ข่าวหลังจากที่มีการประกาศว่าเธอได้รับบทนางรอง
หรือแม้แต่ ในสถานการณ์ที่เธอยังไม่ทันจะรู้ว่าซูสือเยว่หรือเหลียงหยูซินใครกันแน่ที่จะได้เป็นนางเอก ก็ได้เตรียมสคริปต์ข่าวไว้สองฉบับแล้ว
ถ้าเกิดว่าซูสือเยว่เป็นนางเอก ก็จะเขียนข่าวว่าเธอกับซูสือเยว่เข้ากันได้ดี
ถ้าเกิดว่าเหลียงหยูซินได้เป็นนางเอก ก็จะเขียนว่าเธอกับเหลียงหยูซินเป็นพี่น้องที่รักกัน!
ทั้งหมดนี้ หยางชิงโยวแอบทำอย่างลับๆ
เธอนึกว่าสิ่งที่เธอทำนั้นมันแนบเนียนไม่มีที่ติ
แต่……ทำไมเหลียงหยูซินถึงได้……
สีหน้าที่ซีดเผือดของหญิงสาว ได้ทรยศเธออย่างสมบูรณ์
“ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง……”
เหลียงหยูซินถอนหายใจ แล้วก็เก็บโทรศัพท์กลับไป “หยางชิงโยว ฉันเห็นเธอเป็นเพื่อนมาโดยตลอด ที่เธอได้มาเล่นหนังเรื่องนี้ ก็เพราะว่าฉันเห็นว่าเธอชอบจี้หนานเฟิงมาโดยตลอด แต่ว่าไม่เคยได้มีโอกาสได้ร่วมงานกับจี้หนานเฟิงเลย ก็เลยพยายามผลักดันเธอกับผู้กำกับเต็มที่”
“แต่ว่าฉันไม่เคยคิดเลยว่า เธอจะหลอกใช้ฉัน”
“ในสายตาของเธอ ฉันก็เป็นแค่หมากตัวหนึ่งเท่านั้น!”
พอพูดจบเหลียงหยูซินก็หันหลังแล้วก็เดินจากไปโดยที่ไม่หันหน้ามาเลยแม้แต่นิดเดียว
เธอควรจะขอบคุณเด็กน้อยที่ชื่อซิงหยุนคนนั้น
ถ้าเกิดว่าเขาไม่ได้ส่งอีเมลมาให้เธอ เธอก็คงจะไม่เข้าใจ ว่าคนตกปลาที่ซูสือเยว่พูดถึงเมื่อกี้คืออะไรกัน
หยางชิงโยวยืนนิ่งอยู่ที่เดิม มองดูแผ่นหลังของเหลียงหยูซินที่เดินจากไป แล้วก็กัดฟันแน่น
ซูสือเยว่ไปเรียนวิชาร่ายคาถาอะไรมา?
ยัยโง่อย่างเหลียงหยูซินถูกเธอหลอกมาเกือบจะสองปีแล้ว ตอนนี้จู่ๆ ก็รู้ตัวยังงั้นเหรอ?
แล้วอีกอย่าง รูปถ่าย แล้วก็สคริปต์ข่าวโทรศัพท์ของเหลียงหยูซินนั้นมาจากไหนกัน?
ตอนที่เธอกำลังสับสนอยู่นั้น ผู้ช่วยของเธอก็โทรมา “คุณหยาง คอมพิวเตอร์ของคุณถูกแฮ็ก “
“ดูเหมือนว่าข้อมูลทั้งหมดจะถูกคัดลอกมา”
“จะแจ้งตำรวจไหม? ”
เมื่อได้ยินเสียงในโทรศัพท์ หยางชิงโยวก็รู้สึกหนาวขึ้นมาทันที
คอมพิวเตอร์ถูกแฮ็ก……
ดูเหมือนว่าเธอจะประเมินซูสือเยว่ต่ำไป!
พอคิดได้แบบนี้ เธอก็เงยหน้าขึ้น แล้วก็มองไปที่ซูสือเยว่ที่กำลังถ่ายทำอยู่ในสตูดิโอด้วยแววตาที่เย็นชา เธอกัดฟันกรอดด้วยความโกรธ
……
“คุณซู”
เมื่อเสร็จสิ้นการถ่ายทำช่วงบ่าย ซูสือเยว่พึ่งจะล้างเครื่องสำอางเสร็จเตรียมจะกลับบ้าน ก็มีผู้ช่วยคนหนึ่งที่ดูเหมือนผู้ช่วยมาหยุดเธอไว้
“สวัสดีค่ะ”
คนคนนั้นสุภาพอย่างมาก “ฉันเป็นผู้ช่วยของคุณเหลียงหยูซิน”
“คุณเหลียงให้ฉันมาขอโทษคุณ”
“การสื่อสารในวันนี้กับนายน้อยซิงหยุน ทำให้คุณเหลียงตระหนักถึงความผิดพลาดของเธออย่างลึกซึ้ง เธออยากจะกล่าวขอโทษคุณ”
“นอกจากนั้น วิดีโอที่คุณจูบกับสแตนด์อินคนนั้นในตอนเช้า มันเกิดขึ้นเพราะว่าคุณเหลียงให้คนไปทำจริงๆ ”
“แต่ว่าไม่นานเธอก็ตระหนักได้ถึงความผิดของตัวเอง”
“แต่……”
ปลายสายนั้นถอนหายใจ “ไม่รู้ว่าทำไม หลังจากข่าวกับวิดีโอนั้นเผยแพร่ออกไป ก็สร้างความฮือฮาได้มากมาย”
“พวกเราตระหนักได้ถึงความผิด ก็อยากจะลบข่าวกับวิดีโอนั้น แต่กลับพบว่าลบไม่ได้เลย”
“แล้วอีกอย่าง มีการพูดคุยเกี่ยวกับคุณและวิดีโอการจูบกันมากขึ้นเรื่อยๆ บนอินเทอร์เน็ต”
ซูสือเยว่ขมวดคิ้ว ไตร่ตรองอยู่นานมาก
พอปลายสายจากไป เธอถึงได้เข้าใจความหมายของผู้ช่วยเหลียงหยูซิน
ความหมายของผู้ช่วยคนนั้นก็คือ คนที่ยังปล่อยข่าวลือในตอนเย็นนี้ ไม่ใช่คนของเหลียงหยูซินแล้ว
ซูสือเยว่นั่งอยู่บนรถที่จะกลับบ้าน เธอนั่งพิงเบาะหลังรถ ขณะรับลมเย็นในยามเย็น ฉันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอ่านข่าว
บนอินเทอร์เน็ตนั้น การพูดคุยเกี่ยวกับการจูบของเธอกับ “สแตนด์อิน” อย่างฉินโม่หานนั้นยังเป็นที่นิยมอย่างมาก
สิ่งที่ทำให้เธอพูดไม่ออกและรู้สึกว่าน่าขำนั้น ก็คือหัวข้อที่คนพวกนี้คุยกันมันได้หลุดกรอบไปอย่างสมบูรณ์แล้ว
ชาวเน็ตวิจารณ์กันดุเดือดมาก ตั้งแต่เรื่องที่แสดงฉากจูบแทนได้อย่างเหมาะสม แม้กระทั่งคุยกันว่าจี้หนานเฟิงกับสแตนด์อินคนนี้ใครมีเสน่ห์มากกว่า
เมื่อได้อ่านคำพูดของชาวเน็ต ซูสือเยว่ก็ยิ้มขึ้นมาจางๆ
ถ้าหากคำถามนี้มาอยู่ตรงหน้าเธอ เธอก็คงโหวตทั้งหมดให้กับสามีของตัวเอง
ผู้ชายของเธอ เธอไม่รัก แล้วใครจะรัก?
เมื่ออ่านความคิดเห็นไปหลายหน้า หลังจากที่กดถูกใจให้กับโหวตว่าซูสือเยว่กับสแตนด์อินเหมาะสมกันมากกว่า เธอก็ปิดหน้านั้นลง
บนโลกออนไลน์วิจารณ์กันอย่างดุเดือด
แต่ซูสือเยว่ยังพอดูออก ว่าเบื้องหลังการวิพากษ์วิจารณ์ครั้งใหญ่นี้ ต้องมีคนคอยหนุนอยู่เบื้องหลังแน่นอน
แต่… คนคนนี้คือใคร?
คนและทรัพยากรของเหลียงหยูซินได้หายไปหมดแล้ว
เธอหลับตาลง
การตลาดดีขนาดนี้ หัวข้อที่เป็นที่นิยมขนาดนี้
ดังนั้น คนเบื้องหลังนี้…
คงจะเป็นฉินโม่หานเองแหละ!
เมื่อคิดถึงตรงนี้ เธอก็เบะปาก แล้วโทรออกหาเบอร์หนึ่ง “นายคิดจะทำอะไร? ”