สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ – ตอนที่ 155 วางไว้บนตำแหน่งที่สำคัญที่สุด

“เจ้าชายแห่งวงการบันเทิงจี้นี่คุณพูดตลกไปแล้ว”

ซูสือเยว่กระแอมออกมาอย่งเขินอาย “คุณเป็นคนที่ยอดเยี่ยมคนหนึ่ง ผู้หญิงที่อยากจะแต่งงานกับคุณมาจากทั่วทุกสารทิศมากมายก่ายกอง…”

“แต่ผมกลับถูกใจอาหารอันเลิศรสบนโต๊ะของคนอื่นซะนี่”

จี้หนานเฟิงกระตุกรอยยิ้มอย่างเรียบเฉย “ผมเชื่อว่าสักวันหนึ่ง ผมสามารถเอาอาหารรวมถึงจานดึงกลับมาได้”

พูดจบ เขาก็เดินก้าวเท้าออกจากประตูไปอย่างสง่างาม

ตอนที่เดินใกล้ข้างกายซูสือเยว่ เหมือนว่าเขาคิดอะไรออกมาจากนั้นก็มองเธอ “ผมจำได้ผมเคยพูดกับคุณ เรื่องของว่าที่ภรรยาของผม”

ซูสือเยว่พยักหน้าทันที “ใช่ค่ะใช่ เคยพูดอยู่”

“เจ้าชายแห่งวงการบันเทิงจี้ คุณยังมีว่าที่ภรรยา…”

“ผมวางแผนไว้ว่ารอให้ถ่ายหนังเรื่องนี้เสร็จก่อน ก็จะกลับไปยกเลิกการหมั้นหมายซะ”

ตอนที่พูดออกมา เขาก็ยกมือขึ้นมาตบไหล่ซูสือเยว่ “เยว่เอ๋อร์ รอผมนะ”

ซูสือเยว่ “….”

เธอจ้องมองแผ่นหลังของชายหนุ่มด้วยความรู้สึกสับสนเกิดขึ้นในใจ อย่างตกตะลึง

ถ้าเธอไม่ได้เจอกับฉินโม่หาน บางทีเธออาจจะหน้าแดงหัวใจเต้นถี่เพราะคำพูดของจี้หนานเฟิงก็ได้

แต่ว่าเธอเป็นภรรยาของฉินโม่หานไปแล้วนะสิ

คำพูดของเขา มันยิ่งทำให้เธอเบื่อหน่ายมาก

เธอถอยนหายใจ จากนั้นก็ลุกขึ้นยืน และคิดจะกลับไปที่ห้องของตนเอง

เมื่อขึ้นลิฟต์และเดินออกจากลิฟต์แล้ว เธอก็เห็นหยางชิงโยวที่กำลังโทรศัพท์อยู่พอดี

“แกจะไปหานางที่สุสานไหม?”

“อือ ฉันก็เกือบลืมไปเสียสนิทว่าวันนี้เป็นวันเกิดของเธอ ยังดีที่ว่าท่านชายฉินความจำดี..”

เธอพูดไปด้วยและโทรศัพท์ไปด้วย “แกจะไปพร้อมกับท่านชายฉิน..”

ยังไม่ทันพูดจบ เธอก็เห็นซูสือเยว่

หยางชิงโยวเงียบปากทันที จากนั้นก็วางโทรศัพท์ พร้อมทั้งยิ้มและทักทายซูสือเยว่อย่างอ่อนโยน “ฉันยังนึกว่าแกจะไม่กลับมาพักที่โรงแรมแล้วนะเนี่ย”

“ท่านชายฉินช่างดีกับแกจริงๆ เลย”

ซูสือเยว่พยักหน้าเล็กน้อย “เขาดีกับฉันมากจริงๆ”

เธอทั้งพูดไป พร้อมทั้งกวาดตามองโทรศัพท์ของหยางชิงโยวอย่างเย็นชา

โทรศัพท์ที่อยู่ในมือของเธอ หน้าจอยังปรากฏกำลังสนทนาอยู่ แต่คนที่อยู่ในโทรศัพท์ เป็นเย่เชียนจิ่วแทน

ซูสือเยว่ตกใจเล็กน้อย แต่พอครุ่นคิดแล้ว ก็สามารถเข้าใจได้

หยางชิงโยวแท้จริงแล้ว ตั้งแต่เริ่มเข้ามาอยู่ในกองถ่ายก็เริ่มเป็นศัตรูกับเธอตั้งแต่แรกแล้ว

หยางชิงโยวชักชวนให้เหลียงหยูซินเป็นศัตรูกับเธอ ในทางตรงกันข้ามเย่เชียนจิ่วกับเกลี้ยกล่อมจนทำให้ซูโม่ทำร้ายเธอ ลักษณะที่แตกต่างกันแต่ได้ผลลัพธ์ที่เหมือนกัน

สองคนนี้เป็นเพื่อนสนิทกันมา เธอก็ไม่ได้รู้สึกแปลกใจอะไร

“ใช่สิ คุณฉินก็ดีสำหรับผู้หญิงของเขาเสมอ”

หยางชิงโยวถอนหายใจเล็กน้อย “ตอนนั้น เขาก็ดีกับเฉินเชี่ยนมาก”

พูดไป เธอก็เชิดหน้าขึ้น พร้อมทั้งจ้องมองใบหน้าของซูสือเยว่ “แกน่าจะรู้จักเฉินเชี่ยนใช่ไหม?”

“เฉินเชี่ยนเป็นเพื่อนของเชียนจิ่ว ในปีนั้นดื่มหนักไปหน่อย เลยเข้าห้องผิด จนไปนอนกับท่านชายฉิน”

“จากนั้นเธอก็ตั้งท้อง แถมยังเป็นเด็กแฝดอีก แม้ว่าท่านชายฉินจะไม่ได้ดูแลด้วยตนเอง แต่ก็ช่างดีกับเธอในช่วงเวลานั้น…”

“แต่ช่างน่าเสียดาย เฉินเชี่ยนอายุสั้น พอคลอดเด็กทั้งสองคนแล้ว ก็เสียชีวิตไป”

หยางชิงโยวถอนหายใจ “ไม่งั้น จะให้ผู้หญิงคนอื่นมาเป็นแม่ให้กับเด็กสองคนไหมล่ะ แกว่าใช่ไหม?”

ซูสือเยว่ค่อยขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่ไม่ได้พูดอะไร

หยางชิงโยวจงใจตีหน้าเครียดและปิดปากของตนเองทันที “ขอโทษ ฉันไม่ควรพูดพวกนี้ต่อหน้าแกเลย”

ท่าทางจงใจของเธอ มันยิ่งทำให้ซูสือเยว่ถึงกับอดกระตุกยิ้มไหว

หญิงสาวจ้องมองหยางชิงโยวด้วยความเรียบเฉย “อยากจะพูดอะไรก็พูดมา ไม่ต้องอ้อมค้อมไปไกลเป็นโยด ถ้าแกไม่เหนื่อย ฉันจะเหนื่อยแทนให้เอง”

พูดจบ เธอก็กวาดตาจ้องมองหยางชิงโยวตั้งแต่หัวจรดเท้า “ทำเหมือนกับเย่เชียนจิ่วเลย อยากจะพูดกับฉัน ว่าฉันเป็นตัวแทนของผู้หญิงคนนั้นเหรอ?”

“ไม่ต้องพูดหรอก ฉันรู้อยู่แล้ว”

พูดจบ หญิงสาวก็หันหลังใส่ และเดินจ้ำอ้าวหนีไป

“อีเวร!!!”

ยังไม่ทันวางสายโทรศัพท์ เย่เชียนจิ่วก็อดปากไม่ไหวจนเผลอสบถด่าออกมา “นังซูสือเยว่มีสิทธิ์อะไรที่มากวนตีนใส่ฉัน แม่งเอ๊ย!”

หยางชิงโยวแสยะยิ้มมุมปากอย่างเย็นชา และมองแผ่นหลังของซูสือเยว่ “เชียนจิ่ว อย่าเพิ่งรีบร้อน”

“เธอกับฉินโม่หานเพิ่งรู้จักกันไม่นานเอง? เธอมั่นหน้าได้ขนาดนี้ ความรู้สึกของฉินโม่หานที่มีต่อเธอไม่สามารถมาแทนที่ได้?”

“ฉันไม่สนใจ!”

เสียงปลายสายของเย่เชียนจิ่วโมโหกระฟัดกระเฟียดหนักหน่วง “ชิงโยวแกต้องช่วยฉัน!”

ถ้าซูสือเยว่ไม่ใช่แม่ของซิงหยุนกับซิงเฉิน เป็นแค่ผู้หญิงทั่วไป เย่เชียนจิ่วคงไม่ต้องร้อนรนขนาดนี้หรอก

แต่ซูสือเยว่เป็นแม่ผู้ให้กำเนิดซิงหยุนกับซิงเฉินจริงๆ

แค่เธอคอยอยู่ข้างฉินโม่หาน สักวันหนึ่งความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเด็กๆ ก็จะถูกเปิดเผยได้โดยง่ายดาย

ฉินโม่หานคอยละอายใจกับแม่ของเด็กๆ มาโดยตลอด เมื่อเขารู้ว่าซูสือเยว่เป็นแม่ของเด็กๆ เช่นนั้นก็ไม่มีวิธีที่จะเปลี่ยนแปลงอะไรแล้ว!

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เย่เชียนจิ่วคว้าโทรศัพท์เอาไว้แน่น “ชิงโยวแกต้องช่วยฉัน”

“แม้ว่าจะผิดกฎหมาย ฉันก็จะได้อีนังผู้หญิงคนนี้ที่อยู่ข้างกายฉินโม่หานไปให้ไกล!’

“นี่แกบ้าไปจริงๆ แล้ว”

หยางชิงโยวกระตุกรอยยิ้มเรียบเฉย “วางใจเถอะ ฉันจะช่วยแก”

ถ้าก่อนหน้านี้ที่เธอช่วยเย่เชียนจิ่วก็เพื่อจะกดซูสือเยว่ให้ต่ำลง เช่นนั้นตอนนี้ เธอมีเหตุผลที่สำคัญกว่า…

“ฉันเชื่อว่าจะมีสักวันหนึ่ง ที่สามารถเอาอาหารรวมถึงยกจานเดินออกไปได้”

เสียงของจี้หนานเฟิงที่ดังเข้าหูตอนที่พูดคุยซูสือเยว่อยู่ชั้นบน

มือข้างลำตัวของหยางชิงโยวพลันบีบเข้าหากันจนแน่น

เธอชอบจี้หนานเฟิงมานานหลายปีแล้ว

ตั้งแต่เริ่มดังจนมีชื่อเสียงขึ้นมา เธอก็เริ่มวิ่งตามรอยเท้าของเขา การเดินทุกย่างก้าวเพื่อจะเดินเคียงคู่ไปกับเขา

เธอใช้เวลาสองปีเต็ม ในการอยู่ในวงการบันเทิงอย่างยากลำบาก

วันนี้ ในที่สุดเธอก็มีโอกาสในถ่ายหนังกับจี้หนานเฟิง

เขาเป็นพระเอกเบอร์ต้น เธอเป็นตัวประกอบเบอร์สาม แม้ว่าจะไม่ได้เล่นด้วยกัน แต่เธอก็รู้สึกดีใจมาก ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับจี้หนานเฟิงเริ่มขยับใกล้กันอีกขั้นแล้ว

แต่ซูสือเยว่…

หยางชิงโยวหรี่ตาลงเล็กน้อย

เย่เชียนจิ่วหวังให้ซูสือเยว่หายไป แล้วเธอล่ะจะไม่ลองทำหน่อยเหรอ?

……

เมื่อกลับมาที่ห้องพัก ซูสือเยว่ก็ปิดประตูทันที จากนั้นก็ผล็อยหลับบนเตียงสักงีบ

ตอนที่ตื่นลืมตาขึ้นมานั้น ท้องฟ้าก็มืลงแล้ว

เธอควานหาโทรศัพท์เพื่อดูเวลา ตอนนี้สองทุ่มกว่าเข้าไปแล้ว

หลังจากหาวเสร็จ เธอก็ลุกขึ้นจากเตียงเพื่อเก็บของของตนเอง จากนั้นก็ลงไปชั้นล่างเพื่อหาซื้อของกิน

พอเปิดประตูมา ก็เห็นจี้หนานเฟิงที่กระหืดกระหอบขึ้นมาพอดี

จี้หนานเฟิงใส่แว่นตาดำและหน้ากากปิดหน้าแต่งตัวอาวุธครบมือ ในเวลานี้

เมื่อเห็นว่าเธอยังงัวเงียอยู่ เขาก็หัวเราะเบาจากนั้นก็ถอดหน้ากากออก “จะลงไปชั้นล่างหาซื้อของกินเหรอ?”

ซูสือเยว่พยักหน้าเล็กน้อย “อืม”

“ด้านล่างนักข่าวเยอะมาก อย่าไปเลย”

จี้หนานเฟิงเปิดประตูห้องพักของตนเองออกกว้างๆ “ที่นี่ผมมีของกินอยู่ กินด้วยกันไหม?”

ซูสือเยว่ผงะทันที แต่ลังเลอยู่บ้าง

ตอนนี้ก็มืดแล้ว เธอไปนั่งกินอยู่ในห้องของคนอื่น ไม่ค่อยดีมั้ง?

ราวกับว่ามองความสงสัยของเธอออก จี้หนานเฟิงกระตุกรอยยิ้มแล้ว “ตอนนี้คุณเข้าไปนั่งดูโทรทัศน์รอก่อนนะ ผมจะไปเรียกพวกของเหลียงหยูซินมานั่งกินด้วยกัน”

เมื่อได้ยินเขาพูดเช่นนี้แล้ว ซูสือเยว่ถึงวางใจลงได้ พลันย่างเท้าก้าวเข้าไปในห้อง

เธอไม่ใช่ว่าจะไม่ในเชื่อนิสัยจี้เฟิงหนานได้ไหม แต่คำพูดของคนมันช่างน่าหวาดกลัว

แต่ว่าถ้าพวกของเหลียงหยูซินก็มาด้วย นั่นก็ไม่เหมือนกันแล้ว

การรวมตัวกันในกองถ่ายถือว่าเป็นเรื่องปกติดี

เธอไม่ได้ปิดประตูห้อง และเดินเข้าไปในห้องของจี้หนานเฟิงโดยตรงเลย จากนั้นก็นั่งลงบนโซฟา พร้อมทั้งหยิบรีโมทเพื่อจะเปิดดูซีรี่ย์

“วันนี้ตอนบ่าย นักแสดงหยางชิงโยวและเย่เชียนจิ่วเพื่อนสนิทเดินทางมายังสุสานเพื่อมาไหว้เพื่อนที่เสียชีวิตไปแล้ว”

โทรทัศน์กำลังอ่านข่าวของหยางชิงโยว

ในข่าว หยางชิงโยวกำลังพรรณนาเล่าเรื่องของเฉินเชี่ยนเสียงเบาผ่านไมโครโฟน

“เธอเป็นคนที่แสนน่าเวทนา เมื่อคลอดลูกแฝดออกมาแล้วก็เสียชีวิตทันที ตอนนี้ลูกชายของเธอก็เรียกผู้หญิงคนอื่นว่าหม่ามี๊ ไม่รู้ว่าตอนนี้ในใจของเธอนั้นจะเสียใจมากอยู่ใช่หรือไม่….”

ซูสือเยว่ขมวดคิ้ว และคิดจะเปลี่ยนช่อง ทว่าก็เห็นภาพด้านหลังจากในข่าว มีแขนข้างหนึ่งที่อยู่ข้างๆ ภาพ พลันตบบ่าของเย่เชียนจิ่วอย่างแผ่วเบา

แขนข้างนั้น…

ชายเสื้อและกระดุมเสื้ออันคุ้นตา จนทำให้ดวงตาของซูสือเยว่ร้อนผ่าว

“วันนี้คนที่มาไหว้สุสานของเธอ ล้วนแต่เป็นคนที่สนใจเธอทั้งนั้น”

หยางชิงโยวยังคงพูดน้ำตาคลอเบ้ากับไมค์โครโฟน “แม้ว่าเธอจะตาย แต่ว่าบนโลกใบนี้ก็มีคนคอยจดจำเธออยู่ในใจตลอดเวลา และเอาเธอวางไว้บนตำแหน่งที่สำคัญที่สุดแล้ว”

มือที่ถือรีโมทของซูสือเยว่สั่นจนค้างเติ่งทันที

วางไว้…ในตำแหน่งที่สำคัญที่สุด?

สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ

สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ

หลังข่าวลือที่เสียโฉม ท่านชายฉินโหดร้ายอำมหิต ทำคู่หมั้นตายติดต่อกันสองคน ผู้หญิงทั้งเมืองไม่มีใครกล้าแต่งงานด้วย แต่ซูสือเยว่กลับแต่งสาวน้อย ต่อไปให้ฉันปกป้องเธอเองเพิ่งแต่งงาน เธอก็ถูกลูกน้อยน่ารักน่าหยิกสองคนแย่งกันอย่างคลั่งใคล้ซะแล้ว……

Comment

Options

not work with dark mode
Reset