สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ – ตอนที่ 157 เธอดื่มหนักไปแล้วเลยเกิดภาพหลอนขึ้นมั้ง

แม้ว่าไม่รู้ว่าทำไมซูสือเยว่ถึงถามคำถามนี้ไปทำอะไร แต่เหลียงหยูซินก็ยังพยักหน้าให้ “ฉันจะช่วยแกถามๆ ให้นะ”

“อื้อ!”

หญิงสาวสูดหายใจลึกๆ กำลังจะพูดขอบคุณเหลียงหยูซินอย่างจริงใจ โทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้นมา ฉินโม่หานนี่เอง

เหลียงหยูซินเหลือบตามองชื่อที่บันทึกในโทรศัพท์ของเธอ

“ชิชะ ที่รักเหรอ?”

“คู่สามีภรรยาข้าวใหม่ปลามันอยากจะอ้วกซะจริงๆ”

เธอยักไหล่ สายตาไม่มีความอิจฉาริษยาซูสือเยว่ดั่งก่อนแล้ว “ฉันไม่รบกวนแกที่แกกับคุณฉินของแกจะออดอ้อนกันแล้วแหละ”

พูดจบ เธอก็โบกมือมาทางซูสือเยว่ จากนั้นก็หันตัวเดินกลับเข้าห้องไป

เมื่อประตูระเบียงปิดลง

ซูสือเยว่ก็เหลือบมองโทรศัพท์ที่กำลังสั่นอยู่ พลันสูดหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่ จากนั้นก็กดรับสาย

“ทำไมนานขนาดนี้ถึงรับสายได้ ยุ่งอยู่เหรอ?”

เมื่อกดรับสายแล้ว น้ำเสียงสุขุมราวกับเสียงกำลังสีเซลโลของชายหนุ่มดังขึ้น

หญิงสาวกำโทรศัพท์เอาไว้แน่น “ไม่ได้ยุ่ง”

“คุณล่ะ คุณทำอะไรอยู่?”

เสียงปลายสายหัวเราะเบาๆ “กำลังคิดถึงคุณอยู่”

หัวใจของซูสือเยว่ค้างเติ่งเล็กน้อย

เธอสูดลมหายใจเข้าเฮือกใหญ่ น้ำเสียงสั่นเครือ พร้อมทั้งถามกลับอย่างระแวดระวัง “ได้ยินว่า..วันนี้เป็นวันเกิดของเฉินเชี่ยน”

“อื้อ”

ฉินโม่หานไม่ตอบรับหรือปฏิเสธ “วันนี้แหละ”

“คุณ…ไปไหว้เธอแล้วเหรอ?”

น้ำเสียงของชายหนุ่มทุ้มต่ำ “ไปแล้ว”

ซูสือเยว่หลับตาลง หัวใจของเธอถูกอึดอัดเจ็บปวดจนยากจะรับไหวทุกอณู

ที่แท้…

เมื่อครู่ตอนที่เธอดูข่าวในโทรทัศน์ ก็เป็นจริง

คนที่อยู่ข้างเย่เชียนจิ่ว และกำลังตบไหล่ของเย่เชียนจิ่วเบาๆ นั่นคิดฉินโม่หาน

ในโสตประสาทพลันผุดเรื่องตอนที่อยู่ในลิฟต์เมื่อตอนบ่ายขึ้นมาได้ หยางชิงโยวกำลังพูดคุยคำพูดเหล่านั้นกับโทรศัพท์

“คุณไปหาเธอที่สุสานเหรอ?”

“อืม ฉันเกือบจะลืมไปแล้วว่าวันนี้เป็นวันเกิดของเธอ ยังดีที่ว่าท่านชายฉินความจำดี…”

“คุณไปกับท่านชายฉิน…”

นิ้วมือของซูสือเยว่กำโทรศัพท์เอาไว้แน่น

ใช่ว่าเธอจะไม่สามารถรับได้ที่ฉินโม่หานไป และก็ไม่ใช่ว่าจะรับไม่ได้ที่ฉินโม่หานไปไหว้เฉินเชี่ยนที่สุสาน

ถึงอย่างไร เขาก็จดจำเธอได้ จำวันเกิดของเธอได้ นี่คือเขาให้ความสำคัญกับความรู้สึก เธอควรจะดีใจสิ

แต่ว่า…

ทำไมถึงไปไหว้เฉินเชี่ยนที่สุสานกับเขาล่ะ ทำไมไม่ใช่ซิงหยุนหรือซิงเฉิน หรือไม่ก็เธอ?

แต่กลับเป็นเย่เชียนจิ่วกับหยางชิงโยวเหรอ?

เขาน่าจะเข้าใจเป็นอย่างดี ว่าเย่เชียนจิ่ววางแผนอะไรกับเขาอยู่ และยังมีหยางชิงโยวอีกคนที่เป็นศัตรูของเธอ

แต่ว่า เขาก็ยังไปกับผู้หญิงสองคนนั่น

นี่ไม่ได้หมายความว่า…

ซูสือเยว่หลับตาลง

นี่หมายความว่า ในใจของฉินโม่หาน เธอก็เป็นเพียงแค่คนนอกเท่านั้นเอง

หรือว่า ที่เย่เชียนจิ่วกับหยางชิงโยวพูดออกมาก็ถูกอีก เธอมันก็แค่ตัวแทนเท่านั้นเอง

บทสรุปแบบนี้ มันทำให้ซูสือเยว่เกือบยืนทรงตัวไม่ไหว

เธอใช้มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์เอาไว้ ส่วนมืออีกข้างหนึ่งก็จับราวระเบียงเอาไว้ พร้อมทั้งบังคับไม่ให้ตนเองล้มลงไป “ทำไม..ทำไมคุณถึงไม่พาฉันไปหาเธอด้วย?”

“ความจริงแล้วฉันก็อยากจะไปไหว้เธออยู่นะ”

เสียงชายหนุ่มที่อยู่ปลายสายเงียบงันลงชั่วครู่ “อยากไป คราวหน้าพาคุณไปด้วย”

ซูสือเยว่เม้มริมฝีปาก แต่ไม่ได้พูดอะไร แต่ในความจริงมันคือพูดอะไรไม่ออกต่างหาก

ราวกับว่าเหมือนจับสัมผัสได้ว่าอารมณ์ของเธอผิดปกติไป ชายหนุ่มที่อยู่ปลายสายพลันขมวดคิ้วหากันเล็กน้อย

“คุณอยู่ที่ไหน?”

“ฉันอยู่ที่โรงแรม”

เธอสูดลมหายใจเข้า “คืนนี้จี้หนานเฟิงเลี้ยงข้าวทุกคน พวกเขากำลังเล่นไพ่กันอยู่ ฉันอยู่นอกระเบียง”

“ไม่สบายใจเหรอ?”

มีเสียงรูดซิปเสื้อดังขึ้นมา พร้อมกับน้ำเสียงทุ้มต่ำของชายหนุ่ม

ซูสือเยว่ไม่สามารถเดาได้ว่าเขากำลังทำอะไรอยู่ ได้แต่ทำเหมือนไม่ได้ยิน “ไม่มีอะไรที่ไม่สบายใจนี่”

เธอถอนหายใจยาว จากนั้นก็เงยหน้าต้องมองท้องฟ้าและไฟถนนที่อยู่ไกลสุดลูกหูลูกตา “ฉันมีความสุขมาก”

“คุณดีกับฉันมาก ยอมที่จัดงานแถลงข่าวเพื่อเปิดเผยความสัมพันธ์เรื่องคุณกับฉัน”

“ซิงหยุนกับซิงเฉินเด็กสองคนนั้นก็ชอบฉันมาก เป็นเด็กที่รู้เรื่อง”

“หน้าที่การงานของฉันก็กำลังพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ หลังจากหนังเรื่องนี้ถ่ายเสร็จ ฉันก็สามารถเฉิดฉายในวงการบันเทิงของกองทัพได้อย่างเป็นทางการแล้ว …”

“ไม่ได้มีเรื่องอะไรที่ไม่สบายใจจริงๆ นะ”

เธอพูดออกมาจมูกก็เริ่มแสบ ดวงตาเริ่มร้อนผ่าวขึ้นเรื่อยๆ

สุดท้ายแล้ว เธอก็ดึงสายตากลับ เพื่อให้ลมในยามค่ำคืนได้พัดโดนใบหน้าของตนเอง “ไม่มีเรื่องอะไรแล้ว ฉันวางสายแล้วนะ”

“พวกเขากินข้าวกันแล้ว ฉันก็เริ่มจะหิวแล้ว”

“ตกลง”

เสียงปลายสายเป็นเสียงเปิดประตู ฉินโม่หานใช้เสียงทุ้มต่ำลงที่ทำให้คนจิตใจสงบได้ “หิวก็กินเยอะๆ นะ”

“มีเรื่องอะไรก็โทรหาผมได้ตลอดนะ”

“ตกลง”

ซูสือเยว่เพิ่งพูดจบ โทรศัพท์ก็ถูกตัดสายทันที

เมื่อได้ยินปลายสายยังคงมีเสียงกรอกแกรกยุ่งๆอยู่ เธอได้แต่แสยะยิ้มให้อย่างขมขื่น

ที่แท้

ทุกอย่างก็เป็นไปตามที่เธอคิดไว้ทั้งหมด

ฉินโม่หานไม่ใช่คนที่มีEQต่ำ

เขาเดาถูกว่าเธออารมณ์ผิดปกติไป แต่ไม่ได้ซักไซ้ถามถึงต้นตอสาเหตุ

เหตุผลที่เธอวางสายโทรศัพท์ด้วยความดื้อดึงนั้น เขาก็ปล่อยให้เธอทำตามใจ เพื่อให้เธอได้กินเยอะๆ

ประเด็นหลักคือ เขาก็ไม่ได้วางแผนจะถามสาเหตุที่ทำให้เธอไม่สบายใจ และก็ไม่อยากเอาใจเธอ

มิเช่นนั้น ทำไมเขาต้องตัดสายทิ้งได้เร็วขนาดนี้ด้วย?

เมื่อคิดถึงเรื่องพวกนี้แล้ว ในใจของเธอก็เริ่มปวดหนึบๆ ขึ้นมา

มิน่าล่ะเย่เชียนจิ่วถึงได้พูดว่า เธอเป็นแค่ตัวแทน

มิน่าละหยางชิงโยวถึงได้พูดยกยอปอปั้นเรื่องของเฉินเชี่ยน

ความจริงแล้วพวกเธอเข้าใจฉินโม่หานมากกว่าเธอ พวกเธอจึงมีความบ้าบิ่นพอที่จะพูดคำพูดเหล่านี้ต่อหน้าเธอ

เธอยิ่งคิดก็ยิ่งเศร้าโศกเสียใจ ยิ่งคิดก็ยิ่งทนไม่ไหว

ประจวบเหมาะกับเหลียงหยูซินเปิดประตูระเบียงเข้ามาพอดี “สาวน้อยผู้คลั่งรักโทรศัพท์เสร็จหรือยัง?”

“เดลิเวอรี่มาส่งของแล้ว จะไปกินข้าวก่อนหรือจะจีบกันต่อ?”

ซูสือเยว่กระตุกมุมปากยิ้มให้ “ก็ต้องกินข้าวก่อนสิ”

“ความรักจะมาแทนข้าวได้ยังไง?”

พูดจบ เธอก็เก็บโทรศัพท์ทันที จากนั้นก็เดินจ้ำอ้าวเข้าไปในห้อง

บนโต๊ะหน้าเคาน์เตอร์โซฟาในห้อง วางอาหารไว้ทุกแบบทุกอย่างเต็มโต๊ะ

มองออกว่า จี้หนานเฟิงใช้เงินเก่ง เพราะว่าอาหารที่วางอยู่บนโต๊ะ ทุกอย่างราคาก็ไม่ธรรมดาเลย

อีกอย่าง เหล้าที่วางอยู่บนพื้นก็เป็นเหล้าชั้นดี

ซูสือเยว่รับเอาข้าวกับถ้วยที่เหลียงหยูซินส่งมาให้ เพิ่งกินไปได้ไม่กี่คำ ก็มีนักแสดงหนุ่มเริ่มแสดงให้ทุกคนดื่มเหล้าด้วยกัน

“แกดื่มไม่ได้ใช่ไหม?”

เหลียงหยูซินเหลือบตามองซูสือเยว่ จากนั้นก็เอื้อมมือเอาขวดเหล้าที่วางอยู่ตรงหน้าของเธอกลับไป

“ใครบอกว่าฉันดื่มไม่ได้?”

ซุสือเยว่ดึงเหล้าขวดนั้นกลับมา จากนั้นก็เปิดฝา และกระดกเหล้าเข้าปากทันที โดยไม่ใช้แก้วเหล้าด้วยซ้ำ

ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างตกตะลึงทันที

แต่นี่มัน …เหล้าดีกรีแรงนะ

ผู้ชายยังมีไม่กี่คนด้วยซ้ำที่กล้าจะดื่มแบบนี้นะ!

ซูสือเยว่คนนี้ดื่มเก่งขนาดนี้เลย?

หลังจากนั้นสิบนาที เหล้าดีกรีแรงขวดนั้นก็เห็นก้นแล้ว

สาวน้อยที่ดวงตาเริ่มพร่ามัววางขวดเหล้าที่ว่างเปล่าในมือลง จากนั้นก็ใช้มือหยิบอีกขวดขึ้นมาทันที

ตอนที่มือของเธอสัมผัสกับเหล้าขวดที่สองนั้น มือของเธอถูกฝ่ามือใหญ่แห้งกร้านแต่อบอุ่นข้างหนึ่งคว้าเอาไว้

วินาทีต่อมา มือข้างนั้นดึงเหล้าจากอ้อมอกของเธอกลับไปอย่างเคยชิน

เธอขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจ พลันเงยหน้าขึ้นเพื่อมองคนคนนั้น “คุณ…”

เพิ่งหลุดออกมาได้คำเดียว เธอก็ไม่พูดอะไรอีก

คือ…เธอดื่มหนักไปแล้วเลยเกิดภาพหลอนขึ้นมั้ง?

ไม่ใช่ว่าฉินโม่หานขนาดเอาใจเธอยังไม่ยินยอมเลยไม่ใช่เหรอ?

แล้วทำไมถึงมาปรากฏตัวต่อหน้าเธอได้ล่ะ?

สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ

สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ

หลังข่าวลือที่เสียโฉม ท่านชายฉินโหดร้ายอำมหิต ทำคู่หมั้นตายติดต่อกันสองคน ผู้หญิงทั้งเมืองไม่มีใครกล้าแต่งงานด้วย แต่ซูสือเยว่กลับแต่งสาวน้อย ต่อไปให้ฉันปกป้องเธอเองเพิ่งแต่งงาน เธอก็ถูกลูกน้อยน่ารักน่าหยิกสองคนแย่งกันอย่างคลั่งใคล้ซะแล้ว……

Comment

Options

not work with dark mode
Reset