“อย่างนั้นแล้วหม่ามี๊ หม่ามี๊ก็เลยอยากให้พวกเราวางแผนกันเพื่อให้คุณอาหญิงเย่พูดถึงเบาะแสของแม่แท้ๆของพวกเราออกมาเหรอครับ?”
ภายในห้องเล็กๆของเด็กน้อยทั้งสองคน ซิงหยุนวางหนังสือลง มองซูสือเยว่ไปด้วยความจริงจัง
ซูสือเยว่พยักหน้าออกมาด้วยความจริงจัง ภาพที่เธอผู้เป็นผู้ใหญ่คนหนึ่งอยู่ในห้องหนังสือของเด็กน้อยทั้งสองดูตลกเล็กน้อย แต่เธอจะไปสนอะไรมากมายก็ไม่ได้
เมื่อวานที่ตึกฉินซื่อกรุ๊ป ฉินโม่หานได้ปฏิเสธข้อเสนอของเธอ
“ผมไม่สนว่าเฉินเชี่ยนจะมีความกังวลอะไร เธอไม่มาหาลูก นั่นก็คือไม่อยากจะสานความสัมพันธ์กับพวกเรา ทำไมจะต้องไปตามหาเธอกัน?”
“บางทีเธออาจจะเปลี่ยนชื่อแซ่ไปแล้ว มีชีวิตใหม่และมีลูกคนใหม่ไปแล้วก็ได้”
“พวกเราไม่จำเป็นต้องไปรบกวนกัน”
“ผมไม่มีวันไปหาเธอ คุณเองก็อย่าไปหาเธอด้วย”
ข้างหูมันมีคำพูดเมื่อวานนี้ของฉินโม่หานดังขึ้นมา
หญิงสาวทอดถอนหายใจออกมา กอดหมอนอิงลายการ์ตูนนุ่มๆที่อยู่บนพื้นเอาไว้ “หม่ามี๊รู้ว่ามันค่อนข้างจะยากไปหน่อย”
“แต่ว่า…”
เธอควบคุมตัวเองไม่อยู่
เมื่อคืนเธอนอนหลับไม่สนิทตลอดทั้งคืน เอาแต่คิดเรื่องเฉินเชี่ยนอยู่ไม่หยุด
เธอถึงขนาดที่เริ่มคิดขึ้นมาเลยว่าช่วงเวลาที่เฉินเชี่ยนกับเธอคลอดลูกนั้นมันใกล้เคียงกันมาก
เธอจะเคยรู้จักเฉินเชี่ยนมาก่อนหรือเปล่า?
ไม่อย่างนั้นแล้ว ทำไมเธอถึงได้กังวลเกี่ยวกับเรื่องของผู้หญิงที่ไม่มีความเกี่ยวข้องอะไรกับเธอขนาดนี้?
บางทีเมื่อตอนนั้นเฉินเชี่ยนอาจจะเคยเจอกับเธอที่ห้องคลอดมาก่อนก็ได้
บางทีเธอกับเฉินเชี่ยนอาจจะเคยเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันก็ได้
ถ้าเกิดว่าเฉินเชี่ยนมีความเกี่ยวข้องกับเรื่องที่เธอเสียความทรงจำไปล่ะ?
ดังนั้นแล้วเช้าตรู่วันนี้ พอตื่นขึ้นมาเธอก็ได้กลับมาที่บ้านในสลัมของเธอกับเจี่ยนเฉิง เธอได้เจอใบตรวจเมื่อตอนที่เธอท้องมากมายอยู่ที่ในบ้าน
จากนั้นเธอก็ได้กลับไปยังวิลล่าอีกครั้ง ให้ซิงหยุนแฮ็กเข้าระบบโรงพยาบาล เจอกับการตรวจครรภ์และประวัติผู้ป่วยที่จะคลอดของเฉินเชี่ยนเมื่อตอนนั้น
ผลที่ได้มันทำให้ซูสือเยว่ได้ตะลึงไปเลย
เธอกับเฉินเชี่ยนเหมือนกับว่าจะรู้จักกันจริงๆ
เพราะว่าไม่ว่าพวกเธอจะตรวจครรภ์หรือว่าจะคลอด โรงพยาบาลที่ไปนั้นก็เป็นที่เดียวกัน หมอที่รักษาก็ยังเป็นคนเดียวกัน
ถึงขนาดที่ห้องคลอดก็ยังอยู่ใกล้กัน หมายเลขลำดับการตรวจครรภ์ก็เป็นเลขติดกัน
ถ้าเธอกับเฉินเชี่ยนไม่รู้จักกันเลยสักนิด มันจะเหลือเชื่อไปหน่อยหรือเปล่า?
ยิ่งไปกว่านั้น ตรวจครรภ์หมายเลขติดกัน ห้องคลอดก็อยู่ใกล้กัน จะไม่รู้จักมันก็ยากมั้ยล่ะ?
เธอสรุปว่าเฉินเชี่ยนมีความเกี่ยวข้องกับความทรงจำที่ขาดหายไปของเธอ
ถ้าเจอเฉินเชี่ยน ไม่แน่ว่าเธออาจจะสามารถนึกเรื่องในอดีตหลากหลายเรื่องขึ้นมาได้ก็ได้
ไม่แน่ว่าเธออาจจะสามารถนึกขึ้นมาได้ก็ได้ว่าทำไมเมื่อตอนนั้นเธอถึงได้เข้าไปอยู่ที่โรงพยาบาลจิตเวชได้
ดังนั้นแล้วเธอจึงบอกความสงสัยของตัวเองให้ฉินโม่หานฟัง
ฉินโม่หานที่อยู่ปลายสายกลับหัวเราะออกมาเบาๆ “เพื่อตามหาเธอ ไม่ว่าจะเป็นเหตุผลอะไรคุณก็ยอมเอามาใช้หมดเลย?”
เห็นได้ชัดเจนมากว่าเขาไม่เชื่อเธอ
ดังนั้นแล้วเธอก็ได้คิดพิจารณาไปอย่างรอบคอบแล้ว สุดท้ายก็ได้ล็อกเป้าหมายไปที่ตัวของซิงหยุนกับซิงเฉิน
คิดมาถึงตรงนี้แล้ว เธอก็ฟุบตัวนอนบนหมอน ดวงตาโตใสคู่นั้นกะพริบตาออกมา “ซิงหยุน ซิงเฉิน พวกหนูจะไม่ช่วยหม่ามี๊จริงๆเหรอ?”
“ช่วยหม่ามี๊แล้ว ยังสามารถตามหาแม่แท้ๆของพวกหนูเจอได้อีกนะ พวกหนูไม่สนกันเหรอ?”
ซิงหยุนมองเธอมานิ่งๆ “ไม่สน”
เขายอมรับความจริงเรื่องที่ว่าหม่ามี๊แท้ๆของเขาตายไปแล้วมาตั้งนานแล้ว
ถึงแม้ว่าเธอจะยังมีชีวิตอยู่จริงๆ ท่าทีของเขาเองก็เหมือนฉินโม่หานแด๊ดดี้ของเขาเช่นกัน
ในเมื่อก็ไม่ได้ไปยุ่งวุ่นวายกันและกันมาตั้งหลายปี มันก็ไม่มีความจำเป็นจะต้องไปหา
“หม่ามี๊”
ซิงเฉินที่อยู่ข้างๆเบ้ปากออกมา “ทำไมหม่ามี๊ถึงยังมีความสุขขนาดนี้กัน”
“ถ้าหม่ามี๊แท้ๆของพวกเรายังไม่ตายล่ะก็ หม่ามี๊ไม่กลัวเหรอ?”
ซิงเฉินพองแก้มออกมา “ถ้าพวกเราเจอแม่แท้ๆแล้ว หม่ามี๊จะทำยังไง?”
ซูสือเยว่ยิ้มออกมาเล็กน้อย “หม่ามี๊ก็ดีใจแทนพวกหนูไง”
“เพราะถึงยังไงถ้าเธอยังไม่ตายจริงๆ ต่อจากนี้ไปพวกหนูก็จะมีหม่ามี๊สองคนเลย”
“คนนึงก็คือหม่ามี๊ที่ทำอาหารอร่อยๆ คนนึงก็เป็นแม่แท้ๆ มันก็ดีมากเลยไม่ใช่เหรอ?”
“ไม่ดี”
ซิงเฉินเบะปากออกมา นอนกลับลงไปบนเตียงเล็กๆอย่างอารมณ์ไม่ดี ใช้นิ้วมือไปแกะวอลเปเปอร์ด้วยอารมณ์ห่อเหี่ยวใจ “หม่ามี๊แท้ๆกลับมาแล้ว หม่ามี๊ก็จะไปใช่มั้ย”
“ผมไม่อยากต้องการหม่ามี๊แท้ๆ ไม่ต้องการเลยสักนิด!”
ไม่ง่ายเลยกว่าเขาจะยอมรับหม่ามี๊คนใหม่นี้ได้ และก็ไม่ง่ายเลยที่จะให้เธอเป็นหม่ามี๊เพียงคนเดียวในอนาคตต่อจากนี้ของเขา
ตอนนี้เธอต้องการจะไปหาหม่ามี๊แท้ๆของเขาอีก!
เขาไม่ต้องการ!
เห็นเงาร่างด้านหลังที่โกรธงอนของเด็กน้อย ซูสือเยว่กุมหน้าผากไปด้วยความจนใจ “มีหม่ามี๊แท้ๆแล้ว หม่ามี๊ก็ยังเป็นหม่ามี๊ของหนูอยู่นะ”
“ความสัมพันธ์ทางสายเลือดมันก็เป็นความสัมพันธ์ทางสายเลือด ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเราไม่มีทางเปลี่ยนไป จริงมั้ย?”
“มันจะเปลี่ยน!”
ในน้ำเสียงของซิงเฉินเต็มไปด้วยความน้อยใจ “หม่ามี๊อยากตามหาหม่ามี๊แท้ๆของพวกเราให้เจอ แล้วทิ้งพวกเราให้ท่านไป!”
“ผมไม่อยากช่วยหม่ามี๊หาหรอกนะ ผมไม่หาไม่หา!”
ซูสือเยว่มองซิงหยุนไปด้วยความจนใจ แล้วก็หันไปปลอบเด็กน้อยที่กำลังแง่งอนอยู่อีกทีนึง “หม่ามี๊สัญญา หลังจากที่เจอหม่ามี๊แท้ๆ หม่ามี๊จะไม่มีวันทิ้งพวกหนูไป ดีมั้ย?”
“ไม่ดี!”
ซิงเฉินลุกขึ้นมาจากเตียงด้วยอารมณ์หดหู่ใจ “พี่ชายพี่อยากจะช่วยหม่ามี๊ก็ช่วยเถอะ ผมไม่ช่วย!”
“ผมไปเล่นกับซิงกวงแล้ว!”
พูดจบ เด็กน้อยก็สวมรองเท้า ลงไปชั้นล่างเสียงตึงตังไปทันที
ประตูห้องของห้องเด็กน้อยได้ปิดลง
ตรงบริเวณทางเดินได้มีเสียงฝีเท้าที่โกรธเกรี้ยวของเด็กน้อยดังเข้ามา แล้วก็ยังมีน้ำเสียงที่จนใจของพ่อบ้าน “นายน้อย ทำไมถึงมีสีหน้าไม่ดีอย่างนี้กัน ใครทำให้นายน้อยโกรธกันครับ…”
“หม่ามี๊ หม่ามี๊อย่าไปใส่ใจกับคำพูดของเขาเลย”
หลังจากที่เสียงฝีเท้าของซิงเฉินได้หายไปจากบริเวณทางเดินแล้ว ซิงหยุนก็ได้ทอดถอนหายใจออกมา พร้อมกับมองซูสือเยว่ไปอย่างจนใจ “ถึงยังไงเขาก็เป็นเด็กน้อย ยอมรับไม่ได้มันก็เป็นเรื่องปกติ”
“ความคิดความอ่านก็ยังไม่เป็นผู้ใหญ่”
ซูสือเยว่มองเด็กน้อยที่โตกว่าซิงเฉินแค่ไม่กี่นาทีคนตรงหน้า “งั้นความคิดความอ่านของหนูก็เป็นผู้ใหญ่แล้ว?”
“ก็พอใช้ได้อยู่”
ซิงหยุนยิ้มออกมาด้วยใบหน้าที่ดูสุขุมเป็นผู้ใหญ่ “ผมพอจะเข้าใจความหมายของหม่ามี๊”
“แต่ว่าผมก็ยังจะต้องบอกว่า หม่ามี๊”
“ถึงแม้ว่าหม่ามี๊ที่แท้จริงของพวกเรายังไม่ตายจริงๆ หลังจากที่พวกเราเจอท่านแล้ว หม่ามี๊ก็ต้องเชื่อด้วยว่าคนที่อยู่ในใจของคุณฉินโม่หานคนนั้น เป็นหม่ามี๊เสมอ”
ซูสือเยว่อึ้งตกใจไปเล็กน้อย
“หนูกำลังกังวลว่า…”
“ผมกลัวว่าหม่ามี๊จะคิดฟุ้งซ่าน”
ซิงหยุนกุมหน้าลงเก็บหนังสือที่หล่นกระจายอยู่บนพรม “ผมคิดมาตลอดว่าความรู้สึกที่แด๊ดดี้มีต่อหม่ามี๊แท้ๆของผมมันคงจะเป็นความรับผิดชอบและความรู้สึกละอายใจเสียมากกว่า”
“เขาบอกขอโทษหม่ามี๊แท้ๆของพวกเราอยู่ตลอด แต่เขาก็ไม่เคยจะตื่นเต้นในเรื่องของท่านเหมือนกับหม่ามี๊มาก่อนเลย”
“หม่ามี๊ไม่รู้เลยว่าที่หม่ามี๊เมาวันนั้นแล้วบอกว่าเขาไม่ชอบหม่ามี๊ เขาทำอะไรไม่ถูกและร้อนใจมากแค่ไหน”
“แต่เขาก็ทำไม่ดีกับหม่ามี๊ไม่ลงอีก หม่ามี๊ด่าเขา ตบตีเขา เขาทนมันเอาไว้ทั้งหมด”
“ต้องรู้ว่าฉินโม่หานแด๊ดดี้ของพวกเรานั้นไม่เคยมีใครกล้าทำอย่างนั้นกับเขามาก่อนเลย”
“แต่หม่ามี๊ก็ทำมันมาทั้งหมด เขาเองก็ทนมันเอาไว้”
“อันที่จริงคนที่อยู่ในใจของเขาคนนั้นก็คือหม่ามี๊”
คำพูดของซิงหยุน ทำให้หัวใจของซูสือเยว่สั่นไหวขึ้นมาอีกครั้ง
ความอบอุ่นที่ไม่อาจบรรยายออกมาได้ไหลผ่านเข้ามา
เธอเม้มริมฝีปากออกมา “หม่ามี๊รู้”
โดนเย่เชียนจิ่วกับหยางชิงโยวปั่นหัวให้เข้าใจผิดไปแล้วครั้งหนึ่ง แล้วก็มีปัญหากันไปแล้วด้วยครั้งหนึ่ง
คนเราไม่มีทางจะล้มตรงจุดเดิมซ้ำๆหรอก
เธอถอนหายใจออกมา ยกมือขึ้นมาเขกไปที่หัวของซิงหยุนเบาๆ “หัวเล็กๆนี้ของหนูทำไมถึงคิดพิจารณาอะไรๆไปเสียหมด?”
ซิงหยุนเลิกสายตาขึ้นมา มองเธอไปด้วยความคับแค้นใจ “ไม่ใช่เพราะว่าพวกคุณกังวลกันอยู่หรือไง?”
“ถ้าพวกคุณทั้งสองคนมีความรักกันแล้วทำให้คนอื่นเขาวางใจกันได้แล้ว หม่ามี๊คิดว่าผมจะยอมเข้าไปยุ่งอะไรมากมายหรือไง?”
“ผมยังมีหนังสืออีกหลายเล่มที่ยังไม่ได้อ่านนะ”
“ผมยังจะต้องท่องในมหาสมุทรความรู้อีกนะ!”
ซูสือเยว่ “…”