หยางชิงโยวตื่นตกใจจนโยนโทรศัพท์ลงไปในถังขยะ
ในเวลานี้ โน๊ตบุ๊คที่เธอวางอยู่บนหัวเตียงมันกลับเริ่มทำงานขึ้นมาเอง
หลังจากที่เริ่มทำงาน ก็ยังคงเป็นคำพูดประโยคนั้นของบัญชีที่มีชื่อว่าหมู่ดาวโอบล้อมดวงจันทร์นั้นอยู่
“เธอถูกจับตาไว้แล้ว สำนึกผิดตอนนี้ยังทัน”
คำพวกนี้ได้ทำให้ความรู้สึกของหยางชิงโยวมันได้พังทลายลงไปทันที
เธอหิ้วรองเท้าแตะขึ้นมา เข้าไปทุบโน๊ตบุ๊ค
“ติ๊ดติ๊ด—“
หลังจากที่เสียงแตกดังขึ้นมา การเชื่อมต่อของคอมทางนั้นก็ได้ขาดไปทันที
วิลล่าตระกูลฉิน
“นี่มันเกิดเรื่องอะไรกัน?”
ซิงเฉินเงยหน้าขึ้นมามองซิงหยุนกับซิงกวงไปอย่างไม่เข้าใจ ยกมือทั้งสองข้างขึ้นมาเท้าคาง “ทั้งสองคนอธิบายให้ฉันฟังหน่อยสิ”
“เธอพังคอมไปแล้ว”
ซิงหยุนกับซิงกวงเอ่ยออกมาเป็นเสียงเดียวกัน
หลังจากที่ได้เอ่ยออกไป เด็กน้อยทั้งสองคนก็ได้หันมองหน้ากันพร้อมกับหัวเราะออกมา
จากนั้นเด็กทั้งสองคนก็ได้ถือคอมคนละเครื่องทำงานกันต่อ
ซิงเฉินหมดอาลัยตายอยาก ทำได้เพียงแค่หยิบพู่กันขึ้นมา ระบายลงไปบนกระดานวาดภาพไปอย่างเบื่อหน่าย
สุดท้ายเขาก็ทนความเหงาไม่ไหว จึงได้หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาส่งข้อความไปหาสือเยว่ “หม่ามี๊ หม่ามี๊ยังโอเคอยู่หรือเปล่า?”
ข้อความส่งไปอยู่นานก็ไม่มีคนตอบกลับมา
เด็กน้อยย่นคิ้วออกมา ทันทีที่เตรียมจะวางโทรศัพท์ลง ข้อความมันก็ได้มีการตอบกลับมา
“เพิ่งจะอาบน้ำให้เธอเสร็จ นอนหลับไปแล้ว”
ซิงฉินนิ่งอึ้งไป แล้วก็ได้หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาตอบกลับไปทันที “ขอบคุณครับ!”
“สวัสดีครับ ผมเป็นลูกชายของซูสือเยว่ ผมชื่อว่าซิงเฉิน”
“คุณเป็นใครครับ เป็นเพื่อนของหม่ามี๊ผมเหรอครับ?”
ปลายสายเงียบไปนาน ข้อความก็ได้ตอบกลับมาช้าๆ “ฉันไม่ใช่เพื่อนของเธอ”
“ฉันเป็นสามีของเธอ แด๊ดดี้ของนาย”
ซิงเฉินชะงักไป
เขาขมวดคิ้วออกมา “ทำไมแด๊ดดี้ถึงได้อยู่กับหม่ามี๊?”
ตอนนี้แด๊ดดี้ของเขาควรจะประชุมอยู่ไม่ใช่หรือไง?
วันนี้ก่อนซูสือเยว่จะออกจากบ้านไป ซิงหยุนไม่วางใจให้เธอไปมาหาสู่กับพวกเย่เชียนจิ่วหยางชิงโยวผู้หญิงทั้งสองคนนี้ ดังนั้นแล้วก็เลยได้ทำการวางพิกัดและระบบCCTVในการตรวจตราเอาไว้ โดยมีเขากับซิงกวงแฮ็กเกอร์ระดับสูงคอยตรวจดูอย่างละเอียดตลอดทริป
และด้วยเหตุนี้เอง พฤติกรรมทั้งหมดในวันนี้ของซูสือเยว่นั้น พวกเขาได้มองเห็นมันในคอมอย่างชัดเจน
ในตอนที่กินข้าวกับหยางชิงโยว ซิงหยุนก็กลัวว่าหยางชิงโยวจะเล่นอะไรแผลงๆ ก็ได้แอบให้ซูสือเยว่ขยับจอภาพและการดักฟังของกล้องไปหาร่างของหยางชิงโยวไปอย่าง “ไม่ตั้งใจ”
ซิงหยุนกับซิงกวงเองก็ไม่ยอมแพ้ไปกับกล้องCCTVของซูสือเยว่ หันจอไปทางหยางชิงโยว
เป็นไปอย่างที่คิด เพราะว่าพวกเขาก็ได้ค้นพบเส้นสนกลในจากทางหยางชิงโยว
หยางชิงโยวหลังจากที่ออกมาจากซูสือเยว่กับเหลียงหยูซินแล้ว ก็ได้ติดต่อกับนักเลงท้องถิ่นแถวนั้นคนหนึ่ง และก็เป็นลูกพี่ใหญ่หน้าหนวดคนนั้น ให้ลูกพี่ใหญ่คนนี้แสร้งทำเป็นมาเจอกับซูสือเยว่กับเหลียงหยูซินโดยบังเอิญ ทำสิ่งที่ไม่ควรทำกับพวกเธอทั้งสองคน
ซิงกวงก็เลยให้คนของเจิ้งเจิงรีบตามไปทันที
เมื่อกี้นี้ซิงกวงเองก็ได้รับข้อความตอบกลับมาจากทางเจิ้งเจิงด้วยเหมือนกันโดยบอกว่าซูสือเยว่ปลอดภัยแล้ว ถูกคนอื่นพาออกไปแล้ว
เด็กน้อยทั้งสามคนแน่นอนว่าจะต้องคิดว่าซูสือเยว่จะต้องถูกเจิ้งเจิงช่วยเอาไว้ แล้วก็ถูกเหลียงหยูซินพาออกไปกันอยู่แล้ว
แต่ผลสุดท้าย…โทรศัพท์ของซูสือเยว่ในตอนนี้อยู่ในมือของฉินโม่หาน?
“แด๊ดดี้…”
ซิงเฉินรู้สึกสับสนเลยจริงๆ “แด๊ดดี้รู้ได้ยังไง…”
ในชั่วขณะที่ข้อความถูกส่งออกไป ก็ได้รับข้อความตอบกลับมาจากฉินโม่หานทันที
“ให้พวกนายส่องเธอ ติดตามเธอได้อยู่ฝ่ายเดียว ไม่ให้ฉันเป็นห่วงภรรยาของฉันหรือไง?”
ซิงเฉิน “…”
เขาย่นคิ้วออกมา เขาเลิกสายตาขึ้นมองซิงหยุนกับซิงกวงที่กำลังตั้งอกตั้งใจทำงานอยู่
“ผมไม่เข้าใจเลยจริงๆว่า…แด๊ดดี้เริ่มไปติดตามหม่ามี๊ตั้งแต่เมื่อไหร่?”
“ไม่ใช่ว่าแด๊ดดี้ไม่ให้เธอไปตรวจสอบเรื่องแม่แท้ๆของเราไม่ใช่หรือไง?”
“หม่ามี๊บอกกับคุณว่าต้องการจะไปตรวจสอบ คุณไม่โกรธแล้วเหรอ?”
“พี่ชายให้คุณยกโทษให้กับหม่ามี๊ คุณก็ยังสั่งสอนพี่ชายไปยกหนึ่งด้วยไม่ใช่เหรอ?”
“ทำไมจ่ๆถึง…”
จู่ๆก็มาปรากฏตัวอยู่ข้างๆซูสือเยว่ตอนนี้?
แล้วยังตรงเวลาขนาดนี้อีก?
เผชิญกับคำถามที่ถามออกมาเป็นชุดนี้ของซิงเฉิน ชายที่อยู่ทางปลายสายได้ขมวดคิ้วออกมาเล็กน้อย
เขามองหญิงสาวที่นอนอยู่บนเตียงไปอย่างน่าเอ็นดู แล้วก็ได้ถอนหายใจออกมา
“โกรธมันก็เรื่องหนึ่ง”
“ความปลอดภัยของเธอมันก็อีกเรื่องหนึ่ง”
ถึงแม้ว่าจะไม่ยอมให้เธอสอดมือเข้ามายุ่งเรื่องเฉินเชี่ยนแต่ถ้าเธอจะต้องการไปทำมันให้ได้ เขาจะปล่อยทำเป็นไม่สนใจไปได้ยังไง?
ทันทีที่ซูสือเยว่ออกจากประตูไปวันนี้ เขาก็ได้ส่งคนแอบตามเธอไป
ในระหว่างที่คนติดตามไปนั้นในทุกๆชั่วโมงก็จะส่งข้อความมาให้เขา บอกเล่าการเคลื่อนไหวของเธอในตอนนี้
เย็นวันนี้ตอนที่ซูสือเยว่กับเหลียงหยูซินหยางชิงโยวไปร้านอาหารข้างทางตรงอุโมงค์สะพานด้วยกัน เขาก็รู้สึกทะแม่งๆขึ้นมาแล้ว
ชายหนุ่มก็เลยยกเลิกการประชุมข้ามชาติในเย็นวันนี้ไปเป็นพิเศษ เพื่อรอเธอร้องขอความช่วยเหลือ
ถ้าไม่มีอันตราย นั่นมันก็เป็นเรื่องที่ดีแล้ว เขานั่งเหม่อจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวอยู่ที่ออฟฟิศตลอดทั้งคืน
แต่ถ้ามีอันตราย…
ถึงแม้ว่าเธอจะไม่บอก เขาก็จะเป็นคนที่พุ่งเข้าไปอยู่ตรงหน้าเธอเป็นคนแรก
ในฐานะที่เป็นสามีคนหนึ่ง มันเป็นภาระหน้าที่ที่เขาต้องพึงปฏิบัติอยู่แล้ว
ดังนั้นแล้วแผนการของหยางชิงโยว แน่นอนว่ามันหนีไม่พ้นไปจากสายตาการ์ดของเขาได้
อันที่จริงแล้ว…
ตั้งแต่ตอนที่นักเลงพวกนั้นประชิดเข้าไป เขาก็ได้นำกำลังคนกลุ่มใหญ่ไปโดยทันที
สาเหตุที่ไม่ได้ไปหาเธอโดยตรง ด้านหนึ่งก็เป็นเพราะอยากจะรอให้เธอเป็นฝ่ายติดต่อมาหาเขาเอง เพราะถึงยังไงตอนนี้เขากับเธอก็กำลังอยู่ในช่วงที่กำลังทำสงครามเย็นกันอยู่
เขาต้องการให้เธอเปิดทางให้เขา
อีกด้านหนึ่ง…เป็นเพราะว่าเขาไม่อยากจะแหวกหญ้าให้งูตื่น
ถ้านักเลงพวกนี้มันไม่ลงมือ พวกเขาไปคุมตัวพวกเขาเอาโต้งๆ อย่างนั้นแล้วหลักฐานที่จะใช้ในการลงโทษหยางชิงโยวนั้นมันก็จะน้อยเกินไปหน่อย
แน่นอนว่าเบื้องหลังของการที่ไม่ได้ลงมือไปนั้น ทั้งหมดก็เป็นเพราะว่า…
ซูสือเยว่เธอแกร่งเกินไป
เธอคนเดียวสามารถต่อยห้าคนนั้นร่วงลงได้ นี่มันไม่เพียงจะทำให้ฉินโม่หานตื่นตะลึง แม้แต่เจิ้งเจิงที่ซิงกวงส่งไปก็ยังตกตะลึงจนพูดไม่ออกเลยเช่นเดียวกัน
และต่อจากนั้น…
ชายหนุ่มก็ได้ทอดถอนหายใจออกมา “ให้ฟู๋เชียนเชียนมาที่โรงแรมเถอะ”
“แล้วก็บอกว่าซิงกวงได้ส่งคนมาช่วยเธอไว้ก็พอ”
ซิงเฉินที่อยู่ทางปลายสาย “…”
พ่อทำไมพ่อถึงต้องเล่นแง่มากมายอย่างนี้กัน?
ไม่ใช่เพราะว่าหม่ามี๊อยากหาแม่แท้ๆ พ่อไม่อนุญาต พวกคุณทั้งสองคนก็เลยทะเลาะกันงั้นเหรอ?
ถึงขนาดที่แม้แต่เรื่องของคนที่ช่วยเอาไว้ก็ไม่อยากจะยอมรับด้วยงั้นเหรอ?
แต่ถึงแม้ว่าจะคิดอย่างนั้น เด็กน้อยก็ยังคงพยักหน้าตอบรับออกไป มือเล็กได้กดพิมพ์ลงบนหน้าจอโทรศัพท์ไปอย่างรวดเร็ว
“ได้ครับ ผมจะติดต่อหาคุณน้าฟู๋เชียนเชียนเดี๋ยวนี้เลย”
“ค่อยให้คุณน้าฟู๋เชียนเชียนบอกคุณจี้หนานเฟิงอีกทีแล้วกัน”
“ให้ตอนที่หม่ามี๊ตื่นขึ้นมาเห็นคุณอาจี้เป็นคนแรก จากนั้นคุณอาจี้ก็บอกหม่ามี๊ว่าเขานำพวกเจิ้งเจิงไปช่วยหม่ามี๊มา”
“ให้หม่ามี๊รู้สึกซาบซึ้งในบุญคุณต่อเขาเป็นอย่างมาก เลี้ยงข้าวเขา บ่มเพาะความรู้สึกกับเขา สุดท้ายก็ให้หม่ามี๊เปลี่ยนไปแต่งงานใหม่เป็นหม่ามี๊ของซิงกวงแทน ดีมั้ยครับ?”
เห็นข้อความที่ส่งกลับมาในโทรศัพท์แล้ว ฉินโม่หานก็นิ่งเงียบไป
ผ่านไปได้สักพักใหญ่ๆ เขาก็ได้สูดหายใจเข้าลึกๆ “อยากโดนตี?”
“ไม่ใช่ว่าผมอยากโดนตี แต่เป็นเพราะแด๊ดดี้ก็หมายความอย่างนี้ไม่ใช่หรือไง?”
“คุณน้าฟู๋เชียนเชียนไม่มีความสามารถที่จะช่วยหม่ามี๊มาได้หรอก”
“ถ้าแด๊ดดี้ไม่ยอมรับว่าคนที่ช่วยหม่ามี๊มาเป็นแด๊ดดี้ งั้นก็เป็นคุณลุงเจิ้งเจิงของซิงกวง”
“คุณลุงเจิ้งเจิงนั้นเป็นลูกน้องของคุณอาจี้หนานเฟิง”
“นั่นมันไม่เท่ากับว่าคุณอาจี้หนานเฟิงช่วยหม่ามี๊มาหรือไงครับ?”
ฉินโม่หาน “…”
“ช่างเถอะ”
“ฉัน…”
คำพูดสุดท้ายของเขาพิมพ์ออกไปได้เพียงแค่ตัวเดียว โทรศัพท์ก็ได้ถูกแย่งไป
ซูสือเยว่ที่เมามายไม่รู้ว่าลุกขึ้นมานั่งตั้งแต่เมื่อไหร่
เธอแย่งเอาโทรศัพท์โยนออกไปยังผนังห้อง
โทรศัพท์ตกลงบนพื้นเสียงดัง
มือทั้งสองข้างของหญิงสาวได้โอบรอบลำคอของฉินโม่หาน “สามี…”