สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ – ตอนที่ 192 หนูเจอพ่อแม่แท้ๆของหนูแล้วค่ะ

“คุณผู้ชมทุกท่านคะ เช้าวันนี้ ท่านชายฉินได้ประกาศจัดงานวิวาห์ฟ้าแล่บกับซูสือเยว่ในวันนี้นะคะ”

“ทุกคนจะเห็นได้ว่า สถานที่ได้จัดเตรียมอย่างหรูหราเลยนะคะ”

“ว่ากันว่า วันนี้ชุดที่เจ้าสาวใส่นั้นมีมูลค่าถึงหลักสิบล้าน เพื่องานแต่งนี้เลยนะคะ”

“นี่คืองานแต่งงานที่หรูหราครั้งแรกเลยนะคะ ในประวัติศาสตร์ของเมืองหรง!”

ภายในห้องโถงโรงแรมหรูระดับห้าดาวของเมืองหรง แออัดไปด้วยคน

นักข่าว แขกรับเชิญ เยอะจนแออัดไปหมด

หลังเวที ซิงกวงที่สวมชุดราตรีนั่งคั่นกลางระหว่างซิงหยุนและซิงเฉินเอามือแนบแก้มด้วยท่าทางที่น่าสงสาร “ดูเหมือนว่าคุณอาจี้ของหนูจะไม่มีโอกาสเสียแล้ว”

“แต่ไม่เป็นไร คุณอาจี้กับน้าซูก็ไม่ได้เหมาะกันขนาดนั้น”

คำพูดของเด็กหญิง ทำให้ซิงเฉินหลุดหัวเราะออกมา

เขาใช้ไหล่ของเขาชนไหล่ของซิงกวง “ตอนนี้น้องก็รู้สึกแล้วใช่ไหมว่า หม่ามี๊ของพี่กับแด๊ดดี้เหมาะสมกันมาก?”

ซิงกวงลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แล้วเม้มปาก “ต่างฝ่ายต่างรักกันเหมาะสมที่สุดหน่า!”

“เหอะ ถ้าน้องพูดเร็วกว่านี้ คุณอาจี้ของน้องก็คงไม่ตกหลุมรักหม่ามี๊ของพี่จริงๆเพื่อน้องหรอก สุดท้ายต้องมาเสียใจขนาดนั้นอีก”

พุดจบ ซิงเฉินยกมือสะกิดไหล่ซิงหยุน “พี่ พี่ว่าจริงไหม?”

ซิงหยุนที่สวมชุดลายตารางขาวดำ ยังคงกอดโน๊ตบุ๊คไว้ในอ้อมกอด คิ้วขมวดกันเป็นปม

ท่าทางของเขา ทำให้ซิงเฉินไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่

เด็กชายลุกขึ้นยืนเต็มตัว มือเล็กยืนออกมาบังหน้าจอโน๊ตบุ๊ค “พี่!”

“นี่มันเวลาไหนแล้ว!”

“วันนี้แด๊ดดี้กับหม่ามี๊จัดงานแต่ง นี่คืองานใหญ่ของบ้านเราเลยนะ!”

“พี่อย่าเอาแต่จ้องหน้าจอโน๊ตบุ๊คเน่าๆของพี่เลย!”

ซิงหยุนเลิกคิ้วขึ้น ยกมือขึ้นมาดึงมือซิงเฉินที่บังหน้าจอออก น้ำเสียงต่ำลง “เกิดเรื่องแล้ว”

ทันทีที่ได้ยินคำนี้ซิงเฉินเบ้ปากทันที “แบร่ๆๆ พี่พูดอะไรของพี่เนี่ย? เกิดเรื่องอะไรขึ้น?”

เมื่อใดยินคำพูดของซิงหยุน ซิงกวงขมวดคิ้วขึ้น แล้วขยับหน้าหันไปดูหน้าจอเงียบๆ

ดวงตากลมโตของเด็กหญิงเบิกกว้าง

“นี่คือคลื่นสัญญาณโทรศัพท์ของน้าซูใช่ไหม?”

ซิงหยุนพยักหน้า

เด็กชายหลับตาลง “เมื่อกี้ได้ยินในข่าวประกาศว่า สะพานซ่งไห่ถูกระเบิด ฉันเพิ่งคิดได้ว่า เส้นทางจากบ้านมาโรงแรม สะพานซ่งไห่เป็นทางที่จำเป็นต้องผ่าน”

“เพราะฉะนั้นฉันเลยลองติดตามสัญญาณโทรศัพท์ของหม่ามี๊ดู”

“สัญญาณโทรศัพท์ทั้งหมดของมี๊ ถูกตัดขาด ตรงสะพานซ่งไห่”

พอได้ยินคำนี้ ซิงเฉินก็ได้รับรู้ถึงความสำคัญของเรื่องนี้

เขายกเท้าขึ้นก่อนจะวิ่งไปหาฉินโม่หานที่อยู่ในห้องหลังเวทีอย่างบ้าคลั่ง

ในเวลานี้นั้น ฉินโม่หานนอนเอนอยู่บนเตียงคนป่วย ใบหน้าของเขาซีดจนไม่มีแม้แต่ร่องรอยของเส้นเลือด

ซิงเฉินชะงัก “แด๊ดดี้……”

“ก่อนหน้านี้ยังดีๆอยู่เลยนะครับ จู่ๆเมื่อสักครู่ก็กลายป็นแบบนี้ไป”

ไป๋ลั่วถอนหายใจ “ผมให้คนไปตามหมอแล้วครับ”

เมื่อเห็นแด๊ดดี้ของเขาที่ปกติเย็นชาและมั่นคงกลายเป็นแด๊ดดี้ที่อ่อนแอแบบตอนนี้ ซิงเฉินกัดฟันไว้อย่างแน่น เดินก้าวขึ้นไปกุมมือเขา“แด๊ดดี้ แด๊ดไม่เป็นอะไรใช่ไหมครับ?”

“ไม่เป็นไรครับ”

ชายหนุ่มฝืนยิ้มอย่างรู้สึกลำบาก

เขาหันหน้ามามองซิงเฉิน“หม่ามี๊ของลูกมาหรือยัง?”

“ไป๋ลั่ว เอายามาให้ฉันหน่อย แล้วก็แต่งหน้าเลย”

“งานแต่งงานนี้ ฉันต้องจัดให้เธออย่างดีที่สุด”

ไป๋ลั่วนิ่งไปสักครู่ “แต่คุณชายครับ ร่างกายของคุณ……”

“ไม่สำคัญเท่าซูสือเยว่”

เขาพยายามตั้งสติ แล้วดิ้นรนลุกจากเตียง

“แด๊ดดี้ หม่ามี๊ มี๊มาไม่ได้แล้ว!”

ซิงเฉินจับมือของฉินโม่หานไว้อย่างแน่น “เมื่อกี้สะพานซ่งไห่ถูกระเบิด สัญญาณโทรศัพท์ของหม่ามี๊ก็หายไปด้วย!”

ฉินโม่หานนิ่งไปทันที

เวลาผ่านไปนานพอสมควร เขาเงยใบหน้าอันซีดของเขาขึ้น “มี๊ไปไหนแล้ว?”

“ไม่รู้ครับ!”

ซิงเฉินกังวลจนแทบจะร้องไห้ออกมา “พี่บอกว่าตรวจจับสัญญาณโทรศัพท์ของมี๊ไม่เจอแล้ว……”

“หรือว่า……หรือว่าโทรศัพท์ของคุณนายจะตกลงไปในแม่น้ำครับ!”

ไป๋ลั่วรีบเข้ามาพยุงฉินโม่หาน “คุณชาย คุณอย่าเพิ่งรีบร้อนครับ ผมจะสั่งให้คนไปตรวจสอบพื้นที่ตรงนั้นให้เร็วที่สุดครับ”

“คุณไป……”

“ฉันไปเอง”

ชายหนุ่มพยายามพยุงร่างกายตัวเองให้ลุกขึ้นยืน

มือของเขากุมมือของซิงเฉินไว้ข้างหนึ่ง ส่วนมืออีกข้างพิงกำแพงเอาไว้ “ฉันจะไปหาเธอ……”

ไม่มีทางที่จะเกิดอันตรายกับซูสือเยว่

เธอน่าจะยังติดอยู่กับที่

เธออาจจะทำโทรศัพท์ตกลงไปในแม่น้ำ

มันต้องเป็นแบบนี้แน่ๆ

ชายหนุ่มพยายามฝืนเดินออกจากห้องพักผ่อน

“ปัง—!”

“คุณชาย!”

“แด๊ดดี้!”

……

“เขาโดนวางยาเข้าแล้ว”

ด้านนอกห้องพักคนป่วยไป๋ยู่หนานสูดหายใจเข้าลึกๆ มองฉินหนานเซิงกับเด็กน้อยสามคนตรงหน้าเขา “หลังจากที่ยานี้เริ่มออกฤทธิ์ ระดับพิษนั้น ขึ้นอยู่กับความตื่นเต้นของแต่ละบุคคล”

“วันนี้……เป็นวันแต่งงานของโม่หานกับซื่อเยว่ เขาน่าจะตื่นเต้นเกินไป ถึงได้……”

เขาถอนหายใจออกมา ก้มหัวลงเขียนเวชระเบียน “แต่ไม่ใช่เรื่องใหญ่มาก ตอนที่ยาออกฤทธิ์ จะทำให้รู้สึกเวียนหัวและทรงตัวไม่อยุ่”

“ดูจากระดับความตื่นเต้นของโม่หานในวันนี้แล้ว จริงๆเขาควรสลบไปนานแล้ว”

“แต่น่าจะเป็นเพราะความมุ่งมั่นของเขาที่อยากแต่งงานกับซูสือเยว่ก็เลยฝืนจนถึงตอนนี้?”

“ยาตัวนี้ไม่มียาแก้พิษเลย พักฟื้น พักผ่อนให้เพียงพอเป็นทางเดียวที่จะแก้พิษได้”

ฉินหนานเซิงเหลือบมองฉินโม่หานที่นอนไม่ได้สติอยู่ในห้องคนไข้ “เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น เขาจะพักฟื้นได้ยังไง”

ไป๋ยู่หนานถอนหายใจ ก่อนจะประกบสมุดเวชระเบียนเข้าหากัน “ยังไม่ได้ข่าวของซูสือเยว่อีกหรอ?”

“ยังเลย”

ฉินหนานเซิงถอนหายใจ “เพราะสะพานถูกคนวางระเบิด กล้องวงจรรอบๆเลยโดนทำร้ายไปด้วย”

“บรรดารถที่คุ้มกันซูสือเยว่นั้น เกือบจะทุกคนที่ได้รับบาดเจ็บในระดับที่ไม่เหมือนกัน ส่วนใหญ่โดนระเบิดจนสลบไป ส่วนคนที่ไม่สลบก็โดนทำร้ายจนสลบ”

“หลังจากถามคนระแวกนั้น แทบจะไม่ได้เบาะแสอะไรเลย”

“ส่วนซูสือเยว่……เจอโทรศัพท์ของเธอที่พังแล้ว แล้วก็ชุดเจ้าสาวราคาหลักสิบล้านตรงที่เกิดเหตุ”

“ส่วนอย่างอื่นนั้น ไม่เจอเบาะแสอะไรอีกเลย”

ฉินหนานเซิงถอนหายใจ “คิดไม่ออกจริงๆ ว่าเธอจะไปที่ไหนกัน”

“กว่าครอบครัวจะได้กลับมาอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา แต่กลับเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น……”

คำพูดของชายหนุ่ม ทำให้ซิงเฉินที่นั่งอยู่ข้างๆขมวดคิ้ว

เด็กน้อยเม้มปาก “คุณอาไป๋ อาว่าไงนะครับ? ครอบครัวอะไรหรอครับ?”

ไป๋ยู่หนานกับฉินหนานเซิงมองตากัน

หลังจากที่ส่งสายตาหากันเสร็จไป๋ยู่หนานก็ถอนหายใจออกมา แล้วนั่งยองๆลง “ซิงหยุน ซิงเฉินซิงกวง พวกเธอสามคนมานี่”

เด็กน้อยสองคนนั่งอยู่บนเก้าอี้ยาวที่ไกลออกไปกำลังพยายามหาสัญญาณโทรศัพท์ของซูสือเยว่นั้นรีบกระโดดลงจากเก้าอี้ “เกิดอะไรขึ้นครับ?”

“แด๊ดดี้ของพวกเธอกะจะประกาศในงานแต่งวันนี้”

ไป๋ยู่หนานถอนหายใจออกมา เขาหันไปมองฉินโม่หานที่ยังไม่ได้สติ “ตอนนี้หม่ามีของพวกเธอหายตัวไป แด๊ดดี้ก็ไม่ได้สติ……”

“อาขอประกาศแทนพวกเขาก็แล้วกัน”

พูดจบ ชายหนุ่มก็ยื่นแฟ้มเอกสารให้กับซิงหยุน “พวกเธอทั้งสามคนเป็นเด็กฉลาด ดูเอาเองก็แล้วกัน”

เด็กน้อยทั้งสามมองตากัน

และแล้วซิงหยุนก็เปิดแฟ้มเอกสารออก

ด้านในมีผลตรวจDNAหกฉบับ

การยืนยันความสัมพันธ์ของซิงหยุนซิงเฉินซิงกวงเด็กทั้งสามคน กับซูสือเยว่และฉินโม่หาน

ยืนยันความสัมพันธ์ระหว่าง ฉินซิงหยุนและซูสือเยว่ เป็นแม่ลูก

ยืนยันความสัมพันธ์ระหว่าง จี้ซิงกวงและซูสือเยว่เป็นแม่ลูก

ยืนยันความสัมพันธ์ระหว่าง จี้ซิงกวงและฉินโม่หาน เป็นพ่อลูก

……

หลังจากที่ดุเอกสารการยืนยันความสัมพันธ์ เด็กทั้งสามถึงกับอึ้งไป

สุดท้าย ซิงหยุนเป็นคนแรกที่เรียกสติกลับมาได้ก่อน

เขาสูดหายใจเข้าอย่างเต็มปอด “เพราะฉะนั้น หม่ามี๊คือแม่แท้ๆของพวกเรา ซิงกวงคือน้องสาวแท้ๆของพวกเรา”

ซิงเฉินและซิงกวงทึ่งจนเบิกตากว้าง

ทำไมถึงได้……

ทำไมถึงได้บังเอิญขนาดนี้?

พวกเขาทั้งสามคนเล่นด้วยกันมาตลอด เดิมทีคิดว่าเข้ากันได้เพราะโชคชะตา แต่พวกเขากลับเป็นแฝดสามเสียงั้น!?

ซิงกวงทึ่งอยู่นาน สุดท้ายเธอก็สูดหายใจเข้าอย่างตื่นเต้น

“หนูไปโทรหาคุณอาจี้ก่อนนะคะ!”

……

บ้านตระกูลจี้

จี้หนานเฟิงนั่งอยู่บนเก้าอี้อย่างเบื่อหน่าย แล้วฟังเสียงบ่นของผู้ที่มีอายุมากกว่า :

“เมื่อกี้มีข่าวว่าผู้ดูแลบ้าน ตระกูลเจี่ยนตามหาคุณหนูใหญ่เจอแล้ว”

“ตัวปลอมอีกแล้วใช่ไหม? หลายปีมานี้ ตระกูลเจี่ยนเจอคุณหนูใหญ่ตัวปลอมมาแล้วกี่คน?”

“คุณหนูใหญ่ตัวจริงคงตายไปนานแล้วมั้ง?”

ข่าวพวกนี้ จี้หนานเฟิงฟังจนหงุดหงิด

เขาหันตัวเดินไปตากลมที่ระเบียง

ในเวลานี้ เสียงโทรศัพท์ได้ดังขึ้น

เขากระตุกยิ้ม “ยัยตัวน้อยไร้จิตสำนึก มีเวลาโทรหาคุณอาแล้วหรอคะ? ”

ฝั่งปลายสายซิงกวงนิ่งไป “คุณอาจี้ หนูเจอพ่อแม่แท้ๆของหนูแล้ว!”

ชายหนุ่มเกี่ยวยิ้มขึ้นอย่างอารมณ์ดี “จริงหรอ?”

“แด๊ดดี้ของหนูคือฉินโม่หาน หม่ามี๊ของหนูคือซูสือเยว่!”

“ตึก” โทรศัพท์ของจี้หนานเฟิงหล่นลงพื้น

สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ

สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ

หลังข่าวลือที่เสียโฉม ท่านชายฉินโหดร้ายอำมหิต ทำคู่หมั้นตายติดต่อกันสองคน ผู้หญิงทั้งเมืองไม่มีใครกล้าแต่งงานด้วย แต่ซูสือเยว่กลับแต่งสาวน้อย ต่อไปให้ฉันปกป้องเธอเองเพิ่งแต่งงาน เธอก็ถูกลูกน้อยน่ารักน่าหยิกสองคนแย่งกันอย่างคลั่งใคล้ซะแล้ว……

Comment

Options

not work with dark mode
Reset