บทที่ 20 คุณเอาแหวนคืนมาให้ฉัน
ซูสือเยว่เกือบจะพ่นน้ำส้มในปากออกมา
เธอกดเสียงต่ำ “นี่คือเพื่อนหญิงทางอินเทอร์เน็ตของซิงเฉิน?”
ซิงเฉินพบเพื่อนหญิงทางอินเทอร์เน็ตก็ทำให้เธอตกใจมากพออยู่แล้ว ยิ่งทำให้ตกใจมากไปอีกก็คือ เพื่อนหญิงทางอินเทอร์เน็ตคนนี้……ไม่นึกว่าจะเป็นซูโม่?
“อย่าส่งเสียง ดูเฉยๆไป”
ซิงหยุนหรี่ตาอย่างเมินเฉย มือเล็กส่งข้อความเบาๆผ่านบนมือถือ
ทางด้านนี้ซูโม่ได้นั่งลงบนตำแหน่งที่ได้นัดหมายกันเอาไว้ หยิบกระจกขึ้นมา เติมเครื่องสำอางให้ตัวเองไป ก็โทรศัพท์ไปอวดเพื่อนสนิทไปด้วย
“อืม ฉันถึงแล้ว คุณเฉินบอกว่าเขาใกล้จะถึงแล้ว”
“ใครให้ฉันมีเสน่ห์แบบไร้ขอบเขตขนาดนี้? พวกเราเพิ่งคุยได้แค่สองวัน วันนี้ตอนเช้ายังไม่ทันจะได้เจอกัน ก็ให้คนส่งแหวนเพชรสิบกะรัตมาให้”
“เรื่องนั้นแน่นอนอยู่แล้ว คุณเฉินพูดกับฉันแล้ว วันนี้หลังจากที่พวกเราพบกัน ก็จะให้ฉันขึ้นพาดหัวข่าวในหนังสือพิมพ์ เป็นผู้หญิงที่มีความสุขที่สุดในเมืองหรง!”
“ต้องชวนคุณมาทานข้าวแน่นอน คุณวางใจได้ คุณเฉินเป็นมหาเศรษฐีนะ……”
น่าจะเป็นเพราะความภูมิใจ เสียงของซูโม่เลยดังมาก เกือบจะคนทั้งร้านกาแฟสามารถได้บินชัดเจนได้เลย
ซูสือเยว่ใช้นิตยสารมาปิดกั้นใบหน้าตัวเอง แอบมองซิงหยุนที่นั่งอยู่ข้างๆ “นี่พวกคุณทำอะไรกันเนี่ย?”
คุณเฉิน?
แหวนเพชรสิบกะรัต?
คุณเฉินที่ให้แหวนเพชรสิบกะรัตกับเธอตามปากของซูโม่บอกนั้น……คือซิงเฉิน?
“หม่ามี๊ รอดูอยู่เฉยๆก็พอ”
ซิงหยุนยิ้มกริ่มยกน้ำผลไม้ขึ้นมาจิบ
ไม่นาน ซิงเฉินที่สวมชุดสูทสีดำตัวน้อยก็ผลักประตูเข้ามา
วันนี้เจ้าเด็กน้อยในชุดสูทรองเท้าหนังนั้นช่างหล่อเหลาเหลือเกิน
เขาเดินไปหาซูโม่ด้วยขาเล็กสั้น เอ่ยปากอย่างน่ารักใสซื่อ “พี่สาว คุณน่าจะเป็นโม่โม่ใช่หรือเปล่า?”
วางโทรศัพท์ซูโม่ กวาดตามองอย่างเฉยเมยไปที่เด็กน้อยที่สูงยังไม่ถึงครึ่งของตัวเองคนนี้ “นายเป็นใคร?”
“ฉันคือคุณเฉิน”
ซิงเฉินกะพริบตา เปิดเผยรอยยิ้มหวานๆ “อย่างที่คุณเคยบอกเอาไว้ ไม่รังเกียจที่อายุของฉันน้อยกว่าคุณ”
ซูโม่ยักคิ้ว มองขึ้นลงอย่างดูถูกซิงเฉินตัวน้อยที่อยู่ตรงหน้า “ไม่ว่างจะมาตอบเด็กเมื่อวานซืนหรอกนะ ไปเล่นตรงโน้นไป!”
คุณเฉินที่คุยกับเธอก่อนหน้านี้นั้นมีทั้งความเป็นผู้ใหญ่และสุขุม จะมาเป็นเด็กน้อยตัวเล็กที่อยู่ตรงหน้าได้ยังไงกัน?
“ฉันคือคุณเฉินจริงๆ!”
ซิงเฉินเม้มปาก หยิบมือถือขึ้นมา ส่งข้อความ
เวลาเดียวกันนั้นเอง มือถือของซูโม่ก็ดังขึ้น
เจ้าเด็กน้อยเขย่ามือถืออย่างได้ใจ “นั่นคือฉันไงละ!”
ซูโม่: “……”
เธอตั้งหน้าตั้งตารอคอยที่อยากจะพบคุณเฉิน……คิดไม่ถึงว่าจะเป็นเด็กเมื่อวานซืนตัวใหญ่คนนี้?
เธอถูกเด็กคนหนึ่งเล่นเข้าให้แล้ว!?
ซูโม่ทั้งโกรธทั้งอาย “อายุยังน้อยเรียนอะไรที่ไม่ดีเลยนะ เรียนความรักทางอินเทอร์เน็ตของคนอื่น!”
“อายุน้อยขนาดนี้ก็โกหกเป็นแล้ว โตไปก็คงเป็นคนก่อแต่เรื่องสร้างความหายนะแน่ๆ!”
“ไปไกลๆจากฉันหน่อย!”
พอสิ้นสุดคำพูดของซูโม่ ซิงเฉินเม้มปากแน่น ทิ้งก้นลงไปนั่งกองกับพื้น เริ่มร้องไห้เสียงดังขึ้นมา:
“คุณไม่รักษาคำพูด!”
“ฉันขโมยแหวนเพชรสิบกะรัตที่แด๊ดดี้เตรียมไว้ให้หม่ามี๊ให้คุณไปแล้ว!”
“นึกไม่ถึงเลยว่าคุณจะไม่ยอมรับ!”
“ก่อนหน้านี้คุณคุยกับฉันอย่างดิบดีทางอินเทอร์เน็ต ว่าได้รับของขวัญของฉันแล้วจะดูแลฉันเป็นอย่างดี!”
“ฉันเด็กขนาดนี้ นึกไม่ถึงว่าคุณยังกล้าโกหกฉัน!”
“ฮือฮือฮือฮือฮือ——!”
ซิงหยุนร้องไห้แบบนี้ ทำให้สายตาของคนในร้านกาแฟทั้งหมดจับจ้องรวมตัวกันเข้ามา
คนที่มีสายตาเฉียบแหลมจำขึ้นมาได้ “นี่ไม่ใช่คุณหนูใหญ่ตระกูลซู ซูโม่เหรอ?”
“คิดไม่ถึงเลยว่าเปลือกนอกที่แสนงดงามสดใส เบื้องหลังนั้นคิดไม่ถึงว่าจะหลอกลวงเด็กน้อยขนาดนี้ แถมยังยุยงให้เขาขโมยแหวนเพชรของพ่อแม่อีก!”
“ช่างหน้าไม่อายจริงๆ!”
……
ชั่วครู่ ในร้านกาแฟก็มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์มากมายดังขึ้นตรงโน้นทีตรงนี้ที
ถึงกับมีคนหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา เริ่มถ่ายทอดสดภาพตรงหน้าทางอินเทอร์เน็ต
บนใบหน้าของซูโม่สลับสีแดงสีขาวโดยทันที
เธอจะไปรู้ได้ยังไงว่าคุณเฉินบนอินเทอร์เน็ตที่พูดคุยกับเธออย่างสนุกสนานคนนั้นจะเป็นเด็กน้อยอายุห้าหกขวบ!
คุณเฉินคนนี้เป็นคนมีฝีมือมีชีวิตหรูหรา รูปที่ส่งมาให้เธอแต่ละใบนั้นช่างหล่อเหลาเอาการ แต่ละใบดูสูงศักดิ์น่าเคารพ บ้านก็หรูราวราวกับปราสาท!
เธอคิดว่าตัวเองได้เจอกับหุ้นดีที่มีศักยภาพ ถึงเพิ่งจะคุยกันได้แค่วันเดียวก็รีบมาพบเขาเลย!
อันที่จริงเธอเพิ่งจะทำเรื่องให้วุ่นวายจากการลงทุนกับประธานหวาง เลยมีความต้องการความร่วมมือจากที่อื่นอย่างเร่งด่วนเพื่อมาทำให้ตำแหน่งของเธอมีเสถียรภาพที่มั่นคงคงที่มากขึ้น!
ซูโม่คิดมาดีแล้ว หลังจากพบกัน ต้อง……กับคุณเฉินคนนี้
แต่ใครจะไปคิด——
“เด็กขี้โกหก ไสหัวไปไกลๆ!”
เธอมองซิงเฉินอย่างดุร้ายรุนแรง ยกขาจะเดินออกไป
ซิงเฉินตรงเข้าไปกอดขาเล็กของเธอไว้ “คุณจะไปไหนไม่ได้!”
“คุณเอาแหวนคืนมาให้ผม!”
“และยังมีเงินที่ผมโอนให้คุณทางอินเทอร์เน็ตอีก! คุณจะต้องคืนมาให้ผมทั้งหมด!”
ซูโม่กรอกตาขาวไปมา “ฉันทำไมจะต้องคืนคุณด้วย?”
ขณะที่พูดอยู่นั้น เธอยกขาเตะซิงเฉินออกไป
ผู้คนในร้านกาแฟมองดูอย่างเคียดแค้นต่อความไม่ยุติธรรมนี้
ผู้หญิงคนนี้ไม่เพียงแต่หลอกลวงเด็กน้อยคนนี้ แถมยังจะลงมือกับเด็กคนนี้อีก!
มองดูซิงเฉินถูกเตะไปที่พื้นแบบนั้น ซูสือเยว่เจ็บปวดหัวใจจนทำนิตยสารที่อยู่ในมือตกลงไป
ซิงหยุนนั้นรั้งมือของเธอเอาไว้ “ใจเย็น หม่ามี๊”
ซูสือเยว่เม้มปากแน่น กดเสียงต่ำ “เขาเป็นน้องชายเธอนะ เธอไม่ห่วงใยเจ็บปวดกับขาเหรอ?”
ซิงหยุนหยุดชะงัก หันหัวไป แววตามองเธออย่างตั้งอกตั้งใจ “คุณห่วงใยเจ็บปวดซิงเฉินเหรอ?”
“แน่นอนซิ!”
มือทั้งสองข้างของซูสือเยว่กำหมัดแน่น “ซิงเฉินอยู่ที่บ้านเป็นเหมือนดั่งปีศาจตัวน้อย มีตอนไหนบ้างที่จะต้องมาไม่ได้รับความเป็นธรรมแบบนี้?”
“ไม่ได้ ฉันต้องไป”
“ไม่ได้”
ซิงหยุนมองหน้าเธออย่างจริงจัง “คุณเป็นหม่ามี๊ที่ดีคนหนึ่ง”
ซูสือเยว่ถูกสายตาของเขาจ้องมองทำให้รู้สึกอึดอัดเล็กน้อย
หญิงสาวเงยหน้าขึ้น ตอนที่มองไปทางซูโม่อีกครั้ง พ่อบ้านก็ได้พาตำรวจหลายคนเข้ามาเรียบร้อยแล้ว
“คุณหนูซู มีคนรายงานว่าคุณใช้เครื่องมืออินเทอร์เน็ตหลอกลวงทรัพย์สินของคนที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ เชิญคุณไปกับพวกเราหน่อยครับ”
พูดจบ ตำรวจสองคนก็เข้ามาจับกุมซูโม่ไว้
หญิงสาวต่อต้านอย่างรุนแรง “ฉันเปล่า!”
“ไม่ใช่ฉันที่เป็นคนหลอกลวงเด็ก เป็นเขาที่เป็นคนเริ่ม……”
“คุณลุงตำรวจ พวกคุณช่วยผมหน่อย……”
ซิงเฉินร้องไห้เสียงดัง
พ่อบ้านอุ้มซิงเฉิน น้ำตาหยดไหลร่วงหล่นเป็นทาง “คุณชายน้อยของพวกเราเพิ่งจะห้าขวบเอง ไม่มีคนยุยง จะไปขโมยของของผู้ใหญ่ได้ยังไง……”
ตำรวจที่ดูแลมองดูทั้งเด็กทั้งคนแก่ร้องไห้โศกเศร้าถึงขนาดนั้น ก็หันหัวไปพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “คุณหนูซู จะโกหกก็โกหกให้เชื่อถือได้หน่อย เด็กน้อยตัวเล็กขนาดนี้ จะไปวางแผนระรานคุณได้อย่างไรกัน?”
“มีคำพูดอะไร กลับสถานีตำรวจแล้วค่อยพูดเถอะ!”
พูดจบ ตำรวจก็ตรงไปพาซูโม่ออกไป
พ่อบ้านอุ้มซิงเฉินเอาไว้แล้วตามตำรวจไปด้วยกัน
ซูสือเยว่ตกตะลึงพรึงเพริด
ซิงหยุนถอนหายใจออกมาเบาๆ กระโดดลงมาจากเก้าอี้ ดึงนิ้วก้อยของซูสือเยว่ “หม่ามี๊ พวกเราไปสถานีตำรวจรับน้องชายกลับบ้านกันเถอะ!”
หญิงสาวยังเรียกสติกลับมาจากฉากที่เพิ่งเห็นตรงหน้าเมื่อกี้ไม่ได้ “นี่พวกเธอวางแผนกันไว้?”
“ใช่แล้ว!”
ซิงหยุนดึงมือของเธอ เดินก้าวใหญ่ๆออกประตูไป “แต่ว่าพวกเราไม่ได้โกหกเธอนะ!”
“ซิงเฉินบอกกับเธอ หลังจากพบกันแล้วจะให้เธอจะได้ลงหนังสือพิมพ์”
“แต่ว่า ที่เธอได้ลง คือส่วนฉบับกฎหมาย”