สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ – ตอนที่ 200 ฉันเป็นบอสของตระกูล

“เจ้าหนู หนูทำร้ายฉัน!”

ซูสือเยว่จับคอของซิงเฉิน ก่อนจะกดเขากับกำแพง พร้อมน้ำหนักมือที่เพิ่มขึ้น “หนูเป็นใคร?”

นัยน์ตาอันแสนเยือกเย็นของเธอ ทำให้ร่างกายของซิงเฉินแข็งทื่อไปหลายวินาที

หลายวินาทีต่อมา เด็กหนุ่มเริ่มขัดขืน “ผมเป็น….ลูกชายของหม่ามี๊ไง…..”

ซิงเฉินถูกบีบจนใบหน้าเริ่มซีด หายใจติดขัด “หม่ามี๊ ผมกำลัง….จะทดสอบว่าคุณเป็นหม่ามี๊ผู้ให้กำเนิดผมจริงๆ รึเปล่า?”

ซูสือเยว่ย่นคิ้ว

พอได้มองคู่นัยน์ตาดำขลับของเด็กน้อย เธอก็เงียบไปพักหนึ่ง น้ำหนักมือผ่อนคลายลง

ทว่าใบหน้ายังคงเย็นชา นัยน์ตาเย็นยะเยือกจับจ้องเขา “พูดมาให้หมด!”

“คืองี้นะครับ….”

ซิงเฉินเอื้อมมือมาจับนิ้วมือของเธอ พลางเอยอย่างตะกุกตะกัก “หม่ามี๊เคยไม่ยินคำพูดนี้ไหม?”

“เสือแม้จะร้ายแต่ไม่กินลูกตัวเอง”

“ถึงตอนนี้คุณจะยังจำพวกเราไม่ได้ ขอแค่คุณยอมรับว่าพวกเราเป็นลูกของคุณ คุณก็ไม่มีทางทำร้ายพวกเรา”

ซูสือเยว่หรี่ตา “เสือแม้จะร้ายแต่ไม่กินลูกตัวเอง อย่างแรกคือลูกเสือไม่ควรทำร้ายเธอ!”

เมื่อกล่าวจบ เธอพลางมองใบหน้าเล็กจิ๋วของซิงเฉินแวบหนึ่ง “เข็มของหนูเล่มเมื่อกี้ ถ้ามันเป็นเข็มอาบพิษ ตอนนี้ฉันจะยังรอดอยู่ไหม?”

“ต้องรอดสิครับ”

ซิงเฉินมองเธอด้วยดวงตากลมโต “ตอนนี้หม่ามี๊อยู่รอดสบายดีอยู่ไม่ใช่เหรอครับ?”

ซูสือเยว่ย่นคิ้ว แววตาเย็นชาขึ้นเป็นเท่าตัว “ที่ฉันพูดก็คือ ถ้าเข็มเมื่อกี้มันอาบยาพิษ ตอนนี้ฉัน….”

ประโยคยังไม่ทันได้พูดจบ ร่างกายของเธอพลันอ่อนเปรี้ย ขาทั้งสองรู้สึกชา ร่างกายหนักอึ้ง…..

ราวกับเรี่ยวแรงทั้งหมดในร่างถูกสูบไป

อย่างไรก็ตาม มือของซิงเฉินที่เธอจับไว้ก็คลายออก

เด็กหนุ่มดึงรั้งมือของเธอไว้ พยายามพยุงร่างอ่อนแรงของเธออย่างสุดความสามารถ “หม่ามี๊ เข็มที่จิ้มคุณเมื่อกี้ ก็คือเข็มอาบพิษยังไงล่ะ”

ในแววตาของซูสือเยว่เต็มไปดวยความเย็นชาและชิงชัง “หนูเป็นใครกันแน่…..”

เด็กหนุ่มพูดอะไรบางอย่างที่ริมหู เธอเองก็สติพร่าเบลอ ฟังไม่ค่อยรู้เรื่องเลย

“มัวแต่สนุกกันอยู่ได้ ยังไม่มาช่วยกันอีก!”

จนกระทั่งซูสือเยว่หมดสติไป ซิงเฉินขมวดคิ้ว พลางออกแรงพยุงร่างกายของเธอ พลางเบี่ยงหน้าไปตะคอกใส่หูฟัง

“พวกเรากำลังไป!”

เสียงหัวเราะของซิงกวงดังดังขึ้นในหูฟัง “พี่รอง พี่โกหกเก่งจังเลยน้า!”

ซิงเฉินกลอกลูกตา “หยุดพูดไร้สาระ เดี๋ยวก็ถูกคนของตระกูลเจี่ยนจับได้หรอก!”

“ไม่หรอก”

น้ำเสียงนิ่งสงบของซิงหยุนดังขึ้นในหูฟัง “คนของตระกูลเจี่ยนทั้งหมดอยู่ในขอบเขตการสอดส่องของฉัน ผู้ดูแลบ้านเสิ่นก็ถูกแด๊ดดี้จัดการแล้ว”

ครู่หนึ่ง ซิงหยุนก็เอยขึ้นอีกครั้ง “อย่าดุกับซิงกวงให้มากนักสิ”

“เธอเป็นน้องสาว”

ซิงเฉินเบ้ปาก

เขาก็แค่เป็นห่วงเลยใช่น้ำเสียงหนักแน่นไปหน่อย ทำไมถึงกลายเป็นดุกับซิงกวงล่ะ?

น้องสาวเพิ่งกลับมา พี่ใหญ่ดูเหมือนจะไม่รักเธอแล้ว!

ขณะที่กำลังครุ่นคิด ด้านหลังของหานหยุนพลันมีเสียงนุ่มลึกดังขึ้น “ซิงเฉินน้อย ฉันมาแล้ว”

“มาช่วยหน่อยครับ”

ซิงเฉินพยุงซูสือเยว่ ให้หานหยุนแบกเธอ ภายใต้การคุ้มกันของเหล่าบอดี้การ์ด แล้วออกไปทางรูโหว่กลังสวนดอกไม้

หลังจากหานหยุนแกเธอขึ้นรถ ซิงเฉินไม่ลืมสั่งการบอดี้การ์ด “ปิดรูนี้ให้แน่นหนา อย่าให้คนขอวตระกูลเจี่ยนออกมา”

หลังจากจัดการเสร็จสรรพเรียบร้อย ซิงเฉินสูดหายใจเข้าลึกๆ หนึ่งครั้ง ก่อนจะขึ้นรถ

นี่เป็นรถบ้านคันหนึ่ง

หานหยุนจัดให้ซูสือเยว่เอนลงที่เตียงกลางรถบ้าน จากนั้นใช่เทปผ้าใบตรึงเธอให้อยู่กับที่ให้เป็นระเบียบ

ซิงกวงเท้าคางทั้งสองข้างอยู้อีกฝั่ง มองหญิงสาวที่หมดสติถูกมัดตรึงอย่างปวดใจ “ตอนนี้หม่ามี๊น่ากลัวมากจริงๆ เหรอ?”

หานหยุนรีบพยักหน้า “ใช่!”

ด้วยฝีมือของซูสือเยว่ในตอนนี้ หากไม่ใช่วิธีใช้เล่ห์กลล่อลวงแบบนี้ คงไม่มีทางที่เธอจะมากับพวกเราดีๆ เป็นแน่!

นิสัยในตอนนี้หญิงสาวคนนี้ช่างเกรี้ยวกราดเหลือเกิน!

ซิงหยุนก้มหน้าใช้คอมพิวเตอร์ พลางย่นคิ้วพร้อมเอย “นั้นก็แค่กับนาย”

“บางทีกับพวกเราอาจจะไม่ก็ได้นี่นา”

“เมื่อกี้ตอนที่เธอคุยกับซิงเฉิน ก็นิสัยดีออก”

“หรือบางทีการสูญเสียความทรงจำ อาจทำให้นิสัยของคนคนหนึ่งเปลี่ยนไปเลยก็ได้ แต่ทัศนคติที่เธอมีต่อคนใกล้ชิด ต้องไม่เปลี่ยนไปแน่นอน”

ซิงกวงนั่งลงอีกด้าน พลางตรึกตรองคำพูดของซิงหยุน

คนใกล้ชิด….

ในที่สุดเธอก็คนใกล้ชิด…..

เด็กสาวยื่นมือออกไปอย่างไม่รู้ตัว กอบกำนิ้วมือของซูสือเยว่ไว้

“หม่ามี๊ คุณต้องรีบตื่นมานะคะ”

เธอยังนึกถึงซูสือเยว่ที่แสนอ่อนโยนในอดีต ไปเที่ยวที่ชายหาดด้วยกัน ทำอะไรหลายๆ สิ่งด้วยกัน เธอเคยเฝ้าฝันอยู่หลายอย่าง ทว่าไม่เคยไม่ทำมัน

คำพูดของเด็กสาว ทำให้บรรยากาศภายในรถพลันเงียบลง

ซิงเฉินถอนลมหายใจ เขาเดินไปโอบไหล่ของซิงกวงเบาๆ “เธอจะต้องดีขึ้น เชื่อฉันสิ”

ซิงหยุนขมวดคิ้วเล็กน้อย ทว่าไม่ได้เอ่ยอะไรออกไป

รถขับเคลื่อนออกไป

ทว่ารถของพวกเขาเพิ่งออกจากตระกูลเจี่ยนมาได้แค่สองแยกเอง ก็ถูกบีบให้จอดลง

“มีคนขวางทาง”

คนขับรถดูหวาดกลัว พลางหยุดรถ “คุณหนูทั้งสอง ทำอย่างไรดีครับ?”

ซิงเฉินขมวดคิ้ว แล้วไปดูที่ห้องคนขับอย่างมีสติ

เบื้องหน้ารถบ้านเห็นเพียง รถยนต์สีดำจอดอยู่หนึ่งคัน

ชายหนุ่มวัยกลางคนสวมชุดสีดำเปิดประตูเดินลงจากรถ แล้วยืนอยู่หน้ารถอย่างนิ่งสงบ พร้อมกับเงยหน้ามองพวกเขา

หานหยุนเหลือบตามอง ดวงตาเบิกกว้าง “เครื่องแบบบนตัวเขา…คนของตระกูลเจี่ยน

เขากัดปากแน่น “ไหนบอกว่าทุกอย่างราบรื่นดีไง ฉินโม่หานควบคุมผู้ดูแลบ้านเสิ่นแล้วใช่ไหม? …”

แล้วทำไมผู้ชายตรงหน้านี้……..

ซิงหยุนช้อนตามองอย่างนิ่งๆ

จากนั้น เด็กหนุ่มก็ก้มหน้า ลงมือทำงานต่อ “เขาไม่ได้มาตาม”

“ซิงเฉิน นายกับซิงกวงลงไปพูดกับเขาให้ชัดเจนเลยเถอะ”

ซิงกวงหันไปมองเขาอย่างนึกฉงนใจ “พี่ซิงหยุน เครื่องแบบที่คนนี้สวม…เป็นคนของตระกูลเจี่ยน”

“สิ่งที่พวกเราต้องทำตอนนี้คือเผ่นต่างหาก”

ทำไมเขาถึงได้ใจเย็นขนาดนี้?

“เขาคือคุณปู่”

“หรือพูดอีกอย่างก็คือ อดีตคุณปู่”

น้ำเสียงของซิงหยุนทุ้มลึกกว่าเดิม “เขาไม่ใช่คนเลว”

“ก็อาจจะ ตอนที่หม่ามี๊เด็กๆ เขาคือคนเดียวที่หวังจะให้หม่ามี๊มีชีวิตอยู่ต่อไป”

“เอ้อ!”

สิ้นคำพูดของซิงหยุน ซิงเฉินก็คว้ามือของซิงกวง “พวกเราลงไปกันเถอะไ

แววตาของเด็กสาวเต็มไปด้วยความหวาดกลัว

ทว่า มือที่ถูกพี่ชายกุมไว้ อบอุ่นมากเลย

เธอเม้มปาก ก่อนจะกระชับมือตอบรับเบาๆ “ค่ะ”

“มีพี่ชาย ฉันไม่กลัวหรอก!”

เมื่อก่อน ซิงกวงไม่เคยนึกฝันเลยว่าครอบครัวจะได้กลับมาอยู่พร้อมหน้ากัน

ทว่าเธอมักรู้สึก แม้ว่าเธอจะตามหาครอบครัวเจอแล้ว แต่ก็เป็นเรื่องยากที่จะเป็นครอบครัวในเวลาอันสั้น

เพราะเธอแยกกับครอบครัวตั้งห้าปี

แต่วันนี้……

พี่ชายของเธอทั้งสองคนก็อ่อนโยนมาก

แม้พี่ใหญ่จะไม่ชอบพูด แต่ก็มักจะแอบดูแลเธออยู่ตลอด

พี่รองเป็นคนพูดมาก แต่เขาเป็นพวกปากร้ายแต่ใจดี ถึงปากจะดุ จริงแล้วเป็นพวกซิสค่อน

แด๊ดดี้…..

แด๊ดดี้ของเธอค่อนข้างเรียบง่าย แต่เขาก็เป็นคนดีคนหนึ่ง

ถ้าหม่ามี๊ดีขึ้น เช่นนั้นเธอคงมีความสุขมาก!

พอนึกถึงตรงนี้แล้ว เด็กสาวก็สูดหายใจเข้าลึกๆ ก้าวลงรถไปพร้อมกับซิงเฉินอย่างขึงขัง “พี่รอง ให้ฉันสู้เพื่อหม่ามี๊นะคะ!”

ซิงหยุน “…….”

ซิงเฉิน “เธออินกับพวกการ์ตูน ไม่ก็นิยายมากไปไหมเนี่ย?”

ซิงกวงกลอกตา ก่อนจับมือซิงเฉิน ก้าวเดินลงรถไปสองสามก้าว

เจี่ยนเฉิงคิดไม่ถึงเลยว่า คนที่ปรึกษาหารือกันบนรถเนิ่นนาน สุดท้ายคนที่ลงรถมา กลับเป็นเด็กตัวกะเปี๊ยกสองคน

เขากอดอก “ให้ผู้ใหญ่บนรถลงมา”

“ผู้ใหญ่บนรถล้วนต้องฟังคำสั่งพวกเรา”

ซิงกวงเงยหน้า พลางสบตาเขาอย่างไม่เกรงกลัว “คุณตาคะ ถ้ามีอะไรจะพูด ก็พูดกับหนูได้เลยค่ะ”

“หนูใหญ่สุดในบ้านนี้ค่ะ!”

สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ

สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ

หลังข่าวลือที่เสียโฉม ท่านชายฉินโหดร้ายอำมหิต ทำคู่หมั้นตายติดต่อกันสองคน ผู้หญิงทั้งเมืองไม่มีใครกล้าแต่งงานด้วย แต่ซูสือเยว่กลับแต่งสาวน้อย ต่อไปให้ฉันปกป้องเธอเองเพิ่งแต่งงาน เธอก็ถูกลูกน้อยน่ารักน่าหยิกสองคนแย่งกันอย่างคลั่งใคล้ซะแล้ว……

Comment

Options

not work with dark mode
Reset