บทที่21 ท่านนี้คือภรรยาที่พึ่งแต่งงานของผม ซูสือเยว่
พอออกมาจากร้านกาแฟ ด้านนอกก็มีรถมาเซราติสีดำจอดอยู่ด้านนอก
ซิงหยุนปล่อยมือจากซูสือเยว่แล้วก็ขึ้นรถคันหนึ่งไป
ซูสือเยว่ไม่มีทางเลี่ยง ทำได้แค่เปิดประตูที่นั่งด้านหลังของรถ
บนที่นั่งเบาะหลังที่เป็นเบาหนัง ผู้ชายที่ดูสูงศักดิ์และเย็นชานั่งเงียบๆ อยู่ตรงนั้น มองไปที่แล็ปท็อปในมืออย่างเย็นชา
ถึงแม้ว่าจะแต่งงานกันมาช่วงเวลาหนึ่งแล้ว แต่ว่าทุกครั้งที่เห็นใบหน้าด้านข้างที่ดูเย็นชาของเขานั้น เธอก็อดไม่ได้ที่จะใจสั่น
“นายมาได้ยังไง……”
ผู้ชายคนนั้นไม่ได้แม้แต่เงยหน้าขึ้นมา สายตายังคงจับจ้องที่หน้าจอแล็ปท็อป นิ้วเรียวเคาะบนแป้นพิมพ์อย่างสง่างาม “ลูกชายถูกหลอก ในฐานะที่เป็นผู้ปกครอง แน่นอนว่าต้องไปสถานีตำรวจด้วยตัวเองสิ”
ซูสือเยว่เม้มปาก แล้วก็ขยับเข้าไปนั่งด้านใน “นายรู้แล้วเหรอ? ”
ผู้ชายคนนั้นหยุดจากงานในมือ แล้วก็หันหน้ามา สายตาที่ลึกล้ำนั้นจ้องมาที่เธอ “เธอคิดว่า ถ้าเกิดว่าฉันไม่เห็นด้วย พวกเขาสองคนจะได้แหวนเพชรสิบกะรัตไปยังงั้นเหรอ? ”
ซูสือเยว่เงียบสนิท
พูดไปก็จริง
แหวนเพชรสิบกะรัตก็ไม่ใช่ตัวเลขน้อยๆ เลย ต่อให้ตระกูลฉินจะมีเงินเยอะแค่ไหน ก็ไม่มีทางให้เงินเด็กอายุห้าขวบสองคนมากขนาดนี้หรอก
“ดังนั้นก็หมายความว่า นายเองก็รู้รายละเอียดของเหตุการณ์นี้ยังงั้นเหรอ? ”
ฉินโม่หานเก็บแล็ปท็อปลง เอนหลัง พิงเบาะหนังอย่างสายๆ สายตานิ่งเรียบ “เหลิงเหยียนสืบมาเรียบร้อยแล้ว เรื่องเมื่อวาน มันเกี่ยวข้องกับน้องสาวของเธอ”
“แต่ว่าเธอฉลาดจะตาย เก็บอะไรที่เกี่ยวข้องอย่างสะอาดหมดจด แม้แต่เบอร์โทรศัพท์ที่ใช้ติดต่อกับประธานหวาง ก็จัดการภายใต้ชื่อของเจี่ยนเฉิง”
มือของซูสือเยว่กำหมัดแน่น
แทบไม่ต่างอะไรจากที่เธอทายเอาไว้เลย
ซูโม่เกี่ยวข้องกับเรื่องเมื่อวานจริงๆ ด้วย!
เสียงของเขาทุ้มต่ำ มันสุขุมแบบที่ทำให้คนรู้สึกสบายใจ “ฉันกับเธอพึ่งจะแต่งงานกันได้ไม่นานเท่าไหร่ เพราะว่าขาดหลักฐาน แล้วไปปราบปรามพ่อของเธอที่ห้าง ข้อที่หนึ่งคือมันไม่เหมาะสม ข้อที่สองคือมันจะไม่ค่อยดีกับเธอด้วย”
ทันใดนั้นหัวใจของซูสือเยว่ก็รู้สึกอบอุ่นขึ้น
ที่ผ่านมา ฉินโม่หานนั้นเย็นชากับเธอมาโดยตลอด
เธอไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่า เขาจะคิดรอบคอบถี่ถ้วนขนาดนี้
ไม่เพียงแต่ไปแอบตรวจสอบเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ แถมยังไตร่ตรองว่าถ้าเกิดว่าเขามุ่งไปที่ตระกูลซู จะก่อให้เกิดผลกระทบที่ไม่ดีต่อเธอ……
เธอเม้มปาก แล้วก็เงยหน้าขึ้นมาสบตาที่ลึกซึ้งของเขา “ขอบคุณนะ……”
“หม่ามี๊ เขาคือสามีของหม่ามี๊ ไม่จำเป็นต้องพูดขอบคุณ”
คำพูดของผู้หญิงพึ่งพูดออกมา ซิงหยุนที่อยู่ด้านหน้าก็พูดออกมาอย่างเรียบง่าย “แล้วอีกอย่างหม่ามี๊ก็ไม่จำเป็นต้องขอบคุณเขาด้วย”
“คนที่คิดวิธีให้หม่ามี๊แก้แค้นก็คือตระกูลซู คนที่วางแผนก็คือผม แด๊ดดี้นอกจากจะให้แหวนกับเงินสดหนึ่งแสนหยวนแล้ว ก็ไม่ได้ทำอะไรเลยนะ”
ซูสือเยว่:“……”
ฉินโม่หานเลิกคิ้ว “ถ้าไม่ได้การสนับสนุนจากแด๊ดดี้ พวกลูกจะราบรื่นขนาดนั้นได้เหรอ? ”
“ได้”
น้ำเสียงที่อ่อนเยาว์ของซิงหยุนนั้นมั่นคงอย่างที่ไม่ต้องตามวัยของเขาเลย “ถ้าเกิดว่าผมไปพูดกับคุณปู่ เอาชื่อของแด๊ดดี้ไปอ้างเพื่อซื้อแหวนให้หม่ามี๊ คุณปู่ต้องตกลงอย่างแน่นอน”
ฉินโม่หานค่อยๆ หรี่ตาลง ไม่พูดอะไร
ซูสือเยว่มองอย่างตกตะลึง
ซิงหยุนทำให้ฉินโม่หานเถียงไม่ออกยังงั้นเหรอ?
เธอแอบมองผู้ชายที่อยู่ข้างๆ เธอด้วยหางตาอย่างระมัดระวัง
เขาเอนหลังที่เก้าอี้หนัง หลับตาและงีบหลับ
และก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาเหนื่อยจริงๆ หรือเพราะว่าเถียงซิงหยุนไม่ได้
แล้วรถก็ถูกสตาร์ท
มือถือของซูสือเยว่ก็เริ่มดังขึ้นไม่หยุด
ก็คือฟีดข่าวนั่นเอง
เมื่อก่อนตอนที่เธอคบกับเฉิงเซวียน ทุกวันเธอต้องกังวลว่าเฉิงเซวียนจะถูกทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ดังนั้นเธอก็เลยติดนิสัยต้องคอยติดตามข่าวอยู่ทุกวัน
อากาศในรถตอนนี้มันค่อนข้างอึดอัด เธอก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดไปเปิดมา
มันเป็นข่าวที่เกี่ยวกับซูโม่ทั้งหมดเลย!
“สุดช็อก! ลูกสาวของซูซื่อกรุ๊ป โกหกล่อลวงผู้เยาว์ให้ขโมยทรัพย์สินพ่อแม่! ”
“แหวนเพชรสิบกะรัตนั้นขโมยมายังงั้นเหรอ? ที่แท้ลูกสาวของตระกูลเศรษฐีทำยังงี้เองเหรอ”
“คุยกันอย่างมีเหตุผล การกระตุ้นให้ผู้เยาว์ขโมยของแบบนี้ ควรโดนคดีไหนบ้าง? ”
……
ในอินเทอร์เน็ตเต็มไปด้วยข่าวที่ซูโม่หลอกเด็ก
มีคนปล่อยวิดีโอจากร้านกาแฟก่อนหน้านี้
แม้แต่มีปล่อยบันทึกการแชทของซูโม่และตระกูลซูออกมาด้วย
ซูสือเยว่เปิดดูภาพหน้าจอแชทนั้น ดูทีละภาพๆ ……
ซูสือเยว่
ยิ่งดูยิ่งโกรธ!
ซูโม่ถูกต้องโทษในคดีนี้ มันยังไม่พอเลย!
ในบันทึกการคุยนั้น เธอขอเงินตระกูลซูมากกว่าหนึ่งครั้ง
นอกจากเรื่องที่ตระกูลซูปิดบังอายุที่แท้จริงของตัวเองแล้ว นอกนั้น มันมีแต่การยุยงของซูโม่ทั้งหมด!
เธอแม้แต่พูดกับตระกูลซูว่า “แม่ของหนูอายุเยอะขนาดนั้น การสวมแหวนเพชรสิบกะรัตนั้นถือว่าเป็นเรื่องสิ้นเปลืองนิดหน่อยนะ”
“หนูเอามาให้น้าเถอะ บ้านหนูรวยขนาดนั้น พ่อแม่หนูรู้ก็ไม่มีทางโกรธหรอก”
ซูสือเยว่บีบโทรศัพท์แน่น โกรธจัด
ถึงแม้ว่าเธอจะรู้ว่าตระกูลซูกับซิงหยุนจงใจวางแผนซูโม่ แต่ว่าเนื้อหาพวกนี้ มันยากที่จะให้ซูสือเยว่ยอมรับได้
เมื่อก่อนเจี่ยนเฉิงเคยพูดแล้วว่า ซูโม่ผู้หญิงคนนี้เนี่ย เติบโตมากับน้องสาวตัวน้อยในสลัม ก็เลยติดนิสัยแย่ๆ มาด้วย
แม้แต่ตอนนี้กลับไปที่ตระกูลซูแล้ว แต่เธอยังเหมือนกับเมื่อก่อน ทำให้คนรังเกียจ!
พอเห็นว่าในอินเทอร์เน็ตมีแต่คนด่าประจานซูโม่เต็มไปหมด ซูสือเยว่ก็รู้สึกสดชื่นเป็นอย่างมาก
ไม่นาน รถก็ไปถึงสถานีตำรวจ
พอลงจากรถ ซูสือเยว่ก็เห็นรถของซูจิ่นเฉิงที่จอดอยู่ไม่ไกลเท่าไหร่นัก
ดูเหมือนว่าเรื่องของซูโม่จะวุ่นวายไม่ใช่น้อยเลย แม้แต่ซูจิ่นเฉิงยังมาที่สถานีตำรวจ
“ผมไม่ลงจากรถนะ”
ซิงหยุนที่นั่งอยู่ในที่นั่งข้างคนขับ เปิดแล็ปท็อปเครื่องเล็กของตัวเอง แล้วก็ใส่หูฟัง “ผมก็เหมือนกับตระกูลซู ไม่เข้าไปสร้างความเดือดร้อนเพิ่มดีกว่า”
“อืม”
ฉินโม่หานที่งีบหลับมาตลอดทางก็ลืมตาขึ้น แล้วก็เปิดประตู และลงจากรถด้วยท่าทีที่สง่างาม
ซูสือเยว่ไม่กล้าเฉยชา รีบลงจากรถและตามเขาไปในทันที
“สหายตำรวจ คุณสืบดูดีๆ อีกทีสิ มันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว! ”
“ลูกสาวของฉันเป็นคนที่จิตใจดีและไร้เดียงสา จะทำเรื่องแบบนั้นได้ยังไงกัน! ”
ในสถานีนั้นเฉินฟางร้องไห้จนแทบล่มสลาย “เด็กคนนั้นต้องมีปัญหาเองอย่างแน่นอน! ”
“ลูกสาวฉันไม่มีทางทำเรื่องแบบนี้แน่นอน! ”
“หลักฐานชัดเจน!”
ตำรวจที่อยู่ด้านข้างตำหนิด้วยใบหน้าที่เย็นชา “ตอนนี้ลูกสาวของคุณยังไม่ยอมถอดแหวนเพชรสิบกะรัตนั้นเลย! ”
เฉินฟางร้องไห้น้ำตาไหล พร้อมกับหันหน้าไปมองซูโม่ “โม่โม่ ลูก……”
“หนูไม่ถอด!”
ซูโม่ก้มหน้า แล้วก็กำแหวนเพชรในมือแน่น “ต่อให้มันเป็นของที่เด็กเอามาให้ แต่ก็ถือว่าให้แล้วไง มันมีที่ไหนกัน การที่รับของขวัญมาแล้วต้องคืนให้น่ะ”
“เธอไม่ได้ได้รับของขวัญ แต่ว่าเธอยุยง หลอกลวง”
เสียงผู้ชายที่ทุ้มต่ำและน่าดึงดูดดังขึ้น
ซูโม่และเฉินฟางรีบเงยหน้าขึ้นมา ทันใดนั้น ก็เห็นคนคนนั้นยืนอยู่ท่ามกลางฝูงชน เป็นชายผู้เย่อหยิ่งและสูงส่ง
เขาก้าวเดินด้วยขาที่เรียวยาว ตรงเข้ามาหาพวกเธอ
ซูโม่เบิกตาโพลง
นี่ไม่ใช่……
นี่คือผู้ชายที่เด็กคนนั้นส่งรูปมาให้เธอไม่ใช่เหรอ!?
ตอนนั้นครั้งแรกที่เธอเห็นรูปของเขา ก็รู้สึกหัวใจเต้นแรง ถึงได้เริ่มหาคู่ออนไลน์อย่างหัวหมุนกับเด็กคนนั้น
แต่ว่าตอนนี้ พอได้เห็นตัวเป็นๆ ของเขาแล้ว เธอถึงได้พบว่า ตัวจริงของเขา……มันช่างหล่อและดูสูงส่งกว่าในรูปถ่ายซะอีก!
ความแพงและความเย่อหยิ่งของผู้ชายคนนั้น ทำให้ใจเธอถูกยึดครอง……
“ผู้ชายคนนี้หล่อมากเลย”
เฉินฮั๋วลดเสียงลงและอุทานออกมา
“คุณฉิน”
ตำรวจที่อยู่ด้านข้างทั้งสองนายทักทายฉินโม่หาน หลังจากนั้นก็หันมามองเฉินฮั๋วกับซูโม่ “ท่านนี้คือคุณฉิน คุณพ่อของเจ้าเด็กฉินซิงเฉิน”
“ถ้าเกิดว่าพวกคุณไม่อยากให้เป็นเรื่องใหญ่ ก็คุยกับเขาดีๆ แล้วกัน”
หลังจากพูดจบ ตำรวจนายนั้นก็หันหลังแล้วเดินออกไป
ซูโม่มองฉินโม่หาน ตาค้าง
เฉินฮั๋วสะกิดเธอ เธอถึงได้ตั้งสติได้ พูดจาติดอ่าง “สวัสดีค่ะคุณฉิน คุณแต่งงานแล้วเหรอคะ? ”
พอถามประโยคนี้ออกไป ซูโม่ก็รู้สึกเสียใจ
ลูกเขาโตขนาดนี้แล้ว เขาจะยังไม่แต่งงานได้ยังไงกัน?
ฉินโม่หานคลี่ยิ้มอย่างเย็นชา “พึ่งแต่งงานได้ไม่นานนี่เองครับ”
หลังจากพูดจบ เขาก็ดึงผู้หญิงที่เดินตามหลังเขามา และถูกเขาบังไว้ตลอดออกมา “นี่คือภรรยาของผมที่พึ่งแต่งงานกันใหม่ๆ ซูสือเยว่”