จี้หนานเฟิงหรี่ตาลง
“นอกจากปานนี้แล้ว คุณมีหลักฐานอะไรมายืนยันตัวคุณอีกครับ?”
หยางชิงโยวหัวเราะ “มีสิคะ”
ระหว่างพูด เธอก็หยิบจี้หยกออกมาจากกระเป๋า
“คุณดูสิคะ นี่คือจี้หยกติดตัว ที่ตระกูลเจี่ยนใช้ตามหาคุณหนูใหญ่ของตระกูลเจี่ยนหรือเปล่าคะ?”
จี้หนานเฟิงขมวดคิ้ว ก็จะหยิบจี้หยกขึ้นมาดู
ทันใดนั้น เข้าก็ค้นหนังสือแจ้งคนหายของตระกูลเจี่ยนที่ติดประกาศเอาไว้
ในหนังสือประกาศตามหาคน มีจี้หยกชิ้นนี้ในนั้นจริงๆ
ดูจากสีและลักษณะแล้ว จี้หยกนี้กับในรูปภาพ เหมือนกันเป๊ะทุกอย่าง
อีกอย่าง……
ตระกูลจี้ทำธุรกิจเกี่ยวกับหยก
ดังนั้นคุณภาพจี้หยกชิ้นนี้ แค่จี้หนานเฟิงลองหยิบขึ้นมาจับดู เขาก็รู้ได้เลยว่าเป็นของแท้หรือของปลอม
จี้หยกชิ้นนี้คือหยกคุณภาพดี
ถ้าไม่รวมงานแกะสลักของหยกชิ้นนี้ ราคาของหยกชิ้นนี้ชิ้นเดียว เป็นราคาที่ทั้งชาตินี้ใครหลายคนไม่มีวันเอื้อมถึงเลยก็ว่าได้
เป็นสิ่งที่ตระกูลเจี่ยนจะจ่ายไหวจริงๆ
ชายหนุ่มเกี่ยวยิ้มมุมปาก “คุณติดต่อตระกูลเจี่ยนหรือยังครับ?”
หยางชิงโยวพยักหน้า “ติดต่อแล้วค่ะ ผู้ดูแลบ้านเสิ่นน่าจะมาถึงเมืองหรงพรุ่งนี้ค่ะ”
พูดจบ หยางชิงโยวยิ้มจางๆใช้มือทั้งสองข้างแนบแก้มแล้วมองจี้หนานเฟิง “นักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจี้คะ ฉันได้ยินมาว่า……”
“มีสัญญาการหมั้นหมายระหว่างตระกูลจี้กับตระกูลเจี่ยนใช่ไหมคะ?”
“ฉันคือคุณหนูใหญ่ตระกูลเจี่ยน แล้วคุณชายใหญ่ตระกูลจี้……”
พูดถึงเรื่องนี้ จี้หนานเฟิงก็หลุดยิ้มออกมา “สบายใจได้เลยครับ คุณชายใหญ่ตระกูลจี้ไม่ทำให้คุณผิดหวังแน่นอนครับ”
ก่อนหน้านี้ที่เขายังไม่รู้ตัวตนของฉินโม่หานนั้น ทุกครั้งที่พูดถึงการหมั้นหมายระหว่างตระกูลจี้และตระกูลเจี่ยน เขาจะรู้สึกหงุดหงิดตลอด
แต่ตอนนี้……
พอพูดถึงสัญญาการหมั้นหมายระหว่างตระกูลเจี่ยนและตระกูลจี้ เขาก็จะรู้สึกอยากหัวเราะ!
รอให้ฉินโม่หานกลับมานับถือต้นตระกูลเมื่อไหร่ เขาคงคิดไม่ถึงว่า คุณชายใหญ่ตระกูลจี้นั้น ต้องทำตามสัญญาการหมั้น!
หากหยางชิงโยวตรงหน้าคือคุณหนูใหญ่ตระกูลเจี่ยนจริงๆ……
เขาจะสนับสนุนการแต่งงานในครั้งนี้เป็นอย่างมาก!
เขายังคิดอย่างมีความสุขว่า ถ้าฉินโม่หานโดนคนตระกูลจี้บังคับให้แต่งงานกับหยางชิงโยว……
งั้นเขาก็ไม่ศัตรูแล้วสิ?
พอถึงเวลา ซูสือเยว่ก็จะเป็นของเขา
ซิงกวางจะได้เรียกเขาว่าพ่ออย่างเต็มปากเต็มคำสักที!
ชายหนุ่มยิ่งคิดก็ยิ่งมีความสุข
เขาสูดหายใจเข้าลึกๆ เงยหน้าเหลือบมองหยางชิงโยวอย่างตั้งใจ “เรื่องสัญญาการหมั้นของตระกูลจี้ จะทำตามสัญญาแน่นอนครับ”
“สิ่งที่คุณต้องทำตอนนี้คือ เตรียมต้อนรับผู้ดูแลบ้านเสิ่นที่จะมาถึงในวันพรุ่งนี้ดีๆ แล้วพยายามให้เขาพาคุณกลับตระกูลเจี่ยนอย่างเร็วที่สุดครับ”
พูดจบ เสียงโทรศัพท์ของชายหนุ่มก็ดังขึ้น
เขาส่งยิ้มให้กับหยางชิงโยวจางๆ “ผมมีธุระต่อขอตัวก่อนนะครับ”
“แล้วเจอกันที่เมืองสตัฟฟ์ ตอนกลับยุโรปนะครับ”
พูดจบ เขาก็ลุกขึ้นยืน แล้วก้าวเท้าใหญ่เดินออกจากคาเฟ่
หยางชิงโยวที่นั่งอยู่ในคาเฟ่ ค่อยๆเก็บจี้หยกและรูปภาพบนโต๊ะ และมองแผ่นหลังของจี้หนานเฟิงที่เดินจากไปผ่านผนังกระจกที่สูงจากพื้นจรดเพดานไปด้วย
รอยยิ้มของหญิงสาวยิ่งอยู่ก็ยิ่งกว้างขึ้น
แท้จริงแล้ว แม้ว่าจี้หนานเฟิงจะเย็นชาใส่เธอตลอด แต่โดยรวมแล้ว เขาก็น่าจะพอใจเธออยู่บ้าง
ถ้าไม่อย่างนั้น ทำไมตอนที่เขาได้ยินว่าเธอคือคุณหนูใหญ่ตระกูลเจี่ยน ก็รีบตอบอย่างตื่นเต้นว่าตระกูลจี้จะทำตามสัญญาการแต่งงานที่สัญญาเอาไว้?
คิดได้เท่านี้ หญิงสาวก็อดไม่ได้ที่จะหรี่ตาลง
เพราะฉะนั้น ตำแหน่งคุณหนูใหญ่ตระกูลเจี่ยนนี้ เธอต้องเป็นให้ได้
ในยามจำเป็น เธอยังสามารถ……
จำกัดซูสือเยว่ทิ้ง
แค่ได้แต่งงานกับจี้หนานเฟิง ไม่มีอะไรที่เธอทำไม่ได้
เย่เชียนจิ่วยังทำเพื่อได้อยากตัวฉินโม่หานขนาดนั้น……
เธอก็สามารถแย่งทุกอย่างของซูสือเยว่ เพื่อจี้หนานเฟิงได้เหมือนกัน!
……
หลังจากที่ออกมาจากคาเฟ่ จี้หนานเฟิงก็ขึ้นรถด้วยอารมณ์ที่ดีมากๆ
พอนั่งลงบนที่นั่งคนขับ เขาก็หยิบโทรศัพท์ออกมา แล้วเปิดดูข้อความที่ซิงกวางส่งมาให้เขา
ตอนแรกเขานึกว่าเด็กหญิงจะส่งคลิปอะไรมาหาเขา
เขาเลยกดเปิดอย่างอารมณ์ดี
จากนั้น……
ท่าทางที่สวีทหวานของซูสือเยว่และฉินโม่หาน ทำให้เขานิ่งไปทันที
เขากัดริมฝีปากของตัวเอง แล้วกดดูคลิปซ้ำๆ
ใช่เขาดูไม่ผิด
ผู้หญิงที่อยู่กับฉินโม่หาน คือซูสือเยว่ที่เขาตามหามาหลายวันแต่ก็หาไม่เจอ!
ชายหนุ่มกัดฟันตัวเองไว้อย่างแน่น ก่อนจะส่งข้อความหาซิงกวาง “หนูเขาเจอเธอเมื่อไหร่กันคะ?”
“วันนี้ค่ะ”
ซิงกวางตอบกลับเขาอย่างรวดเร็ว “คุณอาจี้ พวกหนูอยู่เมืองสตัฟฟ์ ในยุโรปค่ะ ที่บ้านเกิดอาไงคะ”
“อาจะกลับมาเมื่อไหร่คะ?”
จี้หนานเฟิงกัดปากล่างของตัวเอง ใช้ความคิดอยู่สักพัก “กลับไปพรุ่งนี้ค่ะ”
ฉินโม่หานหาซูสือเยว่เจอแล้ว!
เพราะฉะนั้นเขาจะรอต่อไปไม่ได้แล้ว!
เขาอยากจะรีบกลับเมืองสตัฟฟ์ ให้ฉินโม่หานกลับมานับถือต้นตระกูล แล้วจัดงานแต่งให้เขากับหยางชิงโยว!
ชายหนุ่มสูดหายใจเข้าลึกๆ “ช่วยอาดูแด๊ดดี้หนูไว้นะคะ อย่าให้เขาได้ทำอะไรหม่ามี๊หนูเกินไป”
ซิงกวางที่อยู่ปลายสายเงียบไปสักพัก จากนั้นก็ส่งรูปให้เขาหนึ่งรูป “แบบนี้ถือว่าเกินไปไหมคะ?”
จี้หนานเฟิงเลิกคิ้วขึ้น ก่อนจะเปิดดูรูปภาพ
รูปภาพนี้ เขาดูจนเลือดแทบคลั่งในสมอง
ในรูปถ่ายนั้น ฉินโม่หานนั่งอยู่บนเก้าอี้ ซูสือเยว่นั่งอยู่ข้างเขา สองมือของเธอโอบคอเขาเอาไว้ เป็นภาพที่เธอกำลังจูบฉินโม่หานอย่างดุเดือด!
จี้หนานเฟิงรู้สึกว่าเลือดในร่างกายของเขากำลังไหลย้อนกลับ
“อันนี้คือรูปตอนไหน!”
“วันนี้ไงคะ”
เขาหลับตาลง กำโทรศัพท์ในมือไว้อย่างแน่น เขาอยากจะบินกลับเมืองสตัฟฟ์ ไปเสียตอนนี้!
“คุณอาจี้”
ซิงกวางที่อยู่ปลายสายเงียบไปนานพอสมควร สุดท้ายเธอก็ตัดสินใจโทรมาหาเขา
“คุณอาจี้ หนูรู้ว่าอาดูรูปพวกนี้แล้วอารมณ์ไม่ค่อยดี”
ทันทีที่กดรับสาย น้ำเสียงเด็กน้อยของซิงกวางก็ดังขึ้นทันที “แต่ว่าคุณอาจี้คะ ที่หนูอยากบอกอาคือ คนที่ฟ้าไม่ได้ลิขิตมาก็อย่าพยายามฝืนเลยค่ะ”
“ตอนแรกหนูชอบหม่ามี๊ตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้เจอ ก็เลยอยากให้มี๊มาเป็นหม่ามี๊ของหนูมาก ก็เลยคอยตื้อให้อาจีบมี๊”
“แต่ตอนนี้หนูรู้แล้วค่ะ คนที่หม่ามี๊ชอบมีแค่แด๊ดดี้ และคนที่แด๊ดดี้ชอบก็มีแค่หม่ามี๊……”
“ถึงจะความจำเสื่อมก็ไม่สามารถแยกพวกเขาสองคนได้เลยค่ะ”
“ดังนั้นคุณอาจี้คะ อาทำใจได้แล้วค่ะ หาสาวที่ชอบอาจริงๆสำคัญกว่านะคะ!”
เสียเด็กหญิงจากปลายสาย ทำให้หัวใจของจี้หนานเฟิงรู้สึกสับสน
ด้านหนึ่ง เด็กหญิงตั้งใจโทรมาปลอบเขาโดยเฉพาะ เกลี้ยกล่อมเขา พิสูจน์ว่าในใจเธอนั้น อาคนนี้ ยังคงมีความสำคัญต่อเธอมาก
ส่วนอีกด้าน……
แม้แต่เด็กอย่างซิงกวางยังรู้สึกว่าเขากับซูสือเยว่ไม่มีทางเป็นไปได้เลยหรอ?
ฉินโม่หานเสน่ห์แรงขนาดนี้จริงหรอ?
เขาสูดหายใจเข้าลึกๆ จี้หนานเฟิงพวงมาลัยและมองไปทางด้านหน้า ด้วยสายตาคมลึก “ก่อนหน้าอาเคยคิดจะยอมแพ้มาก่อน”
ก่อนหน้าที่ถ่ายละครอยู่บนดอย เขามีเรื่องชกต่อยกับฉินโม่หาน
ครั้งนั้น เขาอยากทดสอบว่า ฉินโม่หานจะปกป้องซูสือเยว่ได้จริงไหม
ผลสุดท้ายคือ ได้
เพราะฉะนั้นเขาเลยเลือกเดินถอยออกมา วันที่สองหลังจากที่ชกต่อยกันเขาเลยออกจากกองละครและกลับบ้านตระกูลจี้
แต่……
หลังจากที่เขากลับถึงตระกูลจี้ ถึงเพิ่งรู้ว่า ซูสือเยว่หายตัวไป
ไอ้ฉินโม่หานคนนั้นที่พูดว่าจะคอยดูแล และทำดีกับเธออย่างดีที่สุด กลับหายตัวไป ภายใต้การดูแลของฉินโม่หาน
เขาจึงตัดสินใจกลับเมืองหรง เพื่อตามหาซูสือเยว่ให้เจอ แล้วพยายามอีกครั้ง
ชายหนุ่มสูดหายใจเข้าลึกๆ และมองไปทางด้านหน้า “ครั้งนี้ อาจะไม่ยอมแพ้เด็ดขาด”
อีกอย่าง
จี้หนานเฟิงยกยิ้มมุมปากเบาๆ
เขาตั้งตารอว่า ถ้าฉินโม่หานต้องเผชิญความกดดัน ที่ต้องแต่งงานตามสัญญาเหมือนกับเขา เขาจะทำยังไง