สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ – ตอนที่ 225 ฉันไม่ได้พูดว่าแกกับผู้ดูแลบ้านเสิ่นมีอะไรกันนี่

ซูสือเยว่มึนงงทันที “คุณหนูใหญ่ของตระกูลเจี่ยนตัวจริง?”

ทำไมเธอถึงฟังคำพูดบอดี้การ์ดไม่เข้าใจสักนิดเลยล่ะ?

คุณหนูใหญ่ของตระกูลเจี่ยน…ไม่ใช่เธอหรอกเหรอ?

อาทิตย์ก่อน ผู้ดูแลบ้านเสิ่นพาตัวเธอกลับมา ก็ฉีดยาแก้อาการความจำเสื่อมให้เธอ เพื่อให้เธอที่เป็นคุณหนูใหญ่ได้กลับคืนสู่ตระกูลของบรรพบุรุษ และทำเพื่อตระกูลเจี่ยนในการที่จะแต่งงานกับคุณชายใหญ่ของตระกูลจี้

ตอนนี้เธอเพิ่งจะจากตระกูลเจี่ยนไปได้สามวันเอง เธอก็ไม่ใช่คุณหนูใหญ่ของตระกูลเจี่ยนแล้วเหรอ?

คุณหนูใหญ่ก็มีคนอื่นอีกเหรอ?

พวกเขาเป็นคนพูดเองว่าเธอเป็นคุณหนูใหญ่

แถมพวกเขาเป็นคนพูดเองว่าเธอไม่ใช่คุณหนูใหญ่

ตกลงแล้วมันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?

หญิงสาวขมวดหัวคิ้วไว้แน่น พลางใช้สายตาเย็นยะเยือกจ้องมองบอดี้การ์ด “ฉันจะเข้าไป”

บอดี้การ์ดยังคงแสดงท่าทีแข็งกร้าวเช่นเดิม ท่ามกลางความแข็งกร้าวยังคงดูถูกดูแคลนเล็กน้อย “ผมพูดแล้วนะ คนทั่วไปเข้าไม่ได้”

“อีกอย่าง ตอนนี้คุณหนูใหญ่ของตระกูลเจี่ยนของพวกเรากำลังนับญาติกับท่านประมุขอยู่ด้านใน และยิ่งไม่สามารถปล่อยให้คุณที่ไม่เกี่ยวข้องเดินเข้าไปได้”

ซูสือเยว่หรี่ตา จากนั้นก็เริ่มกำหมัดแน่น “คุณแน่ใจใช่ไหมว่าจะขวางฉันเอาไว้?”

“ตอนนี้คุณให้โอกาสปล่อยฉันเข้าไป”

“ถ้าคุณยังไม่รู้เรื่อง ฉันก็จะบุกเข้าไปแล้ว”

“ชิชะ พูดโอ้อวดได้เก่งจริงๆ”

บอดี้การ์ดเหลือบตามองซูสือเยว่ “คุณอะนะ?”

พูดจบ บอดี้การ์ดคนนั้นก็มองซูสือเยว่ตั้งแต่หัวจรดเท้า

ผู้หญิงคนนี้ดูตัวเล็กบอบบาง ดูแล้วเป็นคนอ่อนแอแบบนั้น ไม่มีแรงที่จะบุกเข้าไปเลยด้วยซ้ำ!

ซูสือเยว่ฉีกยิ้ม “นี่คุณรนหาที่เองนะ!”

พูดจบ หญิงสาวก็พุ่งเข้ามา พลันใช้หมัดต่อยและกระทืบเท้าใส่บอดี้การ์ดเข้าไปหนึ่งครั้ง

แม้ว่าบอดี้การ์ดจะร่างกายสูงใหญ่แข็งแรงกว่าซูสือเยว่ แต่ตกลงแล้วมันดูเหมือนไม่มีประโยชน์อะไร

ซูสือเยว่ทำพร้อมกันพลางทำร้ายจนบอดี้การ์ดนอนอยู่บนพื้นจนลุกไม่ขึ้น

หญิงสาวถูมือที่ต่อยจนเจ็บด้วยท่วงท่าสง่างาม พลันหลุบสายตาจ้องมองบอดี้การ์ดที่กองอยู่ที่พื้น “ฉันพูดแล้วนะ คุณไม่ให้ฉันเข้างั้นฉันก็จะบุกเข้าเอง”

“คุณรนหาเรื่องเอง ไม่ถูกทำร้ายเข้าหน่อยก็ไม่ยอมเชื่อฟังกัน ฉันเองก็ไม่มีวิธี”

พูดจบ หญิงสาวก็ผลักประตูเดินเข้าไป

ในห้องพักผู้ป่วย หยางชิงโยวกำลังกุมมือของหลิวหรูเยียนเอาไว้ พร้อมทั้งร้องไห้ฟูมฟายสะอึกสะอื้น

อีกฝั่ง ผู้ดูแลบ้านเสิ่นทนไม่ไหวได้แต่ปาดน้ำตา “คุณหนูใหญ่ สงบจิตสงบใจเอาไว้”

“ท่านประมุขต้องดีขึ้นมาแน่”

หยางชิงโยวสูดจมูกเขา ร้องไห้ซะจนดวงตาแดงแจ๋ “ผู้ดูแลบ้านเสิ่นฉันรู้ว่าแม่ต้องฟื้นขึ้นมาแน่นอน”

“แม่ของฉันเป็นผู้หญิงที่เข้มแข็งขนาดนั้น เธอเป็นคนดีสวรรค์ต้องช่วยเธออย่างแน่นอน”

พูดจบ เธอก็ปาดน้ำตา พลางเงยหน้าจ้องมองผู้ดูแลบ้านเสิ่นอย่างจริงจัง “ก่อนหน้าที่แม่จะฟื้นขึ้นมา ฉันจะต้องแบกรับความรับผิดชอบต่อหน้าที่ของคุณหนูใหญ่ของตระกูลเจี่ยน”

“ถ้าการแต่งงานของฉันสามารถนำมาซึ่งผลประโยชน์กับตระกูลเจี่ยน เพื่อให้ตระกูลเจี่ยนได้หลุดพ้นความลำบากในเวลานี้ ฉันไม่คิดลังเลเลย”

เมื่อมองหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้า ผู้ดูแลบ้านเสิ่นถอนหายใจยาว พร้อมทั้งจับมือของหยางชิงโยวเอาไว้ “คำพูดประโยคนี้ของคุณ ผมก็สบายใจแล้ว!”

“ผู้หญิงของตระกูลเจี่ยนของพวกเรา ต้องมีความรับผิดชอบเช่นนี้!”

พูดจบ ผู้ดูแลบ้านเสิ่นก็ร้องไห้ฟูมฟายน้ำหูน้ำตาเล็ด “วันนี้พวกเรากลับไปที่ตระกูลจี้ เพื่อจะได้พูดคุยกับตระกูลจี้เรื่องงานแต่งงาน”

“ทางที่ดีที่สุดอาทิตย์นี้ก็แต่งเลย ถึงตอนนี้ ความอันตรายของตระกูลเจี่ยนของพวกเราก็สามารถขจัดให้หายไปได้ คุณก็จะเป็นคนที่ตระกูลเจี่ยนของพวกเราให้ความเคารพยำเกรงที่สุด!”

หยางชิงโยวพยักหน้าให้ “อืม ฉันจะทำ”

“ฉันหยางชิงโยว…ไม่สิ เจี่ยนชิงโยว จะแบกรับความรับผิดชอบต่อหน้าที่ของตระกูลเจี่ยนไว้ให้ดี”

ผู้ดูแลบ้านเสิ่นได้ยินคำพูดของเธอเช่นนี้ ซาบซึ้งอยู่ในหัวใจอย่างเปี่ยมล้น

นี่ถือว่าเป็นความอดทนและความรับผิดชอบของคนในตระกูลเจี่ยน!

เมื่อกลับไปถึงตระกูลเจี่ยนแล้ว ก็เอานามสกุลของตนเองแก้ให้เป็นตระกูลเจี่ยนในทันที

ไม่เหมือนคนจอมปลอมก่อนหน้านี้ ให้เธอแก้นามสกุล แต่กลับจะเอาชีวิตของเธอแทน!

ตอนที่ทั้งสองคนกำลังซาบซึ้งต่อกันอยู่ในห้องพักผู้ป่วยนั้น ประตูห้องพักผู้ป่วยก็ถูกคนเตะออก

ตรงประตู ซูสือเยว่ยืนอยู่ตรงนั้น พลางขมวดคิ้วจ้องมองผู้ดูแลบ้านเสิ่นและผู้หญิงที่อยู่ข้างเขา “เกิดเรื่องอะไรขึ้น?”

ซูสือเยว่มาแล้ว ผู้ดูแลบ้านเสิ่นหยุดร้องทันที แถมยังตีหน้าเย็นชาตอนเหลือบมองเธอ “คุณมาทำอะไร?”

“ไม่ใช่ว่าคุณกับลูกของคุณยังมีสามีของคุณอยู่ด้วยกันอย่างผูกสมัครรักใคร่หรอกเหรอ?”

ซูสือเยว่แสยะยิ้มให้ “ฉันรักใคร่กับสามีและลูกๆ ของฉันเป็นอย่างดี แต่เรื่องนี้ก็ไม่ได้ถ่วงเวลาที่ฉันจะมาเยี่ยมแม่ของฉันนี่”

ผู้ดูแลบ้านเสิ่นทำหน้าเย็นชาใส่ “ใครเป็นแม่ของคุณ!”

“ลูกสาวของท่านประมุขมีเพียงเจี่ยนชิงโยวที่เป็นคุณหนูใหญ่ของตระกูลเจี่ยนของพวกเรา คุณมันก็แค่ปลอมตัวเพื่อแอบอ้างก่อนหน้านี้เท่านั้นเอง!”

ซูสือเยว่ชะงักเล็กน้อย

นี่เธอปลอมตัวเพื่อแอบอ้างไปแล้วเหรอเนี่ย?

หญิงสาวดึงเก้าอี้ที่อยู่ข้างๆ มาจากนั้นก็นั่งลง พร้อมทั้งนั่งไขว่ห้างอย่างสง่างาม “คุณเป็นคนไปจับตัวฉันมา ไม่พูดพร่ำทำเพลงก็พูดว่าฉันเป็นคุณหนูใหญ่ของตระกูลเจี่ยน แล้วบีบบังคับให้ฉันจดจำญาติพี่น้องให้ได้และกลับมาที่ตระกูล”

“ตอนนี้ก็พูดว่าฉันปลอมตัวมาเพื่อแอบอ้างเหรอ?”

“ทำไมคุณถึงได้หน้าด้านขนาดนี้เนี่ย?”

คำพูดของหญิงสาว พลันทำให้อารมณ์โกรธที่อยู่บนใบหน้าของผู้ดูแลบ้านเสิ่นแดงแจ๋ขึ้นเรื่อยๆ

เขากัดฟันไว้แน่น “ก่อนหน้านี้เจี่ยนเฉิงโกหกพวกเรา พวกเราจำคนผิดไปแล้ว!”

ซูสือเยว่ยักไหล่ “พวกคุณจำคนผิด นั่นก็เป็นเพราะว่าความผิดของพวกคุณ แล้วทำไมถึงกลายเป็นว่าฉันปลอมตัวมาเพื่อแอบอ้างล่ะ?”

“พูดออกมาซะเหมือนว่าฉันติดต่อพวกคุณมาเองโดยเฉพาะ ราวกับฉันคร่ำครวญขอร้องให้พวกคุณให้ฉันเป็นคุณหนูใหญ่เลย”

พูดจบ หญิงสาวก็ยักไหล่ต่อ “อีกอย่าง ฉันหน้าตาเหมือนกับหลิวหรูเยียนท่านนี้ซะขนาดนี้ เธอก็น่าจะเป็นแม่ของฉันสิ”

“ทว่าโลกเรามันช่างกว้างใหญ่ไพศาล หน้าตาเหมือนกันไม่สามารถตัดสินได้ว่ามีความสัมพันธ์ทางสายเลือดนี่”

“ก็แค่บังเอิญเท่านั้นเอง?”

หยางชิงโยวแสยะยิ้ม พร้อมทั้งเดิมมาอยู่ตรงด้านหน้าของซูสือเยว่ช้าๆ “สือเยว่ ฉันมีหลักฐานทุกอย่างที่สามารถแสดงได้ว่าฉันเป็นคุณหนูใหญ่ของตระกูลเจี่ยน แกมีไหม?”

พูดจบ เธอก็ยิ้มและจ้องมองหน้าซูสือเยว่ “เราสองคนรู้จักกันมานานขนาดนี้แล้ว แม้ว่าความสัมพันธ์จะไม่ดีมาตลอด แต่ว่าเรื่องสถานะนี้ สิ่งที่เป็นของฉัน ก็คือของฉัน แกอยากจะแย่งไปก็แย่งไม่ได้ ใช่ไหม?”

ซูสือเยว่เลิกคิ้วกวาดตามองเธอ “แกเป็นใคร? ฉันรู้จักแกเหรอ?”

คำพูดของหยางชิงโยว ค้างอยู่ในคอทั้งหมด

สายตาของเธอโหดเหี้ยมมาก

อีนังผู้หญิงคนนี้!

เมื่อวานยังพูดแดกดันเธอในTimelineเพื่อนอยู่เลย วันนี้ทำมาเป็นไม่รู้จักเธอซะงั้น!

เชอะ เธออยากจะเห็น ว่าอีนังผู้หญิงคนนี้มันจะเสแสร้งได้ถึงตอนไหน!

หยางชิงโยวสูดลมหายใจเข้า พลันหยิบรายงานการตรวจสอบDNAออกมาหนึ่งฉบับพร้อมทั้งรูปถ่ายเป็นกองออกมา

“รูปนี้ นี่เป็นปานบนร่างกายของคุณหนูใหญ่ของตระกูลเจี่ยน อยู่ตรงบั้นเอว”

“ผู้ดูแลบ้านเสิ่นก็ได้ตรวจสอบแล้ว ไม่ว่าจะเป็นรูปร่างที่พอดิบพอดี ก็เหมือนกับที่อยู่บนตัวฉันทั้งสิ้น”

ซูสือเยว่กวาดตามองรูปภาพใบนั้นแวบหนึ่ง พลันเงยหน้าขึ้นมองผู้ดูแลบ้านเสิ่น “บนตัวฉันก็มีไม่ใช่เหรอ? ก่อนหน้านี้คนรับใช้ก็ไม่ใช่ว่าช่วยคุณดูแล้วนี่?”

ผู้ดูแลบ้านเสิ่นทำเสียงเข้มใส่ “ก่อนหน้านี้ฉันไม่เข้มงวดพอ ให้คนรับใช้ผู้หญิงมาช่วยฉันดู ก็เลยทึกทักว่าเป็นคุณ”

“แต่ครั้งนี้ คุณหยางชิงโยวพูดเอง คนอื่นอาจจะถูกซื้อตัวได้ เลยเสนอตัวให้ฉันเป็นคนตรวจสอบด้วยตนเอง”

“ดังนั้นปานในครั้งนี้ ฉันเป็นคนตรวจสอบเอง! มันเหมือนกับในรูปทุกกระเบียดนิ้ว!”

ซูสือเยว่ขมวดคิ้ว “ผู้ดูแลบ้านเสิ่นคุณตรวจสอบเองเลยเหรอ?”

“ถ้าจำไม่ผิด…ปานอันนี้มันอยู่ช่วงบั้นเอวในตำแหน่งต่ำลงใกล้กับ…”

พูดจบ เธอก็เหลือบมองหยางชิงโยวอย่างครุ่นคิด “ช่างรู้สึกผิดกับคุณจริงๆ นะ”

หยางชิงโยวผงะชั่วครู่ จากนั้นกลันเข้าใจความหมายที่อยู่ในคำพูดของซูสือเยว่ทันที

เธอโกรธจนหน้าดำหน้าแดง “ซูสือเยว่ ความคิดของแกไม่ต้องต่ำช้าขนาดนี้ก็ได้!”

ซูสือเยว่แสยะยิ้มออกมา นัยน์ตากระแทกแดกดันเล็กน้อย “ฉันก็ไม่ได้พูดนี่ว่าคุณกับผู้ดูแลบ้านเสิ่นมีอะไร”

สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ

สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ

หลังข่าวลือที่เสียโฉม ท่านชายฉินโหดร้ายอำมหิต ทำคู่หมั้นตายติดต่อกันสองคน ผู้หญิงทั้งเมืองไม่มีใครกล้าแต่งงานด้วย แต่ซูสือเยว่กลับแต่งสาวน้อย ต่อไปให้ฉันปกป้องเธอเองเพิ่งแต่งงาน เธอก็ถูกลูกน้อยน่ารักน่าหยิกสองคนแย่งกันอย่างคลั่งใคล้ซะแล้ว……

Comment

Options

not work with dark mode
Reset