จี้หนานเฟิงเหลือบมองฟู๋เชียนเชียน แล้วก็หัวเราะเบาๆ “ในเมื่อเธอเป็นเพื่อนของสือเยว่ งั้นก็คงจะไม่ใช่คนที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องนะ”
พอเขาพูดจบ ก็เหลือบมองเหลือบมองฟู๋เชียนเชียน “นั่งสิ พวกเราก็ไม่ใช่คนนอกกันสักหน่อย”
คำพูดของชายหนุ่ม ทำให้หัวใจของฟู๋เชียนเชียนเริ่มเต้นอย่างบ้าคลั่งอย่างแปลกประหลาด
เธอรู้ว่าเธอก็ไม่ได้วิเศษวิโสอะไร รู้ว่าจี้หนานเฟิงก็แค่พูดตามมารยาทเท่านั้น
แต่……
การที่หัวใจเต้นแรงนั้น เธอไม่สามารถควบคุมมันได้เลย
ใบหน้าที่ร้อนผ่าวก็คือสิ่งที่เธอควบคุมไม่ได้เช่นกัน
ทุกการกระทำของฟู๋เชียนเชียน ซูสือเยว่เห็นหมดแล้ว
เธอกุมขมับอย่างจนปัญญา
ความรู้สึกที่ฟู๋เชียนเชียนมีต่อจี้หนานเฟิงนั้นมันถูกเขียนอยู่บนใบหน้าของเธออย่างชัดเจนแล้ว……
ในเรื่องของความรู้สึกนั้น ถ้าเกิดว่าไม่สามารถควบคุมตัวเองได้แบบนี้ ก็จะมีแต่เสียเปรียบ
หลังจากที่ฟู๋เชียนเชียนนั่งลง จี้หนานเฟิงก็เงยหน้าขึ้นมองซูสือเยว่ ในรอยยิ้มจางๆ ในสายตาของเขา “ทำไมจู่ๆ เธอถึงถูกมัดมาที่นี่ได้ล่ะ? ”
ซูสือเยว่ขมวดคิ้ว อยากจะเล่าเรื่องของตระกูลเจี่ยน แต่พอมาย้อนคิดดูแล้ว……
ถ้าเกิดเธอบอกจี้หนานเฟิงไปว่าตัวเองเป็นคุณหนูของตระกูลเจี่ยน แล้วอีกหน่อยก็พิสูจน์ออกมาได้ว่าเธอไม่ใช่คุณหนูของตระกูลเจี่ยน มันก็จะค่อนข้างน่าอายหน่อยใช่ไหมล่ะ?
ดังนั้นหญิงสาวก็เลยเปลี่ยนเรื่องสนทนา “เพราะว่าพวกเขาคิดว่าอำนาจของฉินโม่หานนั้นไม่สามารถเข้ามาที่นี่ได้ ก็เลยมัดฉันไว้ที่นี่”
จี้หนานเฟิงพยักหน้า “ก็จริง”
“เมืองสตัฟฟ์ ตั้งอยู่ใจกลางย่านธุรกิจและวัฒนธรรมยุโรป ควบคุมเส้นทางเศรษฐกิจหลักของยุโรปเลย”
“ที่นี่นั้น อย่าพูดถึงชวงซิงกรุ๊ปหรือLYกรุ๊ปเลย แม้แต่ตระกูลจี้กับตระกูลเจี่ยน ก็ยังนำฉินซื่อกรุ๊ปของฉินโม่หานอยู่หลายถนน”
พอพูดจบ เขาก็เงยหน้าขึ้นมองซูสือเยว่แล้วก็ยิ้ม “เมืองหรงคืออาณาเขตของฉินโม่หาน แม้แต่อยู่ในอาณาเขตของตัวเองเขายังปกป้องเธอได้ไม่ดีเลย”
“ตอนนี้ต่อให้ตามมาที่เมืองสตัฟฟ์ ฉันก็ไม่คิดว่าเขาจะมีความสามารถที่จะดูแลเธอให้ดีได้”
ชายคนนั้นหยิบแก้วขึ้นมาจิบชา “ไม่งั้นเธอพาซิงกวงกลับไปตระกูลจี้กับฉันดีกว่า”
“ตระกูลจี้ของพวกเรามีบอดี้การ์ดที่ดีที่สุดในเมืองสตัฟฟ์ มีระบบความปลอดภัยขั้นสูงสุด”
“ฉันให้ย่าของฉันแยกบ้านเดี่ยวให้เธอได้ จะได้ปลอดภัยหน่อย”
ซูสือเยว่มองผู้ชายตรงหน้าด้วยสีหน้าเรียบเฉย
ที่จริงเธอจำจี้หนานเฟิงไม่ได้หรอก
แต่ว่าเมื่อกี้ที่ซิงกวงดึงเธอไปพูดคำพูดพวกนั้น ทำให้เธอรู้สึกว่าจี้หนานเฟิงเป็นคนที่สุขุม ใจกว้าง และอบอุ่นคนหนึ่งเลย
แต่……
เขากลับมาที่บ้านของฉินโม่หาน แล้วบอกให้เธอที่เป็นภรรยาของเขา ไปอาศัยอยู่ที่บ้านของตระกูลจี้งั้นเหรอ?
นี่คืออะไรกัน?
แม้แต่ฟู๋เชียนเชียนที่อยู่ด้านข้างยังรู้สึกว่าคำพูดของจี้หนานเฟิงนั้นไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไหร่
เธอกระแอมออกมาเบาๆ “นักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจี้ ดูซิพูดอะไรออกมาเนี่ย”
“สือเยว่ก็อยู่ที่นี่มาพักหนึ่งแล้ว ยังไม่เคยเกิดเรื่องอะไรเลย…”
“หรือว่าคุณคิดมากเกินไปรึเปล่า? ”
จี้หนานเฟิงขมวดคิ้ว แล้วก็กวาดสายตามองฟู๋เชียนเชียนอย่างไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่นัก
“ฉันก็แค่เป็นห่วงความปลอดภัยของสือเยว่”
“แล้วอีกอย่าง”
ชายหนุ่มเบะปากอย่างเย็นชา “ต่อให้มันไม่ใช่เพื่อความปลอดภัยของเธอ จะให้เธออยู่ที่นี่ต่อไปมันก็คงไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไหร่”
“ฉินโม่หานใกล้จะแต่งงานแล้ว”
คำพูดของจี้หนานเฟิง ทำให้ผู้หญิงในห้องรับแขกทั้งสองคนนั้นอึ้งไปเลย
ซูสือเย่มองจี้หนานเฟิงด้วยสายตาที่เหมือนกับกำลังมองคนปัญญาอ่อนอยู่ “ภรรยาของฉินโม่หานไม่ใช่ฉันงั้นเหรอ? ”
“เขาเคยแต่งงานมาแล้ว จะมาแต่งอีกได้ยังไง? ”
จี้หนานเฟิงหัวเราะอย่างเย็นชา “ถึงแม้ว่าพวกเธอจะแต่งงานกันมาแล้ว แต่ว่าการหย่าก็เป็นอีกในอีกไม่กี่วันนี้แหละ”
พอพูดจบ ชายหนุ่มก็ยกมุมปากขึ้น “พวกเธอน่าจะรู้เกี่ยวกับสัญญาการแต่งงานระหว่างตระกูลจี้กับตระกูลเจี่ยนใช่ไหม? ”
“ตอนแรกนั้นผู้ใหญ่ของตระกูลเจี่ยนกับตระกูลจี้ ตั้งกฎร่วมกันว่าคุณชายใหญ่ของตระกูลจี้กับคุณหนูใหญ่ของตระกูลเจี่ยนจะต้องแต่งงานกัน”
“พูดให้ชัดก็คือ คนที่ใหญ่ที่สุดจากตระกูลตระกูลเจี่ยนและตระกูลจี้มาแต่งงานกัน”
ซูสือเยว่ขมวดคิ้ว
ก่อนหน้านี้ตอนที่ได้ยินชื่อของจี้หนานเฟิง เธอก็ไม่ได้คิดถึงเรื่องตระกูลจี้เลย
จนตอนนี้ที่เธอได้ยินเรื่องที่จี้หนานเฟิงเรื่องการแต่งงาน……
ใบหน้าของเธอก็บูดบึ้งเล็กน้อย “ดังนั้น คุณชายใหญ่ของตระกูลจี้……ก็คือนายเหรอ? ”
คนที่ผู้ดูแลบ้านเสิ่นเอาแต่บังคับให้เธอแต่งงานด้วย ก็คือจี้หนานเฟิงงั้นเหรอ?
คนที่หยางชิงโยวอย่างจะแต่งงานด้วย ก็คือจี้หนานเฟิงเหมือนกัน?
“ตอนนี้เป็นฉัน แต่ว่าถ้าผ่านช่วงนี้ไปก็ไม่ใช่ฉันแล้ว”
จี้หนานเฟิงเปลี่ยนท่าทางเป็นสบายๆ วางมือบนโซฟา สายตานิ่งเรียบ “รอให้ฉินโม่หานกลับไปที่ตระกูลจี้เมื่อไหร่ คุณชายใหญ่ของตระกูลจี้ ก็จะเป็นเขาแทนแล้ว”
“ต่อไปคนที่จะต้องแต่งงานกับหยางชิงโยว ก็คือเขา”
ฟู๋เชียนเชียนถลึงตาด้วยความตกใจ
“คุณหนูของตระกูลเจี่ยนไม่ใช่……”
ซูสือเยว่หรอกเหรอ?
แต่ว่าเธอยังไม่ทันจะพูดจบ ก็ถูกซูสือเยว่ตัดบทไปซะก่อน
หญิงสาวยิ้มจางๆ พร้อมกับมองหน้าจี้หนานเฟิง “นายเองก็รู้แล้วเหรอว่าหยางชิงโยวเป็นคุณหนูของตระกูลเจี่ยน? ”
“แน่นอนสิ”
จี้หนานเฟิงยิ้มอย่างภาคภูมิใจ “เธอมาจากเมืองหรงพร้อมกับพวกเรา”
“ถ้าเกิดว่าไม่ได้ความช่วยเหลือจากฉัน ผู้ดูแลบ้านเสิ่นกับเธอก็คงจะไม่สามารถยืนยันตัวตนได้อย่างเป็นเอกฉันท์อย่างรวดเร็วขนาดนั้นหรอก”
เขานั่งไขว่ห้าง “พอพูดขึ้นมาแล้ว ได้ยินมาว่าก่อนหน้านี้ผู้ดูแลบ้านเสิ่นหาคุณหนูของตระกูลเจี่ยนตัวปลอมมา บอกว่ารอให้หยางชิงโยวกลับมาเมื่อไหร่ก็จะไล่เธอไป”
“ไม่รู้เหมือนกันว่าตอนนี้ไล่ไปรึยัง”
“แต่ไม่ว่าจะเป็นยังไง สือเยว่ ฉินโม่หานเขาเป็นคนของตระกูลจี้ ไม่ช้าก็เร็วเขาก็ต้องกลับมาอยู่ที่ตระกูลเดิมของเขา”
“แต่ว่าถ้าเกิดว่าเขากลับไปเมื่อไหร่ ก็จำเป็นต้องหย่ากับเธอ แล้วแต่งงานกับคุณหนูตระกูลเจี่ยน”
พอพูดจบ จี้หนานเฟิงก็มองซูสือเยว่ด้วยสายตาที่ดูเห็นอกเห็นใจและไม่มีทางเลี่ยง “ดังนั้นนะสือเยว่ รีบแยกออกจากเขาเถอะ พอถึงวันที่ต้องหย่า เธอจะได้ไม่ต้องทุกข์ขนาดนั้น”
ซูสือเยว่หรี่ตา “ถ้ายังงั้นฉันก็ต้องขอบคุณนายจริงๆ เลยนะ!”
มือของหญิงสาวกำหมัดแน่นอย่างเงียบๆ “เชียนเชียน เห็นว่าว่าเขาเป็นไอดอลของเธอ เธอก็ส่งเขากลับด้วยละกัน”
“ถ้าเกิดว่าฉันโมโหขึ้นมาจริงๆ แล้วทำร้ายคนอื่นเข้ามันจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่”
ฟู๋เชียนเชียนอึ้งไป แล้วก็หันไปมองซูสือเยว่ที่กำลังพยายามระงับความโกรธของตัวเองอยู่ ทันใดนั้นก็รีบลุกขึ้นยืนยันที “นักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจี้ คือว่าคุณ……กลับไปก่อนดีกว่าค่ะ”
ถ้าเกิดว่าตอนนี้ซูสือเยว่โมโหขึ้นมา……
ผลที่ตามมาอาจจะเป็นหายนะ!
จี้หนานเฟิงกลับไม่ได้ตระหนักถึงความร้ายแรงของปัญหานี้
เขายังคงนั่งพิงโซฟาด้วยท่าทีสง่างาม สายตานิ่งเรียบ “ที่ฉันพูดมันเป็นความจริงทั้งหมดนะ”
“สือเยว่ ฉันรู้ว่าถ้าเธอรู้เรื่องนี้แล้วต้องรู้สึกไม่สบายใจ”
“แต่ว่าเธอต้องยอมรับความจริงนะ”
“วันนี้แม่ของฉันได้ส่งคำเชิญไปให้ฉินโม่หานแล้ว ให้เขาไปร่วมทานอาหารเย็นกับตระกูลจี้ในอีกสามวันข้างหน้า”
“ฉินโม่หานก็น่าจะรู้เป้าหมายของตระกูลจี้แล้ว แต่ว่าเขาก็ยังตกลง”
พอพูดจบ เขาก็ถอนหายใจออกมา “สือเยว่ เธอก็น่าจะรู้นี่ ว่าการที่เขาตกลงไปทานอาหารเย็นร่วมกับตระกูลจี้ ก็หมายความว่าเขาอยากจะกลับต้นตระกูลเดิมแล้ว”
“แล้วแบบนั้นการแต่งงานที่จะมาถึงนั้น เขาก็จำเป็นต้อง……”
ชายหนุ่มยังไม่ทันจะพูดจบ กำปั้นของซูสือเยว่ก็ซัดมาที่คางของเขาทันที
จี้หนานเฟิงโดนโจมตีอย่างกะทันหันไม่ทันตั้งตัว ใบหน้าที่ละเอียดอ่อนของเขาก็บูดเบี้ยวเพราะความเจ็บและความช็อก
ฟู๋เชียนเชียนรีบพุ่งเข้าไปอย่างจะไปห้าม แต่ว่าก็ไม่ทันแล้ว……
เท้าของซูสือเยว่ได้เตะออกไปแล้ว
เธอเตะจี้หนานเฟิงจนล้มลงไปที่พื้น “ฉันทนนายมานานแล้ว!”
“ฉันกับสามีจะเป็นยังไง จำเป็นต้องให้นายมาชี้นิ้วสั่งด้วยเหรอ? ”
“นายคิดว่านายเป็นใคร? เป็นชู้ของฉันยังงั้นเหรอ? ถึงได้มาวางแผนหย่าให้ฉัน? ”
จี้หนานเฟิงถูกทำร้ายจนมึนงงไปหมด
เขามองดูซูสือเยว่ที่ดุร้ายตรงหน้าของเขา แล้วก็ถอยหลังโดยอัตโนมัติ
ผู้……ผู้หญิงคนนี้ทำไมจู่ๆ ถึงได้ดุร้ายขนาดนี้?!
ยิ่งเขาหลบ ซูสือเยว่ก็ยิ่งโมโห
หญิงสาวพุ่งเข้าไป อยากจะต่อยเขาอีกครั้ง แต่ทันทีที่หมัดของเธอถูกเหวี่ยงออกไป ก็มีมือหนามือหนึ่งมาจับไว้
แล้วน้ำเสียงที่อบอุ่นของฉินโม่หานก็ดังขึ้นข้างหูของเธอ “พอแล้ว เห็นแก่ที่เขาเคยดูแลซิงกวง แล้วก็เห็นแก่ที่เขาเป็นลูกพี่ลูกน้องฉันเถอะ หยุดทำร้ายเขาได้แล้ว”