สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ – ตอนที่ 236 เขาก็ไม่ได้บอกว่าจะจีบฉันสักหน่อย

ฟู๋เชียนเชียนนิ่งไปหลายวินาที

ผ่านไปครู่หนึ่ง เธอถึงได้นึกขึ้นได้ว่า เหมือนกับ……เธอกลายเป็นแฟนของจี้หนานเฟิงแล้วจริงๆ

สองวันก่อนหลังจากที่เธอกับจี้หนานเฟิงตกลงเรื่องความสัมพันธ์กันแล้วนั้น ตอนแรกก็อยากจะกลับบ้านมาเล่าเรื่องนี้ให้ซูสือเยว่ฟัง แต่ก็พบว่าซูสือเยว่เริ่มจะรื้อฟื้นความทรงจำได้บ้างแล้ว เธอก็เลยยุ่งวุ่นวายอยู่กับการช่วยให้ซูสือเยว่รื้อฟื้นความทรงจำกลับมา ช่วยเธอทำอาหาร

ยุ่งไปยุ่งมา ก็สองวันพอดี

เธอลืมเรื่องที่คบกับไอดอลของตัวเองไปโดยสิ้นเชิงเลย

ภายใต้สายตาที่ประหลาดใจของซิงเฉินนั้น หญิงสาวสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วก็เอ่ยขอโทษอย่างระมัดระวัง “ขอโทษที”

“ฉัน……ฉันทำนามบัตรที่คุณให้มาหายไป ก็เลยไม่ได้ติดต่อไป”

“โง่จริงๆ”

จี้หนานเฟิงหัวเราะอย่างเย็นชา “ตอนนี้เธออยู่ที่ไหน ฉันจะไปรับ”

ฟู๋เชียนเชียนชะงัก “มันรับฉันไปทำอะไร? ”

”เธอคิดว่าทำอะไรล่ะ!?”

เสียงของจี้หนานเฟิงที่อยู่ปลายสายนั้นเริ่มหมดความอดทน “ไปเดตไง!”

“หา?”

ฟู๋เชียนเชียนชะงักไป แล้วก็หันไปมองหญิงสาวที่กำลังยุ่งวุ่นวายอยู่ในห้องครัว

ซูสือเยว่กำลังฮึกเหิมขนาดนี้ ทิ้งเธอไปคงไม่ดีเท่าไหร่มั้ง

เธอคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วก็เม้มปาก “หรือว่า……พวกเราไม่ต้องออกไปข้างนอกหรอก”

“คุณมาหาฉัน พวกเราเดทกันที่บ้านของซูสือเยว่กับฉินโม่หานดีไหม? ”

จี้หนานเฟิง:“……”

เขาอยากจะเปิดสมองของผู้หญิงคนนี้ออกจริงๆ อยากจะเห็นว่ามีอะไรอยู่ข้างในบ้าง

เมื่อสองสามวันก่อน เขาถูกซูสือเยว่ต่อยจนเกือบพิการ เพราะว่าไปตามจีบเธอ

แต่ว่าตอนนี้ฟู๋เชียนเชียนกลับอยากจะเดตกับเขาที่บ้านของซูสือเยว่?

“ฉันรู้ว่าคุณอาจจะรู้สึกว่าฉันแปลกประหลาดมาก”

พอพูดนั้น เธอก็หันไปมองซิงเฉินที่นั่งอยู่ด้านข้างเงียบๆ แล้วก็มองซิงกวงที่โผล่หัวออกมาจากชั้นสอง “แต่ฉันรู้สึกว่าคุณควรมาที่นี่……”

“ซิงกวงคิดถึงคุณมากเลย”

พอได้ยินเธอเอ่ยถึงซิงกวง น้ำเสียงที่เย็นชาของจี้หนานเฟิงก็ค่อยๆ อ่อนลงทันที

ผ่านไปครู่หนึ่ง เขาก็ถอนหายใจออกมา “ฉันไม่อยากไปบ้านของซูสือเยว่ ไม่ใช่เพราะกลัวเธอจะทำร้าย แต่แค่ทำตัวไม่ถูกแค่นั้นเอง”

“เอาแบบนี้แล้วกัน ฉันขับรถไปที่หน้าคฤหาสน์ฉินโม่หาน เธอก็พาซิงกวง แล้วพวกเราสามคนก็ไปเดินเล่นกันดีไหม?”

ฟู๋เชียนเชียนเม้มปาก แล้วก็เงยหน้าขึ้นไปมองชั้นบน

ซิงกวงยืนอยู่ตรงหน้าบันไดแล้ว

พอเห็นสายตาของฟู๋เชียนเชียน เด็กน้อยก็เงยหน้าขึ้นมา แล้วก็พยักหน้าเงียบๆ

“ถ้ายังงั้นก็ได้”

ฟู๋เชียนเชียนเม้มปาก “คุณถึงแล้วโทรหาฉันแล้วกัน”

หลังจากตัดสายไปแล้ว หญิงสาวก็ถอนหายใจยาวออกมา แล้วก็ฟุบลงไปบนโต๊ะอย่างเหนื่อยล้า

ซิงเฉินยิ้มจนตาหยีและโน้มตัวเข้ามา แล้วก็เอาศอกของตัวเองตีศอกของฟู๋เชียนเชียน “น้าฟู๋เนี่ย ใช้ได้เหมือนกันนี่”

“อยู่ดีๆ ก็กลายเป็นแฟนของไอดอลโดยไม่รู้ตัว”

“ไม่ใช่แค่แก้ไขปัญหาที่จี้หนานเฟิงตามจีบหม่ามี๊ แถมยังให้เหตุผลที่ซิงกวงจะได้เจอกับเขาด้วย……”

“สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ เขาคือดาราที่น้าชอบมานานมากแล้วด้วย!”

“ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว!”

ฟู๋เชียนเชียนเงยหน้ามองซิงเฉินอย่างไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือว่าร้องไห้ดี “มันดีอย่างที่หนูพูดที่ไหนกันล่ะ”

ซิงเฉินเม้มปาก “ได้คบกับไอดอล แล้วทำไมต้องทำหน้านิ่วคิ้วขมวดด้วยล่ะครับ? ”

หญิงสาวถอนหายใจยาว สายตาเหม่อลอย “มันไม่ใช่การคบกันเพราะความรัก มันคือการที่น้ารักษาบาดแผลให้เขาอยู่ฝ่ายเดียว”

“ถึงแม้ว่าเขาจะดูสง่าผ่าเผย บอกว่าจะยอมแพ้ก็ยอมแพ้ แต่ว่าในใจของเขาน่าจะรู้สึกทุกข์มาก”

“ที่เขาให้น้าเป็นแฟนของเขาในตอนนี้ มันไม่ใช่เพราะความชอบหรอก แต่มันเป็นเพราะว่าเขาต้องการคนคนหนึ่งมารักษาบาดแผลของเขา เป็นผู้ช่วยให้เขาได้ผ่านพ้นช่วงเวลานี้ไปได้”

ซิงเฉินชะงักไป แล้วสีหน้าของเขาก็เริ่มจริงจังขึ้นเรื่อยๆ “แล้วถ้าเกิดว่ารักษาเสร็จแล้วล่ะ? ”

“ก็จะเลิกกับน้า”

ฟู๋เชียนเชียนยักไหล่ “ก่อนหน้านี้ตอนที่ตัดสินใจจะเป็นแฟนกับเขา น้าก็เข้าใจดีอยู่แล้ว ว่าน้าไม่มีทางได้รับความรักหรือความรู้สึกอะไรจากเขาหรอก น้าก็เป็นแค่คนที่ต้องคอยอยู่ข้างเขา และปลอบโยนเขาในเวลาที่เขารู้สึกเหงาและว่างเปล่า”

“แต่ว่าน้าก็ไม่แคร์หรอก ใครให้เขาเป็นผู้ชายที่น้าชอบมาเจ็ดปีล่ะ”

“เจ็ดปีแล้ว……”

เธอหัวเราะอย่างขมขื่น “การที่ได้อยู่เคียงข้างเขาในช่วงระยะเวลาหนึ่ง ที่จริงแค่นี้น้าก็ดีใจมากแล้ว”

“ช่างเถอะ ทำไมน้าต้องมาพูดอะไรมากมายกับเด็กห้าขวบอย่างหนูด้วย พูดไปก็ไม่เข้าใจหรอก”

พอพูดจบ หญิงสาวก็ถอนหายใจออกมา แกล้งลุกขึ้นแบบสบายๆ แล้วก็เดินเข้าไปที่ห้องครัว “สือเยว่ ฉันจะออกไปข้างนอกหน่อยนะ……”

ซิงเฉินมองดูแผ่นหลังของเธอ ปาดเล็กๆ ก็เม้มแน่น

อารมณ์ความรู้สึกของผู้ใหญ่ ช่างน่าสับสนจริงๆ

……

หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมง รถของจี้หนานเฟิงก็จอดลงที่หน้าประตูคฤหาสน์

ฟู๋เชียนเชียนจูงมือซิงกวง แล้วผู้ใหญ่กับเด็กน้อยก็เดินออกมาจากด้านในคฤหาสน์

ผู้หญิงคนนั้นสวมชุดเดรสสีเหลืองขนห่าน ผมยาวของเธอมัดหางม้าต่ำ ปัดไว้ที่ไหล่ซ้ายของเธอ และเธอก็ดูสงบนิ่ง

ซิงกวงสวมชุดเจ้าหญิงสีชมพู ดูน่ารักสดใสอยู่เสมอ

ผู้หญิงทั้งสองคนขึ้นรถ

ซิงกวงขึ้นไปนั่งที่เบาะหลัง แล้วก็มองจี้หนานเฟิงพร้อมกับยิ้มจนตาหยี “คุณอาจี้ โชคดีมากเลยนะคะ!”

“ไม่คาดคิดเลยว่าจะจัดการน้าฟู๋ที่น่ารักของหนูได้ในระยะเวลารวดเร็วขนาดนี้!”

“อาจะทำให้เธอผิดหวังไม่ได้เด็ดขาดนะ! หม่ามี๊บอกแล้วว่า ถ้าเกิดว่าอาทำให้เธอผิดหวัง หม่ามี๊จะอัดนาให้เป็นเนื้อบดเลย!”

จู่ๆ จี้หนานเฟิงก็รู้สึกเจ็บตรงตำแหน่งที่ซูสือเยว่ทำร้ายเมื่อวันก่อนขึ้นมาอีกครั้ง

เขาสร้างสงครามเย็น และเปลี่ยนเรื่องอย่างรวดเร็ว “วันนี้พวกเราไปสนามเด็กเล่นกัน ดีไหม? ”

……

หลังจากที่ฟู๋เชียนเชียนไปแล้ว ซูสือเยว่ก็ไม่มีนักชิมแนวหน้า

การทำอาหารก็จืดชืดลงเช่นกัน

เธอถอดผ้ากันเปื้อนออก แล้วก็นอนลงบนโซฟาพร้อมเงยหน้ามองเพดานด้วยสีหน้าที่เศร้าสร้อย

ทำอาหารมาสองวันแล้ว

อะไรที่ควรทำก็ทำไปหมดแล้ว

แต่ว่ายังนึกอะไรไม่ออกเลย

นึกไม่ออกเลยแม้แต่นิดเดียว

ปวดหัวจริงๆ เลย

“หรือบางที การทำอาหารอาจจะไม่ใช่กุญแจที่ทำให้หม่ามี๊รื้อฟื้นความทรงจำได้”

ซิงหยุนลงมาจากชั้นบน แล้วก็นั่งลงข้างๆ ซูสือเยว่ด้วยท่าทางที่สง่างาม พร้อมกับหยิบหนังสือขึ้นมาอ่าน

ซูสือเยว่มองเด็กน้อยเงียบๆ “ถ้ายังงั้นลูกว่า มันจะเป็นอะไรได้อีก? ”

เด็กน้อยคลี่ยิ้ม “ผมคิดว่า น่าจะเกี่ยวกับแด๊ดดี้”

“เพราะว่าสิ่งที่หม่ามี๊ลืมไป นอกจากทักษะการทำอาหารแล้ว ก็คือแด๊ดดี้”

“ในเมื่อช่วงความทรงจำที่หม่ามี๊คิดขึ้นได้มันก็เกี่ยวข้องกับแด๊ดดี้ ไม่ได้เกี่ยวกับการทำอาหารเลยแม้แต่นิดเดียว เพราะฉะนั้นผมคิดว่า วิธีการฟื้นฟูความทรงจำพวกนี้ ต้องเริ่มที่แด๊ดดี้”

พอพูดจบ เด็กน้อยก็เงยหน้าขึ้นมา แล้วก็มองหน้าซูสือเยว่อย่างจริงจัง “ครั้งที่แล้วที่หม่ามี๊เริ่มจำได้ นอกจากทำอาหารแล้ว ก็มีการที่ไปเอาอาหารไปให้แด๊ดดี้ที่ชวงซิงกรุ๊ป”

“หรือว่า วันนี้เอาอาหารไปให้อีกครั้งไหม? ”

ซูสือเยว่ชะงักไป

“เป็นความคิดที่ดี!”

เธอยังจำร้านอาหารจีนครั้งที่แล้วได้!

ซื้อกลับบ้านก็อร่อย!

ดังนั้นซูสือเยว่ก็รีบเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วก็ไปซื้ออาหารจีนร้านนั้น แล้วก็มุ่งหน้าไปที่ชวงซิงกรุ๊ปทันที

“หยุนโต่ว ยินดีด้วยจริงๆนะ คุณฉินทั้งหล่อและมีความสามารถ การที่เขาโปรดปรานเธอ ถือเป็นโชคดีของเธอเลยนะ!”

“ใช่ คุณฉินถึงแม้ว่าจะมาที่ชวงซิงกรุ๊ปของพวกเราได้ไม่กี่วัน แต่ว่าใบหน้าที่หล่อเหลาของเขา ออร่าที่เย่อหยิ่งของเขา ทำให้คนหลงใหลได้จริงๆ!”

“ใครไม่อยากใกล้ชิดสนิทสนมกับคุณฉินบ้างล่ะ แต่ว่าโอกาสนี้ตกมาอยู่ที่หยุนโต่วแล้วนะ!”

“ได้ยินมาว่าคุณฉินเป็นคนเลือกชื่อมาเลยว่าจะให้หยุนโต่วไปร่วมงานเลี้ยงค็อกเทลกับเขา!”

……

ตอนที่ซูสือเยว่ถืออาหารเข้าไปที่ตึกชวงซิงกรุ๊ปนั้น ก็ได้ยินเสียงผู้หญิงกลุ่มหนึ่งกำลังคุยโอ้อวดกัน

แล้วเธอก็หยุดเดิน

สัญชาตญาณบอกเธอว่า คุณฉินที่พวกเธอกำลังพูดอยู่นี้……นี่จะเป็นฉินโม่หานสามีของเธอ

เธอเดินตามเสียงนั้นไปโดยไม่รู้ตัว

ผู้หญิงที่กำลังถูกล้อมอยู่นั้น ทั้งผิวขาวสวยและน่ารัก

เธอหลุบตาลง ใบหน้าดูเขินอาย “พวกเธออย่าพูดมั่วซั่วสิ คุณฉินก็แค่เชิญให้ฉันไปเป็นคู่เต้นของเขาในวันนี้เท่านั้นเอง……ยังไม่ได้มีอะไรเลยด้วยซ้ำ เขาก็ไม่ได้พูดว่าจะจีบฉันสักหน่อย……”

สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ

สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ

หลังข่าวลือที่เสียโฉม ท่านชายฉินโหดร้ายอำมหิต ทำคู่หมั้นตายติดต่อกันสองคน ผู้หญิงทั้งเมืองไม่มีใครกล้าแต่งงานด้วย แต่ซูสือเยว่กลับแต่งสาวน้อย ต่อไปให้ฉันปกป้องเธอเองเพิ่งแต่งงาน เธอก็ถูกลูกน้อยน่ารักน่าหยิกสองคนแย่งกันอย่างคลั่งใคล้ซะแล้ว……

Comment

Options

not work with dark mode
Reset