ไป๋ลั่วหุบปากลงแล้วพาฉินโม่หานกับซูสือเยว่ไปส่งที่โรงแรมที่เป็นสถานที่จัดงานเลี้ยง
ลงมาจากรถ ซูสือเยว่ก็ได้จูงมือของฉินโม่หาน แล้วทั้งสองคนก็ได้เดินเข้าไปยังสถานที่จัดงานเลี้ยงด้วยกัน
เดิมทีแล้วสถานที่ในการจัดงานเลี้ยงซูสือเยว่นึกว่าจะเป็นสถานที่ที่มีความคึกคักมีแสงสีที่เหมือนกับสถานบันเทิงแล้วก็มีการก๊งเหล้ากันออกมาเป็นพิเศษ
สิ่งที่เธอนึกไม่ถึงเลยก็คือ…
คนที่มาถึงจะเป็นผู้ชายแทบจะทั้งหมด มีผู้หญิงแค่ไม่กี่คน
ถึงแม้ว่าจะมีผู้หญิงแค่ไม่กี่คน แต่มองไปแล้วทุกคนก็ดูเหมือนเลขาไปหมด
เธอย่นคิ้วออกมาเล็กน้อย เอ่ยถามข้างๆใบหูของฉินโม่หานไปเบาๆ “ทำไมถึงมีผู้หญิงแค่ไม่กี่คนเอง?”
ชายหนุ่มยิ้มออกมาอย่างจนใจ สายตามองไปข้างหน้า เอ่ยเสียงเรียบนิ่งออกมาว่า “ผมเคยพูดไปแล้วไม่ใช่เหรอ”
“นี่เป็นงานเลี้ยงที่น่าเบื่อเลยงานนึง”
งานเลี้ยงมันแบ่งออกได้หลายประเภท
แต่งานเลี้ยงที่พวกเขาอยู่ตอนนี้นั้น มันเป็นแค่เพียงการเปิดโอกาสเพื่อให้เหล่าเจ้าของกิจการใหญ่ๆในแวดวงธุรกิจได้พูดคุยแลกเปลี่ยนกันเท่านั้น ไม่ได้ใช้ในการเข้าสังคม
ดังนั้นโดยพื้นฐานของคนที่อยู่ในพื้นที่แห่งนี้ ไม่พาเลขาผู้ช่วยมา ก็มาเพียงลำพัง
นี่จึงเป็นสาเหตุที่ว่าทำไมเมื่อก่อนหน้านี้ฉินโม่หานถึงได้ไม่บอกซูสือเยว่เรื่องที่มีงานเลี้ยงเรื่องนี้ออกไป
แต่ว่าในเมื่อเธอรู้แล้ว อีกทั้งยังหึงหวงไป๋หยุนโต่วอีก…
เขาจึงพาเธอมาด้วยเลย
ถึงแม้ว่าทุกคนจะไม่พาญาติกันมา แต่มันก็ไม่มีกฎตายตัวอีกว่าจะพาญาติมาไม่ได้เลย
ภาพที่ทั้งสองคนคล้องแขนกันเดินเข้าไป มันได้ดึงดูดสายตาจากผู้คนจำนวนนับไม่ถ้วน
เหล่าผู้คนต่างพากันกระซิบกระซาบกันขึ้นมาโดยอัตโนมัติ
ในมุมหนึ่งของกลุ่มคน ชายหนุ่มที่ให้ความรู้สึกที่เย็นยะเยือกออกมาได้กวาดสายตามองไปทางฉินโม่หานและซูสือเยว่ไปนิ่งๆ มุมปากได้ยกยิ้มออกมาด้วยความเย็นชา
เขาหันหน้าไปมองผู้หญิงที่นั่งอยู่ข้างๆ “ทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่?”
หญิงสาวชะงักไป พร้อมกับยิ้มออกมา “คุณหลิง นายหมายถึงซูสือเยว่?”
ชายหนุ่มมองเธอไปอย่างเยือกเย็น ไม่ได้พูดอะไร
ผู้หญิงคนนั้นยิ้มออกมาอีกครั้ง “นี่มันกี่ปีมาแล้ว นายยังไม่ลืมเธออีก?”
พูดจบ เธอก็ยกแก้วไวน์ขึ้นมาจิบเล็กน้อย “อย่าลืมนะว่านายมาเมืองสตัฟฟ์ครั้งนี้ ก็เพื่อจะมาทำงานนะ”
ชายหนุ่มไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่ยิ้มออกมาจางๆ “เธอว่า ตอนนี้เธอจะยังจำฉันได้อยู่หรือเปล่า?”
“ได้ข่าวว่าสูญเสียความทรงจำ สามีของตัวเองก็ยังจำไม่ได้”
หญิงสาววางแก้วไวน์ลงไปอย่างสง่างาม “คนนั้นที่อยู่ข้างๆเธอนั้น ว่ากันว่าเป็นคุณชายที่ร่อนเร่อยู่ด้านนอกของตระกูลจี้ของพวกเราเมื่อหลายปีก่อน ลูกชายของผู้นำตระกูลคนก่อน ลูกพี่ลูกน้องของฉันเอง”
“ว่ากันว่าหลังจากที่ซูสือเยว่สูญเสียความทรงจำไป ก็ไม่รู้จักแม้แต่สามีของเธอด้วยซ้ำ”
“คุณหลิงนาย…ก็แค่เพื่อนที่นั่งโต๊ะติดกันเมื่อตอนม.ต้นเท่านั้นเอง”
“ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ได้เสียความทรงจำไป ก็คงจะจำนายไม่ได้อยู่ดีหรอกมั้ง?”
ชายหนุ่มชะงักไป หลังจากนั้นก็ได้ลูบคางพร้อมกับยิ้มออกมา “มันก็จริง”
เมื่อตอนม.ต้น เขามันก็แค่เด็กอ้วนที่ถูกคนอื่นรังเกียจโดดเดี่ยวไม่มีใครคบคนนึง
เมื่อตอนนั้น ในชั้นเรียนอย่าว่าแต่ผู้หญิง แม้แต่ผู้ชายเองก็ไม่ยอมที่จะมานั่งร่วมโต๊เดียวกับเขาเลยสักคน
สุดท้ายก็ยังคงเป็นซูสือเยว่ที่เป็นฝ่ายไปหาคุณครู มานั่งร่วมโต๊ะกับเขา เป็นเพื่อนกับเขา แนะนำให้เขาตั้งใจเรียน
“ฉันคิดว่านายไม่มีเพื่อนมันโดดเดี่ยวมากเลยนะเนี่ย”
“ถ้าฉันไม่เป็นเพื่อนกับนาย นายจะต้องทุกข์มากแน่เลย!”
“ฉันไม่คิดว่านายจะหน้าตาน่าเกลียด และก็ไม่คิดว่านายอัปลักษณ์เลยด้วย…”
หลิงซือยู่หลับตาลง
คำพูดที่ซูสือเยว่เคยพูดกับเขาเมื่อตอนนั้น เขาจำมันได้อย่างชัดเจน
นึกไม่ถึงว่าการที่ได้มาเจอกันอีกครั้งหลังจากที่ผ่านไปแล้วหลายปี เธอจะแต่งงานไปเป็นภรรยาของคนอื่นไปเสียแล้ว
เวลามันผ่านไปเร็วจริงๆ
……
หลังจากที่ซูสือเยว่คล้องแขนของฉินโม่หานเดินเข้ามาแล้ว เพื่อที่จะดูแลอารมณ์ความรู้สึกของเธอ ชายหนุ่มก็ได้พาเธอไปทุกที่
ในตอนแรกเริ่มนั้นเอง สำหรับการที่ฉินโม่หานพาเธอเดินไปทุกที่นั้น ซูสือเยว่ก็รู้สึกซาบซึ้งใจดีใจอยู่หรอก
แต่พอนานเข้า…
มันช่างน่าเบื่อมากเลยจริงๆ!
เธอถอนหายใจออกมา หลังจากที่ฉินโม่หานพาเธอไปบอกลากับคู่ค้าทางธุรกิจอีกหลายคนแล้วนั้น ก็ได้เอ่ยพูดออกมาอย่างระมัดระวังว่า “สามี งานเลี้ยงนี้มันจะสิ้นสุดเมื่อไหร่กันน่ะ?”
ชายหนุ่มหัวเราะออกมาเบาๆ ยกมือขึ้นมาลูบหัวเธอไปเบาๆ “ใกล้แล้ว”
หญิงสาวแสดงสีหน้าน่าสงสารออกมา “ใกล้แล้วมันอีกนานแค่ไหนกัน?”
ชายหนุ่มก้มลงมองเวลา
“อีกสองชั่วโมงก็เสร็จแล้ว”
ใบหน้าเล็กของซูสือเยว่หงอยออกมาทันที
สองชั่วโมงเลยนะ…
เหมือนกับว่าเขาจะเห็นความเพลียใจในดวงตาของเธอ ฉินโม่หานก็ได้ยิ้มออกมา “รู้สึกเบื่อขึ้นมาแล้ว?”
“อืม”
“งั้น…ให้ไป๋ลั่วไปส่งคุณกลับไปก่อน?”
ซูสือเยว่พยักหน้าออกมา “ค่ะ!”
เธอไม่อยากอยู่ที่นี่ต่อไปแล้วจริงๆ
ถ้ารู้ก่อนว่าเป็นงานเลี้ยงที่น่าเบื่ออย่างนี้ เธอจะปล่อยให้ไป๋หยุนโต่วมาเลย!
แต่ผลสุดท้ายหลังจากที่เธอซื้อชุดราตรี สวมใส่เสื้อผ้าที่สวยหรูมาสถานที่จัดงานแล้ว ถึงได้ค้นพบว่าไม่มีใครมาสวยแข่งกับเธอเลย
ในงานเลี้ยงผู้หญิงน้อยเสียจนน่าสงสาร ผู้ชายต่างก็ยุ่งอยู่กับการคุยธุรกิจ
คงเป็นเพราะว่ามองออกถึงความคิดของเธอ ฉินโม่หานก็ได้หยิกลงไปบนจมูกของเธอเบาๆ “ถ้างานเลี้ยงมันน่าสนใจจริงๆ ผมจะไม่บอกคุณได้ยังไง?”
“ต่อจากนี้ไปจะยังกินน้ำส้มอะไรจำพวกนี้อยู่อีกมั้ย?”
ซูสือเยว่รีบส่ายหัวออกมาจนเหมือนกับกลองป๋องแป๋งออกมาทันที “ไม่แล้ว!”
เห็นท่าทีของเธอแล้ว ชายหนุ่มก็ยิ้มออกมาด้วยความพึงพอใจ แล้วก็ได้กวักมือเรียกไป๋ลั่วเข้ามา ให้เขาพาซูสือเยว่ไปส่งกลับวิลล่า
ซูสือเยว่ออกมาจากงานไปนั่งที่บนรถ สูดอากาศบริสุทธิ์ไปอึกใหญ่ “ในที่ฉันก็มีชีวิตกลับมาแล้ว!”
ภายในสถานที่จัดงานนั้นไม่เพียงแต่จะน่าเบื่อแล้ว บรรยากาศน่าอึดอัดเสียจนน่ากลัวอีกด้วย!
ได้ยินเสียงของซูสือเยว่จากทางที่นั่งเบาะหลัง ไป๋ลั่วอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา “คุณผู้หญิง พวกเรากลับวิลล่ากันตอนนี้เลย?”
“อืม!”
หลังจากที่ซูสือเยว่ตอบรับไปก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา
ฟู๋เชียนเชียนส่งรูปที่ชายหาดมาให้เธอรูปนึง
“สือเยว่ เธออยู่ไหน?”
“พวกเราอยู่ที่ชายหาดกัน มีคนกำลังจุดดอกไม้ไฟอยู่ สวยมากเลย เธออยากจะมาสักหน่อยมั้ย?”
ซูสือเยว่ย่นคิ้ว กดเปิดภาพ
ในภาพเป็นชายหาดที่มืดมาก บนฟ้ามีดอกไม้ไฟที่กำลังเบ่งบานตระการตาออกมา
จี้หนานเฟิงกำลังจูงมือซิงกวงยืนมองดอกไม้ไฟริมชายหาดด้วยกัน เป็นภาพที่ดูกลมกลืนสวยงามอย่างมาก
“สือเยว่ เมื่อก่อนเธอชอบดอกไม้ไฟมากเลยนี่ เธอจำได้หรือเปล่า?”
ซูสือเยว่ชะงักไปเล็กน้อย แล้วตอบรับไป
เมื่อก่อนเธอชอบดอกไม้ไฟมากจริงๆ
แต่ในภายหลังมาเผชิญกับเรื่องมากมาย ความชอบของเธอ อันที่จริงมันก็ไม่ได้สำคัญอะไรไปแล้ว
ไม่มีใครสนใจ
ขนาดตัวเธอเองก็เกือบจะลืมมันไปแล้วเลยว่าตัวเองเคยชอบดอกไม้ไฟ
แต่ฟู๋เชียนเชียนกลับยังจำมันได้
เธอถือโทรศัพท์ ส่งข้อความไปหาเธอเงียบๆ “ขอบคุณนะที่เธอยังจำมันได้อยู่”
ฟู๋เชียนเชียนรีบส่งข้อความมาหาเธออีกครั้งทันที “เธอไม่มาดู? มันสวยมากจริงๆนะ!”
“ได้ข่าวว่ามีคนรวยคนนึงมอบของขวัญวันเกิดให้กับผู้หญิงที่เขารัก!”
“ผู้หญิงคนนี้สวยมากจริงๆ! ดอกไม้ไฟนี่มันจุดมาหลายชั่วโมงแล้วนะ!”
มือที่กุมโทรศัพท์อยู่ของซูสือเยว่ชะงักค้างออกมาเล็กน้อย
อันที่จริง เธอเองก็เคยคาดหวังอยู่เหมือนกันว่าจะมีคนมาจุดดอกไม้ไฟอย่างนี้ให้ตอนที่เป็นงานวันเกิดของเธอ
ถอนหายใจออกมา หลังจากที่เธอปฏิเสธฟู๋เชียนเชียนกลับไปอีกครั้ง ก็ได้เปิดดูสตอรี่วีแชทไปด้วยความเบื่อหน่าย
ในสตอรี่วีแชท เจี่ยนเฉิงที่ปกติมักจะไม่พูด วันนี้ได้โพสต์ข้อความมาข้อความนึงอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนเลย
เป็นภาพดอกไม้ไฟริมชายหาด
“นายเคยบอกว่าจะจุดดอกไม้ไฟให้เธอตอนวันเกิดของเธอ”
“วันนี้ดอกไม้ไฟจะสวยแค่ไหน เธอก็มองไม่เห็นมันอยู่ดี”
การหายใจของซูสือเยว่ได้หยุดนิ่งไปทันที
เธอส่งข้อความไปหาเจี่ยนเฉิงทันที “วันนี้ใครฉลองวันเกิด?”
“แม่ของแกหลิวหรูเยียน”