ซูสือเยว่ไม่รู้ว่าทำไมฉินโม่หานถึงต้องพาเธอมาดูดาวตกที่ตรงระเบียงกลางดึกกลางดื่นอย่างนี้
ถึงแม้ว่าแสงจันทร์จะสวยมาก แต่ตอนนี้มันก็ตีสิบสองแล้วนะ…
เธอง่วงขึ้นมาบ้างแล้วจริงๆ
หญิงสาวพิงไปบนไหล่ของฉินโม่หานไปนิ่มนวล “สามี ยังกลับไปนอนไม่ได้อีกเหรอ?”
ชายหนุ่มหันหน้ามา เกี่ยวปอยผมเล็กๆของเธอไปทัดหูเอาไว้อย่างอ่อนโยน
หลังจากทัดผมเสร็จเรียบร้อยแล้ว ใบหน้าขาวนวลของหญิงสาวก็ได้ปรากฏออกมาตรงหน้าเขาโดยที่ไม่มีอะไรมาบดบัง
สันกรามของเธอเป็นสันสวยงาม ผิวขาวจนสามารถมองเห็นขนอ่อนบนใบหน้าเธอโดยอาศัยจากแสงไฟได้เลย
ปากเล็ก จมูกเป็นทรงสวย
ดวงตาคู่นั้นที่ปกติแล้วจะใสเหมือนอย่างกับลูกกวางน้อยในตอนนี้ได้มีความเนือยๆและพร่าเลือนปะปนมาเนื่องด้วยความรู้สึกง่วงนอน
ฉินโม่หานยกมือขึ้นมาจับคางเธอเอาไว้ มองหน้าตาสวยของเธอ นึกอยากจะจูบลงไปอย่างทนไม่ไหวอยู่หลายครั้ง สุดท้ายก็ต้องเก็บไปมือกลับไป
เขาหันหน้าออกไปมองรถคาเยนน์สีดำคันนั้นที่แอบอยู่ใต้ร่มเงาต้นไม้ในที่ที่ไกลออกไป
“ก็คงจะต้องรออีกสักพัก”
ทั้งๆที่ตกลงกันเอาไว้แล้วแท้ๆว่าจะดูแค่แป๊บเดียวแล้วก็ไป
แต่ผลสุดท้าย…พวกเขาจอดอยู่ที่นี่มาครึ่งชั่วโมงแล้ว
ชายหนุ่มหันหน้ามามองสาวน้อยที่กำลังอ่อนเปลี้ยไร้เรี่ยวแรงสุดๆอีกครั้ง อดไม่ได้ที่จะยื่นมือออกไปหยิกหน้าเธอไปเบาๆ “รู้ว่าคุณง่วง”
“รออีกสักพักนะ ได้มั้ยหืม?”
คำพูดของฉินโม่หานทำให้ซูสือเยว่อดไม่ได้ที่จะกัดริมฝีปากออกมา “สามี ฉันไม่อยากดูดาวตกแล้ว ฉันอยากนอน”
พูดจบ เธอก็อ้าแขนทั้งสองข้างออก ทิ้งตัวลงไปบนร่างของเขา เบะปากยื่นหน้าเข้าไป “ไม่งั้นคุณก็จูบฉันก่อน ถือเสียว่าเป็นการให้ของขวัญฉัน”
“แล้วพวกเราก็กลับไปนอนกันเถอะ”
ดาวตกอะไรนั่น อันที่จริงเธอไม่ได้อยากดูนัก…
ร่างนุ่มนิ่มของหญิงสาวประชิดเข้ามา ปากเองก็ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ
ฉินโม่หานหรี่ตาลง มองไปทางรถคาเยนน์คันนั้นที่กำลังจอดอยู่ไปเงียบๆ
ตอนที่เขาหันหน้าไป ปากของซูสือเยว่ก็ได้ประชิดเข้ามาแล้ว
ความนุ่มและอุ่นของหญิงสาวมันทำให้เขาขมวดคิ้วแน่นออกมาอย่างอดไม่ได้
ร่างกายนุ่มนิ่มแผ่กระจายกลิ่นหอมออกมา ไม่อาจต้านทานเอาไว้ได้เลย
ดังนั้นแล้ว ชายหนุ่มจึงจับคางของซูสือเยว่เอาไว้แล้วก็จูบเข้าไปอย่างแรง
ภายในรถคาเยนน์คันนั้นที่จอดอยู่ใต้ร่มเงาต้นไม้ด้านนอกวิลล่ามีบรรยากาศที่หนักอึ้งขึ้นมา
สายตาของเจี่ยนหมิงจงจ้องมองชายที่กำลังจูบลูกสาวของเขาคนนั้นอยู่ไปอย่างไม่คลาดสายตา
หลิงซือยู่เห็นภาพตรงระเบียงแล้วก็แอบก้มหน้าลงไปเล่นโทรศัพท์เงียบๆ
แต่หลิงหรานก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา “เป็นคู่ที่ดูเหมาะสมกันสุดๆไปเลยนะเนี่ย”
เจี่ยนหมิงจงขมวดคิ้วออกมาหันหน้าไปมองหลิงหรานอย่างเยือกเย็น
หลิงหรานก็รีบหุบปากไปทันที
ผ่านไปได้สักพัก ชายวัยกลางคนที่เยือกเย็นและเคร่งขรึมก็ได้หลับตาลง นิ้วยาวกดนวดลงไปบริเวณตรงกลางระหว่างคิ้วไปเบาๆ “กลับกันเถอะ”
หลิงซือยู่กำลังก้มหน้าดูโทรศัพท์อยู่ “คุณอาเจี่ยน อยากให้ผมไปแย่งมาหรือเปล่า”
“ถ้าผมแต่งงานกับเธอ คุณลุงก็เป็นพ่อตาของผม”
เจี่ยนหมิงจงกวาดสายตามองเขาไปอย่างเยือกเย็น “อยากแต่งกับลูกสาวฉัน?”
“แกไปจัดการกับพวกแฟนหลายสิบคนนั้นของแกให้เรียบร้อยก่อนเถอะแล้วค่อยว่ากัน”
หลิงซือยู่ “…”
หลิงหรานที่นั่งอยู่ตรงที่นั่งคนขับหัวเราะอย่างมีความสุขออกมา “คุณผู้ชายทั้งสองท่าน รัดเข็มขัดนิรภัยให้เรียบร้อย พวกเราจะออกเดินทางกันแล้ว!”
ทันทีที่เสียงพูดของหญิงสาวหลุดออกมา รถก็สตาร์ทขึ้นมา แล้วก็ได้แล่นไปอย่างรวดเร็วประหนึ่งลูกธนู
เสียงรถที่ขึ้นมาอย่างกะทันหัน ทำให้ซูสือเยว่ที่กำลังจูบอยู่กับฉินโม่หานนั้นได้ย่นคิ้วออกมาเล็กน้อย
ทำไมเธอถึงได้รู้สึกว่าเสียงนี้มันกำลังออกไปจากตรงชั้นล่างของพวกเขา?
แต่ดึกขนาดนี้แล้ว…
เป็นไป๋ลั่วที่ออกจากบ้านไปเหรอ?
เธอกำลังจะหันไปมอง แต่ฉินโม่หานกลับถือโอกาสอุ้มเธออยู่ในอ้อมแขนเอาไว้ทันที
จู่ๆร่างมันก็ลอยขึ้น ซูสือเยว่ร้องตกใจออกมา แล้วก็ได้มือโอบรัดลำคอของเขาเอาไว้ทันที
ระยะห่างระหว่างทั้งสองคนมันใกล้จนไม่อาจจินตนาการออกมาได้เลย
ชายหนุ่มแสยะริมฝีปากออกมา แล้วก็อุ้มเธอเดินออกไปจากตรงหน้าระเบียง
กลิ่นอายเยือกเย็นที่น่าเย้ายวนจากร่างของเขาจำพวกนั้นมันทำให้การหายใจของซูสือเยว่ติดขัดออกมาเล็กน้อย
เธอกัดริมฝีปากมองใบหน้าของเขา “สามี…ไม่ดูดาวตกแล้วเหรอ?”
ชายหนุ่มยกยิ้มออกมาเล็กน้อย “ดาวตกไปแล้ว”
“พวกเรากลับกัน”
“ไม่ใช่ว่าง่วงแล้วเหรอ?”
ซูสือเยว่พยักหน้าออกมา พร้อมกับเอาหัวซุกเข้าไปในอ้อมอกของเขา ปล่อยให้เขาอุ้มตัวเองไป
ฉินโม่หานเดิมทีอยากจะส่งเธอกลับไปที่ห้องเธอกับฟู๋เชียนเชียน
แต่นึกไม่ถึงว่าฟู๋เชียนเชียนจะล็อกประตู
ซูสือเยว่มองดูเวลา มันก็เป็นเวลาตีหนึ่งเกือบจะตีสองไปแล้ว
ฟู๋เชียนเชียนจะต้องนอนแล้วแน่เลย
เขายิ้มออกมา เอ่ยถามออกไปข้างหูเธอเบาๆ “ทำยังไงดี?”
บนใบหน้าของหญิงสาวแดงออกมา “ไม่งั้น…ฉันไปนอนที่ห้องรับแขกดีกว่า?”
ฉินโม่หานยิ้มออกมา “ภรรยาของผมฉินโม่หาน ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ไม่มีทางที่จะตกต่ำถึงขนาดที่ต้องไปนอนห้องรับแขก”
พูดจบ เขาก็ผันร่างออกไป อุ้มเธอเดินตรงไปที่ห้องของเขา
ประตูห้องปิดลง
ซูสือเยว่ยื่นมือออกไปคว้าเสื้อของเขาเอาไว้แน่นตามสัญชาตญาณ
“พวกเรา…”
ถึงแม้ว่าสามีภรรยานอนด้วยกันมันจะเป็นเรื่องปกติ
เธอเองก็ไม่ได้ต่อต้านเรื่องที่จะนอนกับเขาเรื่องนี้เหมือนกัน
แต่…
ก่อนหน้านี้ตกลงกันเอาไว้แล้วไม่ใช่หรือไงว่าก่อนที่เธอจะรื้อฟื้นความทรงจำกลับมา…
“ก่อนที่คุณจะฟื้นความทรงจำกลับมา ผมจะไม่ทำอะไรคุณ”
เหมือนกับว่ามองทะลุความคิดของเธอ ชายหนุ่มยิ้มออกมาแล้ววางเธอลงไปบนเตียงนอนหลังใหญ่ จากนั้นลูบผมเธอไปอย่างอ่อนโยน “คุณนอนบนเตียง ผมนอนบนพื้น?”
ภายในใจของซูสือเยว่รู้สึกอบอุ่นใจอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน เธอพยักหน้าออกมาอย่างเอาจริงเอาจัง “อืม”
อันที่จริงสิ่งที่เธอแคร์ไม่ใช่เรื่องที่เธอกับเขาจะนอนด้วยกันหรือเปล่า แต่เป็นท่าทีที่เขามีต่อเธอ
สิ่งที่ทั้งๆที่ตกลงกันเอาไว้แล้ว ถ้าเปลี่ยนคำพูดกันไปได้ง่ายๆ เธอก็จะคิดว่าเขาไม่ได้ให้ความสำคัญกับเธอมาพอ
หญิงสาวนอนอยู่บนเตียง มองดูชายหนุ่มคนนึงกำลังปูที่นอนให้ตัวเองบนพื้นไปด้วยท่วงท่าที่สง่างามไปเงียบๆ
เธอเบะปากออกมา “อันที่จริงฉันจำเรื่องในอดีตขึ้นมาได้บ้างแล้ว”
“อย่างเช่นตอนที่พวกเราเพิ่งจะแต่งงานกัน ฉันก็เป็นคนที่ปูที่นอนบนพื้น”
ชายหนุ่มที่กำลังปูผ้านวมอยู่ก็ได้หัวเราะออกมาเบาๆ “แต่ผมไม่เคยให้คุณนอนบนพื้นจริงๆมาก่อนเลยนะ”
ร่างของซูสือเยว่ชะงักไปเล็กน้อย
เหมือนว่า…จะใช่
ตอนที่เพิ่งแต่งงานกัน ถึงแม้ว่าเธอจะปูที่นอนบนพื้นไปทุกคืน แต่ตอนที่ตื่นขึ้นในเช้าวันต่อมาตัวเองก็มานอนอยู่บนเตียงแล้ว
เพียงแต่ว่าในตอนนั้นเธอนึกว่าตัวเองเดินละเมอ ถือโอกาสตอนที่ฉินโม่หานออกไปแล้วก็พาตัวเองลงจากเตียงมา
แต่ว่าตอนนี้ถูกเขาพูดมาอย่างนี้…
หญิงสาวกัดริมฝีปากไปเงียบๆ “งั้นเมื่อตอนนั้นเป็นคุณที่อุ้มฉันขึ้นไปนอนบนเตียง?”
“อืม”
ชายหนุ่มจัดของเรียบร้อยแล้ว เหยียดตัวตรงเริ่มทำการแกะกระดุมเสื้อเชิ้ตของเขา “ทุกคืนรอให้ใครบางคนหลับไปก่อน แล้วผมก็จะอุ้มเธอขึ้นไปนอนบนเตียง นอนอยู่ข้างตัวผม”
พูดจบ เขาก็หันมายิ้มให้เธอ “ผมไปอาบน้ำแล้วนะ”
หญิงสาวมองเบื้องหลังที่กำลังเดินออกไปของเขา อดไม่ได้ที่จะสูดหายใจออกมา “เดี๋ยวก่อน!”
เขาหยุดฝีเท้าลง แล้วหันกลับไป “มีอะไร?”
“คุณอย่านอนบนพื้นเลย!”
สาวน้อยเด้งตัวขึ้นมาจากเตียง เก็บหมอนและผ้าห่มที่อยู่บนพื้นทั้งหมดขึ้นมาทันที “มานอนบนเตียงเถอะ”
ฉินโม่หานเลิกคิ้วออกมา “ไม่ใช่ว่าตกลงกันแล้วหรือไง?”
“ฉันเปลี่ยนความคิดแล้ว”
ซูสือเยว่สูดหายใจออกมา “คุณเป็นสามีของฉัน นอนเตียงเดียวกับฉันมันไม่ได้มีปัญหาอะไร”
“อีกอย่างเมื่อตอนนั้นตอนที่ฉันนอนบนพื้นคุณก็ถือโอกาสตอนฉันนอนอุ้มฉันขึ้นมานอนบนเตียง”
“แต่ถ้าคุณนอนแล้ว ฉันอุ้มคุณไม่ไหวแน่ๆ”
“อย่างนั้นแล้วคุณก็ขึ้นมานอนบนเตียงให้ดีๆไปเลย!”
พูดจบ สาวน้อยกัดริมฝีปากออกมาเล็กน้อย “ถึงยังไง…”
“ถึงยังไงฉันกับคุณก็มีลูกกันมาสามคนแล้ว มันไม่มีอะไรให้น่าระวังตัวกันอีก…”