สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ – ตอนที่ 283 คุณไม่เป็นไรใช่มั้ย

ลั่วเยียนเบิกตากว้างออกมาอย่างตื่นตกใจ

ผู้ปกครองของนักเรียนกำลังโวยวายอยู่ข้างนอก บอกว่าซูสือเยว่ทำร้ายลูกของพวกเขา?

เธอย่นคิ้วออกมา ถ้าจำไม่ผิดล่ะก็ นักเรียนที่ซูสือเยว่ทำร้ายไป…มีเพียงแค่หัวหน้าในกลุ่มเด็กผู้หญิงที่หัวเราะเยาะบอกว่าเธอน่าเกลียดคนนั้น

อีกอย่างถึงแม้ว่าซูสือเยว่จะเก่งศิลปะการต่อสู้ แต่กับเด็กผู้หญิงพวกนั้นเธอก็ได้ออมมือแล้ว

ไม่งั้นแล้วล่ะก็เธอไม่มีทางจะเพียงแค่ตกลงบนเบาะไปง่ายๆอย่างนั้นหรอก

แค่นี้…

ก็ต้องบอกว่าซูสือเยว่ทำร้ายลูกของพวกเขาด้วย?

ซูสือเยว่ย่นคิ้วออกมา และก็คงจะนึกถึงขึ้นมาได้ว่าคนที่บอกว่าเธอทำร้ายไปคนนั้นคือใคร

หญิงสาวแสยะยิ้มออกมา เลิกสายตาขึ้นมองพนักงานคนตรงหน้า “ฉันออกไปดูสักหน่อย”

พูดจบ เธอไม่แม้แต่จะเปลี่ยนเสื้อผ้า ก็ได้ก้าวเดินออกไปโดยทันที

ลั่วเยียนชะงักไป และก็ได้รีบเดินตามไป

ด้านนอกสถานฝึกศิลปะป้องกันตัวหรง

เฉินตานตานเด็กหญิงที่ถูกซูสือเยว่สั่งสอนไปเมื่อก่อนหน้านี้กำลังนั่งอยู่บนรถเข็น พ่อกำลังยืนอยู่ด้านซ้ายมือ แม่กำลังคุกเข่าอยู่ทางขวามือของเธอ

ทั้งครอบครัวก็กำลังร้องเรียนถึงพฤติกรรมที่ชั่วช้าของสวี่หรงเจ้าของสวี่แห่งนี้กันออกมา

“พวกเราส่งลูกมา ก็เพื่อให้เธอสอนทักษะการป้องกันตัวให้ลูก!”

“แต่ผลที่ได้ล่ะ? เธอทำลูกของพวกเราให้กลายเป็นแบบอย่างที่ไม่ดีแล้วยังทำร้ายเด็กจนบาดเจ็บในคลาสสอนของเธออีก!”

“เธอเป็นคนที่เรียนศิลปะการต่อสู้มานะ!คนที่สามารถเปิดสถานฝึกศิลปะป้องกันตัวหรง ได้ คนไหนกันที่จะไม่ใช่คนที่มีทักษะในศิลปะการต่อสู้ขั้นสูงกัน?”

“ฝีมือในศิลปะการต่อสู้ของเธออยู่ในระดับสูง แต่กลับยังลงมือกับลูกของพวกเราอีก ไม่ใช่ว่าเห็นว่าบ้านของพวกเราจนแล้วมันน่ารังแกนักหรือไง?”

“เธอทำร้ายลูกของพวกเราให้ลูกของคนรวยดู มันช่างเลวทรามมากจริงๆ! ดูถูกคนจนกันนี่นา!”

……

สองสามีภรรยาเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย บวกกับน้ำตาของเด็กผู้หญิงที่ชื่อว่าเฉินตานตานคนนั้นด้วยอีก คนที่อยู่รอบๆก็มารวมตัวกันเยอะขึ้นเรื่อยๆ มีท่าทางที่อยากจะลากซูสือเยว่มามาตัดสินคดีให้รู้ดำรู้แดงไปเลย

ลั่วเยียนย่นคิ้วออกมา นี่กำลังทำอะไรกัน?

ทั้งๆที่ซูสือเยว่ไม่ได้ทำอะไรกับลูกของพวกเขาเลยนะ…

สูดหายใจเข้าไปลึกๆ ซูสือเยว่แสยะริมฝีปากออกมา ก้าวขาเดินเข้าไป “เฉินตานตาน บอกฉันมาสิว่าเธอบาดเจ็บตรงไหน?”

ร่างของเฉินตานตานที่นั่งอยู่บนรถเข็นได้หดตัวไปข้างหลังทันที “ฉัน…”

“ฉันบาดเจ็บที่อวัยวะภายใน ไหล่ก็บาดเจ็บด้วยเหมือนกัน…”

“แล้วก็ยังมี…”

เด็กสาวมองพ่อที่ยืนอยู่ทางด้านซ้ายของเธอไปทันที “ขาเองก็ด้วย…”

“อย่างนี้สินะ…”

ซูสือเยว่แสยะริมฝีปากออกมา เดินก้าวใหญ่ๆตรงเข้าไป แล้วเข้าไปลากเฉินตานตานขึ้นมาจากรถเข็นทันที

มือของหญิงสาวเคลื่อนไหวลงไปสองสามท่าอย่างว่องไวไร้ที่ติ

หลังจากที่ได้ยินแค่เพียงเสียงแกรกที่ดังขึ้นจากร่างของเฉินตานตาน ขึ้นมาแล้วเฉินตานตานก็ได้กรีดร้องออกมาอย่างรุนแรง!

“เจ็บ——!”

ซูสือเยว่ยกยิ้มเย็นออกมา โยนเด็กสาวไปบนรถเข็น จากนั้นก็ปัดฝุ่นที่อยู่บนร่างไปด้วยท่วงท่าที่สง่างาม

“ตอนนี้ได้แล้ว”

“ฉันเตะขาของเธอ หักกระดูกตรงไหล่ออก อวัยวะภายในก็…”

หญิงสาวแสยะยิ้มออกมา “ก็คงจะบาดเจ็บด้วยนิดหน่อย”

“ฉันควบคุมแรงเอาไว้ได้ไม่ดี”

การกระทำนี้ของเธอ ทำให้ทุกคนที่อยู่ในที่แห่งนั้นตะลึงตาค้างกันออกมาทันที

เห็นกลุ่มคนมีใบหน้าที่ตื่นตะลึงกันออกมา ซูสือเยว่ก็ยิ้มออกมา “ไม่ใช่ว่าฉันทำร้ายอวัยวะภายใน ไหล่ แล้วก็ขาเธอบาดเจ็บหรือไง?”

“ตอนนี้ก็บาดเจ็บจริงๆแล้ว”

พูดจบ เธอก็หันไปเลิกคิ้วให้กับพ่อแม่ของเฉินตานตาน “ยังไม่ไปส่งโรงพยาบาล?”

เห็นเฉินตานตานเจ็บจนหน้าซีดออกมา พ่อแม่ของเธอไม่เพียงจะไม่รีบพาเธอไปส่งโรงพยาบาลแต่กลับยังยื่นมือออกมาทางซูสือเยว่

“เธอไม่ให้เงินพวกเรา บ้านพวกเราจนขนาดนั้น จะไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลได้ยังไง!?”

ซูสือเยว่ย่นคิ้วออกมา แสยะยิ้มออกมา “งั้นถ้าฉันจะไม่ให้ล่ะ? ทำไม อยากให้ลูกสาวของพวกคุณเจ็บตายอยู่ที่ตรงนี้?”

คำพูดของหญิงสาวทำให้ผู้คนที่อยู่รอบๆอดไม่ได้ที่จะย่นคิ้วกันออกมา

“ผู้หญิงคนนี้ใจร้ายจริงๆเลย นึกไม่ถึงเลยว่าจะทำร้ายคนอื่นเขาจริงๆ!”

“เหมือนว่าพ่อแม่ของเด็กคนนี้จะพูดมาไม่ผิดเลย ผู้หญิงคนนี้นั้นมันเลวทราม!”

“น่าสงสารจริงๆเลย เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆถูกเธอทำร้ายในคลาสเรียน ตอนนี้ยังมาทำร้ายกันอีก…”

  ……

เสียงวิพากษ์วิจารณ์จากรอบๆยิ่งดังขึ้นมาเรื่อยๆ แต่ซูสือเยว่กลับยืนอยู่กลางกลุ่มคนด้วยใบหน้าที่เย็นชา สายตากวาดมองไปยังพ่อแม่ของเฉินตานตานไปด้วยสายตาที่เรียบนิ่ง “ไม่รีบเอาคนไปส่งโรงพยาบาลจริงๆ?”

เฉินตานตานที่อยู่บนรถเข็น ได้เจ็บจนใกล้จะสลบไปแล้ว

แม่ของเฉินตานตานเห็นลูกสาวเจ็บปวดขนาดนั้นแล้วก็ได้พุ่งตรงเข้าไปยังซูสือเยว่ทันที

“เธอมันเป็นผู้หญิงที่น่าขยะแขยงเสียจริง!”

“เปิดสถานฝึกศิลปะป้องกันตัวหรง อะไรกัน เธอมันเลวทรามต่ำช้า!”

ตอนที่เธอพุ่งเข้าไปหาซูสือเยว่ ซูสือเยว่ก็ย่นคิ้วออกมา อันที่จริงก็ได้เตรียมตัวรับมือเอาไว้เรียบร้อยแล้ว

แต่ว่า——

ผู้หญิงวัยกลางคนพุ่งเข้าไปได้ครึ่งทาง มือข้างหนึ่งได้ยื่นออกมา เข้ามาขวางเธอเอาไว้

ฉินโม่หานบีบมือของผู้หญิงคนนั้นกลับไปทันที

“ท่านชายฉิน?”

ผู้หญิงคนนั้นเงยหน้าขึ้นมา มองชายคนตรงหน้าไปอย่างตื่นตะลึง

คนที่อยู่โดยรอบต่างพากันช็อกกันขึ้นมา

ท่านชายฉินแห่งฉินซื่อกรุ๊ป ฉินโม่หาน

เขาไม่ใช่ว่าปกติแล้วจะงานยุ่งมาก เป็นคนที่โผล่หน้าออกมาเป็นแวบๆแล้วก็หายไปหรอกหรอ?

ทำไมถึงได้มาปราฏอยู่ตรงที่หน้าประตูทางเข้าสถานฝึกศิลปะป้องกันตัวหรง เล็กๆนี้ได้ แล้วยังเข้ามาขัดขวางการโจมตีให้กับเจ้าของที่น่าเกลียดคนนี้อีก?

“ฉันเอง”

ฉินโม่หานแสยะริมฝีปากออกมา ร่างสูงใหญ่ที่ทรงพลังกำลังยืนอยู่ตรงหน้าของหญิงสาว สายตาประดับไปความเยือกเย็นออกมา

“ปากบอกคำแล้วคำเล่าว่ารักลูกสาว แล้วยังสมัครคลาสศิลปะป้องกันตัวให้ลูกเพื่อความปลอดภัยของลูกสาว…”

“ทำไมลูกสาวเจ็บนกลายเป็นอย่างนี้แล้ว ยังไม่ไปโรงพยาบาลอีก?”

คำพูดของชายหนุ่มได้ทำให้พ่อแม่ของเฉินตานตานย่นคิ้วออกมา “พวกเราจนไง!”

“พวกเราไม่มีเงิน…”

“ถ้าไม่มีเงินล่ะก็ โอเค”

ชายหนุ่มแสยะยิ้มออกมา หันหน้าไปชำเลืองมองไป๋ลั่ว “พาพวกเขาไปโรงพยาบาล ค่าใช้จ่ายพยาบาลทั้งหมดฉันจะออกไปก่อนเอง”

ไป๋ลั่วพยักหน้าตอบรับออกมา “ครับ”

พูดจบฉินโม่หานก็กวาดสายตามองสามคนพ่อแม่ลูกไปนิ่งๆ “ยังไม่ไปอีก?”

แม่คนนั้นก็ได้ย่นคิ้วออกมา แลกเปลี่ยนสายตากับคนที่เป็นพ่อไป

สุดท้ายแม่ของเฉินตานตานได้เข็นเฉินตานตานเดินตามไป๋ลั่วออกไป

แต่พ่อของเฉินตานตานยังคงอยู่ที่เดิม

ฉินโม่หานแสยะริมฝีปากออกมา มองชายวัยกลางคนคนนั้นไปนิ่งๆ “ไม่ไปดูลูกสาวสักหน่อย?”

คุณพ่อเฉินย่นคิ้วออกมา ยกมือขึ้นมาชี้ซูสือเยว่

“นังผู้หญิงชั่วคนนี้ยังไม่ชดใช้ค่าเสียหายมาเลย!”

“อีกอย่างถึงแม้ว่าคุณฉินจะยอมจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้พวกเรา มันก็ไม่ควรจะลอยลวนไปอย่างนี้!”

“มันเองก็ควรจะชดใช้เงินให้กับลูกสาวของฉันด้วย!”

ฉินโม่หานยักไหล่ออกมา “งั้นคุณก็ไม่สนความปลอดภัยที่แท้จริงของลูกสาวตัวเอง อยู่ที่นี่ต่อก็เพื่อให้เจ้าของสวี่ชดใช้เงินให้?”

คุณพ่อเฉินเงียบไปสักพักหนึ่ง แล้วก็ได้พยักหน้าออกมาอย่างแรง “ใช่!”

“ก็แค่อยากให้ยัยผู้หญิงจิตใจชั่วช้าคนนี้ชดใช้เงินมา!”

“หล่อนชดใช้เงินมาแล้ว พวกเราถึงจะ…”

“เป้าหมายของพวกนายถึงจะบรรลุผลสำเร็จ”

ฉินโม่หานแสยะริมฝีปากออกมา “คลาสฝึกศิลปะการป้องกันตัวผู้หญิงที่มีราคาคลาสละหนึ่งหยวน เป้าหมายเพียงเพื่อให้เหล่าเด็กผู้หญิงที่บ้านยากจนมีโอกาสได้เข้าเรียนคลาสนี้กันได้”

“แต่พวกนายกลับคิดกันว่าจะมาใส่ร้ายรีดไถเงินกันยังไง”

พูดจบ ชายหนุ่มก็ได้หยิบโทรศัพท์ออกมา อ่านข้อมูลที่อยู่ในโทรศัพท์ไปนิ่งๆ

“เฉินเจี้ยนฮั๋ว เพศชาย อายุ46ปี ผู้ต้องสงสัยคดีต้มตุ๋นรีดไถเงินหลายคดี มักจะใช้วิธีการก่ออาชญากรรมโดยใช้ครอบครัวมารวมหัวกันเป็นหมู่คณะ…”

คำพูดของฉินโม่หานทำให้คุณพ่อเฉินเลือดขึ้นหน้าขึ้นมาทันที

“นี่ไม่ใช่…มันไม่ใช่ความจริง!”

“เรื่องโกหกทั้งนั้น!”

“งั้นเหรอ?”

ฉินโม่หานแสยะริมฝีปากดูเวลาไป “ตำรวจก็ใกล้จะมาถึงแล้ว”

“คำพูดของตำรวจ คงจะไม่มีทางเป็นเรื่องโกหกหรอกมั้งใช่มั้ย?”

คำพูดนี้ของเขาพูดออกมา สีหน้าของเฉินเจี้ยนฮั๋วไปเปลี่ยนไปทันที แล้วก็ได้ผันร่างเบียดหนีเข้าไปในกลุ่มคนทันที

หลังจากที่กลุ่มคนตกตะลึงตาค้างกันอยู่นั้นเอง ก็ได้เข้าใจกันขึ้นมา

นี่สวี่หรงเจ้าของสวี่…ถูกมิจฉาชีพรีดไถเงิน

“นึกไม่ถึงว่าคลาดเรียนคลาสละหนึ่งหยวนยังถูกรีดไถเงินได้อีก…”

“ช่างน่าสงสารจริงๆเลย…”

เห็นผู้คนทอดถอนหายใจ ทยอยแยกย้ายกันออกไป

รอจนเหล่าผู้คนเดินกันออกไปเสร็จแล้ว ฉินโม่หานก็ได้ผันร่างกลับมา มองซูสือเยว่ไปอย่างอ่อนโยน “คุณไม่เป็นไรใช่มั้ย?”  

  

สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ

สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ

หลังข่าวลือที่เสียโฉม ท่านชายฉินโหดร้ายอำมหิต ทำคู่หมั้นตายติดต่อกันสองคน ผู้หญิงทั้งเมืองไม่มีใครกล้าแต่งงานด้วย แต่ซูสือเยว่กลับแต่งสาวน้อย ต่อไปให้ฉันปกป้องเธอเองเพิ่งแต่งงาน เธอก็ถูกลูกน้อยน่ารักน่าหยิกสองคนแย่งกันอย่างคลั่งใคล้ซะแล้ว……

Comment

Options

not work with dark mode
Reset