บทที่ 32 ให้เฉิงเซวียนคุกเข่าอ้อนวอนขอโทษคุณ
เถ้าแก่หวงตกใจ “ไล่ออกเหรอ”
ซูสือเยว่พยักหน้า “คุณให้ฉันมา……ไม่ใช่เพราะเรื่องที่เป็นข่าวในโซเชียล……”
“ข่าวอะไรบนโซเชียล”
เถ้าแก่หวงหันไปมองเลขาที่อยู่ข้างๆด้วยสีหน้าสงสัย “มีเรื่องอะไรในโซเชียลเหรอ”
เลขาชะงักไปเล็กน้อย รีบโน้มตัวมา พูดอะไรข้างหูเถ้าแก่หวง
เถ้าแก่หวงขมวดคิ้ว สีหน้าท่าทางเปลี่ยนเป็นเคร่งเครียดจริงจังขึ้นมา
ซูสือเยว่ถอนหายใจอย่างจนปัญญา
ดูท่าแล้วก็คงหนีไม่พ้นชะตากรรมถูกไล่ออก
ตอนที่เธอกำลังจะเป็นฝ่ายขอลาออกนั้น เถ้าแก่หวงก็หันมายิ้มอย่างประจบเอาใจ “สือเยว่ คุณสบายใจได้ ข่าวในโลกโซเชียลผมจะจัดการให้”
“ผมจะให้คนไปขึ้นบัญชีดำเซี่ยงหวั่นฉิงเดี๋ยวนี้!”
พอพูดประโยคนี้ออกมา ไม่เพียงแค่ซูสือเยว่ แม้แต่บรรดาพนักงานด้านหลังของเถ้าแก่หวงที่เตรียมดูเรื่องสนุกนั้นก็ต่างอึ้งไปกันหมด
เลขาถึงกับต้องค่อยๆเข้ามาเตือนด้วยเสียงเบาๆว่า “คนที่ควรจะบล็อก คือซูสือเยว่ถึงจะถูกนะคะ”
เถ้าแก่หวงขมวดคิ้ว “ที่ขึ้นบัญชีดำคือหล่อนเซี่ยงหวั่นฉิง เอาวิดีโอในกองถ่ายไปบิดเบือนข้อเท็จจริง!”
“สือเยว่ของพวกเราเป็นนักแสดงแทนที่ดีมาก นิสัยดีมีรสนิยมสูง ทั้งยังมีจรรยาบรรณในวิชาชีพ จะไปยั่วยวนคนธรรมดาอย่างเฉิงเซวียนในกองถ่ายแบบนั้นได้ยังไง!”
พูดจบ เขาก็ยิ้มกรุ้มกริ่มมองไปที่ซูสือเยว่ “สือเยว่ ที่นี่ไม่ใช่ที่จะมาพูดคุยกัน เข้าไปพวกเราไปคุยกันดีๆ”
ซูสือเยว่ตกใจจนหุบปากไม่ลงแล้ว
นี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ย!
เธอถูกเถ้าแก่หวงพาตัวไปที่ห้องรับรองแขกVIPของอาคารอำนวยการด้วยความมึนงง
เถ้าแก่หวงบริการรินน้ำชาให้เธอด้วยตนเอง “ผมสั่งการลงไปแล้ว วิดีโอนั้นถูกลบทิ้งไปแล้ว คุณสบายใจได้ เรื่องนี้จะไม่มีผลกระทบอะไรใดๆกับหน้าที่การงานของคุณ”
เมื่อคืนหลังจากที่ฉินโม่หานไปแล้ว เถ้าแก่หวงคิดไตร่ตรองมาตลอดทั้งคืน
คนอื่นพูดว่าท่านชายฉินทั้งอัปลักษณ์ทั้งอารมณ์ดุร้าย แค่เมื่อคืนท่านชายฉินที่เขาเห็น แตกต่างกับที่คนอื่นบอกเล่ากันอย่างสิ้นเชิง!
คนอื่นยังพูดด้วยว่าท่านชายฉินไม่สนใจใยดีภรรยาที่แต่งงานใหม่เลยแม้แต่น้อย ทุบตีด่าทอ แต่เมื่อคืนที่เขาเห็นท่านชายฉินปฏิบัติกับเธอ อย่างทะนุถนอมเหมือนกลัวจะโบยบินหนีไป อมไวในปากก็กลัวจะลาย!
แม้ว่าเถ้าแก่หวงจะไม่รู้ว่าทำไมท่านชายฉินถึงได้แต่งงานกับนักแสดงแทนคนหนึ่ง แต่เขารู้ว่า ทำให้ซูสือเยว่มั่นคง ไม่แน่ว่าต่อไปอาจจะได้รับการลงทุนจากฉินซื่อกรุ๊ป
คิดมาถึงตรงนี้ รอยยิ้มบนใบหน้าของเถ้าแก่หวงก็ยิ่งประจบเอาใจ “สือเยว่ นักแสดงที่ดีแบบคุณนี้ ผมต้องปกป้องอย่างดีแน่นอน”
“ขอแค่คุณทำงานอย่างสบายใจ ต่อไปอย่าพูดถึงว่าเป็นนักแสดงแทนเลย ต่อให้คุณอยากได้ตำแหน่งนักแสดงนำหญิง ผมก็สามารถช่วยให้คุณคว้ามาได้!”
ซูสือเยว่มองเถ้าแก่หวงส่งถ้วยน้ำชามาให้เธออย่างเอาอกเอาใจด้วยความแปลกประหลาดใจ รับก็ไม่ได้ ไม่รับก็ไม่ได้
พักใหญ่ เธอก็ได้แต่ฝืนรับถ้วยน้ำชามา “เอ่อคือ……ทำไมคุณถึงดีกับฉันขนาดนี้คะ”
เถ้าแก่หวงนั้นไม่ใช่คนที่อ่อนโยนเป็นมิตรขนาดนี้
ท่าทางแบบนี้ของเขา ทำให้เธอตื่นตระหนกอย่างบอกไม่ถูก
“เพราะว่า……”
คำพูดของเถ้าแก่หวงยังพูดไม่ทันจบ ประตูห้องรับรองแขกก็ถูกคนเคาะเปิดออกแล้ว
คนที่เข้าประตูมาก็คือหัวหน้าผู้กำกับของละครเรื่อง《ชั่วฟ้ากาลเวลา》
“เถ้าแก่หวง ผมขอร้องให้เปลี่ยนตัวนักแสดงแทนคนที่ยั่วยวนเฉิงเซวียนเมื่อวานคนนั้น”
พอเขาเอาก้นนั่งลงตรงข้ามซูสือเยว่ ก็เอ่ยปากร้องเรียนทันที “เมื่อครู่ผมทะเลาะกับลั่วเยียนที่กองละคร ในด้านของนักแสดงไม่เห็นด้วยที่จะเปลี่ยนตัวแสดงแทน ผมก็ได้แต่มาหาคุณ……”
เห็นได้ชัดว่า ผู้กำกับจำซูสือเยว่ไม่ได้ ยังคงพล่ามต่อไปไม่หยุด
“เมื่อกี้ผู้จัดการของเฉิงเซวียนมาหาผมแล้ว บอกว่าเรื่องนี้มีผลกระทบกับความรู้สึกของเฉิงเซวียนและเซี่ยงหวั่นฉิง ถ้าไม่เปลี่ยนตัวนักแสดงแทนคนนี้ ก็จะปฏิเสธที่จะแสดงด้วย”
“นักแสดงแทนที่ไร้จรรยาบรรณในวิชาชีพแบบนี้ ก็ควรจะขึ้นบัญชีดำ ……”
“อย่างนั้นก็ปล่อยให้เขาปฏิเสธไปเลย”
เถ้าแก่หวงตัดบทเขา ค่อยๆรินชาในถ้วยพร้อมจิบอย่างแผ่วเบา “คิดว่าเขาหน้าตาหล่อเหลาขนาดไหนเชียว คนถึงอยากจะยั่วเขา เขามีคุณสมบัติอะไร!”
พูดจบ เขายังมองมาที่ซูสือเยว่แวบหนึ่งอย่างประจบเอาใจ “สือเยว่ ผมพูดถูกมั้ย”
ซูสือเยว่:“……”
ผู้กำกับคนนั้นตกใจจนพูดอะไรไม่ออกอยู่นานสองนาน
ผ่าไปพักใหญ่ เขาพูดด้วยเสียงแผ่วเบาว่า “การลงทุนของละครเรื่องนี้คือสองพันล้าน ถ่ายทำมาได้ครึ่งเรื่องแล้ว ถ้าเฉิงเซวียนถอนตัว แผนการทุกอย่างก็จะถูกทำให้วุ่นวาย เงินสองพันล้านก็จะหายวับไป”
เถ้าแก่หวงส่งเสียงฮึ่มในลำคอ “ไม่ใช่สองพันล้านเหรอ”
“อย่าคิดว่าจะใช้เงินสองพันล้านลักพาความยุติธรรม!”
เขาพูดอย่างมีเหตุผลเต็มที่ ท่าทางทรงพลัง
ขอแค่ประจบเอาใจซูสือเยว่ เขายังจะกลัวว่าจะไม่ได้เงินสองพันล้านคืนเหรอ
ผู้กำกับใช้สายตาเหมือนมองคนปัญญาอ่อนมองมาที่เขา “เช้าตรู่แล้วยังไม่ตื่นนอนเหรอ”
“ผมไม่สนว่าคุณคิดยังไง อย่างไรก็ตามเฉิงเซวียนจะถอนตัวไม่ได้แน่นอน!”
พูดจบ เขาก็ลุกขึ้นอย่างโมโห “ถ้าคุณไม่ขึ้นบัญชีดำนักแสดงแทนคนนั้น ผมจะร่วมมือกับทุกคนทั้งสตูดิโอลาออก คว่ำบาตรคุณ!”
“ปัง——!”
ตอนที่ไป หัวหน้าผู้กำกับกระแทกประตูปิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว
“ไม่มีมารยาท!”
หลังจากเถ้าแก่หวงมองด้านหลังเขาพลางด่าทอแล้ว ก็หันหน้ามา ยังคงมองซูสือเยว่ด้วยรอยยิ้มอ่อนๆ “สือเยว่คุณไม่ได้ตกใจนะ”
ซูสือเยว่กัดฟันกรอด
ต่อให้เธอจะโง่แค่ไหน ก็มองออกว่าเถ้าแก่หวงในวันนี้ไม่ปกติ
เขาคือเจ้านายที่อยากจะให้บรรดานักแสดงทำงานล่วงเวลา ทุกปีทั้ง365วัน
จะไปไปได้อย่างไรที่เขาจะยอมสูญเงินสองพันล้าน เพื่อคนธรรมดาคนหนึ่งอย่างเธอนี้
เธอกัดริมฝีปาก “เถ้าแก่หวง อย่างนั้นฉันลาออกเถอะนะคะ”
“เพื่อฉัน ไม่คุ้มค่าหรอกค่ะ”
เถ้าแก่หวงมองเธอพลางยิ้มอย่างประจบสอพลอ “คุณควรค่าพอ คุณมีคุณค่าพอแน่นอน”
“คุณเป็นภรรยาของท่านชายฉิน ขอแค่คุณไปขอสามีคุณ อย่าว่าแต่สองพันล้านเลย ต่อให้เป็นสองหมื่นล้าน สำหรับท่านชายฉินแล้ว ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร”
ซูสือเยว่ตกใจ
เธอเข้าใจ
สาเหตุที่วันนี้เถ้าแก่หวงผิดปกติขนาดนี้ เพราะเขารู้แล้วว่า เธอคือภรรยาของฉินโม่หาน
ภรรยาของท่านชายฉินที่มีมูลค่าหลายแสนล้าน
อารมณ์บางอย่างที่อธิบายไม่ได้เกิดขึ้นในใจของเธอ เธอมองไปที่ใบหน้าของเถ้าแก่หวง ยิ้มแล้ว “ถ้าอย่างนั้นคุณก็ตีค่าฉันสูงกินไปแล้วจริงๆ”
“ฉันคือฉัน เขาคือเขา”
“เขาเก่งมาก แต่ฉันไม่เก่ง ฉันไม่มีทางร้องขอการปกป้องช่วยเหลือจากเขาในเรื่องงาน”
เอสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ลุกขึ้นยืน “ถ้าคุณอยากจะใช้ฉันเป็นสะพานเชื่อมไปหาท่านชายฉิน ต้องขอโทษด้วย ที่คิดมากเกินไปแล้ว”
“ฉันไม่สามารถนำรายได้สองพันล้านมาให้คุณได้ ดังนั้นเถ้าแก่หวงก็รับฟังข้อเสนอแนะของทุกคนเถอะค่ะ”
พูดจบ หญิงสาวหยิบกระเป๋าถือตนเองขึ้นมา หมุนตัวเดินจากไป “ไม่ต้องให้คุณไล่ฉันออก ฉันไปด้วยตัวเอง”
เดินออกมาจากอาคารอำนวยการ ซูสือเยว่ถอนหายใจยาวอย่างโล่งอก
เมื่อเทียบกับการใช้ฉินโม่หานมาทำข้อแลกเปลี่ยนกับเถ้าแก่หวงเธอก็ยังเลือกที่จะยอมตกงาน
อย่างน้อยก็ไม่ต้องรู้สึกผิดต่อใจของตนเอง
เวลานี้ รถยนต์คันหนึ่งจอดข้างๆเธอ
กระจกรถยนต์เลื่อนลง เผยให้เห็นใบหน้าของชายหนุ่มที่คมคาย “ซิงหยุนบอกว่า คุณจะตกงาน”
“ผมได้รับคำสั่งให้มารับคุณกลับบ้าน”
ในเวลาแบบนี้ได้พบกับฉินโม่หาน ทันใดนั้นหัวใจของซูสือเยว่รู้สึกอบอุ่นขึ้นมาบ้าง
เธอเปิดประตูรถเข้าไปนั่ง “ในเมื่อรู้ว่าฉันตกงานแล้ว ทำไมไม่ช่วยฉันรักษางานเอาไว้”
ชายหนุ่มกระตุกมุมปากยิ้มอ่อนๆ “พวกเขาจะต้องขอร้องให้คุณกลับมา”
ซูสือเยว่เบะปาก “เถ้าแก่หวงต้องขอร้องให้ฉันกลับมาจริงๆ”
ในเมื่อในสายตาของเถ้าแก่หวง เธอเป็นดั่งต้นเรียกเงินเรียกทอง
ฉินโม่หานหยีตา “ที่ผมพูดถึงไม่ใช่เขา”
เขาหันไปมองใบหน้าที่เล็กเท่าฝ่ามือของเธอ “ผมจะให้เฉิงเซวียนคุกเข่าขอร้องคุณ”