สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ – ตอนที่ 321 ต้องซื้อยาให้คุณมั้ย

มองดูข้อความที่หญิงสาวส่งมาในโทรศัพท์มือถือ ซูสือเยว่ขมวดคิ้ว เงยหน้าขึ้นมามองชายหนุ่มที่ยืนอยู่ตรงระเบียงอีกครั้ง

เวลานี้ เขากำลังกระซิบอะไรบางอย่างกับหญิงสาวปลายสาย

เสียงอู้อี้ฟังไม่ชัด เธอได้ยินเขาพูดถึงเรื่อง “ลูกชาย” “รักษาโรค” “ขอบคุณ” อะไรประมาณนี้

ซูสือเยว่กระตุกมุมปาก เปลี่ยนเป็นท่าที่สบายนั่งพิงหัวเตียงมองดูชายหนุ่มที่ระเบียง

ดังนั้น เจียงหลีที่คุยโทรศัพท์กับฉินโม่หานพลาง ก็จงใจเพิ่มเธอเป็นเพื่อนไปด้วยพลาง จงใจที่จะโอ้อวดเพื่อข่มกันใช่หรือไม่

แม้จะมีสัญญาณโทรศัพท์กั้นอยู่ แต่ซูสือเยว่ก็พอจะจินตนาการได้ว่า เจียงหลีในตอนนี้ สะใจมากขนาดไหน

เธอคงรู้สึกสะใจมากที่พวกเขาสองสามีภรรยาต่างก็อยู่ในเงื้อมมือเธอ ให้เธอกลั่นแกล้งได้ตามต้องการเหรอ

คิดมาถึงตรงนี้ ซูสือเยว่หาว ตอบกลับเจียงหลีไปอย่างเรียบเฉย

“อ๋อ ฉันรู้แล้ว”

เจียงหลีที่อยู่ปลายสายนั้นนั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ ฟังเสียงที่ทั้งเกรงใจทั้งอ่อนโยนของฉินโม่หานทางนั้นไปพลาง มองข้อความที่ซูสือเยว่ตอบกลับมาพลาง

ใบหน้าที่สวยงามของหญิงสาวบูดเบี้ยวขึ้นมา

อ๋อ รู้แล้วเหรอ

นี่ถือเป็นปฏิกิริยาตอบกลับแบบไหน

ก่อนหน้านี้ซูสือเยว่อยู่ที่เมืองสตัฟฟ์  พอรู้ว่าฉินโม่หานกับหยางชิงโหยวมีการหมั้นหมายกัน โกรธจนวิ่งออกไปตากฝนเลยไม่ใช่หรือ

ทำไมปฏิกิริยาในวันนี้ถึงได้เรียบเฉยขนาดนี้

เพราะวันนี้อากาศดีไม่มีฝนตกเหรอ

คิดมาถึงตรงนี้ เจียงหลีกัดปากแน่น สองมือที่วางอยู่บนแป้นพิมพ์ยังคงพิมพ์ต่อไป “เธอคอยดูเถอะ ฉันจะแย่งเขามาสักวัน”

แต่คำตอบที่ซูสือเยว่ตอบกลับเธอ ยังคงเป็นคำง่ายๆแค่ไม่กี่คำ

“อ้อ ได้ เธอสู้ๆนะ”

เจียงหลีจับจ้องที่ตัวอักษรไม่กี่ตัวบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ โกรธจนสองมือกำเป็นหมัดแน่น

“ทำไมเธอถึงไม่หึงล่ะ”

เธอกัดฟัน เสียงแทบจะลอดไรฟันออกมา

ฉินโม่หานที่กำลังคุยโทรศัพท์กับเธอนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง

“คุณหมอเจียง คุณพูดว่าอะไรนะครับ”

เจียงหลีชะงักไปทันที จึงคิดได้ว่าตนเองสติหลุด เผลอพูดความในใจออกมา

เธอกระแอมเบาๆ “ไม่มีอะไรค่ะ”

“ท่านชายฉิน คุณพูดต่อเลยค่ะ ก่อนหน้านี้ลูกชายของคุณจากเมืองฝั่งตะวันออกไปโผล่ที่เมืองฝั่งตะวันตก จากนั้นล่ะคะ”

ฉินโม่หานขมวดคิ้ว เหลือบมองไปในห้องโดยไม่รู้ตัว

ซูสือเยว่ไม่รู้ว่าตื่นขึ้นมาเมื่อไหร่ ตอนนี้กำลังนั่งพิงหัวเตียงกดโทรศัพท์มือถืออยู่

สัมผัสได้ว่าชายหนุ่มที่ยืนอยู่ที่ระเบียงกำลังมองตนเองอยู่ ซูสือเยว่เงยหน้าขึ้นมามอง ส่งสายตาไปทางเขาอย่างเงียบๆ กวักมือ แสดงความหมายให้เขาเข้ามา

ฉินโม่หานนิ่งเงียบอยู่ชั่วครู่ จากนั้นก็พูดเรื่องก่อนหน้านี้ต่อ “เกี่ยวกับซิงเฉินที่วิ่งจากเมืองฝั่งตะวันออกไปยังเมืองฝั่งตะวันตกผมยังหาหลักฐานที่สามารถพิสูจน์ว่าเขาไปได้อย่างไรไม่ได้ในตอนนี้”

“นี่ยังคงเป็นปริศนาจนถึงตอนนี้”

“แต่ว่าบนแขนของซิงเฉิน ถูกพบว่ามีรอยเข็มเจาะ พวกเราสงสัยว่ามีคนฉีดยาอะไรบางอย่างให้เขา จึงทำให้เขาหมดสติ กลายสภาพมาเป็นผักอยู่ในตอนนี้”

“แต่ว่าพวกเรากับหมอก็เคยตรวจกันมาสามสี่ครั้งแล้ว ทั้งเลือด ของเหลวในร่างกาย แต่ละอย่างผ่านการตรวจมาแล้วทั้งนั้น”

“ไม่พบสิ่งผิดปกติอะไรทั้งสิ้น……”

ชายหนุ่มพูดไปพลาง เดินไปที่ข้างๆซูสือเยว่พลาง

ซูสือเยว่กระตุกมุมปากยิ้ม เอาโทรศัพท์มือถือของตนเองส่งให้เขา

ฉินโม่หานขมวดคิ้วแล้วรับมา มองเห็นข้อความที่พูดคุยกัน เกือบจะหัวเราะออกมา

เขามองซูสือเยว่อย่างไม่รู้จะทำยังไงดี ทำปากขมุบขมิบสองคำเป็นคำว่า

ซุกซน

ซูสือเยว่ยักไหล่ โบกไม้โบกมือไปทางเขา แสดงความหมายว่าให้เขาไปคุยโทรศัพท์ที่ระเบียงต่อได้

เวลานี้เอง ข้อความของเจียงหลีก็ส่งมาอีก “ซูสือเยว่ เธอตกใจจนปัญญาอ่อนไปแล้วเหรอ”

“ฉันบอกว่าจะแย่งสามีเธอนะ นี่เธอตอบโต้อะไรของเธอ”

ซูสือเยว่กระตุกมุมปาก ในที่สุดก็หมดความอดทนแล้ว

หญิงสาวเปลี่ยนท่าทางเป็นท่าพิงหัวเตียงสบายๆ ถอนหายใจเบาๆ ใช้นิ้วมือพิมพ์ตัวอักษรบนหน้าจอ

“นี่ฉันก็ตอบโต้เป็นปกติแล้วนะ”

“คุณหมอเจียง ฉันคิดว่าคุณรู้ ว่าผู้ชายที่ทั้งรวย ทั้งหล่อ และเก่งจนยืนอยู่บนยอดสุดของห่วงโซ่อาหารอย่างสามีฉันแบบนี้ ทุกวันมีผู้หญิงที่ตกหลุมรักเขาตั้งแต่แรกเห็น ต่อแถวยาวจากเมืองฝั่งตะวันออกจนถึงเมืองฝั่งตะวันตก”

“ฉันไม่ใช่ว่าจะต้องมาสนใจผู้หญิงทุกคนที่ชอบเขา”

“คุณชอบ ก็ชอบไปสิ”

“คุณอยากจะแย่งเขาไป OK ความคิดดีมาก ฉันจะรอดู”

คำตอบของหญิงสาว ทำให้เจียงหลีที่อยู่ปลายสายอีกด้านนั้นโกรธจนกำหมัดด้วยมือข้างเดียว ทุบลงบนโต๊ะอย่างแรง

เสียงดัง “ปึง” ดังขึ้นมา จากนั้นก็มีเสียงผู้หญิงที่ร้องอย่างเจ็บปวดดังขึ้นมาตามสัญชาตญาณ “โอ้ย——!” ดังขึ้นมา

ฉินโม่หานเข้าใจได้ในทันทีว่าเกิดอะไรขึ้นที่ปลายสายนั้น

ชายหนุ่มกลั้นขำไว้ แกล้งถามอย่างห่วงใยว่า “คุณหมอเจียง เป็นอะไรครับ”

เจียงหลีเจ็บจนคิ้วขมวด แต่จะเผยพิรุธต่อหน้าฉินโม่หานไม่ได้ ดังนั้นจึงกัดฟันตอบว่า “ไม่เป็นไรค่ะ เมื่อครู่ฉันไม่ได้ระวังเลยชนขาโต๊ะค่ะ”

“อย่างนั้นคุณควรจะระวังจริงๆแล้วนะครับ”

ฉินโม่หานเอ่ยพลางหัวเราะเบาๆ “ให้ผมขับรถพาคุณไปส่งโรงพยาบาลมั้ยครับ”

เจียงหลีดวงตาเป็นประกาย “ดีเลยค่ะ”

“งั้นคงต้องรบกวนท่านชายฉินแล้วนะคะ!”

ซูสือเยว่ไม่ได้บอกว่า ถ้าเธอคิดจะแย่งฉินโม่หานต้องกล้าหาญมากขึ้นหรอกหรือ

อย่างนั้นตอนนี้เธอก็จะให้ฉินโม่หานไปส่งเธอที่โรงพยาบาล จากนั้นก็จะถ่ายรูปส่งให้ซูสือเยว่ดู!

คิดมาถึงตรงนี้ เธอก็รีบบอกหมายเลขห้องพักของโรงแรมที่ตนเองพักอยู่กับฉินโม่หาน

“ได้ ผมจะไปรับคุณเดี๋ยวนี้เลย”

พูดจบ ชายหนุ่มก็วางสายอย่างอ่อนโยน

เก็บโทรศัพท์มือถือ เขาสาวเท้ากลับไปที่ห้องนอน

ซูสือเยว่วางโทรศัพท์ลงแล้วล้างหน้าล้างตาเรียบร้อย กำลังนั่งพิงหัวเตียงอ่านหนังสืออยู่

มองเห็นเขาเข้ามา หญิงสาวขมวดคิ้ว “คุยกับคุณหมอเจียงคนดีของคุณเสร็จแล้วเหรอคะ”

ฉินโม่หานหัวเราะเบาๆ “แน่นอนครับ”

เขายกมือขึ้นมา ลูบที่ศีรษะของซูสือเยว่เบาๆ “คนเขาถูกคนทำให้โกรธจนเดินชนขาโต๊ะ อยากจะให้ผมพาไปส่งโรงพยาบาล แน่นอนว่าต้องวางสายสิครับ”

ซูสือเยว่ตกใจ จากนั้นก็หัวเราะจนท้องแข็ง

“ก็แค่นี้เหรอ”

แค่นี่ก็โกรธจนชนขาโต๊ะแล้วเหรอ

เธอก็แค่พูดไปตามความจริงเท่านั้น ไม่ได้พูดอะไรที่ไม่ควรจะพูดกับเจียงหลีเลยจริงๆนะ

นับตั้งแต่วันแรกที่แต่งงานกับฉินโม่หาน เธอก็รู้ว่าผู้หญิงที่ชอบฉินโม่หานมีไม่น้อย

ถ้าเธอต้องไปสนใจ ต้องหึงหวงผู้หญิงทุกคนที่ชอบฉินโม่หาน ตอนนี้เธอคงช้ำใจตายไปนานแล้ว

“อืม”

ฉินโม่หานโน้มตัวมา จูบลงบนหน้าผากเธอเบาๆ “เหนื่อยมั้ย”

“ยังเจ็บมั้ย”

เจ็บเหรอ

ซูสือเยว่มองเขาอย่างงงๆ

ชายหนุ่มเลื่อนสายตามองลงมาตามร่างกายของเธอด้วยสายตาที่คลุมเครือ สุดท้ายก็วางมือลงตรงตำแหน่งท้องน้อยของเธอ “เมื่อวานคุณเอาแต่พูดว่าเจ็บ”

“ยังบอกว่าจะแตกแล้วด้วย”

“ยังเจ็บอยู่มั้ย”

หน้าซูสือเยว่แดงราวกับกุ้งต้มขึ้นมาทันที!

เมื่อวานเธอบอกว่าเจ็บ ความจริงแล้วไม่ได้เจ็บ แต่เพื่อจะให้เขาเบาลงหน่อยเท่านั้น!

ผลปรากฏว่าชายหนุ่มไม่เพียงไม่ได้เบาลง แต่กลับยิ่งรุนแรงหนักขึ้น

มาถึงวันนี้ ผ่านไปคืนหนึ่งแล้ว จึงได้มาถามว่าเธอเจ็บหรือไม่!

ใบหน้าเธอร้อนผ่าว เบนหน้าหนีไม่กล้ามองเขา “คุณคิดว่ายังไงล่ะ”

ชายหนุ่มยิ้มอย่างอ่อนโยน “ถ้าให้ผมพูด ก็คือยังเจ็บอยู่”

“อีกเดี๋ยวผมจะไปโรงพยาบาลพอดี ให้ผมเอายามาให้คุณมั้ย”

ซูสือเยว่ “……”

คุณฉินโม่หาน คุณจำไม่ได้เหรอว่าคุณจะไปทำอะไรที่โรงพยาบาล

คือไปอ่อยผู้หญิงนะ… ไม่ใช่ไปให้ผู้หญิงอ่อย!

จะซื้อยาแบบนี้ให้เมียตัวเอง ในเวลาแบบนี้จริงๆเหรอ

“ถ้าคุณซื้อยาให้ฉัน……”

“คุณหมอเจียงไม่ต้องชนขาโต๊ะอีกเหรอ”

สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ

สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ

หลังข่าวลือที่เสียโฉม ท่านชายฉินโหดร้ายอำมหิต ทำคู่หมั้นตายติดต่อกันสองคน ผู้หญิงทั้งเมืองไม่มีใครกล้าแต่งงานด้วย แต่ซูสือเยว่กลับแต่งสาวน้อย ต่อไปให้ฉันปกป้องเธอเองเพิ่งแต่งงาน เธอก็ถูกลูกน้อยน่ารักน่าหยิกสองคนแย่งกันอย่างคลั่งใคล้ซะแล้ว……

Comment

Options

not work with dark mode
Reset