สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ – ตอนที่ 322 ฉันไม่คู่ควรกับเขา

ที่โรงแรมเจียงหลีแต่งหน้าทาปากอย่างสวยงาม

ตอนที่รอฉินโม่หานมา เธอได้รับโทรศัพท์จากK

เสียงหญิงสาวที่ปลายสายนั้นทุ้มต่ำแหบพร่าดังผ่านคลื่นโทรศัพท์มา

“ทางคุณนั้นเป็นอย่างไรบ้าง”

“ทุกอย่างราบรื่นดี”

เจียงหลีสะบัดผมอย่างเชิดๆ มุมปากมีรอยยิ้มสะใจ “เมื่อครู่เพิ่งคุยโทรศัพท์กับฉินโม่หาน เขาชอบฉันมากเลย”

“ตอนนี้ฉันกำลังรอเขามารับฉันไปโรงพยาบาล เพราะว่าเมื่อกี้ฉันบอกว่า เท้ากระแทกกับขาโต๊ะ”

Kที่อยู่ปลายสายนั้นส่งเสียงฮึ่มในลำคอ “ชนขาโต๊ะเรื่องเล็กๆแบบนี้ยังจะพาเธอไปโรงพยาบาลอีกเหรอ”

“ช่างเหมือนกับพ่อของเขาจริงๆ ชอบใบหน้าอย่างเธอนี้”

เจียงหลีชะงัก สุดท้ายก็หายใจเข้าลึกๆ “คุณแม่ แผนนี้จะได้ผลจริงๆเหรอคะ”

“คุณลงทุนลงแรงมากมายขนาดนั้น เอาฉันไปทำศัลยกรรมให้หน้าเหมือนกับแม่เขา เขาจะชอบฉันจริงๆเหรอ”

“เขาจะ……เห็นฉันเป็นแม่ของเขาหรือเปล่า”

Kที่อยู่ปลายสายหัวเราะเยาะ “กลัวอะไร”

“หลังจากที่เขาเกิดไม่นาน แม่ของเขานังตัวดีนั่นก็ฆ่าตัวตายแล้ว เขาเคยเห็นเพียงแค่ภาพถ่ายของลู่เนี่ยนโหรวเท่านั้น”

“ตอนนั้นพ่อของเขาก็ตกหลุมรัก หน้าตาแบบนี้ของลู่เนี่ยนโหรวตั้งแต่แรกเห็น เขากับพ่อคล้ายกันขนาดนั้น จะมีอะไรต่างกันเชียวเหรอ”

“เธอก็ยั่วยวนเขาอย่างสบายใจได้ ถ้าผลลัพธ์ไม่เป็นอย่างที่คิด ฉันยังมีแผนอื่นอีก”

“ค่ะ”

เจียงหลีถอนหายใจอีก “ถ้าเขาไม่เห็นฉันเป็นแม่ของเขา ฉันก็น่าจะยังมีความมั่นใจ”

ในเมื่อ ฉินโม่หานเป็นฝ่ายโทรศัพท์หาเธอก่อน เป็นฝ่ายที่จะพาเธอไปโรงพยาบาลเอง เป็นฝ่ายที่พูดเรื่องของเขากับเธอขึ้นมาเองก่อน ทั้งหมดนี้ล้วนพิสูจน์ให้เห็นถึงสถานะของเธอในหัวใจของฉินโม่หาน ว่าไม่เหมือนกับผู้หญิงธรรมดาทั่วๆไป

“จำเอาไว้ เป้าหมายเธอคือซิงเฉิน”

“ยั่วยวนฉินโม่หานให้หลงใหลเป็นแค่เรื่องรอง”

“……ค่ะ”

หลังจากวางสายแล้ว เจียงหลีก็ถอนหายใจอีก ก้าวเท้าเดินไปข้างหน้าต่างกระจกบานใหญ่ ก้มลงมองดูรถราที่วิ่งกันขวักไขว่ข้างนอกนั่น

ความจริงแล้วเธอเป็นเด็กกำพร้าที่Kรับมาเลี้ยงดู

ตั้งแต่เด็กจนโต เธอไม่รู้เลยว่าพ่อแม่ที่แท้จริงของตนเองคือใคร

แม้เธอจะไม่รู้ว่าทำไมKถึงได้เลือกเธอท่ามกลางเด็กจำนวนมากมายนับหมื่นนับพันคนจากในสถานสงเคราะห์เด็กกำพร้า แต่เธอรู้ว่า Kคือผู้มีพระคุณของเธอ

ถ้าไม่มีK เธอคงจะตายอยู่ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าไปนานแล้ว

ดังนั้น เธอจึงยอมทำตามทุกอย่างที่Kต้องการ

รวมทั้งการศัลยกรรมนับร้อยครั้ง และการฝึกฝนโดยไม่มีการพักผ่อน

ตอนนี้ ในที่สุดเธอก็ออกมาจากค่ายฝึกได้แล้ว ในที่สุดเธอก็มีโอกาสได้ตอบแทนพระคุณของKที่มีต่อเธอแล้ว

เธอจะต้องไม่ทำเรื่องนี้พังแน่นอน

……

หลังจากนั้นสิบนาที ประตูห้องของเจียงหลีถูกเคาะเสียงดัง

เธอจัดระเบียบอารมณ์ความรู้สึก ไปเปิดประตูด้วยรอยยิ้ม

ด้านนอกประตู ชายร่างสูงใหญ่สวมชุดสูทสีดำยืนอยู่ที่นั่น ภูมิฐาน ทระนงตน

อ่อร่าจากตัวชายหนุ่ม แข็งแกร่งจนทำให้เธออดไม่ได้ที่จะเหลือบมองข้างๆ

สูดหายใจเข้าลึกๆ เธอเงยหน้ามองเขา “ท่านชายฉิน”

“คุณหมอเจียง”

ชายหนุ่มก้มมอง สายตามองไปที่ขายาวๆไร้ซึ่งบาดแผลใดๆของเจียงหลี “ไม่เป็นใช่มั้ยครับ”

เจียงหลีตกใจ แล้วจึงนึกขึ้นได้ ฉินโม่หานจะพาเธอไปหาหมอ “ตรวจขา”

เธอยิ้ม “ความจริงก็ไม่มีอะไรแล้วค่ะ”

“แต่ยังเจ็บอยู่นิดหน่อยค่ะ”

“ฉันคิดว่าจำเป็นต้องไปโรงพยาบาลสักครั้ง”

ฉินโม่หานเหลือบมองเธอทำท่าเหมือนจะยิ้มแต่ก็ไม่ได้ยิ้ม “ผมก็ยังคิดว่า จำเป็นต้องไปตรวจที่โรงพยาบาลสักครั้งนะครับ”

พูดจบ เขาก็ยกขาหมุนตัวทันที เดินไปทางลิฟต์

แต่เจียงหลีกลับยืนอยู่ที่ประตูไม่ขยับ

ฉินโม่หานเดินไปสองสามก้าว รู้สึกได้ว่าหญิงสาวไม่ได้ตามมา ก็ขมวดคิ้วหันไปมอง “มีอะไรเหรอครับ”

เจียงหลียิ้มอย่างเขินๆ ชี้ไปที่ขาของตัวเอง “ขาฉันเจ็บ เดินไม่ได้”

ฉินโม่หานค่อยๆชะงัก

เขายิ้มหรี่ตามอง “อย่างนั้นคุณหมอเจียงรังเกียจผมมั้ยครับ”

เจียงหลีรีบส่ายหน้า “ไม่รังเกียจค่ะ”

ฉินโม่หานสูดหายใจเข้าลึกๆ เดินตรงมาทันที ยกมือขึ้นอุ้มร่างผอมบางของเจียงหลีขึ้นมา

เจียงหลีแกล้งทำเป็นร้องเบาๆว่า “คุณทำอะไรคะ”

ฉินโม่หานหัวเราะเยาะอยู่ในใจ แต่ใบหน้ากลับยิ้มอย่างอ่อนโยน “ขาคุณหมอเจียงเดินไม่ได้ แล้วก็ไม่ได้รังเกียจผมอีกด้วย ผมอุ้มคุณหมอเจียง เป็นขาให้คุณหมอเจียงไม่ถูกเหรอครับ”

เจียงหลีชะงัก

เธอเงยหน้ามองนัยน์ตาลึกล้ำมองไม่เห็นก้นบึ้งของฉินโม่หานคู่นั้น จู่ๆก็ได้ยินเสียงหัวใจตนเองเต้นตึกๆตักๆ

แม้ว่าตอนอยู่ในค่ายฝึก เธอจะฝึกมานับครั้งไม่ถ้วน ว่าจะเข้าใกล้ผู้ชายอย่างไร

แต่ฉินโม่หาน เป็นผู้ชายคนแรกที่เธอมีปฏิสัมพันธ์ด้วย หลังจากที่เธอออกมาจากค่าฝึก

เธอกลับเขินอาย ใจสั่น

สายตาของหญิงสาวจ้องมองไปที่ฉินโม่หาน อารมณ์ในแววตา คลุมเครือไม่ชัดเจน

แขนของฉินโม่หานที่อุ้มเธอเอาไว้ค่อยๆชะงักงันเล็กน้อย

หลังจากนั้นพักหนึ่ง เขาก็หันหน้าไปทางอื่น ก้าวขาอุ้มเธอเดินเข้าไปในลิฟต์

เจียงหลีถูกเขาอุ้มเอาไว้ แม้ว่าเธอจะพยายามอย่างมากแล้วก็ตาม แต่ว่าไม่รู้ทำไมท่าทางที่เขาอุ้มเธอ กลับแฝงด้วยความห่างเหินเล็กน้อย

เธอไม่สามารถทำเหมือนกับนางเอกในละครโทรทัศน์ ที่เอาศีรษะเข้าไปแนบกับแผ่นอกของเขาได้

หลังจากพยายามอยู่หลายครั้งแล้ว สุดท้ายเธอก็ยอมแพ้

หญิงสาวค่อยๆแอบหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา ถ่ายรูปฉินโม่หานอุ้มเธอเอาไว้ ส่งให้ซูสือเยว่

พร้อมกับข้อความว่า

“อ้อมกอดของเขาช่างอบอุ่นเสียจริงๆ”

เวลานี้ ซูสือเยว่กำลังพูดคุยกับฟู๋เชียนเชียน

ฟู๋เชียนเชียนพูดว่า เมื่อคืนเธอพบกับคู่เดตที่ถูกชะตาคนหนึ่ง

แม้ว่าจี้หนานเฟิงจะออกมาก่อเรื่องวุ่นวาย แต่คู่เดตคนนั้นค่อนข้างเป็นคนที่เปิดใจ กลับไม่ได้สนใจอะไร

ดังนั้นวันนี้ฟู๋เชียนเชียนจึงคิดจะนัดเขาต่อไปเพื่อลองคบหากันดู

ซูสือเยว่ขมวดคิ้ว “เธอจะไม่ให้โอกาสจี้หนานเฟิงสักครั้งเลยเหรอ”

“ไม่ใช่ว่าฉันไม่ให้โอกาสเขา แต่เขาไม่ยอมเผชิญหน้ากับหัวใจของตัวเขาเองต่างหาก”

“ความจริงแล้วเขาไม่ได้ชอบฉันเลย เขาชอบแก อาจจะเป็นเพราะงานของเขา”

“ฉันเป็นแค่แฟนคลับของเขา ได้มีความรักกับเขาช่วงระยะเวลาหนึ่ง ฉันก็มีความสุขมากพอแล้ว”

“แต่ว่าฉันก็รู้ดีว่า ฉันไม่คู่ควรกับเขา เขาไม่มีทางชอบฉัน”

“ตอนนี้ที่เขาทำใจไม่ได้ไล่ตามง้อฉัน ต้องเป็นเพราะว่า ระหว่างฉันและเขา ฉันเป็นฝ่ายบอกเลิกเขาก่อน ดาราดังอย่างเขาคงรับเรื่องน่าอับอายแบบนี้ไม่ได้หรอก”

“แต่ความจริงก็คือ ฉันเหมาะกับคู่เดตที่ต้องการเนื้อคู่แต่งงานด้วย จี้หนานเฟิงเหมาะที่จะหาผู้หญิงสวยมากๆ พวกเราไม่ได้เหมาะสมคู่ควรกันเลย!”

ได้ยินคำพูดของฟู๋เชียนเชียน ซูสือเยว่อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมา

“แกไม่เชื่อว่า ช่วงเวลาหนึ่งเดือนที่จี้หนานเฟิงคบหากับแกนั้น เขาจะชอบแกเหรอ”

“จะเป็นไปได้ยังไงล่ะ ฉันไม่ใช่แกนะ ไม่ใช่ลั่วเยียนด้วย หน้าตาอย่างฉันนี่ หาได้เยอะแยะ จี้หนานเฟิงจะโง่ขนาดไหน ก็ไม่มีทางชอบฉัน”

ซูสือเยว่ “……”

เธอกำลังคิดจะพูดคุยกับฟู๋เชียนเชียนเรื่องนี้ต่อ ภาพถ่ายของเจียงหลีก็ส่งมา

หญิงสาวเปิดภาพถ่ายอย่างนิ่งเฉย

เป็นภาพที่ฉินโม่หานอุ้มเธออยู่ในลิฟต์

เธอเหนื่อยเล็กน้อย ดังนั้นจึงส่งข้อความเรียงง่ายให้เจียงหลีสองสามคำ

“ถ่ายรูปไม่ค่อยสวย ควรจะฝึกหน่อยนะ”

ได้รับการตอบกลับจากเธอแล้ว เจียงหลีโกรธจนลูกตาแทบถลนออกมา

เธอส่งเสียงฮึ่มในลำคอ แอบคิดแผนในใจ รอให้อยู่บนรถก่อน เธอจะต้องถ่ายภาพในรถต่อ โจมตีซูสือเยว่ให้เจ็บแสบ!

แต่ที่เธอคาดไม่ถึงก็คือ——

ฉินโม่หานอุ้มเธอออกมาจากประตูโรงแรม เดินมาถึงด้านข้างรถยนต์ ประตูรถก็ถูกเปิดออกจากด้านใน

ซูสือเยว่ที่เพิ่งส่งข้อความให้เธอเมื่อครู่ลงจากรถอย่างเป็นห่วง “ตายแล้ว ขาของคุณหมอเจียงเจ็บขนาดนี้ เดินไม่ได้เลยเหรอคะ”

“รีบขึ้นรถเร็วเข้า ไปเอ็กซเรย์ดูที่โรงพยาบาลดูว่ากระดูกหักหรือเปล่า!”

เจียงหลี “……”

ทำไมซูสือเยว่ถึงมาอยู่ในรถได้!

สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ

สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ

หลังข่าวลือที่เสียโฉม ท่านชายฉินโหดร้ายอำมหิต ทำคู่หมั้นตายติดต่อกันสองคน ผู้หญิงทั้งเมืองไม่มีใครกล้าแต่งงานด้วย แต่ซูสือเยว่กลับแต่งสาวน้อย ต่อไปให้ฉันปกป้องเธอเองเพิ่งแต่งงาน เธอก็ถูกลูกน้อยน่ารักน่าหยิกสองคนแย่งกันอย่างคลั่งใคล้ซะแล้ว……

Comment

Options

not work with dark mode
Reset