สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ – ตอนที่ 340 น่าจะเป็นผลข้างเคียงจากยา

ฉินโม่หานหรี่ตา

เขาพยายามคิดอย่างละเอียดถี่ถ้วน เหมือนกับว่าเมื่อกี้……ตอนที่ขงเนี่ยนโหรวปรากฏตัวออกมานั้น เขาช่วยบังซิงหยุนใครจริงๆ ตามจิตใต้สำนึกของเขา

เพราะเขาสัมผัสได้ว่าซิงหยุนมีความต่อต้านต่อเสียงของขงเนี่ยนโหรว

เขากลัวว่าขงเนี่ยนโหรวจะเป็นผู้หญิงที่มีใบหน้าน่ากลัว แล้วทำให้ซิงหยุนวาดรูปตัว จิตใต้สำนึกก็เลยสั่งให้เขาเอามือไปปิดตาของซิงหยุนเอาไว้

ไม่คิดเลยว่ารายละเอียดเพียงเล็กน้อยแค่นี้ ซิงหยุนกลับมองเห็น แล้วก็ตัดสินใจได้ในทันทีว่าตัวตนของเขาไม่ใช่เฉิงคัง

ระดับความฉลาดกับระดับความอันตรายของผู้หญิงคนนี้ มันเกินกว่าที่เขาคาดคิดเอาไว้

“หลานตัวน้อย มาหาตาเร็ว!”

ตอนที่ฉินโม่หานกับขงเนี่ยนโหรวกำลังคุมเชิงกันอยู่นั้น จี้ว่านเชิ่งที่อยู่ด้านข้างขงเนี่ยนโหรวก็คลี่ยิ้มออกมา แล้วก็ยื่นมือไปหา คำทักทายเขา

“มาให้ตาดูหน่อยซิ น่ารักจังเลย!”

ซิงหยุนกัดริมฝีปาก มองดูผู้ชายที่ผอมจนน่ากลัวเล็กน้อย ก็มีความขี้ขลาดเล็กน้อยเกิดขึ้นที่หัวใจของเขา

แต่ว่า พอคิดว่าเขาคือปู่แท้ๆ ของตัวเอง แถมยังถูกผู้หญิงบ้าคนนี้จะขังมา 20 กว่าเกือบ 30 ปี……

เด็กน้อยลังเลอยู่ครู่หนึ่ง สุดท้ายก็กระโดดลงมาจากตัวของฉินโม่หาน แล้วก็วิ่งไปหาจี้ว่านเชิ่ง แล้วก็ยื่นมือในน้อยไปกอดแขนของจี้ว่านเชิ่งไว้อย่างรู้งาน

ถึงแม้ว่าคุณปู่คนนี้จะไม่เคยรู้จักกับเขามาก่อน บางทีในสายตาของเขาอาจจะไม่ได้เห็นเขาเป็นหลานก็ได้

แต่ว่าเลือดมันย่อมข้นกว่าน้ำ เขารู้สึกอดสงสารชายวัยกลางคนคนนี้ไม่ได้

“เรียบร้อยจริงๆ ……”

จี้ว่านเชิ่งยิ้ม รอยยิ้มของเขาดูทั้งอ่อนโยนและชั่วร้าย

เขาสะบัดแขนของขงเนี่ยนโหรวออก ก้มตัวลงไป พร้อมกับหยิกจมูกของซิงหยุนเบาๆ เราก็เล่นแก้มของซิงหยุนอีกด้วย

“เด็กที่อายุน้อยๆนี่ผิวดีจังเลยนะ”

จี้ว่านเชิ่งอดไม่ได้ที่จะทอดถอนใจ เขาทอดถอนใจไปด้วยพลางพับแขนเสื้อขึ้นมา “ดูผิวของตาสิ”

พอเสื้อของผู้ชายคนนั้นถูกม้วนขึ้น ฉินโม่หานถึงได้เห็นว่า แขนของผู้ชายคนนี้เต็มไปด้วยรูเข็ม

รอยเข็มที่หลงเหลืออยู่จากการเจาะตามเส้นเลือดต่างๆ

มันไม่เกินจริงถ้าจะบอกว่าแขนเขาเหมือนตะแกรง

ดูออกเลยว่า 20 ปีกว่ามานี้ ผู้ชายคนนี้ถูกเข็มเจาะไม่หยุดเลย

ฉินโม่หานมองไปที่แขนผอมๆ ที่เต็มไปด้วยรอยแผลรูเข็ม แววตาเขาก็ดูเจ็บปวด

วันเวลาที่อยู่ที่นี่ สำหรับผู้ชายคนนี้แล้ว น่าจะยากและลำบากมาก

ไม่มีอิสระ ตายไม่ได้ และก็ไม่สามารถมีชีวิตปกติเหมือนมนุษย์ทั่วไปได้……

ซิงหยุนมองดูแขนของปู่ตัวเอง แล้วก็อดไม่ได้ที่จะกัดริมฝีปากด้วยความเจ็บใจ “ผอมมากเลยนะครับ”

“กินเนื้อสัตว์เยอะๆ ให้น้ำหนักขึ้นหน่อยสิครับ”

จี้ว่านเชิ่งหรี่ตา แววตาของเขามีความกระหายเลือด “ใช่ กินเนื้อเยอะๆ ให้น้ำหนักขึ้นก็คงโอเค”

“หนูว่า ถ้ากินเนื้อของเด็กน้อย จะอ้วนขึ้นไหม หืม? ”

คำพูดของผู้ชายคนนี้ ทำให้ซิงหยุนเบิกตาโพลง เขายังไม่ทันดึงสติกลับมา มือทั้งสองข้างของจี้ว่านเชิ่งก็บีบคอซิงหยุนแน่น”

“ผิวนุ่มๆ แบบนี้ เนื้อน่าจะเยอะเลยสิ?”

“ถ้าเกิดว่ากินแกเข้าไป ฉันจะเหมือนแกไหม ผิวเนียนละเอียดหรือเปล่า?”

ผู้ชายคนนี้ยิ่งพูดยิ่งบ้าคลั่ง แสงในดวงตาของเขามันดูกระหายเลือดและบ้าบอ

ฉินโม่หานตกใจ เขารีบพุ่งเข้าไป อยากจะห้ามมือของจี้ว่านเชิ่ง แต่ว่าก็ถูกขงเนี่ยนโหรวห้ามเอาไว้ก่อน

หญิงสาวขมวดคิ้ว แล้วก็พูดด้วยเสียงที่ทุ้มต่ำ:

“ตอนที่อาการเขากำเริบก็เป็นแบบนี้แหละ ใครก็ห้ามแตะต้องเขา เดี๋ยวพออาการตื่นเต้นของเขาหายไปก็ดีขึ้นแล้ว”

ฉินโม่หานขมวดคิ้ว แล้วก็มองดูซิงหยุนที่ใบหน้ากลายเป็นสีม่วง ท้ายที่สุดเขาก็พุ่งเข้าไป แล้วก็จับแขนของจี้ว่านเชิ่งเอาไว้แน่น “เขาคือหลานแท้ๆ ของคุณนะ!”

“ต่อให้เขาไม่ใช่หลานแท้ๆ ของคุณ คุณก็ฆ่าคนไม่ได้ แล้วยิ่งเป็นเด็กอายุห้าขวบยิ่งไม่ได้!”

“รู้บาปบุญคุณโทษหน่อยได้ไหม!”

คำพูดของชายหนุ่ม ทำให้มือของจี้ว่านเชิ่งชะงักไปในทันที

ฉินโม่หานอาศัยโอกาสตอนที่เขาตกตะลึงอยู่ รีบอุ้มซิงหยุนมา แล้วก็กอดเขาไว้ในอ้อมแขน “ไม่เป็นไรใช่ไหม?”

“แค่กๆๆๆ ——!”

“ผมไม่เป็นไร”

ซิงหยุนถูกชายหนุ่มอุ้มเอาไว้ แล้วก็ไอไม่หยุด

“อาหาร……”

“อาหารของฉัน……”

“อาหารกลางวันของฉัน!”

จี้ว่านเชิ่งยืนอยู่ที่เดิม มองดูมือทั้งสองข้างของตัวเอง ปากของเขาก็พึมพำไม่หยุด “ทั้งๆ ที่เกือบจะได้กินของอร่อยแล้ว ทำไมจู่ๆ หายไปล่ะ?”

“มีคนแย่งอาหารของฉันไป”

“มีคนไม่ยอมให้ฉันกินข้าว!”

“แกนั่นแหละ!”

ทันใดนั้นเขาก็เงยหน้าขึ้นมา แล้วก็จ้องไปที่ฉินโม่หานด้วยสายตาคมกริบราวกับมีด “แกนั่นแหละ!”

“แกแย่งอาหารของฉัน ไม่ให้ฉันกินอาหารกลางวัน ไม่อยากให้ฉันมีเนื้อมีหนัง ไม่อยากให้ฉันแข็งแรง!”

“แกคือคนเลว!”

ระหว่างที่พูดอยู่นั้น เขาก็พุ่งเข้ามาหาฉินโม่หาน

ยังดีที่ขงเนี่ยนโหรวห้ามเขาไว้ได้ทันเวลา

เธอขมวดคิ้วและมองจี้ว่านเชิ่ง “ฉันบอกแล้วใช่ไหม?”

“ต่อไปถ้าคุณอยากกินเนื้อ ฉันก็จะเตรียมให้ ห้ามฆ่าใครหรือล่าใครเรื่อยเปื่อย”

““นี่คือครั้งแรก ถ้าเกิดว่ามีครั้งที่สอง ที่คุณทำเรื่องแบบนี้ ฉันไม่มีทางปล่อยคุณไปอย่างแน่นอน!”

คำพูดของผู้หญิงคนนี้ ทั้งรุนแรงและเข้มงวด

จี้ว่านเชิ่งเหมือนเด็กที่ทำผิด ก้มหน้าเหมือนไม่ได้รับความเป็นธรรม แล้วก็เอนศีรษะบนไหล่ของขงเนี่ยนโหรว “ผมกลัว……”

ขงเนี่ยนโหรวถอนหายใจออกมา ค่อยๆ ยื่นมือออกมาลูบหัวของเขา “ไม่เป็นไร”

“จำคำพูดของฉันได้แล้วใช่ไหม?”

ชายหนุ่มพยักหน้า เหมือนนักเรียนตัวน้อยที่ตอบคำถามคุณครูในห้องเรียน “ผมจำได้หมดแล้ว!”

“เชื่อฟังดีมาก”

ขงเนี่ยนโหรวถอนหายใจออกมา ทางเกลี้ยกล่อมทั้งหลอกให้จี้ว่านเชิ่งกลับไปที่เตียงแล้วนอนลง

หลังจากนั้นหญิงสาวก็กดปิดสวิตช์บนผนัง

กระจกแก้วขนาดใหญ่เลื่อนลงมา กั้นระหว่างสองห้อง

หลังจากจัดการทุกอย่างเสร็จแล้ว ผู้หญิงคนนั้นก็เอนกายพิงเก้าอี้ที่อยู่ด้านข้างอย่างเหนื่อยล้า แล้วก็มองดูฉินโม่หานด้วยสายตาที่เรียบเฉย “เห็นแล้วใช่ไหม? ”

ฉินโม่หานพยักหน้า

ถือว่าเขาได้เปิดหูเปิดตา

เขาไม่เคยเห็นคน ที่อยากจะลงไม้ลงมือกับเด็กน้อยมาก่อนเลย

แล้วยิ่งไปกว่านั้น เด็กน้อยคนนี้ คือหลานแท้ๆ ของเขา

“ตั้งแต่ตอนที่เขาฟื้นมาเมื่อปีก่อน ก็เป็นแบบนี้ตลอด”

“ฉันทำได้แค่ต้องขังเขาไว้ในนี้”

“ถ้าไม่อย่างนั้น เขาจะไปทำร้ายคนอื่น”

ฉินโม่หานไม่เข้าใจ

“ทำไมเขาถึงได้กลายเป็นแบบนี้?”

“น่าจะเป็นเพราะผลข้างเคียงของยา”

ขงเนี่ยนโหรวก็ไม่ได้ปิดบังฉินโม่หาน

บางที อาจจะเพราะว่าเธอรู้ดี ว่าเธอไม่สามารถปิดบังได้?

หญิงสาวถอนหายใจออกมา “ฉันให้เขากินยาที่ฉันวิจัยขึ้นมาเองเพื่อทำให้เขาลืมอดีต และเริ่มต้นความสัมพันธ์ใหม่”

“หลังจากผ่านไปช่วงเวลาหนึ่ง ฉันก็พบว่าเขาไม่ได้แค่ไม่ลืมอดีต แถมยังเกลียดฉันมากกว่าเดิมอีก”

“ฉันเกลียดตัวเองมากที่ฉันวิจัยยาที่อยู่ในตัวเขาตอนนี้”

“แต่เหมือนกับว่าไม่มีวิธีที่จะทำให้เขากลับมาเป็นเหมือนเดิมได้เลย”

สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ

สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ

หลังข่าวลือที่เสียโฉม ท่านชายฉินโหดร้ายอำมหิต ทำคู่หมั้นตายติดต่อกันสองคน ผู้หญิงทั้งเมืองไม่มีใครกล้าแต่งงานด้วย แต่ซูสือเยว่กลับแต่งสาวน้อย ต่อไปให้ฉันปกป้องเธอเองเพิ่งแต่งงาน เธอก็ถูกลูกน้อยน่ารักน่าหยิกสองคนแย่งกันอย่างคลั่งใคล้ซะแล้ว……

Comment

Options

not work with dark mode
Reset