สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ – ตอนที่ 346 ถ้าเกิดว่าคุณมาเร็วกว่านี้ก็คงดี

คนที่เป็นกังวลนั้นไม่ใช่แค่ซูสือเยว่เพียงคนเดียว

แต่ว่าซิงกวงที่เดินตามมาอยู่ด้านหลังพอเห็นภาพนี้ หัวใจก็เป็นกังวลทันที

เธอกัดริมฝีปากแน่นแล้วก็หันไปมองซิงเฉิน

เพราะว่าพี่ใหญ่ไม่อยากจะเห็นพี่รองได้รับบาดเจ็บ ก็เลยมาที่นี่แทนพี่รอง

ถ้าเกิดว่าพี่ใหญ่เกิดอุบัติเหตุหรือเรื่องที่ไม่คาดฝันขึ้นจริงๆ แล้วก็……

ในชีวิตที่เหลืออยู่ของพี่รองนั้น ต้องเต็มไปด้วยความทุกข์ใจอย่างแน่นอน

เธอเม้มปาก เราก็รีบวิ่งไปหาซูสือเยว่ พร้อมกับยื่นมือไปจับมือของซิงหยุน และเอ่ยปากเรียกเขาเบาๆ “พี่ใหญ่ พวกเรามาแล้ว หนู พี่รองกับหม่ามี๊มาช่วยพี่แล้ว……”

ซิงเฉินยืนอยู่ที่เดิม ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้ว่าทำไมพี่ใหญ่ถึงนอนอยู่ที่นี่ แต่ว่าเขาก็ได้ยินที่ซิงกวงพูด ว่าที่ซิงหยุนมาสถานที่ที่อันตรายแบบนี้ ก็เพราะว่าเขา……

พอคิดได้แบบนี้ เด็กน้อยก็กัดปากแน่น แล้วก็ค่อยๆ เดินเข้าไป พร้อมกับจับมือที่เย็นข้างของซิงหยุน “พี่ใหญ่ ตื่นแล้ว”

ครอบครัวทั้ง 3 คนล้อมซิงหยุนเอาไว้ แล้วก็เรียกเขาไม่หยุด

ซูสือเยว่ลองสำรวจลมหายใจของซิงหยุน มันอ่อนมาก

ไม่รู้ว่าผ่านมานานแค่ไหนแล้ว

“เสียงดังจริงๆ ……”

เด็กน้อยตัวเล็กๆ หน้าซีดที่ถูกซูสือเยว่กอดไว้ในอ้อมแขนนั้น ในที่สุดก็ขมวดคิ้วเข้าหากันแล้วค่อยๆ ลืมตาขึ้น

“ฟื้นแล้วเหรอ!?”

พอเห็นว่าลูกชายลืมตาขึ้น หัวใจของซูสือเยว่ก็เริ่มคลายลง

เธอกอดซิงหยุนแน่นด้วยความตื่นเต้น

“ลูกไม่เป็นอะไรก็ดีมากแล้ว!”

ซิงกวงกับซิงเฉินก็ตื่นเต้นมากเหมือนกัน

ครอบครัว 4 คนนี้กอดกัน

ซิงหยุนถูกกอดจนไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี

ผ่านไปครู่หนึ่ง พอซูสือเยว่ปล่อยเขา เขาถึงได้เข้าขมวดคิ้วเข้าหากัน “หม่ามี๊ มาที่นี่ได้ยังไงครับ?”

“แล้วที่นี่มันเรื่องอะไรกัน?”

ซูสือเยว่กัดริมฝีปาก แล้วก็เล่าให้เขาฟังเบาๆ ว่ามันเกิดอะไรขึ้นบ้าง

ซิงหยุนอึ้งไป แล้วก็ตระหนักได้ในทันที

“ดังนั้น คุณปู่แกล้งทำเหรอครับ?”

“ก่อนหน้านี้ตอนที่เจอกัน เขาบีบคอผม แล้วก็แอบยัดอะไรบางอย่างเข้ามาในปากผม บอกว่าจะบีบคอผมให้ตาย แล้วก็กินผม……”

“ตอนนั้นผมกลัวจะแย่”

“โชคดีที่ไม่ใช่เรื่องจริง”

พอพูดจบ เด็กน้อยก็ถอนหายใจออกมา “หลังจากแยกกับคุณปู่แล้ว พวกเขาก็เอาผมมาฝากไว้ที่นี่ บอกว่าจะใช้ผมเป็นตัวทดลอง ในการวิจัยยาพิษใหม่”

“พอผมเข้ามาก็รู้สึกว่าง่วงมาก ก็เลยนอนหลับไป……”

เด็กน้อยเงยหน้าขึ้นมองน้องสาวน้องชายและแม่ของตัวเองด้วยสีหน้าที่จริงจัง “แล้วพอตื่นขึ้นมาพวกแม่ก็มาที่นี่แล้ว”

“ท่าทางของผมเมื่อกี้นี้……น่ากลัวมากเลยเหรอ?”

คำพูดของซิงหยุน ก็ทำให้ซิงกวงที่อยู่ด้านข้างเข้าใจได้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น

“แสดงว่า ยาที่คนป่วยอยากเข้ามาในปากพี่ใหญ่ มันทำให้พี่ใหญ่ง่วงนอน แล้วก็เลยกลายเป็นแบบนี้……”

“คำว่าอยากจะให้หลบเลี่ยงการทดสอบของผู้หญิงคนนั้นหรือเปล่า?”

ซูสือเยว่พยักหน้า “น่าจะแบบนั้นนะ”

ในเมื่อจี้ว่านเชิ่งฮวบอำนาจขงเนี่ยนโหรวเอาไว้ได้ เพราะฉะนั้นต่อให้อยู่ในสถานที่ของขงเนี่ยนโหรว ก็ไม่ยากถ้าเขาจะแอบใส่ยาให้ซิงหยุน

ถ้าเป็นแบบนี้ ต่อให้ขงเนี่ยนโหรวอยากจะทดลองยากับซิงหยุน ก็ต้องตรวจสอบก่อนว่าซิงหยุนเป็นอะไรกันแน่ ถึงจะเริ่มทดสอบต่อไปได้

ถึงว่าเขาคิดมาอย่างหนัก

“ใช่สิ หม่ามี๊!”

ตอนนี้เอง ก็เหมือนกับซิงหยุนนึกอะไรขึ้นได้ เราก็เงยหน้าขึ้นมองซูสือเยว่ “แด๊ดดี้ตกอยู่ในอันตราย!”

เขาจำได้ว่าตอนที่ถูกนำตัวมาที่นี่ แด๊ดดี้กำลังถูกคนฉีดยาไปให้บางอย่าง……

ซูสือเยว่เม้มปาก และในที่สุดก็ดึงความคิดตัวเองกลับมาจากซิงหยุน

“ไม่ต้องห่วง หม่ามี๊จะไปช่วยเขาตอนนี้แหละ”

พอพูดจบ หลังจากหญิงสาวจัดการลูกทั้ง 3 คนเรียบร้อยแล้ว ก็หยิบแผนที่ออกมา แล้วก็ไปช่วยฉินโม่หานเพียงคนเดียว

เพราะว่าก่อนหน้านี้เธอแน่ใจแล้ว ว่าฉินโม่หานไม่ได้โดนฉีดยาอะไร ดังนั้นซูสือเยว่ก็เลยไม่คิดว่าการมาช่วยผู้ใหญ่ที่มีพลังคนหนึ่ง ต้องพาเด็กทั้ง 3 คนมาด้วย

เด็กน้อยทั้ง 3 คนก็รู้เรื่องรู้ราวดีมาก เพราะเขารู้สมรรถภาพทางกายของพวกเขาดี ว่าไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกับซูสือเยว่ ตามเธอไปก็มีแต่จะสร้างความวุ่นวายให้เท่านั้น

ดังนั้นเพราะเขาก็เลยเลือกที่จะรอข่าวดีจากซูสือเยว่อยู่เงียบๆ

พอออกมาจากห้องที่ซิงหยุนถูกจับตัวอยู่นั้น ซูสือเยว่ก็พบว่าทั้งฐานนี้เงียบเชียบ มีเพียงได้ยินเสียงต่อสู้ทางออกมาจากห้องวิจัยของขงเนี่ยนโหรวเพียงเท่านั้น

เธอไม่ได้ไปสนใจความคืบหน้าของจี้ว่านเชิ่ง แล้วก็ตรงไปตามหาฉินโม่หาน

ถ้าเกิดว่าจี้ว่านเชิ่งแพ้ สิ่งแรกที่ขงเนี่ยนโหรวจะทำก็คือควบคุมตัวจี้ว่านเชิ่งเอาไว้ ส่วนเรื่องที่ 2 ก็คือส่งคนมาตรวจสอบสถานการณ์ของซิงหยุนกับฉินโม่หาน

ในเมื่อไม่มี ก็แสดงว่าตอนนี้จี้ว่านเชิ่งยังคงได้เปรียบอยู่ เธอไม่จำเป็นต้องคิดหนักให้เปลืองสมอง

เธอถือแผนที่ พยายามค้นหาตำแหน่งของฉินโม่หานบนแผนที่อยู่หลายครั้ง ในที่สุดก็กำหนดได้……

ฉินโม่หานกับเจียงหลี ไม่ได้อยู่ในฐานะนี้

ดูเหมือนว่าพวกเขาทั้งสองคนจะอยู่ในบ้านนอกฐานทัพ

ลางสังหรณ์ที่ไม่ดีเกิดขึ้นในหัวใจของเธอ

ถ้าเกิดว่ามันเป็นวันที่จี้ว่านเชิ่งพูดจริงๆ ฉินโม่หานไม่ได้ถูกฉีดยา ก็เป็นคนที่มีพลังเต็มที่……

แล้วคนพวกนี้จะจับฉินโม่หาน แล้วก็พาตัวเขาออกไปจากฐานได้ไกลขนาดนั้นเลยเหรอ

นอกเสียจาก……

หญิงสาวกัดริมฝีปาก ไม่กล้าคิดต่อ

เธอเร่งความเร็วในการตามหา

ไม่นาน เธอก็พบกระท่อมแห่งหนึ่งที่อยู่ไกลจากฐานทัพ

บนแผนที่เผยให้เห็นอย่างชัดเจนว่า ฉินโม่หานกับเจียงหลีอยู่ในตำแหน่งนี้

ทั้งทางเข้าและทางออกของกระท่อมแห่งนี้ มีคนเฝ้าอยู่

ซูสือเยว่พยายามสังเกตสถานการณ์ในกระท่อม แล้วก็พยายามคำนวณประสิทธิภาพในการต่อสู้ระหว่างตัวเธอกับผู้คุ้มกันเหล่านั้น

หลังจากนั้น เธอก็เลือกที่จะเสี่ยง แอบจัดการหนึ่งในนักสู้ที่ทรงพลังมากที่สุด แล้วก็จัดการคนอื่นแบบตัวต่อตัว

เธอดีใจที่ตอนที่ห่างจากฉินโม่หานช่วงเวลาหนึ่ง เธอเปลี่ยนชื่อเป็นสวี่หรงและเปิดอีเมลของตัวเอง ทุกวันเธอก็จะได้พัฒนาศิลปะการต่อสู้ของเธอภายใต้การฝึกสอนของเจี่ยนหมิงจงกับเจี่ยนเฉิง

ไม่อย่างนั้นล่ะก็ เธอก็คงไม่สามารถเอาชนะบอดี้การ์ดที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดี 7-8 คนภายในระยะเวลาสั้นๆ แบบนี้ได้หรอก

หลังจากที่จัดการบอดี้การ์ดคนสุดท้ายเสร็จ ซูสือเยว่ก็หอบ

หญิงสาวสุดลมหายใจเข้าลึกๆ เช็ดเหงื่อที่หน้าผาก แล้วก็เปิดประตูเข้าไปในห้อง

“พี่เจียง ทำไมด้านนอกถึงได้เสียงดังขนาดนั้น?”

พอเข้ามา ก็ได้ยินเสียงบ่นของผู้หญิงคนหนึ่ง

ซูสือเยว่ขมวดคิ้ว เงยหน้าขึ้นมา แล้วก็สบตากับดวงตาที่ตกใจของเจียงหลี

“คุณมาที่นี่ได้ยังไง?”

เจียงหลีในตอนนี้ เท้าเปล่า ร่างกายเปียกชื้น ทั้งเนื้อทั้งตัวพันผ้าขนหนูแค่ผืนเดียว ดูเหมือนว่าเพิ่งอาบน้ำเสร็จ

เธอมองไปที่ซูสือเยว่ที่ยังมีคราบเลือดติดอยู่ที่ตัวด้วยความตกใจ แล้วก็มองพวกบอดี้การ์ดที่ล้มอยู่ที่พื้นด้านหลังของเธอ

เจียงหลีชะงักไป แล้วก็อดไม่ได้ที่จะยกนิ้วให้ซูสือเยว่ “เก่งจริงๆ ด้วย”

คนเหล่านี้ต่างเป็นพวกบอดี้การ์ดที่ขงเนี่ยนโหรวพยายามทุ่มเทฝึกมามากมาย ทุกคนต่างไม่ธรรมดาเลย

แต่ว่าซูสือเยว่กลับเอาชนะคนพวกนี้ได้……ไม่ใช่ธรรมดาเลยจริงๆ

“ฉินโม่หาน ฉินโม่หานล่ะ?”

ซูสือเยว่ขี้เกียจจะคุยอะไรกับเจียงหลีให้มากความ ก็จะเดินขึ้นไปข้างบน

“เขานอนอยู่”

เจียงหลีดึงผ้าเช็ดตัวที่พันรอบตัวเอง “พวกเราเพิ่งจะทำเสร็จ”

“ถ้าเกิดว่าคุณมาที่นี่เร็วกว่านี้ก็คงจะดี จะได้เห็นว่าเขาห้าวหาญกับฉันมากแค่ไหน”

“ ซูสือเยว่ ไม่ว่าคุณจะเก่งแค่ไหน……สามีของคุณ ก็เป็นของฉันแล้ว”

สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ

สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ

หลังข่าวลือที่เสียโฉม ท่านชายฉินโหดร้ายอำมหิต ทำคู่หมั้นตายติดต่อกันสองคน ผู้หญิงทั้งเมืองไม่มีใครกล้าแต่งงานด้วย แต่ซูสือเยว่กลับแต่งสาวน้อย ต่อไปให้ฉันปกป้องเธอเองเพิ่งแต่งงาน เธอก็ถูกลูกน้อยน่ารักน่าหยิกสองคนแย่งกันอย่างคลั่งใคล้ซะแล้ว……

Comment

Options

not work with dark mode
Reset