คำถามของซูสือเยว่ ทำให้ลู่จิ่งเฉินถอนหายใจออกมาอย่างหนัก
ฉินโม่หานจะทำยังไง?
เขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตอนนี้ เขาควรจะตอบซูสือเยว่ยังไง
ถ้าเกิด……
ถ้าเกิดว่าฉินโม่หานได้ยาแก้พิษอันอื่น เขาก็คงไม่ต้องลำบากขนาดนี้ ทิ้งคู่หมั้นของเขาไว้ แล้วก็มาแสดงละครกับเจียงหลี
“ยังไงมันก็ต้องมีโอกาส”
ลู่จิ่งเฉินถอนหายใจ แล้วก็จับแขนของซูสือเยว่แน่น
“ยาที่เจียงหลีทิ้งไว้ มันเพียงพอให้โม่หานกินได้อีกแค่อาทิตย์เดียวเท่านั้น”
“ในระหว่างหนึ่งอาทิตย์นี้ พวกเราต้องหาทางให้ได้”
ซูสือเยว่พยักหน้าที่ซีดเผือด
ตอนนี้ก็ทำได้แค่นี้แหละ
“มันเป็นความผิดของฉันเอง”
เรื่องนี้ต้องโทษเธอคนเดียว
ตอนที่เธอไม่รู้เรื่องข้อตกลงของลู่จิ่งเฉินกับเจียงหลี ก็แค่ต้องการระบายอารมณ์โกรธกับเจียงหลี แต่ว่าก็ได้ทำลายหมากทุกตัวของลู่จิ่งเฉินที่ได้วางเอาไว้เพื่อช่วยเหลือฉินโม่หาน
เพียงแค่……
เธอไม่สามารถควบคุมตัวเองได้จริงๆ
เมื่อครึ่งชั่วโมงก่อนหน้านี้ เธอเพิ่งกลับมาจากโรงพยาบาลของฉินโม่หาน
เธอได้เห็นผู้ชายคนนั้นที่เธอรักมากที่สุด คนที่เธอเชื่อใจในตัวเขาเพียงแค่คนเดียว นอนอยู่บนเตียงน่าน
นอกจากลมหายใจที่ยังหลงเหลืออยู่ เขาก็ไม่แตกต่างอะไรจากคนตายเลย
และคนที่ทำให้เกิดเหตุการณ์ทั้งหมดนี้ขึ้น ก็คือเจียงหลี!
พอเธอกลับมาที่ห้อง คนแรกที่เธอได้เจอ ก็คือเจียงหลี
ความโกรธ ความเสียใจ ความไม่พอใจทั้งหมดก็พุ่งเข้ามาในหัวใจของเธอ
เธอถึงได้ทำร้ายเจียงหลีจนหมดท่าโดยที่ไม่สนใจอะไรทั้งนั้น
ซูสือเยว่ยอมรับว่าตัวเองใจร้อนเกินไป
และผลลัพธ์ของการใจร้อนของเธอนั้น……
มันทำให้ยากที่จะยอมรับ
เธอเกือบจะทำลายโอกาสในการมีชีวิตรอดของฉินโม่หาน
ตอนนี้ เธอมีเวลา 1 อาทิตย์ ในการตามหาวิธีที่จะช่วยชีวิตของฉินโม่หาน
ซูสือเยว่หลับตาลง เสียงแหบแห้ง
“ถ้าเกิดว่าเขาไม่ฟื้นขึ้นมาละก็……”
“ฉันจะไปอยู่เป็นเพื่อนเขาเอง”
คำพูดของหญิงสาว ทำให้คิ้วของลู่จิ่งเฉินขมวดเข้าหากันแน่น “จะไปอยู่เป็นเพื่อนเขา?”
“อยู่เป็นเพื่อนอะไรกัน?”
“หมายความว่าจะตายไปพร้อมกับเขาอย่างนั้นเหรอ?”
“แล้วลูกของพวกเธอล่ะ?”
ชายหนุ่มถลึงตาใส่ซูสือเยว่อยากเย็นชา
“ซิงหยุน ซิงเฉิน ซิงกวงล่ะ? เขาไม่สนใจ คุณก็จะไม่สนใจเหมือนกันเหรอ?”
“นี่คือสำนึกและความรู้สึกรับผิดชอบของคนเป็นพ่อเป็นแม่อย่างนั้นเหรอ?”
พอพูดถึงลูก หัวใจของซูสือเยว่ขึ้นมาทันที
เธอไม่อยากแยก ไม่อยากปล่อยวาง
แต่ว่า……
ถ้าเกิดว่าชีวิตหลังจากนี้ของเธอ ต้องใช้ชีวิตภายใต้ชื่อของคนที่ฆ่าคนรักของตัวเอง……
เธอทำไม่ได้
เธอทำไม่ได้จริงๆ !
“ซูสือเยว่ ตอนนี้คุณอย่าเพิ่งคิดอะไรให้มากมายเลย”
“ยังมีเวลาอีกอาทิตย์หนึ่ง ผมไม่สนใจว่าคุณจะไปเฝ้าฉินโม่หานแล้วเอาแต่ร้องเรียกเขา หรือว่าจะใช้วิธีอื่น”
“ก่อนที่ยาจะหมด ผมไม่อนุญาตให้คุณพูดอะไรก็ตามที่เกี่ยวกับการยอมแพ้ จำไว้ด้วย!”
พอพูดจบ ชายหนุ่มก็เดินออกไปทันที
ซูสือเยว่ยืนอยู่ที่เดิม ร่างของเธอทรุดตัวลงอย่างอ่อนแรงและล้มลงที่พื้น
ปากกาบันทึกเสียงที่อยู่ในกระเป๋าของเธอหล่นลงมา
เธอเก็บปากกาขึ้นมา
อาจจะเป็นเพราะว่าเสียใจเกินไป ซูสือเยว่ที่เป็นคนร่างกายแข็งแรงขนาดนี้ ตอนที่เก็บปากกานั้น มือทั้งสองข้างของเธอก็สั่นยังไม่มีเหตุผล
นิ้วของเธอไปแตะปุ่มโดยที่ไม่ได้ตั้งใจ
เสียงของเจียงหลีที่พูดก่อนหน้านี้ ดังขึ้นในห้องไม่หยุด
“ฉันถอดเสื้อผ้าของฉินโม่หาน แล้วก็ข่วนหลังของเขาจนเป็นรอย แล้วก็บอกแกว่ามันเกิดขึ้นตอนที่ฉันนอนกับฉินโม่หาน”
“แล้วฉันก็ถอดเสื้อผ้าของตัวเองออก ฉีกเป็นชิ้นและโยนทิ้งไปทั่ว สร้างภาพลวงตาว่าพวกเราบ้าคลั่งมาก”
“สุดท้าย ฉันก็ใช้โยเกิร์ตบีบกระจายไปทุกที่ เสแสร้งทำเป็นว่าพวกเราทำกันหลายครั้ง”
…………
“เขายังตลกกว่าแกอีก ตอนที่เขาเห็นทุกอย่างในห้องนั้น แล้วก็เห็นแกที่นอนเป็นลม แม้แต่ไม่เชื่อใจตัวเองด้วยซ้ำ”
“เขานึกว่าเขาถูกวางยาจริงๆ แล้วก็ทำเรื่องอย่างว่ากับฉันในขณะที่ไม่ได้สติ”
“หลังจากนั้นเขาก็กอดร่างของแกที่หมดสติ ร้องเรียกแกอยู่นาน เหมือนหัวใจแตกสลาย……”
เสียงอัดมาจนถึงตรงนี้ แล้วก็หยุดลงอย่างกะทันหัน
ซูสือเยว่รู้สึกว่าตอนนี้ในหัวของเธอตีกันไปหมด
เธอสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วก็เปิดเสียงที่อัดไว้อีกครั้ง
ฟังอีกครั้งและอีกครั้ง
เธอฟังเสียงของเจียงหลี และน้ำตาก็ไหลลงมา
ถ้าเกิดว่าตอนนั้นเธอเชื่อใจฉินโม่หานมากกว่านี้ ไม่ถูกกระตุ้นด้วยวิธีของเจียงหลี……
เธอก็คงจะไม่เป็นลมไป แล้วก็รอจนฉินโม่หานตื่นขึ้นมา
ฉินโม่หานก็คงไม่ได้ไปต่อสู้กับขงเนี่ยนโหรวอย่างสุดชีวิต เพราะเข้าใจผิดเรื่องความสัมพันธ์ของเขากับเจียงหลี……
ในเรื่องนี้ ซูสือเยว่รู้สึกว่าตัวเองไม่ได้มีความผิดอะไร
แต่ว่าในบางที เธอก็รู้สึกว่าเธอมีความผิด
ความไม่เชื่อใจของเธอ ก็เป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้ฉินโม่หานต้องกลายมาเป็นแบบนี้……
ตอนที่ปากกาอัดเสียงในมือของซูสือเยว่เล่นสมัครครั้งที่ห้า ฟู๋เชียนเชียน ก็เพิ่งเข้ามาในห้อง
“สือเยว่!”
เธอได้ยินว่ามีคนกระโดดตึกที่โรงพยาบาล กลัวว่าจะเป็นซูสือเยว่ ก็เลยรีบตามมาในทันที
จนตอนที่ฟู๋เชียนเชียนมาเถอะฉันรักของโรงพยาบาลนั้น ศพของผู้หญิงคนนั้นก็ถูกตำรวจเก็บไปแล้ว
เธอไม่กล้าไปดูศพนั้น เพราะกลัวว่าคนคนนั้นจะเป็นซูสือเยว่……
ดังนั้นเธอก็เลยตัดสินใจรีบมาที่ห้องผู้ป่วยของ
แต่ว่า ระหว่างทางที่มาที่ห้องนี้นั้น เธอก็ได้ยินพวกพยาบาลคุยกัน บอกว่าคนที่กระโดดตึกนั้นกระโดดมาจากห้อง1503
หัวใจของฟู๋เชียนเชียนก็เป็นกังวลมาตลอดทางทาง
เพราะว่าห้องผู้ป่วยของซูสือเยว่ ก็คือห้อง1503
เธอกลัวว่าซูสือเยว่เห็นสภาพที่เกิดเป็นกึ่งตายของฉินโม่หานแล้วจะรับไม่ได้ ก็เลยเลือกที่จะกระโดดตึก
สุดท้าย ตอนที่เธอพุ่งเข้ามาที่ห้อง1503นั้น เธอก็เห็นซูสือเยว่นั่งอยู่บนพรม ก็รู้สึกสบายใจขึ้น!
ฟู๋เชียนเชียนพุ่งเข้ามาแล้วก็กอดซูสือเยว่ไว้แน่น
“พวกเขาบอกว่าคนจากห้อง1503กระโดดตึก แกทำให้ฉันตกใจจะตายอยู่แล้ว!”
ซูสือเยว่มองหน้าฟู๋เชียนเชียนยังเหม่อลอย เม้มปาก “มีคนกระโดดตึกจริงๆ นั่นแหละ……”
เธอเม้มปาก เสียงแหบแห้ง
“คนที่กระโดดตึก ก็คือเจียงหลี”
ฟู๋เชียนเชียนเบิกตาโพลงในทันที
“เจียงหลี?”
ซูสือเยว่พยักหน้า หลังจากนั้นก็กอดฟู๋เชียนเชียนแน่น แล้วก็เล่าเกี่ยวกับข้อตกลงระหว่างลู่จิ่งเฉินและเจียงหลี แล้วก็เรื่องยาแก้พิษของฉินโม่หานให้ฟู๋เชียนเชียนฟัง
สุดท้ายเธอก็หลับตาลง แล้วน้ำตาของเธอก็ไหลซึมไปที่ไล่ของฟู๋เชียนเชียน
“ฉันผิดเอง”
“ถ้าเกิดว่าฉันไม่ทำร้ายเจียงหลี แล้วก็ปล่อยให้เจียงหลีบรรลุเป้าหมายของเธอ เรื่องทุกอย่างคงไม่แย่ขนาดนี้ใช่ไหม?”
“ฉินโม่หานเหลือเพียงแค่ยาสำหรับอาทิตย์เดียวเท่านั้น……”
“เชียนเชียน ถ้าเกิดว่าเขาอยู่ต่อไม่ได้จริงๆ ……”
“มันเท่ากับว่า ฉันฆ่าเขาด้วยมือของฉันเองหรือเปล่า?”
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับคำถามของซูสือเยว่ ฟู๋เชียนเชียนก็ไม่รู้ว่าควรจะปลอบใจหรืออธิบายอย่างไร
ผ่านไปครู่หนึ่ง เธอก็สูดหายใจเข้าลึกๆ
“เรื่องทุกอย่างมันต้องมีทางแก้”
“สือเยว่ ยังมีเวลาอีก 1 อาทิตย์ไม่ใช่เหรอ?”
“เวลา 1 อาทิตย์นี้ แกก็ไปอยู่เป็นเพื่อนฉินโม่หาน ไปพูดคุยกับเขา ไปบอกเขาว่าเขาต้องกลับมาใช้หนี้ที่ติดค้างกับแกอยู่ให้หมด”
“ฉันไม่เชื่อหรอกว่า ถ้าเกิดว่าเขามีสติแล้วได้ยินเสียงของแก ได้ยินว่าแกต้องการให้เขามาชดใช้ แล้วเขาจะไม่พยายามฟื้นขึ้นมา”
“ในละครมันก็เป็นแบบนั้นไม่ใช่เหรอ?”
ซูสือเยว่หลับตาลง “คงมีแค่วิธีนั่นแหละ”
ถ้าเกิดว่าบนโลกใบนี้มียาแก้พิษอันอื่นอีก ดูจากความสามารถของลู่จิ่งเฉินและจี้ว่านเชิ่ง บวกกับฐานะทางการเงินของตระกูลฉิน ไม่มีทางที่จะหาไม่เจ……อ
ตอนที่ฟู๋เชียนเชียนกำลังปลอบซูสือเยว่ และกำลังจะพาซูสือเยว่ไปหาฉินโม่หานนั้น โทรศัพท์ของซูสือเยว่ก็ดังขึ้น
ฉินหนานเซิงโทรมา
“สือเยว่ ช่วยอะไรหน่อยได้ไหม?”
“ลั่วเยียนกับลู่จื่อเหยาเจอกันแล้ว”
“ตอนนี้……ลั่วเยียนถือมีด อยากจะฆ่าลู่จื่อเหยา”