สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ – ตอนที่ 360 แสงจันทร์ขาวที่แท้จริงของเขากลับมาแล้ว

ซูสือเยว่อึ้งไป

ลั่วเยียนเนี่ยนะถือมีดจะฆ่าคนอื่น?

เธอขมวดคิ้ว เราก็ถามตำแหน่งที่อยู่ของพวกฉินหนานเซิง แล้วก็พาฟู๋เชียนเชียนเรียกรถไป

เดิมที ซูสือเยว่ นึกว่าพวกเขาทั้งสามคนจะอยู่ในที่ลับ

เพราะว่ายังไงเมื่อก่อนลั่วเยียนก็คือดาราใหญ่ ปกติไม่ว่าจะทำอะไร ก็จะเคยชินกับการหลบสายตาผู้คน

แต่ว่าสิ่งที่ซูสือเยว่นึกไม่ถึงก็คือ……

พวกเขาอยู่ชั้นบนสุดของร้านอาหารร้านหนึ่ง

ร้านอาหารนั้นมีแค่สามชั้น ชั้นล่างถูกล้อมไปด้วยน้ำ

ชั้นบนสุดนั้น ในมือถือลั่วเยียนถือมีด แล้วก็จ้องมองหญิงสาวที่ขดตัวอยู่ในมุมด้วยสายตาที่โมโห

ด้านหลังของเธอมีคนกลุ่มใหญ่รายล้อมอยู่

และคนที่อยู่ตรงหน้าคนกลุ่มใหญ่นั้น ก็คือฉินหนานเซิงที่นั่งอยู่บนวีลแชร์

ด้านหลังของฉินหนานเซิง มีตำรวจ มีรปภ และกองทหาร

ทุกที่เต็มไปด้วยนักข่าว กำลังถ่ายทอดสดอยู่

เห็นได้ชัดว่า นี่มันไม่ใช่เรื่องขัดแย้งส่วนตัวอีกต่อไปแล้ว

นี่คือการฆาตกรรมที่เกิดขึ้นต่อหน้าชาวเมืองทั้งเมือง

ซูสือเยว่ขมวดคิ้ว เธอเพิ่งจะดึงฟู๋เชียนเชียนฝ่าฝูงชนเข้าไปในร้านอาหาร แล้วก็มีรถมาเซราติสีดำคันหนึ่งจอดลงที่หน้าประตูร้านอาหาร

ซูสือเยว่จำได้ว่า นี่คือรถของฉินโม่หาน!

และรถของฉินโม่หาน ตอนนี้ลู่จิ่งเฉินเป็นคนใช้……

เธอขมวดคิ้ว แล้วก็หันหน้าไปมองรถคันนั้น

แล้วก็เป็นอย่างที่คิด

ขอบประตูรถถูกเปิดออก ผู้ชายที่เดินออกมาจากรถนั้น ก็คือลู่จิ่งเฉินที่เพิ่งจะอยู่ที่โรงพยาบาลกลับซูสือเยว่เมื่อกี้นี้

ซูสือเยว่ขมวดคิ้วแล้วเดินเข้าไป “คุณมาทำอะไรที่นี่?”

ถึงแม้ว่าตอนนี้เธอจะรู้ดีว่าผู้ชายคนนี้คือลู่จิ่งเฉิน พี่ชายฝาแฝดของฉินโม่หาน แต่……

ตอนนี้ในสายตาของคนภายนอก ตัวตนของลู่จิ่งเฉินก็คือฉินโม่หาน

แล้วอีกอย่าง เมื่อกี้หลังจากเกิดเรื่องของเจียงหลี เขาไปจัดการเรื่องของเจียงหลีอยู่ไม่ใช่เหรอ?

ทำไมถึงยังมีเรี่ยวแรงมาที่นี่ มายุ่งกับเรื่องฉินหนานเซิง?

พอเห็นว่าซูสือเยว่ก็อยู่ที่นี่เหมือนกัน ลู่จิ่งเฉินก็ชะงักไป สุดท้ายก็ทำปากมุ่ย เราก็เงยหน้าขึ้นไปมองอย่างทิศทางของหลังคาร้านอาหาร

“คือว่า คนที่ถูกมีดจ่ออยู่นั้น คือคู่หมั้นของผม”

“ผมบอกเธอให้ไม่ต้องมาที่เมืองหรง ไม่ต้องมาเมืองหรง ตัวตนของผมตอนนี้ไม่เหมาะสมกับการที่ให้เธอมาที่นี่!”

“แต่ว่าเธอก็จะมาให้ได้ บอกว่าอยากจะมาหาเพื่อนเก่า แล้วตอนนี้ก็เกิดเรื่องขึ้นจนได้!”

พอพูดจบ ลู่จิ่งเฉินก็เงยหน้าขึ้นมองหลังคาอีกครั้งหนึ่ง

ดูเหมือนกับว่่าลั่วเยียนจะทะเลาะกับลู่จื่อเหยาด้วยอารมณ์ที่อ่อนไหว

เขาไม่ทันจะมีเวลาไปสนใจซูสือเยว่ แล้วก็เดินเข้าไปในร้านอาหารทันที

ไหล่ของผู้ชายคนนั้นกระแทกกับไหล่คนซูสือเยว่อย่างแรง รู้สึกเจ็บเล็กน้อย

แต่ว่าความเจ็บนี้ เธอกลับไม่รู้สึกถึงมันเลยสักนิด

เพราะว่าตอนนี้เธอเต็มไปด้วยความตกใจ

ดังนั้นหมายความว่า……

คู่หมั้นของลู่จิ่งเฉิน ก็คือลู่จื่อเหยาอย่างนั้นเหรอ!?

คนที่เคยป่วยหนัก แล้วก็แย่งตัวตนของลั่วเยียน ไปคบกับฉินหนานเซิง แล้วหลังจากที่ตายไปก็ไม่อนุญาตให้ฉินหนานเซิงคบกับลั่วเยียน……ลู่จื่อเหยา?

หัวของซูสือเยว่ยุ่งวุ่นวายไปหมด

และก็หมายความว่า คู่หมั้นของพี่ชายแท้ๆ ของฉินโม่หาน ก็คืออดีตแฟนสาวของหลานชายของเขาฉินหนานเซิง แสงจันทร์ขาว!?

“สือเยว่ แกเหม่ออะไรน่ะ”

ฟู๋เชียนเชียนขมวดคิ้ว “เขาไปสิ ถ้าเกิดว่าแกไม่เข้าไป แล้วลั่วเยียนทำร้ายเธอเข้ามาจริงๆ วันนี้คนล้อมรอบเยอะมาก เธอไม่มีทางหลุดจากความผิดอย่างแน่นอน!”

ซูสือเยว่ถึงได้ดึงสติกลับมา แล้วก็ดึงฟู๋เชียนเชียนเข้าไปในร้านอาหาร

คนในร้านอาหารเยอะกว่าข้างนอกอีก

พวกเธอทั้งสองคนต้องใช้ความพยายามอย่างมาก ที่จะเบียดตัวเองขึ้นไปบนชั้นดาดฟ้า

ในตอนนี้ ลั่วเยียนกำลังถือมีด พร้อมกับใส่แสยะยิ้มแล้วมองไปที่ลู่จื่อเหยา

“แล้วอะไรอีก?”

“นอกจากที่แกหลอกพวกเราว่าป่วยระยะสุดท้าย ยังหลอกเรื่องอะไรอีก?”

ลู่จื่อเหยาตัวเล็กมาก ยิ่งหดอยู่ตรงมุมยิ่งดูตัวเล็กเข้าไปใหญ่

เธอกัดริมฝีปาก แล้วก็พูดอย่างนั้นสงสาร

“ไม่มีแล้ว”

“ไม่มีแล้ว เยียนเยียน ต่อให้แกถามฉันเยอะกว่านี้ ฉันก็นึกไม่ออกแล้ว……”

พอพูดจบ เธอก็สูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วก็พูดทั้งน้ำตา

“แล้วก็เรื่องอาการป่วยที่ร้ายแรง ฉันก็ไม่ได้ตั้งใจจะหลอกพวกเธอนะ……”

“ตอนนั้นหลังจากที่แกหลงทางและต้องไปอยู่ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า พวกเราทั้งสองคนก็เป็นเพื่อนสนิทกันมาตั้งนาน หลังจากนั้นพ่อแม่ของแกมารับแกกลับบ้าน ก็เลยพาฉันกลับมาเลี้ยงด้วยจนโต”

“ตอนนั้นโรงพยาบาลวินิจฉัยโรคผิดจริงๆ ฉันก็นึกว่าฉันป่วยเป็นโรคร้ายแรง”

“เพื่อที่จะไม่ให้ที่บ้านเอาเงินมาช่วยฉันมากกว่านี้ ฉันก็เลย……ฉันก็เลยแกล้งตายแล้วก็ไปจากพวกเธอ ไปมีชีวิตอยู่ข้างนอกและดูแลตัวเอง”

“สุดท้ายฉันก็พบว่าฉันไม่ได้ป่วย แล้วฉันก็ไม่กล้ากลับเมืองหรงมาหาพวกเธอแล้ว จนถึงตอนนี้……”

“ฉันได้ยินว่าแกกลับหนานเซิงคบกัน และฉันก็รู้ว่าแกชอบหนานเซิงมาโดยตลอด ฉันก็เลยรู้สึกว่าในที่สุดแกก็เจอความสุขของตัวเองแล้ว อยากจะมาแสดงความยินดี ก็เลยกลับมาที่เมืองหรง ไม่คิดเลยว่า……”

ยิ่งเธอพูด น้ำตาก็ยิ่งไหล

“ไม่คิดเลยว่า แกกลับใช้โอกาสนี้ โกหกว่าสิ่งที่ฉันทำไปก่อนหน้านี้แกเป็นคนทำ……”

“ถึงแม้ว่าฉันจะซาบซึ้งในบุญคุณที่ครอบครัวแกมีต่อฉัน แต่ว่าสิ่งที่ฉันทำไปก็คือทำ สิ่งที่ไม่ได้ทำก็คือไม่ได้ทำ เธอจะใช้เหตุผลว่าตอนนี้เธอคบกับฉินหนานเซิง แล้วมาบังคับให้ฉันยอมรับ คนที่เขียนจดหมายรักกับฉินหนานเซิงคือเธอไม่ได้นะ? ”

“ถึงแม้ว่ามันจะผ่านไปหลายปีแล้ว ฉันไม่ได้แคร์เรื่องนั้นแล้ว”

“แต่ว่าจดหมายพวกนั้น ฉันเป็นคนเขียนเองจริงๆ !”

คำพูดของหญิงสาว ทำให้ความเกลียดชังในดวงตาของลั่วเยียนมาเพิ่มขึ้นไปอีก

“ไร้สาระ!”

ลั่วเยียนหรี่ตาลง “ลู่จื่อเหยา แกจะโกหกไปถึงเมื่อไหร่กัน?”

ลู่จื่อเหยาตอนนั้น อาศัยว่าเธอป่วยหนัก ก็เลยให้ลั่วเยียนเห็นแก่ศักดิ์ศรีสุดท้ายก่อนตายของเธอ ให้ลั่วเยียนยอมรับ ว่าคนที่เขียนจดหมายรักกับฉินหนานเซิงนั้น ก็คือลู่จื่อเหยา

ตอนนั้นลั่วเยียนนึกว่าเธอใกล้ตายแล้ว ก็เลยไม่ได้ไปแฉเธอ

แล้วตอนนี้ล่ะ?

ตอนนี้ผ่านไปนานหลายปีขนาดนี้แล้ว ฉินหนานเซิงยังไม่ยอมเชื่อ ว่าคนที่เขียนจดหมายรักกับเขานั้นคือลั่วเยียน

ไม่ใช่แค่นั้น ลู่จื่อเหยากลับไม่ได้ตาย

และสิ่งแรกที่เธอทำหลังจากที่กลับมาที่เมืองหรง ก็คือมาพูดคุยเรื่องเก่ากลับฉินหนานเซิง คุยเกี่ยวกับอดีตที่เคยคบกับเขาผ่านทางจดหมายรัก

ถ้าเกิดว่าลั่วเยียนไม่ได้เป็นห่วงเรื่องที่ฉินหนานเซิงขาไม่ดีก็เลยส่งคนมาติดตาม เธอก็จะไม่รู้เลยว่า ฉินหนานเซิงติดต่อกับลู่จื่อเหยาตั้งแต่แรกแล้ว แล้วก็รู้ความจริงว่าลู่จื่อเหยาไม่ได้ตาย!

แต่ว่าเรื่องพวกนี้ เขาไม่เคยบอกเธอเลย!

ไม่แปลกใจเลยที่ฉินหนานเซิงอยากจะหย่ากับเธอมาโดยตลอด แล้วก็เอาแต่บอกว่าอยากให้อิสระแก่เธอ บอกว่าอยากจะให้เธอกลับไปเป็นลั่วเยียนที่เปล่งประกายเหมือนเดิม

ตอนเริ่มแรก ลั่วเยียนก็นึกว่าฉินหนานเซิงน้อยเนื้อต่ำใจ เพราะคิดว่าเขาไม่ดี ก็เลยไม่อยากให้เธอต้องมาลำบากไปด้วย

เธอยังคงปวดใจ หาเหตุผลไม่ไปหย่ากับเขา เอาแต่ยืนการจะไม่ปล่อยการแต่งงานในครั้งนี้ไป

แต่ว่าตอนนี้ พอเห็นลู่จื่อเหยา เธอก็ตระหนักได้ในทันที

ที่แท้……

ที่แท้ก็เพราะว่าแสงจันทร์ขาวที่แท้จริงของเขากลับมาแล้ว!

ที่แท้ฉินหนานเซิงก็ไม่เคยลืมลู่จื่อเหยาเลย!

“ลั่วเยียน”

ทันใดนั้น ด้านหลังของเธอก็มีเสียงซูสือเยว่ดังขึ้นมา

ลั่วเยียนอึ้งไป แล้วก็หันหน้าไปซูสือเยว่

“สือเยว่……”

ความปวดใจของเธอ ซูสือเยว่น่าจะรู้ดีที่สุด

ที่ผ่านมา ลั่วเยียนเอาแต่เสแสร้งทำเป็นเข้มแข็ง แต่วินาทีที่เธอเห็นซูสือเยว่นั้น น้ำตาของเธอก็หล่นลงมาทันที “สือเยว่ ฉัน……”

ตอนที่ลั่วเยียนมองไปที่ซูสือเยว่ด้วยความตื่นเต้นนั้น ลู่จื่อเหยาที่หลบอยู่ในมุมมาโดยตลอดก็หรี่ตา——

เธอพุ่งเข้าไป แย่งมีดในมือของลั่วเยียน

สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ

สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ

หลังข่าวลือที่เสียโฉม ท่านชายฉินโหดร้ายอำมหิต ทำคู่หมั้นตายติดต่อกันสองคน ผู้หญิงทั้งเมืองไม่มีใครกล้าแต่งงานด้วย แต่ซูสือเยว่กลับแต่งสาวน้อย ต่อไปให้ฉันปกป้องเธอเองเพิ่งแต่งงาน เธอก็ถูกลูกน้อยน่ารักน่าหยิกสองคนแย่งกันอย่างคลั่งใคล้ซะแล้ว……

Comment

Options

not work with dark mode
Reset