สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ – ตอนที่ 363 เงื่อนไขสองข้อ

สิ่งที่หานหยุนพูด ทำให้ซูสือเยว่ตัวแข็งทื่อไปในทันที

เจียงหลีตายไปแล้ว…

หากจะให้เจียงหลีมายอมรับผิดต่อหน้าฉินโม่หาน มันเป็นไปไม่ได้แล้ว

แต่ว่า…

ซูสือเยว่พลันนึกถึงปากกาบันทึกเสียงที่ตัวเองใช้ในสมัยก่อนขึ้นมา

เธอมีเสียงบันทึก!

เมื่อคิดถึงตรงนี้ ซูสือเยว่ก็รีบล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าเสื้อ

ว่างเปล่า

ไม่มี

ปากกาบันทึกเสียงที่ควรจะอยู่ในกระเป๋าเสื้อ… หายไปแล้ว

หายไปได้อย่างไร?

เครื่องบันทึกเสียงควรจะอยู่ที่กระเป๋าเสื้อของเธอตลอดไม่ใช่เหรอ?

ซูสือเยว่กัดริมฝีปาก รีบค้นทุกซอกมุมบนตัวที่คิดว่าพอจะซ่อนสิ่งของได้ด้วยความรวดเร็ว

ไม่มี

หาอีกครั้ง ก็ยังไม่มี

หานหยุนดูเธอที่มีท่าทางเอาแต่ค้นหา จึงอดไม่ได้ที่จะถามขึ้นด้วยความสงสัย “หาอะไรเหรอ? ”

“ปากกาบันทึกเสียง”

ซูสือเยว่ครุ่นคิด เธอเงยหน้ามองหานหยุนด้วยความรวดเร็ว:

“ก่อนที่เจียงหลีจะตายนั้น ฉันเคยถามเธอว่าวางกับดักกับฉินโม่หานไว้อย่างไร เธอพูดออกมาทุกอย่าง”

“ตอนนั้นฉันอัดเสียงเอาไว้…”

“แต่ตอนนี้ฉันหาปากกาบันทึกเสียงไม่เจอแล้ว!”

หานหยุนขมวดคิ้ว

ถ้าหากมีปากกาบันทึกเสียงที่ซูสือเยว่พูดถึงจริงๆ ล่ะก็ …

แน่นอน ปากกาบันทึกเสียงอันนั้น เป็นสิ่งสำคัญที่ใช้ปลุกฉินโม่หายให้ตื่น!

เขารีบช่วยซูสือเยว่ค้นหาในทันที

ทั้งสองช่วยกันค้นทุกตรงที่สามารถค้นหาได้ทั้งหมด แต่ก็ไม่เจอ

“คงจะตกอยู่ที่ไหนสักที่ เมื่อกี้เธอไปที่ไหนมา? ”

ซูสือเยว่ครุ่นคิด “ฉันเพิ่งจะ…”

หลังจากที่เจียงหลีกระโดดตึกฆ่าตัวตายนั้น ซูสือเยว่อยู่ที่ห้องพักผู้ป่วยของเขาตลอดเวลา

จนกระทั่งฟู๋เชียนเชียนมา

จากนั้น เธอก็รับสายที่ฉินหนานเซิงโทรเข้า

สุดท้าย ลั่วเยียนบาดเจ็บ พวกเขากลับเข้ามาในโรงพยาบาลอีกครั้ง

ดังนั้นถ้าหากปากกาบันทึกเสียงจะตกที่ไหนสักที่ นอกจากบนรถ โรงพยาบาล ก็คงจะเหลือแต่ที่ร้านอาหารแล้ว

ซูสือเยว่ขมวดคิ้ว “ฉันไปที่ร้านอาหารนั้นเป็นเพื่อนเธอดีกว่า”

เธอจำได้ บนดาดฟ้าของร้านอาหารนั้น เธอทำเรื่องโง่ๆ เพื่อลั่วเยียนไป เธอเสนอตัวเข้าไปอย่างไม่ได้สนใจอะไรทั้งนั้นปัดมืดที่อยู่ในมือของลั่วเยียนออก

ถ้าหากปากกาบันทึกเสียงจะตก ก็คงจะเป็นตอนนั้น

หานหยุนพยักหน้า รีบลากซูสือเยว่วิ่งออกมาจากโรงพยาบาล มาถึงที่ร้านอาหารด้วยความเร็วที่เร็วที่สุด

ร้านอาหารปิดไปแล้ว เถ้าแก่กำลังสั่งให้พนักงานทำความสะอาดอยู่

ซูสือเยว่และหานหยุนพูดจาไพเราะ เอาเงินให้กับเถ้าแก่ก็แล้ว เถ้าแก่จึงจะยอมให้ดูกล้องวงจรปิดที่บันทึกภาพตอนที่หานหยุนเตะมีดที่อยู่ในมือของลั่วเยียนตกลงมา

และก็เป็นเช่นนั้น

ในขณะที่ซูสือเยว่เตะมีดในมือของลั่วเยียนนั้น ปากกาอัดเสียงที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงของเธอก็ตกลงมา

หลังจากนั้น บนดาดฟ้ามีผู้คนมากมาย ในกล้องวงจรปิด พวกเขาก็ไม่เห็นปากกาบันทึกเสียงอีก

ซูสือเยว่สูดลมหายใจเข้าลึก แล้วรีบวิ่งออกจากห้องกล้องวงจรปิดไปยังดาดฟ้าทันที

บนดาดฟ้าสะอาดเกลี้ยง ไม่ต้องพูดถึงปากกาบันทึกเสียง แม้แต่ฝุ่นสักนิดก็ยังไม่มี

พนักงานจำนวนหนึ่งกำลังถูพื้นอยู่

ซูสือเยว่รู้สึกสิ้นหวังอีกครั้ง

หลังจากที่ได้สอบถามก็รู้ว่า ขยะของบนดาดฟ้าทั้งหมด ได้ถูกเอาไปทิ้งไว้ที่สถานีขยะแล้ว

ตอนที่ซูสือเยว่ถามพวกเขาว่าเห็นปากกาบันทึกเสียงไหม พนักงานทำความสะอาดก็เอาแต่อ้ำอึ้งตอบไม่ได้

หมดหนทาง

เธอหลับตาลง จนสุดท้ายเธอตัดสินใจไปตามหาขยะที่สถานีขยะ

ซูสือเยว่และหานหยุนขับรถตามรถขยะไปตั้งหลายกิโลเมตร จนสุดท้ายรถขยะได้เทขยะออกมา

แต่ว่า…

ไม่ว่าพวกเขาจะหาขนาดไหน ก็หาปากกาบันทึกเสียงของซูสือเยว่ไม่เจอ

ปากกาบันทึกเสียงที่ช่วยชีวิตแท่งนั้น หายวับไปในหมู่คนราวกับไอน้ำอย่างนั้น ไม่พบแม้แต่ร่องรอย

ซูสือเยว่ไม่ยอมแพ้ ค้นหาด้านในร้านอาหารอีกครั้งหนึ่ง

จนถึงเวลาสี่ทุ่ม ร้านอาหารได้ผิดไปแล้ว เธอยังคงอยู่ที่นั่น ไม่ยอมออกมาเสียที

“เธอกำลังหาอันนี้อยู่รึเปล่า? ”

เป็นจังหวะที่ซูสือเยว่กลับมาที่ดาดฟ้าอีกครั้ง กำลังเตรียมจะค้นหาอีกครั้ง เสียงแหลมๆ ของหญิงสาวดังขึ้นมา

เธอขมวดคิ้ว มองไปตามเสียงนั้น

ที่หน้าประตูของดาดฟ้า ลู่จื่อเหยาที่ใส่สีขาวทั้งตัวยืนยิ้มอยู่ตรงนั้น ในมือถือปากกาอัดเสียงอยู่พลางแกว่งไปมา

รูปร่างของปากกาอัดเสียงอันนั้น เหมือนกับอันนั้นที่ซูสือเยว่ทำหาย แบบเดียวกันเป๊ะ!

แววตาทั้งคู่ของซูสือเยว่ เป็นประกายขึ้นมาทันที ในขณะที่มองไปยังปากกา

“คุณเจอมันที่ไหน? ”

ลู่จื่อเหยายืดไหล่ “วันนี้มันตกลงมาจากตัวคุณ แล้วฉันก็เผลอเก็บได้เท่านั้น”

เธอพูดพลางนั่งบนเก้าอี้ด้วยท่าทางสง่างาม แสยะยิ้มขึ้นมา:

“วันนี้ฉันเห็นคุณวิ่งขึ้นวิ่งลง แล้วยังไปที่สถานีขยะอีก…”

หญิงสาวกวาดสายตามองเสื้อผ้าที่ทั้งสกปรกและเหม็นของซูสือเยว่ แล้วยิ้มออกมาอย่างได้ใจ

เธอแกว่งปากกาบันทึกเสียงในมือไปมา:

“อันนี้ คงจะสำคัญกับคุณมากสินะ? ”

ซูสือเยว่หรี่ตามอง “ใช่”

เธอรีบเดินก้าวไปตรงหน้าลู่จื่อเหยา “ปากกาบันทึกเสียงแท่งนี้ สำคัญต่อฉันมาก”

“ช่วยคืนมาให้ฉันด้วย”

“คืนให้คุณ? ”

ลู่จื่อเหยาเลิกคิ้ว แล้วเอาปากกาบันทึกเสียงซ่อนไว้ที่ที่แนบชิดร่างกายมากที่สุด “คืนให้คุณ ก็ไม่ใช่ว่าคืนไม่ได้นะ”

“แต่ซูสือเยว่ ในเมื่อของชิ้นนี้สำคัญกับคุณมาก…”

“อย่างนั้นคุณควรจะรู้ว่า ถ้าไม่จ่ายค่าชดเชย ก็เอากลับไปไม่ได้ใช่ไหม? ”

ซูสือเยว่หลับตาลงแล้วสูดลมหายใจเข้าลึก:

“คุณต้องการอะไร”

เธอรู้ว่าลู่จื่อเหยาต้องการยื่นข้อเสนอต่อเธอ

ไม่อย่างนั้น ลู่จื่อเหยาคงไม่จำเป็นต้องรอถึงตอนนี้ แล้วค่อยหยิบของมาหาเธอหรอก?

ลู่จื่อเหยาแค่ต้องการรู้ว่า ปากกาบันทึกเสียงแท่งนี้สำคัญต่อซูสือเยว่ขนาดไหน

เมื่อว่าสำคัญขนาดไหนแล้ว จึงค่อยเพิ่มน้ำหนักลงไป

ถึงแม้ว่าลู่จื่อเหยา ผู้หญิงคนนี้นะร้ายกาจขนาดไหน แต่เพื่อฉินโม่หาน…

เธอก็คงต้องอดทน

หญิงสาวสูดลมหายใจเข้าลึก มองใบหน้าลู่จื่อเหยาอีกครั้งก่อนจะพูดออกมา:

“บอกมาสิ คุณต้องการอะไร? ”

“เงินเหรอ? ”

“เงินสามารถ…”

“ฉันต้องการเงินอยู่แล้ว”

ลู่จื่อเหยายกมุมปากขึ้น เสียงที่แผ่วเบานั้นเจือความรู้สึกสะใจ:

“แต่ว่าฉันต้องการอย่างอื่นด้วย”

เธอยกมุมปากขึ้น จัดทรงผมของตัวเองด้วยความได้ใจ:

“เสียงบันทึกนี้ ฉันฟังแล้วรอบหนึ่ง เนื้อหาน่าสนใจมาก”

“และฉันก็รู้ ว่าคุณคงจะเอาเสียงบันทึกนี้ไปวางไว้ที่หัวเตียงของฉินโม่หาน เปิดวนไปมาให้เขาฟัง เพื่อจะปลุกให้เขาตื่นขึ้นมา”

“ดังนั้น ฉันได้ตัดเสียงบันทึกออกเป็นสองท่อน”

“ฉันต้องการให้คุณช่วยฉันสองเรื่อง หลังจากที่ทั้งสองเรื่องเสร็จเรียบร้อย ถึงจะได้เสียงบันทึกที่สมบูรณ์ เอาไปให้ฉินโม่หานที่ใกล้จะตายนั้นฟัง”

มือทั้งสองข้างของซูสือเยว่กำหมัดแน่นที่ข้างลำตัว

รังแกกันมากเกินไปแล้ว!

เสียงบันทึกนั้นเป็นของเธอแท้ๆ!

แต่…

ถึงแม้ว่าในใจจะโกรธ แต่ใบหน้าของเธอยังคงยิ้มออกมาบางๆ :

“คุณต้องการให้ฉันทำอะไรให้เหรอ? ”

“ง่ายมาก”

ลู่จื่อเหยาเงยหน้าขึ้นมา มองใบหน้าของซูสือเยว่ด้วยสายตาอ่อนโยน:

“หนึ่ง ฉันต้องการให้ลั่วเยียนยอมรับผิดต่อหน้าสาธารณะ ประกาศหย่าร้างกับฉินหนานเซิง ในขณะเดียวกันก็ออกจากวงการบันเทิง และไม่กลับเข้ามาในวงการอีกแม้แต่ครึ่งก้าว”

“สอง ฉันต้องการให้เธอในฐานะที่เป็นผู้ดูแลมรดกฉินโม่หาน ประกาศว่าฉินโม่หานตายไปแล้ว และยกสมบัติทั้งหมดของฉินโม่หานให้กับพี่ชายฝาแฝดของเขาลู่จิ่งเฉิน

สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ

สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ

หลังข่าวลือที่เสียโฉม ท่านชายฉินโหดร้ายอำมหิต ทำคู่หมั้นตายติดต่อกันสองคน ผู้หญิงทั้งเมืองไม่มีใครกล้าแต่งงานด้วย แต่ซูสือเยว่กลับแต่งสาวน้อย ต่อไปให้ฉันปกป้องเธอเองเพิ่งแต่งงาน เธอก็ถูกลูกน้อยน่ารักน่าหยิกสองคนแย่งกันอย่างคลั่งใคล้ซะแล้ว……

Comment

Options

not work with dark mode
Reset