ได้ยินเสียงสวยๆของลู่จื่อเหยา ลู่จิ่งเฉินก็ได้ถอนหายใจออกมาเงียบๆ
“ก็นับว่าใช่อยู่”
“ผมคิดว่าระหว่างพวกเราก็ได้คบกันมานานมากแล้ว และก็ได้หมั้นหมายกันมานานแล้วด้วย มันก็ถึงเวลา…จะเปลี่ยนความสัมพันธ์ต่อกันอีกสักหน่อยแล้ว”
ได้ยินเขาพูดมาอย่างนี้แล้ว ลู่จื่อเหยาก็ดีใจมากขึ้นมาทันที “ได้ จิ่งเฉิน คุณรอฉันนะ!”
วางสายไป ลู่จื่อเหยาก็ได้ฮัมเพลงด้วยความตื่นเต้นไปพลาง แล้วก็เริ่มทำการอาบน้ำแต่งตัวไปพลาง
เธอกับลู่จิ่งเฉินคบกันอันที่จริงมันก็เป็นเวลาห้าหกปีไปแล้ว
พูดไปแล้วคนอื่นก็คงจะไม่เชื่อกัน เธอกับเขาคบกันมานานขนาดนี้ แล้วก็ได้หมั้นหมายกันไปเรียบร้อยแล้ว…
แต่อันที่จริงจนถึงตอนนี้ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับลู่จิ่งเฉินกลับมีเพียงแค่กอดและการจับมือสิ่งจำพวกที่เป็นการสัมผัสกันภายนอกเท่านั้น
ความรักที่ลู่จิ่งเฉินมีต่อเธอรุนแรงมาก แน่นอนว่ามีหลายครั้งที่บอกมาว่าต้องการเปลี่ยนให้ความสัมพันธ์ระหว่างกันมันใกล้ชิดขึ้นมากกว่าเดิม
แต่ว่าลู่จื่อเหยาไม่ยอม
เธอไม่ได้ชอบลู่จิ่งเฉินอยู่แล้ว
ในสายตาของเธอ ลู่จิ่งเฉินเป็นเพียงแค่เครื่องมือที่ในอนาคตเธอจะนำกลับไปที่เมืองหรง แล้วแย่งชิงฉินหนานเซิงกลับคืนมาอีกครั้ง และแย่งชิงสมบัติของฉินโม่หานมาเท่านั้นเอง
ตอนที่เธอเจอลู่จิ่งเฉินครั้งแรก ลู่จิ่งเฉินนอกจากจะมีหน้าตาที่เหมือนกับฉินโม่หานเปี๊ยบๆ ก็ไม่มีอะไรดีเลยสักอย่าง
ผู้ชายที่ทำงานอยู่ที่ร้านอาหารของบ้านพ่อเลี้ยงแม่เลี้ยง คนที่ทำงานหนักที่สุดเหนื่อยที่สุดคนหนึ่ง ทั้งร่างประดับไปด้วยกลิ่นเหม็นจากการกวาดขยะ เธอจะไปเกิดความรู้สึกรักแรกพบกับเขาจริงๆได้ยังไง?
เธอก็แค่คอยใช้ประโยชน์จากเขามาโดยตลอดเท่านั้นเอง
แต่ครั้งนี้…
เธอวางแผนเอาไว้ว่าเพื่อแผนของตนแล้ว จะยอมอุทิศร่างกายของตัวเองออกไป
ลู่จิ่งเฉินอยากได้เธอมาหลายปีแล้ว คิดมาโดยว่าเธอกับเขารักกันด้วยใจจริง และก็คิดมาโดยตลอดว่าเธอไม่ยอมจูบไม่ยอมขึ้นเตียงกับเขา เป็นเพราะว่าเธอเป็นผู้หญิงที่ดีที่อ่อนโยนเคารพธรรมเนียมประเพณีคนหนึ่ง
ถ้าตอนนี้เธอยอมขึ้นเตียงกับลู่จิ่งเฉินไป เขาจะต้องซาบซึ้งใจต่อเธอจนน้ำตาแทบจะไหลออกมาอย่างแน่นอน เธอพูดอะไรไปเขาจะยอมฟังยอมเชื่อมันทั้งหมดแน่
อย่างนั้นแล้วเธอก็จะสามารถฉวยโอกาสนี้เอาไว้ได้พอดี หลังจากที่เรื่องบนเตียงได้สิ้นสุดลง จะเป็นตอนที่การควบคุมสติอ่อนกำลังลงที่สุด…
เรียกร้องออกไปว่าเขาและเธอมาฮุบเอาสมบัติทั้งหมดของฉินโม่หานด้วยกัน
ให้ฉินโม่หานที่อยู่ในโรงพยาบาลกลายเป็นลู่จิ่งเฉิน
ให้ลู่จิ่งเฉินคนปัจจุบันได้เปลี่ยนกลายเป็นฉินโม่หานไปตลอดกาล
แล้วพวกเขาค่อยหาฤกษ์แต่งงานกัน เธอก็จะสามารถได้ครอบครองทุกสิ่งทุกอย่างของฉินโม่หานมา…
ส่วนฉินหนานเซิง?
ลู่จื่อเหยาทาลิปสติกสีแดงไปพลาง หัวเราะเสียงเย็นออกมาพลาง
ขอเพียงแค่เธอได้กลายเป็นคุณนายฉินที่แท้จริงแล้ว อย่างนั้นแล้วเธอก็จะเป็นอาสะใภ้เล็กของฉินหนานเซิง
เก๋งจีนที่ใกล้น้ำมักได้จันทร์ก่อน เธอยังจะต้องกลัวว่าหลังจากนี้ไปจะกุมฉินหนานเซิงเอาไว้ไม่ได้อีกเหรอ?
คิดไปถึงตรงนี้แล้ว ลู่จื่อเหยาก็ยิ่งตื่นเต้นดีใจมากขึ้นกว่าเดิม
เธอเปลี่ยนชุดที่สวยที่สุด เดินออกจากโรงแรมไปอย่างสง่างาม โบกรถไปยังที่อยู่ของโรงแรมที่ลู่จิ่งเฉินส่งมาให้เธอ
ลู่จื่อเหยาที่กำลังจมอยู่กับความสุขและความตื่นเต้นดีใจไม่ได้รู้เลยว่า…
ระหว่างทางที่เธอไปหาลู่จิ่งเฉิน รหัสWeb Driveของเธอได้ถูกแฮกออกมาได้แล้ว
ซิงกวงอุ้มโน๊ตบุ๊คพลางกดเปิดบันทึกเสียงอันใหม่ที่สุดอันนั้นที่อยู่ด้านในไปอย่างตั้งอกตั้งใจ
“ฉันถอดเสื้อฉินโม่หาน แล้วใช้เล็บกรีดเป็นรอยเลือดหลายเส้นบนหลังของเขา บอกเธอไปว่านั่นเป็นตอนที่ฉันร่วมเตียงกับฉินโม่หานทำมันออกมา”
“แล้วฉันก็ได้ถอดเสื้อผ้าบนร่างของตัวฉันเองออกไปด้วย ฉีกออกเป็นชิ้นๆแล้วโยนออกไปทั่วทุกทิศทาง สร้างความเท็จออกมาว่าพวกเราบ้าคลั่งกันมากเลย”
“สุดท้าย ฉันก็ใช้โยเกิร์ตที่ใช้สำหรับกินมาแต้มไว้ทุกที่ แสร้งทำเป็นเหมือนสภาพที่พวกเราทั้งสองคนทำกันมาหลายรอบแล้ว”
……
เสียงแหลมของเจียงหลีดังก้องขึ้นมาภายในห้อง
เด็กน้อยทั้งสามคนรวมถึงลั่วเยียนที่อยู่ข้างๆเบิกตากว้างออกมาทันที
ถึงแม้ว่าพวกเขาจะรู้มาโดยตลอดว่าบันทึกเสียงนี้เป็นอันที่ซูสือเยว่ต้องการจะใช้มาปลุกฉินโม่หานให้ฟื้นขึ้นมา
แต่นึกไม่ถึงว่า…
เนื้อหาที่อยู่ในบันทึกเสียงนี้มันจะทรงอานุภาพได้ถึงขนาดนี้!
ที่แท้ปมที่ติดค้างอยู่ภายในใจฉินโม่หานที่แก้ไม่ได้สักทีนั้น ทั้งหมดเป็นฝีมือของเจียงหลี!
เห็นว่าคำพูดที่เจียงหลีพูดออกมามันชักจะเกินไปมากขึ้นเรื่อยๆมันยิ่งไม่เหมาะกับเด็ก ลั่วเยียนจึงรีบแย่งโน๊ตบุ๊คที่อยู่ในอ้อมแขนของซิงกวงมาทันที
เธอปิดคลิปเสียงลง แล้วส่งปากกาบันทึกเสียงด้ามนึงไปให้ซิงกวง “โหลดลงอันนี้ น้าจะไปโรงพยาบาลตอนนี้เลย!”
ซิงกวงไม่กล้าจะมัวรีรออยู่ จึงรีบโหลดบันทึกเสียงนั้นลงไป แล้วเอาปากกาบันทึกเสียงคืนไปให้ลั่วเยียน
“คุณน้าลั่วเยียน คุณน้าไม่ต้องไปโรงพยาบาลแล้ว หม่ามี้ของผมเดี๋ยวก็มาแล้ว”
ลั่วเยียนย่นคิ้วออกมา “พวกเธอบอกซูสือเยว่แล้ว?”
ซิงเฉินถอนหายใจออกมา “แน่นอนอยู่แล้วครับ”
“เรื่องสำคัญขนาดนี้ จะไม่ให้หม่ามี้ของพวกเรามาได้ยังไงกันล่ะ”
“คุณน้าร้องไห้หนักขนาดนั้น แล้วยังทำการเสียสละมากมายขนาดนี้เพื่อช่วยหม่ามี้เอาบันทึกเสียงกลับมา ถ้าหม่ามี้ยังอยู่ที่โรงพยาบาลในช่วงเวลาแบบนี้ ไม่แม้แต่จะมองดูคุณน้าเลยสักนิดอีกล่ะก็…”
“อย่างนั้นแล้วท่านก็ไม่ใช่หม่ามี้ของพวกเราแล้ว”
เสียงพูดของเด็กน้อยเพิ่งจะหลุดออกมา ด้านนอกวิลล่าก็มีเสียงออดดังขึ้น
ซูสือเยว่มาถึงแล้ว
คนใช้ได้นำซูสือเยว่มายังห้องหนังสือชั้นสอง
พอหญิงสาวเดินเข้ามา ก็พุ่งตัวเข้าไปตรงหน้าลั่วเยียนด้วยความร้อนใจทันที
“ลั่วเยียน ทำไมเธอโง่อย่างนี้?”
“ฉันไม่คู่ควรให้เธอต้องมาทำเรื่องอย่างนี้เพื่อฉันเลย เธอ…”
ลั่วเยียนกัดริมฝีปากมองซูสือเยว่
“อันที่จริงนี่เป็นการตัดสินใจของฉันเอง
“ถึงแม้ว่าจะไม่มีบันทึกเสียงนี้ ฉันก็เลือกที่จะออกไปจากฉินหนานเซิง ออกไปจากวงการบันเทิงอยู่แล้ว”
“บันทึกเสียงเพียงแค่ให้เหตุผลที่ดีกับฉันเท่านั้นเอง ฉันสามารถบอกกับตัวเองได้ว่าฉันทำอย่างไปนี้มันถูกต้องแล้ว”
พูดจบ เธอก็สูดหายใจเข้าไปลึกๆ แล้วยื่นปากกาบันทึกเสียงที่อยู่มือให้ซูสือเยว่ไป
“ลองฟังดู”
ซูสือเยว่ย่นคิ้วออกมา เปิดปากกาบันทึกเสียงด้วยความสงสัย
เสียงแหลมของเจียงหลีได้ดังก้องอยู่ภายในห้องอีกครั้ง
ซูสือเยว่เบิกตากว้างออกมาด้วยความช็อกตกใจ
“นี่…”
“ลู่จื่อเหยาเอาบันทึกเสียงให้เธอมาจริงๆ?”
ลั่วเยียนส่ายหน้าออกมา
“แน่นอนว่าไม่ใช่อยู่แล้ว”
เธอทอดถอนหายใจ แล้วชี้ไปทางเด็กน้อยทั้งสามคนที่นั่งเรียงกันอยู่บนโซฟาข้างหน้า
“เธอควรขอบคุณลูกทั้งสามคนของเธอนะ”
“เป็นเพราะว่าหลังจากที่พวกเขาได้ยินบันทึกเสียงนั้นแล้ว ก็ได้ยินคำว่าWeb Driveที่ลู่จื่อเหยาพูดถึงออกมาอย่างฉับพลัน…”
“พวกเขาก็เลยทำรหัสกันทั้งคืน ลองไปทั้งWeb Driveเว็บไซต์ทั้งหมดดู สุดท้ายก็เจอกับบัญชีของลู่จื่อเหยา แล้วก็ได้ใช้เวลาเกือบวันนึงเพื่อแฮกรหัสบัญชีWeb Driveของหล่อนอีกทีนึง”
“บันทึกเสียงอันนี้ เป็นอันที่เจอในWeb Driveของลู่จื่อเหยา”
“ดังนั้นแล้วเธอไม่ต้องขอบคุณฉันหรอก ไม่ต้องมารู้สึกผิดกับฉันไป เพราะว่าสิ่งเหล่านั้นที่ฉันทำ มันไม่ได้ช่วยเธอเลยจริงๆ”
ซูสือเยว่ฟังทั้งหมดไปด้วยความช็อกตกใจ พุ่งกระโจนเข้าไปกอดเด็กน้อยทั้งสามทีละคนไปด้วยความรู้สึกตื้นตันใจ จากนั้นก็จูบไปอย่างแรงหลายๆที
สุดท้ายหญิงสาวก็ได้ปล่อยลูกๆทั้งสามคนลงไปด้วยความตื่นเต้นดีใจ
ฉินโม่หานมีทางรอดแล้ว!
มีทางรอดแล้ว!
มีบันทึกเสียงชุดนี้แล้ว เธอก็จะสามารถลองดูด้วยกันกับหานหยุนได้ว่าตกลงแล้วเขาจะฟื้นขึ้นมาได้มั้ย!
ในตอนที่ซูสือเยว่กำลังดีใจมากๆอยู่นั้นเอง ซิงหยุนก็ได้ย่นคิ้วออกมา
“หม่ามี้ ในWeb Driveของลู่จื่อเหยาอันนี้…เก็บความลับเอาไว้เยอะมากเลย”
ซูสือเยว่ย่นคิ้ว พลางหันไปสบตากับลั่วเยียนทันที
หญิงสาวทั้งสองคนประชิดเข้าไปพร้อมกัน มองดูหน้าจอโน๊ตบุ๊คที่อยู่ในอ้อมแขนของซงหยุน
ของที่อยู่บนหน้าจอ ทำให้พวกเธอเบิกตากว้างด้วยความช็อกตกใจออกมาพร้อมกัน——