ซูสือเยว่กับลั่วเยียนเอาหัวของเด็กน้อยทั้งสามคนแยกออกจากกันไปอีกด้านนึง แล้วก็เริ่มทำการตรวจสอบดูของที่อยู่ในWeb Driveของลู่จื่อเหยาไปทีละนิดไปอย่างตั้งอกตั้งใจ
พูดได้ว่ามัน…สุดยอดมากจริงๆ
คาดว่ามีบางอย่างที่เก็บเอาไว้ในคอมเพราะกลัวว่าจะถูกค้นพบเข้า ลบไปก็ทั้งรู้สึกเสียดายและทั้งอยากรำลึกความหลังไปด้วยล่ะมั้ง
ในWeb Driveของลู่จื่อเหยา มีภาพเธอกับผู้ชายอยู่ด้วยกันหลายภาพ
ชื่อของในแต่ละไฟล์ล้วนจะเป็นชื่อของผู้ชายทั้งนั้น กดเข้าไปล้วนเป็นภาพที่สนิทชิดเชื้อของเธอกับผู้ชายทั้งนั้น
ภาพพวกนั้น…
อย่าว่าแต่คนที่ไม่เคยขึ้นเตียงกับใครมาก่อนอย่างลั่วเยียน แม้แต่ซูสือเยว่คนที่มีลูกมาแล้วสามคน เห็นแล้วต่างก็พากันหน้าแดงไปหมด
บนภาพ ล้วนแล้วแต่จะเป็นภาพที่ลู่จื่อเหยากำลังขึ้นเตียงอยู่กับพวกผู้ชายเหล่านั้น
มีบางครั้งที่สวมเสื้อผ้า และมีบางครั้งที่ไม่สวม
แต่ว่า…
แต่ละภาพล้วนแล้วแต่จะสุดยอดทั้งนั้น
อีกทั้งในไฟล์แต่ละไฟล์ที่ตั้งชื่อไฟล์ตามชื่อของผู้ชายนั้น นอกจากภาพแล้ว ยังมีข้อมูลชุดนึงกับแบบฟอร์มชุดนึงด้วย
เปิดไฟล์ข้อมูลออกมา ด้านในเป็นข้อมูลของผู้ชายคนนี้ วิธีเจอกัน ข้อมูลติดต่อ ที่อยู่ นัดเจอกันอีกได้หรือเปล่า มีแฟนแล้วหรือยังแต่งงานแล้วหรือยัง
แบบฟอร์มใบนั้นที่อยู่ท่อนหลัง…
ได้เขียนวันเดือนปีระบุเอาไว้ ใช้ภาพบนเตียงมารีดไถเงินไปเท่าไหร่
ดวงตาของลั่วเยียนมองจ้องไปไม่ขยับด้วยความประหลาดใจ
ซูสือเยว่เองก็ได้พูดไม่ออกด้วยความช็อกตกใจด้วยเหมือนกัน
เธอถ่ายละครมาตั้งหลายปี เจอบทบาทและสคริปต์บทละครที่ผิดแปลกมามากมาย
แต่นี่เป็นครั้งแรกเลยที่เจอผู้หญิงที่เล่นสนุกขนาดนี้!
ไฟล์ที่ตั้งชื่อโดยการใช้ชื่อของผู้ชายมาตั้งพวกนี้ มียี่สิบสามสิบคนเลยเต็มๆ!
หลังจากที่ลั่วเยียนดูเสร็จแล้วก็ได้มองซูสือเยว่ไปเงียบๆ ก็ได้บทสรุปมาว่า
“ลู่จื่อเหยา…”
“ร่างกายเธอดีมากเลยจริงๆ”
สามารถรักษาความสัมพันธ์กับผู้ชายเยอะมากขนาดนี้มาอย่างยาวนานได้ และยังรีดไถเงินจากตัวของพวกผู้ชายพวกนี้ได้…
สมองกับร่างกายของลู่จื่อเหยาต่างก็สุดยอดมากเลยทั้งนั้น!
ซูสือเยว่เม้มริมฝีปาก หยิบแฟรชไดรฟ์ออกมาเงียบๆ เอาเนื้อหาข้างในคัดลอกเอาไว้
แต่เอกสารที่อยู่ในWeb Driveมันเยอะมากเกินไป
เธอเพียงแค่คัดลอกก็ต้องใช้เวลานานมากแล้ว
ตอนที่รออยู่นั้น เธอก็ได้พบว่ามีไฟล์อันนึงที่ถูกตั้งชื่อไฟล์ว่า “ลู่จิ่งเฉิน”
ซูสือเยว่ตะลึงค้างไปเล็กน้อย
หรือว่า…
พี่ชายฝาแฝดของฉินโม่หานก็เป็นหนึ่งในผู้ชายมากมายนั้นของลู่จื่อเหยาด้วยเหมือนกัน?
เธอเอาเมาส์ไปหยุดอยู่ที่บนไฟล์ของลู่จิ่งเฉิน แต่ไม่ว่ายังไงก็กดลงไปไม่ลงสักที
เพราะถึงยังไงลู่จิ่งเฉินกับฉินโม่หานก็หน้าตาเหมือนกันเปี๊ยบๆ
เธอกลัวว่าตอนที่กดเปิดเข้าไป สิ่งที่แสดงอยู่ตรงหน้าของเธอ จะเป็นคนที่หน้าตาเหมือนกับฉินโม่หานเปี๊ยบอยู่บนเตียงกับลู่จื่อเหยา!
“ทำไมไม่กดเปิดเข้าไปล่ะ?”
ลั่วเยียนเห็นซูสือเยว่ลังเล จึงได้ยื่นมือออกไปช่วยซูสือเยว่กดลงไปทันที
ในนาทีที่กดเปิดไฟล์เข้าไปนั้นเอง ซูสือเยว่ก็รีบปิดตาทั้งสองข้างแน่นโดยทันที
เธอไม่อยากเห็นภาพลู่จิ่งเฉินกับลู่จื่อเหยา!
“ว้าว สุดยอดมากเลยจริงๆ!”
ได้ยินเสียงอุทานของลั่วเยียนดังขึ้นมาข้างๆใบหู
ซูสือเยว่ปิดตาแน่น ไม่อยากดูเลย
“สือเยว่!”
ในทันใดนั้นเอง ข้างๆหูก็ได้ยินเสียงลั่วเยียนดังขึ้นมา
“เธอเลิกปิดตาได้แล้ว ไม่มีภาพที่มันติดเรทอะไรเลย แต่มันก็ทำให้ช็อกอยู่ดี”
ซูสือเยว่จงได้ผ่อนลมหายใจอย่างโล่งอกออกมา จากนั้นก็ค่อยๆลืมตาออกมาช้าๆ
ลั่วเยียนไม่ได้หลอกเธอ
ในไฟล์ของลู่จิ่งเฉินไม่มีภาพที่ดูคลุมเครืออะไรเลยสักภาพเดียว
สิ่งที่มีอยู่ ทั้งหมดเป็นพวกแบบร่างแผนการและแบบฟอร์มข้อมูลทั้งนั้น
เอกสารชุดแรกสุดก็มีอายุห้าหกปีไปแล้ว
ซูสือเยว่ย่นคิ้วออกมา กดเปิดเอกสารชุดนั้นไปเงียบๆ
ข้างในเป็นภาพของลู่จิ่งเฉินอยู่บางส่วน
ลู่จิ่งเฉินที่อยู่ในภาพมองไปแล้วดูโตกว่าอายุในตอนนี้ไปเยอะเลย
เขาสวมเสื้อผ้าที่ดูโกโรโกโส ยืนล้างจานอยู่ในลานเล็กๆที่หนาวเหน็บที่หนึ่ง
มือทั้งสองข้างของชายหนุ่มถูกแช่แข็งจนแดงออกมา แต่ดวงตากลับตั้งอกตั้งใจมาก
ภาพถัดมา เป็นภาพที่เขากำลังถูพื้นอยู่
ภาพถัดมาอีกภาพนึงก็ยังคงกำลังถูพื้นอยู่ แต่ว่ามีผู้หญิงที่สวมเสื้อผ้าขนสัตว์คนหนึ่งชี้หน้าด่าว่าเขาอยู่
แต่ลู่จิ่งเฉินกลับก้มหน้าก้มตาถูพื้นไป ไม่ได้พูดอะไร
ภาพอย่างนี้ในช่วงหลังๆมายังมีอีกหลายสิบรูป ลู่จิ่งเฉินในแต่ละรูปล้วนแล้วแต่จะกำลังทำงานหนักหน้าตาสกปรกมอมแมมไปหมด
ซูสือเยว่เบิกตากว้างออกมาด้วยความช็อกตกใจ
เธอหันหน้าไปมองลั่วเยียน
ลั่วเยียนเองก็ช็อกตกใจพูดไม่ออกอยู่นานเหมือนกัน
พวกเธอรู้มาโดยตลอดว่าลู่จิ่งเฉินเป็นพี่ชายฝาแฝดของฉินโม่หาน แต่นึกไม่ถึงว่า…
ลู่จิ่งเฉินอยู่ทางเหนือ นึกไม่ถึงว่าจะใช้ชีวิตอย่างนี้!
เห็นชายที่อยู่ในภาพที่มีหน้าตาเหมือนฉินโม่หานเปี๊ยบแต่กลับมีใบหน้าที่เต็มไปด้วยฝุ่นสกปรกมอมแมมคนนี้ ภายในใจของซูสือเยว่ก็ได้เต็มไปด้วยความรู้สึกสงสาร
เขาเคยมีชีวิตอย่างนี้…
มิน่าตอนนี้เขาถึงได้ลอบวางแผนที่จะยึดครองสมบัติของฉินโม่หานร่วมกับลู่จื่อเหยาอยู่ลับๆได้
โชคชะตาไม่ยุติธรรมกับเขา เขาอยากทวงคืนกลับมาจากฉินโม่หาน
ถึงแม้ว่าเธอจะรู้ว่าความคิดนี้ของลู่จิ่งเฉินมันผิด แต่ภาพพวกนี้มันทำให้เธอเข้าใจความทุกข์ของลู่จิ่งเฉินขึ้นมาทันที
เธอสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วปิดไฟล์นี้ไป จากนั้นก็เปิดอันที่อยู่ล่างลงมา
ดูหลายๆไฟล์ไปแล้ว ซูสือเยว่กับลั่วเยียนก็ได้เข้าใจขึ้นมาว่าพวกเขาได้เข้าใจลู่จิ่งเฉินผิดไป
บางทีคนที่คิดวางแผนกับฉินโม่หาน และคิดอยากจะเอาสมบัติของฉินโม่หานไป อาจมีแค่ลู่จื่อเหยาแค่คนเดียว
เพราะว่าบนของขวัญที่ลู่จิ่งเฉินมอบให้ลู่จื่อเหยาในปีนี้เขียนเอาไว้ว่า
“ขอบคุณที่คุณได้เข้ามาในชีวิตผม ทำให้ผมมองเห็นแสงสว่าง”
“ผมพอใจกับวันเวลาในตอนนี้มากเลย หวังเพียงแค่ว่าต่อจากนี้ไปจะไม่มีอุปสรรคเข้ามา อยู่อย่างนี้ไปจนแก่เฒ่า”
คนที่ขอบคุณชีวิต หวังว่ามีชีวิตที่สงบสุขไปจนแก่เฒ่าคนหนึ่ง…
จะไปคิดที่จะยึดครองสมบัติของญาติพี่น้องเป็นอันดับแรกในตอนที่ได้เจอกับญาติพี่น้องที่แท้จริงของตัวเองได้ยังไงกัน?
ยิ่งไปกว่านั้น…
ในแผนการและการวางแผนพวกนี้ของลู่จื่อเหยา ก็ได้เขียนเป้าหมายสุดท้ายเอาไว้ก็คือเอาสมบัติของฉินโม่หานมา ส่วนลู่จิ่งเฉินเป็นเพียงแค่เครื่องมือของเธอเท่านั้น
ซูสือเยว่รู้สึกเห็นอกเห็นใจลู่จิ่งเฉินขึ้นมาทันที
ลู่จื่อเหยาได้สวมหมวกเขียวใบใหญ่ๆให้กับเขา แล้วยังเห็นเขาเป็นแค่เครื่องมือ ช่วยเธอแย่งชิงสมบัติของน้องชายของเขาไป
คิดถึงตรงนี้แล้ว ซูสือเยว่ก็สูดหายใจเข้าลึกๆ หยิบโทรศัพท์ออกมา โทรไปหาลู่จิ่งเฉิน
“ฮัลโหล”
เพียงไม่นานเสียงของชายหนุ่มที่อยู่ทางปลายสายก็ได้ดังขึ้นมา
ถึงแม้ว่าเขาจะมีหน้าตาที่แทบจะเหมือนกับฉินโม่หานเปี๊ยบๆ แต่ความแตกต่างของน้ำเสียงมันยังต่างกันมากอยู่
ซูสือเยว่สามารถฟังออกถึงความแตกต่างของเสียงของพวกเขาออกโดยที่ไม่มีอุปสรรคอะไรเลย
เธอสูดหายใจเข้าลึกๆ
“ลู่จิ่งเฉิน คุณอยู่ไหน?”
“ฉันมีเรื่องสำคัญที่อยากจะเจอคุณ”
“เป็นเรื่องเกี่ยวกับที่จื่อเหยาบอกว่าเธอเป็นคู่หมั้นของฉินโม่หานใช่มั้ย?”
เสียงของลู่จิ่งเฉินที่อยู่ทางปลายสายเรียบนิ่งออกมา “อีกเดี๋ยวผมจะส่งที่อยู่ไปให้คุณ คุณก็เข้ามาเถอะ”
“ผมก็อยากจะคุยกับจื่อเหยาให้เคลียร์ๆเพราะเรื่องสัมภาษณ์นั้นอยู่พอดีเหมือนกัน”
“ถ้าคุณอยากรู้ความจริงด้วยล่ะก็ เข้ามาฟังกันสักหน่อยแล้วกัน”
เสียงของชายหนุ่มที่อยู่ทางปลายสายฟังดูซึมๆไปบ้าง
“ช่วงนี้ผมยุ่งมาก ไม่รู้เหมือนกันว่าตอนนี้เธอคิดจะทำอะไรอยู่กันแน่”
“ถ้าเธอคิดจะ…ทำเรื่องที่ไม่ควรทำจริงๆ ผมก็จะทำการคัดเลือกตัวเลือกที่ถูกต้องเอง”
พูดจบ ลู่จิ่งเฉินก็ได้วางสายไปทันที
“เขาหมายความว่าอะไรน่ะ พูดจาไม่เข้าใจเลย”
ลั่วเยียนย่นคิ้วออกมา
ซูสือเยว่สูดหายใจเข้าลึกๆ รอจนเอกสารทั้งหมดโหลดเสร็จแล้วก็ได้ถอนหายใจยาวๆออกมาด้วยความโล่งใจ
“ไม่ต้องสนอะไรมากมาย”
“ถ้าลู่จื่อเหยาอยู่ด้วยมันก็พอดีเลย”
“ฉันอยากจะดูสักหน่อยว่าหล่อนจะอธิบายเรื่องเอกสารพวกนี้กับลู่จิ่งเฉินไปยังไง”