การปรากฏตัวของลั่วเยียน ทำให้ทั้งสี่คนที่อยู่ในห้องผู้ป่วยนั้นเงียบสงัดในพริบตา
ฉินหนานเซิงที่นั่งอยู่ในรถเข็น มองผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงประตูอย่างตะลึงงัน
บนใบหน้าที่เคร่งขรึมของผู้ชายปรากฏอาการเก้อเขินออกมา:
“คุณ……ได้ยินหมดแล้ว”
“ถูกต้อง”
ลั่วเยียนสูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ เดินก้าวใหญ่ๆตรงเข้ามา “เรื่องปีนั้น คุณไม่ยอมเชื่อมาโดยตลอด ไม่ว่าฉันจะพูดยังไงคุณก็ไม่ยอมเชื่อ”
“ตอนนี้คุณจะมาบอกฉันว่าคุณรู้สึกผิดอยากจะขอโทษฉัน?”
“ฉินหนานเซิง ตอนแรกเพียงแค่คุณคิดว่าฉันเป็นเหมือนบุคคลที่มีปัญญาทั่วไป ก็คงจะไม่ทำหูทวนลมกับคำพูดของฉันทุกคำขนาดนี้”
“ตอนนี้ลู่จื่อเหยากลับมาแล้ว ลู่จื่อเหยาจากไปแล้ว”
“พอสุดท้ายคุณรู้แล้วว่าลู่จื่อเหยาเป็นใครกันแน่ ก็เริ่มจะมาตามหาฉัน บอกว่าคุณจะขอโทษฉัน ควักเงินจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้แม่ฉัน?”
ผู้หญิงสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ตรงเข้ามาดึงรถเข็นของฉินหนานเซิง ออกแรงผลักออกไปจากห้องผู้ป่วย
ท้ายที่สุด ลั่วเยียนนำบัตรธนาคารที่อยู่ในมือของตัวเองนั้นโยนไปที่ตัวของฉินหนานเซิง:
“ในนั้นมีอยู่หนึ่งล้านสองแสน เป็นรายได้ที่ฉันไปทำงานที่ตระกูลเวินช่วงหนึ่ง”
“คุณจ่ายให้แม่ฉันไปสองล้าน ฉันคงหาไม่ได้ชั่วคราว ถือว่าฉันติดหนี้คุณอยู่อีกแปดแสน”
“ฉันเพิ่งจะคุยเรื่องงานกับคุณหรงไป ไม่ช้าก็เร็วฉันก็คงจะหาได้แปดแสน ถึงเวลานั้นฉันจะเอามาคืนคุณ!”
พูดจบ ผู้หญิงก็ปิดประตูห้องผู้ป่วยเสียงดัง “ปัง”
ประตูห้องปิดลง เธอยันตัวกับประตูห้อง น้ำตาร่วงหล่นลงมาอย่างไร้เสียง
เธอปิดใบหน้าเอาไว้ ร่างกายค่อยๆทรุดลงไป สุดท้ายก็ล้มลงอยู่บนพื้น
น่าผิดหวังจริงๆ
ทั้งๆที่บอกไปแล้วแท้ๆว่าจากนี้ไปจะไม่ยอมเสียน้ำตาเพื่อฉินหนานเซิงอีก
แต่ทำไมถึงยังทนไม่ได้?
เธอคิดว่า ฉินหนานเซิงมาถึงที่นี่เพื่อมาดูแลมารดา มาที่นี่เพื่อมาจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้มารดา เป็นเพราะว่าเขานั้นรู้สึกผิดกับเรื่องเมื่อคืนวาน เป็นเพราะว่าเข้ารู้ว่าเขาเข้าใจการประพฤติตัวของเธอผิดไป
แต่คิดไม่ถึงเลยว่า เขานั้นมาเพื่อเรื่องที่เกิดขึ้นในปีนั้น
ในเมื่อฉินหนานเซิงรู้แล้วว่าเธอนั้นเป็นคนเขียนจดหมายกับเขาในปีนั้น เขาชอบเด็กผู้หญิงคนนั้น
ทำไมเมื่อวานเขายังจะทำเรื่องแบบนั้นลงไปอีก?
ทำไมเขาถึงยังสงสัยการประพฤติตัวของเธอ?
ในปีนั้นตอนที่เขาเข้าใจลู่จื่อเหยาผิดคน แต่ว่าไม่ว่าลู่จื่อเหยาจะพูดอะไรจะทำอะไร เขาก็จะเชื่อทั้งหมดโดยไม่มีข้มแม้ใดๆ!
แต่พอตอนนี้นางฟ้าตัวน้อยที่ติดต่อทางจดหมายกับเขาเปลี่ยนเป็นเธอลั่วเยียน……
กลายเป็นว่าเขาขนาดการประพฤติตัวของนางฟ้าตัวน้อยก็ยังไม่เชื่อ!
แท้จริงแล้วเธอนั้นเทียบไม่ได้กับลู่จื่อเหยาเลย หรือว่าเป็นเพราะว่า ในสายตาของฉินหนานเซิง เธอลั่วเยียนไม่ว่าจะอยู่ในฐานะอะไร ก็ไม่คู่ควรที่จะเชื่อถือได้เลย?
“พี่สาว……”
ลั่วชิงเจ๋อเดินเข้ามาหา กุมมือของลั่วเยียนเอาไว้เบาๆ เอ่ยปากพูดเสียงเบา:
“พี่เขยเขารู้สถานะของคุณ รู้ว่าเขาผิดไปแล้ว มาที่นี่ช่วยจ่ายค่ารักษาพยาบาล และยังบอกว่าอยากจะตามคุณกลับไป……”
“ไม่ใช่เรื่องดีอย่างนั้นเหรอ?”
“ทำไมคุณ?”
“คุณอย่าถามอีกเลย”
ลั่วเยียนร้องไห้อย่างเหนื่อยหอบกระโจนเข้าไปในอ้อมกอดของลั่วชิงเจ๋อ
ผู้ชายนั้นไม่เข้าใจเรื่องที่ผู้หญิงใส่ใจ
ยิ่งไปกว่านั้น ลั่วชิงเจ๋อนั้นอยู่ดูแลมารดาที่ชนบทมาโดยตลอด ก็เลยไม่รู้อะไรเลยว่าที่เมืองหรงนั้นมีข่าวลือเกี่ยวกับตัวเธอ และยิ่งไม่รู้ว่าเมื่อวานตอนกลางคืน คำพูดพวกนั้นที่สบประมาทเธอของฉินหนานเซิง……
เธอทำได้เพียงร้องไห้ออกมา ทำได้เพียงคิดว่าการทุ่มเทของตัวเองที่ให้กับฉินหนานเซิงมาหลายปีนั้น ทั้งหมดไม่ได้มีค่าอะไรเลย
ถ้าหากว่าเขาไม่รู้ว่าเธอเป็นนางฟ้าตัวน้อยก็ช่างเถอะ แต่นี่เขารู้แล้ว
เขารู้อะไรทั้งหมดอยู่แล้ว
แต่ว่าเขาก็ยังจะคิดว่า เธอนั้นเพื่อเงินแล้ว จะยอมขายตัวเองให้กับท่านเวิน!
ท่าทางของลั่วเยียน ทำให้คุณพ่อลั่วและคุณแม่ลั่วประหลาดใจจนทำอะไรไม่ถูก
สองสามีภรรยาสบตากัน บนใบหน้าปรากฎสีหน้าของความไม่สบายใจและอึดอัดใจ
คุณพ่อลั่วเดินเข้าไป ลูบเบาๆที่ศีรษะของลั่วเยียน:
“เยียนเยียน เกิดอะไรขึ้นกันแน่?”
“คุณกับฉินหนานเซิง……ยังสามารถคืนดีกันได้หรือเปล่า?
ลั่วเยียนส่ายหน้าอย่างเอาเป็นเอาตาย
“เป็นไปไม่ได้ ทั้งชีวิตคงเป็นไปไม่ได้แล้ว!”
“ฉันครั้งนี้จะกลับไปที่เมืองหรงหย่ากับเขา กลับไปหย่ากับเขา……”
เธอร้องไห้สะอื้นพร้อมกับเอ่ยปาก:
“เป็นความผิดของฉันเอง ฉันทำแค่เพียงประกาศว่าจะหย่าขาดจากเขา แต่ลืมว่าการหย่าจะต้องทำการจดทะเบียนหย่า……”
“เป็นความผิดของฉัน……”
……
ประตูขวางกั้น ฉินหนานเซิงได้ยินเสียงร้องไห้ขณะทรุดตัวลงของลั่วเยียน มือทั้งคู่จับที่เท้าแขนของรถเข็นเอาไว้อย่างเงียบๆ กำจนแน่นแล้วปล่อย ปล่อยแล้วกำจนแน่นอยู่อย่างนั้น
เขานั้นเหมือนอยากจะตรงเข้าไปเปิดประตู เข้าไปโอบกอดลั่วเยียน คุกเข่าบนพื้นยอมรับความผิดกับเธอ
แต่ว่า……
ลั่วเยียนเป็นคนดื้อรั้นเป็นอย่างมาก เขานั้นรู้ดีกว่าใคร
ถึงเขาจะคุกเข่าลงบนพื้น กอดขาของเธออ้อนวอน เธอก็คงไม่ตกลง
เธอบอกว่าจะเลิก นั้นก็คือเลิก
เธอต้องการหย่า……
เขานั้นห้ามไม่ได้
ผู้ชายปิดตา สีหน้าบนใบหน้านั้นซับซ้อน
หรือว่าเขาจะต้องปล่อยลั่วเยียนไปแบบนี้จริงๆอย่างนั้นเหรอ?
เขาทำไม่ลง
เขาติดค้างเธอมากมาย ยังไม่ทันจะได้ตอบแทนเธอ
เข้าใจผิดเธอมากมาย ยังไม่ทันที่จะบอกขออภัยกับเธอเป็นที่เรียบร้อยเลย
“คุณชาย”
ไป๋เฉิง ลูกน้องที่อยู่ข้างๆมองเขาเป็นแบบนี้ ก็ยังทนไม่ได้:
“คุณต้องการให้ไปเชิญท่านชายฉินมาหรือเปล่า ว่าเกลี้ยกล่อมสตรีจะต้องทำอย่างไร?”
“ฉันจำได้ว่า……ตอนนั้นที่ทะเลาะกันระหว่างคุณนายฉินกับท่านชายฉินนั้นรุนแรงมาก แต่ว่าเขากลับเกลี้ยกล่อมจนภรรยากลับมาได้……”
ฉินหนานเซิงถอนหายใจ พยักหน้าเงียบๆ
บางทีเวลาแบบนี้ คงมีเพียงซูสือเยว่และฉินโม่หานเท่านั้นที่จะช่วยเขาได้
ผู้ชายเพิ่งจำขยับรถเข็นอยากจะจากไป ก็เห็นคุณหมอเจ้าของไข้ที่ดูแลคุณแม่ลั่วเดินเข้ามาพอดี
เขาขมวดคิ้วขวางคุณหมอเอาไว้ “อาการของแม่ยายฉัน……”
คุณหมอถอนหายใจ:
“ยังหาไตที่เข้ากันไม่ได้ เมืองเล็กบริเวณรอบๆนั้นก็หาที่เหมาะสมไม่เจอ ทำได้เพียงเพิ่มเงิน ขยายขอบเขตให้ใหญ่ขึ้น ตรวจสอบที่เมืองหรงทางนั้น……”
ฉินหนานเซิงเงียบไปสักครู่ “ตรวจสอบยังไงว่าไตนั้นจะเข้ากันได้หรือไม่?”
“จะต้องทำการตรวจคัดกรอง”
“พาฉันไปลองได้หรือเปล่า?”
……
ลั่วเยียนร้องไห้อยู่นานในห้องผู้ป่วย
เป็นเวลานาน รอจนกระทั่งเธอหยุดร้อง คุณแม่ลั่วกุมมือของเธอเอาไว้ ถอนหายใจออกมาเบาๆ:
“ทั้งหมดเป็นความผิดของแม่เอง”
“ถ้าหากว่าไม่ใช่เพราะแม่เกิดเรื่องหลังจากที่คุณตัดสินใจแบบนั้นไปแล้ว……”
“คุณก็คงไม่เป็นแบบนี้……”
เธอพูดไปพูดไปน้ำตาก็ร่วงหล่นลงมา “เดิมทีพ่อของคุณยังอยากที่จะให้ทางโรงพยาบาลช่วยตามหาไตเพื่อทำการปลูกถ่าย……”
“หรือว่า……ช่างมันเถอะ”
“ทำการปลูกถ่ายทำไม่ทำก็ไม่เห็นเป็นอะไร และก็เอาเงินที่ฉินหนานเซิงสำรองจ่ายไปก่อนแปดแสนคืนเขาไป……”
“พวกเราตอนบ่ายออกจากโรงพยาบาลกันดีไหม?”
ลั่วเยียนกัดฟันแน่น ส่ายหน้าอย่างเอาเป็นเอาตาย:
“อย่า……”
“อย่า”
เธอสูดลมหายใจเข้าไปในจมูก “วันนี้คุณหรงที่ติดต่อเข้ามานั้น เป็นคนที่ดีคนหนึ่ง”
“เขาให้ฉันไปทำงานกับเขา เขายังสามารถให้ฉันเบิกเงินล่วงหน้าได้”
“และเขาก็ไม่สนใจที่ฉันเคยแต่งงานมาก่อน และไม่ใส่ใจที่ในบ้านมีคนป่วย”
“รอจนหลังจากที่ฉันได้พบกับเขา ถ้าเขาคนนั้นไม่ได้แย่อะไร ฉันจะแต่งงานกับเขา คนที่ท่านเวินแนะนำมาไม่มีทางแย่หรอก”
“ถึงเวลานั้นพวกเราก็จะมีเงิน พวกเราก็จะมีเงินแล้ว……”
พูดยังไม่ทันจบ ประตูห้องผู้ป่วยก็ถูกเคาะและเปิดออก
คุณหมอเจ้าของไข้ของคุณแม่ลั่วเดินเข้ามาอย่างยิ้มแย้ม:
“คุณนายลั่ว ยินดีด้วย!”
“พวกเราหาไตที่เหมาะสมให้กับคุณได้แล้ว!”