บทที่ 40 ทั้งหมดก็เพื่อเซี่ยงหวั่นฉิง
ข้อความของซูสือเยว่เพิ่งจะส่งออกไป เธอก็ได้รับสายของหัวหน้าผู้กำกับ
“สือเยว่ ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหน”
“คุณยอมแสดงบทนางรองนี้ ผมดีใจมากจริงๆ”
“ตอนนี้คุณมีเวลาว่างมั้ย มาที่สตูดิโอ ผมจะให้คนอธิบายบทให้คุณ!”
ซูสือเยว่เลิกคิ้วเบาๆ “ไม่ต้องรบกวนคุณหรอกค่ะ”
เธอวิเคราะห์บทมานานหลายปี แทบจะไม่ต้องการความช่วยเหลือของคนอื่น
ผู้กำกับที่อยู่ปลายสายอีกด้านชะงักเล็กน้อย “ถึงอย่างนั้นคุณก็ต้องมาที่สตูดิโอสักครั้ง ไม่งั้นจะเอาบทให้คุณได้อย่างไร”
หญิงสาวลังเลชั่วครู่ ก็รับปากไป
ผู้กำกับนัดเธอมาพบที่ห้องประชุมชั้นสามอาคารอำนวยการของสตูดิโอ
รอจนเธอเข้ามาในห้องประชุมแล้วจึงพบว่า คนที่รอเธออยู่ไม่ใช่เพียงแค่ผู้กำกับ ยังมีโปรดิวเซอร์ รองผู้กำกับ……
และคนที่นั่งอยู่ตรงกลางข้างหลังคนเหล่านี้ คือผู้ชายที่เธอไม่อยากเจอเลยสักนิดเดียว——เฉิงเซวียน
เห็นเธอเข้ามาแล้ว เฉิงเซวียนยิ้มให้เธออยู่ไกลๆ “สือเยว่ คุณยอมเล่นบทนี้ผมดีใจมาก”
“ผมเชื่อ ด้วยความสามารถคุณ น่าจะเข้าถึงบทบาทนี้ได้อย่างรวดเร็ว”
ซูสือเยว่รู้สึกแค่ว่าตรงหน้ามืดมิด
ทำไมเธอแค่จะมาเอาบทเท่านั้น เฉิงเซวียนก็ไม่เห็นจะต้องมาปรากฏตัวต่อหน้าอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย
“คุณเฉิงทุ่มเทมากจริงๆนะครับ และก็ใส่ใจสือเยว่ที่เป็นนักแสดงใหม่คนนี้มากเลยนะครับ!”
หัวหน้าผู้กำกับที่อยู่ข้างๆอดไม่ได้ที่จะพูดขึ้นมาอย่างซาบซึ้ง “สือเยว่ เมื่อครู่พอเฉิงเซวียนได้ยินว่าคุณจะมาเอาบท ก็เลื่อนฉากที่จะถ่ายวันนี้ เพื่อจะมาแนะนำคุณด้วยตนเอง!”
“ผมคิดดูแล้ว ในเมื่อต่อไปคุณรับปากที่จะแสดงบทนี้แล้ว อย่างนั้นต่อไปก็มีฉากที่ต้องเข้ากับเฉิงเซวียนไม่น้อย ก็ควรจะศึกษาทำความเข้าใจกับเขาเสียหน่อย”
เขาพูดพลางหลีกทางให้ในตำแหน่งข้างๆเฉิงเซวียน แสดงความหมายให้ซูสือเยว่นั่งลง “สือเยว่ ยินดีกับคุณด้วย เพิ่งจะได้เป็นนักแสดงอย่างเป็นทางการ ก็มีอาจารย์อย่างเฉิงเซวียนที่ดีขนาดนี้!”
อาจารย์สองคำนี้ ทำให้ซูสือเยว่อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา
เธอเงยหน้ามองเฉิงเซวียน “ตอนนี้ฉันควรจะเรียกคุณว่า อาจารย์เฉิงใช่มั้ย”
ตอนแรกที่พวกเขาเพิ่งคบหากัน เฉิงเซวียนเป็นศิลปินอายุน้อยที่แม้แต่วิชาเอกการแสดงก็ไม่เคยสอบได้มาก่อน
หลังจากคบหากัน เธอก็ชี้แนะเฉิงเซวียนทีละก้าวๆว่าถ่ายละครอย่างไร เข้าถึงบทบาทอย่างไร ละครทุกเรื่องของเขา เธอเป็นคนตรวจสอบ ช่วยเขาวิเคราะห์บท ช่วยเขาทำความเข้าใจความสัมพันธ์และอารมณ์ความรู้สึกของตัวละครด้วยตนเอง
มาวันนี้ เฉิงเซวียนกลับแสดงท่าทางใจกว้าง จะเป็นอาจารย์ของเธอ
ช่างน่าหัวเราะเยาะจริงๆ!
“ยังไม่ต้องถึงขนาดเป็นอาจารย์”
น่าจะสัมผัสได้ถึงการต่อต้านของเธอ เฉิงเซวียนยิ้ม ขยับเก้าอี้ รักษาระยะห่างที่ไม่ไกลไม่ใกล้จากซูสืเยว่ “แต่ว่าพวกเราช่วยเหลือซึ่งกันและกันได้”
“ต่อไปคุณมีอะไรไม่เข้าใจก็ถามผมได้ ถ้าผมมีอะไรไม่เข้าใจ ก็จะไปปรึกษาคุณ”
ซูสือเยว่จึงได้เข้าใจ นี่เฉิงเซวียนกำลังวางกับดักเธอนี่
ก่อนหน้านี้ไม่ว่าเขาจะพูดอย่างไร เธอก็ไม่ยอมรับปากวิเคราะห์บทให้เขาอีก
ตอนนี้เขากลับใช้เหตุผลนี้ เริ่ม“การแลกเปลี่ยนฉันมิตร”กับเธอ
แต่ ในเมื่อเธอรู้ความคิดของเขาแล้ว เธอเองก็ไม่สามารถเปิดโปงเขา ต่อหน้าผู้คนมากมายขนาดนี้ได้
ดังนั้นเธอจึงหัวเราะเยาะ ก้มหน้าเริ่มอ่านบท
เวลาหนึ่งวันเต็มๆ ซูสือเยว่ไม่ได้สนใจเฉิงเซวียนเลย
เธอไม่ได้ถามอะไรเฉิงเซวียนเกี่ยวกับบทเลย เฉิงเซวียนถามเธอ เธอก็ได้แต่ตอบไปว่าเธอเองก็ไม่เข้าใจ
ทำความเข้าใจบทเรียบร้อยแล้ว ตอนเลิกงานเวลาเย็น เฉิงเซวียนเป็นฝ่ายลงลิฟต์ตัวเดียวกับซูสือเยว่
ภายในลิฟต์มีเพียงแค่เธอกับเขาสองคน ซูสือเยว่รำคาญเล็กน้อย
เธอก้มหน้า หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาเปิดเว่ยป๋อ
กลับค้นพบโดยไม่คาดคิด ความนิยมบนเว่ยป๋อวันนี้มีข้อความหนึ่งคือ “เฉิงเซวียนสอนการแสดงให้ซูสือเยว่”
เธอขมวดคิ้ว กดเข้าไป
ที่อยู่บนเว่ยป๋อ ก็คือภาพถ่ายที่เธอและเฉิงเซวียนนั่งอยู่ในห้องประชุมทำความเข้าใจบท
ในภาพยังมีหลายรูปที่เธอใกล้ชิดกับเฉิงเซวียนมาก
บวกกับข้อความ พี่ชายที่อบอุ่นขนาดนี้อย่างเฉิงเซวียนใครจะไม่รัก รู้สึกว่าซูสือเยว่และเฉิงเซวียนก็ให้อารมณ์แบบคู่รักนะ”
รูปนี้ถ่ายเมื่อไหร่
หญิงสาวกัดริมฝีปาก ปิดมือถือทันที เงยหน้ามองเฉิงเซวียนที่ยืนไม่ไกลจากเธอ “รูปถ่ายคือคนของคุณถ่ายเหรอ ข่าวในอินเทอร์เน็ตก็เป็นคุณปล่อยใช่มั้ย”
“เป็นความคิดของหวั่นฉิง”
เฉิงเซวียนมองข้างหน้าอย่างเรียบเฉย ในดวงตาไม่ได้มีความอบอุ่นและเป็นสุภาพบุรุษอย่างตอนที่อยู่ต่อหน้าคนอื่นตอนกลางวันแล้ว “ตอนนี้ในโลกโซเชียลพูดถึงแต่ข่าวคราวของผมกับคุณ จะทำให้การมีตัวตนของหวั่นฉิงลดลง”
“หลังจากรอให้ทุกคนลืมเรื่องเมื่อวานไปแล้ว หวั่นฉิงก็จะกลับคืนมาได้แล้ว”
ซูสือเยว่สูดอากาศเย็นๆเข้าไป
“ดังนั้น วันนี้ที่คุณแสดงออกต่อหน้าฉันเหล่านั้น……ล้วนทำเพื่อเซี่ยงหวั่นฉิงเหรอ”
เขายังรักเซี่ยงหวั่นฉิง อย่างลึกซึ้งมากจริงๆ
เธออยู่กับเขามาห้าปีเต็มๆ เฉิงเซวียนไม่เพียงไม่ยอมเปิดเผยว่าพวกเขาคบหากัน แม้แต่การมีตัวตนอยู่ของเธอซูสือเยว่คนนี้ก็ยังปกปิดอย่างแน่นหนา
หลังจากที่คบหาอยู่กับเซี่ยงหวั่นฉิง ก็เปิดเผยทันที
กระทั่ง ตอนนี้เซี่ยงหวั่นฉิงเกิดเรื่องแล้ว เขาก็ยังเอาแฟนเก่าอย่างเธอออกมาเป็นโล่กันกระสุน
หัวใจของเธอนับวันจะยิ่งเย็นชาขึ้นเรื่อยๆแล้ว
“ก็ไม่ใช่เพื่อหวั่นฉิงทั้งหมดเสียทีเดียว”
เฉิงเซวียนกระตุกมุมปากเล็กน้อย “ก็เพื่อคุณ เพื่อผมด้วย”
“หลังจากเรื่องนี้ ชาวเน็ตก็จะชอบผม รู้สึกว่าผมเป็นผู้ชายที่จิตใจดีมีความรับผิดชอบ”
“ส่วนคุณ ก็สามารถใช้โอกาสนี้ ถีบตัวจากนักแสดงแทนขึ้นมาเป็นนักแสดงเต็มตัว”
เขามีสีหน้าสะใจ “ยิงปืนนัดเดียวได้นกสามตัว นี่เราได้ประโยชน์ทั้งสามคน สือเยว่ คุณต้องให้ความร่วมมือกับผม”
ลิฟต์มาถึงชั้นหนึ่งแล้ว
“ร่วมมือกับคุณเหรอ ฝันไปเถอะ!”
หญิงสาวพ่นคำนี้ออกมาอย่างรังเกียจมาก สะพายกระเป๋า ก้าวยาวๆเดินออกไป
ประตูสตูดิโอเงียบเชียบ
ซูสือเยว่ยืนรอข้างถนนนานมาก ก็ยังไม่มีรถแท็กซี่มา
“ผมไปส่งคุณ”
รถบีเอ็มดับเบิลยูสีดำจอดลงข้างๆเธอ หน้าต่างรถเปิดลงมา เผยให้เห็นใบหน้าของเฉิงเซวียน
เขาลดแว่นกันแดดลง มองเธอมุมปากยังแฝงด้วยรอยยิ้ม “ครั้งก่อนคุณบอกว่า คุณกับสามีของคุณพักอยู่ในเขตคฤหาสน์ รถซอมซ่ออย่างนี้ของผม เข้าไปไม่ได้”
พูดพลาง เขาเงยหน้ามองไปรอบๆ ยิ้มแล้วพูดว่า “ทำไม ท่านชายฉินที่ปากก็บอกว่ารักคุณเท่าชีวิต กลับไม่ให้รถคุณมาใช้สักคัน”
ซูสือเยว่กลอกตาใส่เขา เดินอ้อมรถเขา รอเรียกแท็กซี่ต่อไป
แต่รถแท็กซี่ก็น้อยมากเกินไปจริงๆ
ผ่านไปครึ่งชั่วโมงแล้ว ยังไม่มีรถผ่านมาสักคัน
ฟ้าก็ค่อยๆมืดลงเรื่อยๆ
เฉิงเซวียนพิงข้างหน้าต่างรถอย่างสง่างาม มุมปากมีรอยยิ้มเยาะ “เดี๋ยวก็จะมืดแล้ว แถวสตูดิโอนี่ตอนกลางคืนยุงชุมมาก”
“แม้รถผมจะซอมซ่อ แต่เพื่อรักษาหน้าของคุณ คุณก็ยอมเสียศักดิ์ศรีหน่อย”
พูดพลาง เขายังหาวหวอดเบาๆ “สือเยว่ เมื่อก่อนคุณไม่เคยเป็นนักแสดงอย่างเป็นทางการมาก่อน ไม่รู้ว่าหน้าตาของนักแสดงสำคัญมากแค่ไหน”
“อีกเดี๋ยวยุงก็จะมากัดหน้าคุณแล้ว……ฮึๆๆๆคุณต้องถูกผู้กำกับด่าตายแน่”
ซูสือเยว่กลอกตามองบนใส่เขา หมุนตัวสะพายกระเป๋าเดินไปทางคฤหาสน์บ้านตระกูลฉิน
ไม่มีรถแท็กซี่ เธอเดินกลับบ้านก็ได้!
แต่ เธอเดินไปหนึ่งก้าว รถของเฉิงเซวียนก็ตามมาหนึ่งก้าว
ซูสือเยว่รีบเร่งฝีเท้า รถของเฉิงเซวียนก็เร่งความเร็วขึ้นนิดหน่อย
เธอช้าแล้ว รถยนต์ก็ช้าแล้ว
สุดท้าย เฉิงเซวียนพูดอย่างง่วงนอนว่า “สือเยว่ ก่อนหน้านี้ผมเกือบจะเชื่อคำพูดคุณ คิดว่าคนวิปริตอย่างท่านชายฉินคนนั้นจะดีกับคุณจริงๆเหรอ”
“ตอนนี้ดูแล้ว……”
“เลิกงานช้าขนาดนี้ เขายังไม่จัดรถมารับคุณสักคัน หลังจากที่คุณแต่งงานกับเขาแล้วก็ไม่ได้มีชีวิตที่สุขสบายเท่าไหร่ ”
ชายหนุ่มพูดพลาง หงายมือไปแต่คางของเธอ “ไม่อย่างนั้น คุณก็คบกับผมต่อเถอะ”
“คุณกับหวั่นฉิง ต่างคนต่างอยู่ ไม่รบกวนซึ่งกันและกัน เป็นยังไงบ้าง”