“แล้วตอนนี้เธออยู่ไหน?”ฉินหนานเซิงถาม
ดูท้องฟ้า นี่ก็ไม่เช้าแล้ว
ลั่วเยียนหน้าตาสวยขนาดนั้น แถมยังเป็นอดีตนักแสดงหญิงดีเด่น ไม่แน่อาจจะเจอปัญหาอะไรได้
ไป๋เฉิงเห็นฉินหนานเซิงกังวลขนาดนี้ น้ำเสียงมีความโกรธเพิ่มมากยิ่งขึ้น
“ตอนนี้เธอมีนัดเดทกับชายอื่น กำลังมีระริกระรี้อยู่ ผมว่าคุณชายเป็นห่วงตัวเองดีกว่าครับ!”
ฉินหนานเซิงสีหน้าเปลี่ยนไปทันที:“นายดูผิดไปหรือเปล่า?”
ก่อนหน้านี้เพิ่งจะถูกสั่งสอนไปรอบนึง หลังจากที่เข้าใจเธอกับท่านเวินผิด แถมลั่วเยียนยังได้โกรธเขาเพราะเหตุนี้
ครั้งนี้ฉินหนานเซิงได้ระมัดระวังขึ้นเยอะเลย
ไป๋เฉิงกลับพูดว่า:“ตอนที่ผมไปซื้อกับข้าวได้เห็นกับตาเลยครับ ทั้งสองได้ดินเนอร์อยู่ที่ร้านอาหารคู่รักด้วยกัน แถมยังพูดคุยกันอย่างมีความสุขเชียวครับ”
“ผู้ชายคนนั้นหน้าตายังหล่อซะด้วย ผมยังได้ยินพนักงานเสิร์ฟชมด้วยนะครับว่าเขาสองคนเหมาะสมกัน”
“ได้ยินว่าก่อนที่ทั้งสองจะไปทานข้าว ได้ออกมาจากโรงแรมด้วยกันครับ”
“แถมเสื้อผ้าของคุณนายยังได้เปลี่ยนแล้วด้วย นี่เป็นรูปถ่ายของพวกเขา คุณชายดูเองเลยครับ”
ไป๋เฉิงพูดจนหมดเปลือก แถมยังได้ยื่นรูปถ่ายที่ตัวเองแอบถ่ายให้กับฉินหนานเซิง แอบรู้สึกเสียใจแทนเขามาก
เพื่อช่วยเหลือลั่วเยียนแล้ว คุณชายไปเข้าร่วมการตรวจจับคู่โดยที่ไม่คำนึงอะไร ตอนนี้ยังจะบริจาคไตให้หวงหรูอีก
เดิมทีร่างกายของคุณชายก็สู้เมื่อก่อนไม่ได้อยู่แล้ว หลังบริจาคไตมีแต่จะยิ่งอ่อนแอลง แต่เขาดันยังให้ปิดบังลั่วเยียนไว้อีก ตอนนี้ดีแล้วนี่ ต้องทนดูคุณนายไปอยู่ในอ้อมอกของคนอื่น แถมยังไม่กล้าพูดอะไรสักคำ
“ไม่หรอก จะต้องมีอะไรเข้าใจผิดแน่ๆ”
ถึงแม้รูปถ่ายวางอยู่ตรงหน้าแล้ว ฉินหนานเซิงก็ไม่ยอมเชื่อคำพูดของไป๋เฉิง
เท่าที่เขารู้จักลั่วเยียน เธอไม่มีทางไปออกไปมั่วกับชายโฉดในขณะที่แม่กำลังป่วยอยู่แน่นอน
ซูสือเยว่บอกว่าเขาเชื่อใจลั่วเยียนไม่มากพอ นี่ถึงได้ทำให้ลั่วเยียนเสียใจ
คำพูดเหล่านี้เขาได้ฟังเข้าไปหมดแล้ว เพราะฉะนั้นถึงเขากำหมัดแน่นแค่ไหนก็ไม่อยากคิดไปในทางด้านนั้น
ไป๋เฉิงถอนหายใจทีนึง:“คุณชายครับ หรือไม่คุณชายบอกความจริงกับคุณนายเถอะครับ?”
“ไม่ได้!”ฉินหนานเซิงยืนกราน
ที่ผ่านมา ลั่วเยียนล้วนทุ่มเทเพื่อเขามาโดยตลอด แต่ตัวเองกลับเข้าใจผิดว่าเธอไม่ใช่นางฟ้าตัวน้อย ตอนนี้ยังจะมีหน้าใช้เรื่องนี้มาอ้างหลักศีลธรรมมาบังคับเธอได้ยังไง
แต่ข้างกายลั่วเยียนมีผู้ชายปรากฏคือเรื่องจริง เขาจะต้องคิดหาวิธีแก้ไขให้ได้
“นายให้คนไปตรวจสอบดูก่อนว่าผู้ชายคนนี้คือใคร และเขาใกล้ชิดกับลั่วเยียนคืออยากทำอะไร”
“คุณชาย……”
“รีบไป!”
ไป๋เฉิงได้แต่ทำตามคำสั่ง ฉินหนานเซิงมองรูปถ่ายแล้วเหม่อลอยไปครึ่งค่อนวัน ในที่สุดก็คิดได้เสียที
เกียรติและศักดิ์ศรีมันกินไม่ได้ เพื่อตามเมียกลับมา ตอนที่ควรก้มหน้าก็ต้องก้ม
เขาได้เป็นฝ่ายโทรไปหาฉินโม่หาน
“อาเล็ก……”
ฉินโม่หานที่อยู่ในสายยักคิ้วอย่างควบคุมไม่ได้:“ตอนนี้รู้จักเรียกอาเล็กแล้วเหรอ?”
ก่อนหน้านี้ยังเรียกซูสือเยว่อยู่เลย ไม่เห็นหัวอาสะใภ้เล็กเลยสักนิด
ฉินหนานเซิงค่อนข้างอาย เขารู้อยู่แล้วเชียวว่านิสัยใจดำอย่างอาเล็กคงยังถือโกรธอยู่อีกแน่นอน
“ผมผิดไปแล้วครับ ก็ก่อนหน้านี้ผมเป็นห่วงลั่วเยียนไม่ใช่เหรอครับ?”
“นายผิดตรงไหน?”
“ผมผิดตรงที่ไม่ควรโต้เถียงกับอาสะใภ้เล็ก แถมยังโทษว่าเธอไม่ดีกับลั่วเยียนครับ”
“อืม งั้นนายให้อาสะใภ้เล็กนายให้อภัยก่อน แล้วค่อยมาคุยกับฉัน”
พอพูดจบ ก็ได้วางสายลง“ป้าบ”
เพื่อกู้หน้าภรรยาคืนมา คุณฉินก็เก่งใช่ย่อยเลย
นาทีนี้ซูสือเยว่ที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามของฉินโม่หาน ได้ยินคำสนทนาทั้งหมดของทั้งสองแล้ว เธออดยกนิ้วโป้งให้เขาไม่ได้
เด็กๆทั้งหลายมองตากันแว๊บนึง ถ้าพูดถึงการโอ๋เมีย แด๊ดดี้นี่เก่งไม่เบาเลย
ผ่านไปไม่นาน เสียงมือถือของซูสือเยว่ได้ดังขึ้นจริงๆด้วย
“มีธุระอะไร?”เสียงของซูสือเยว่เย็นชามาก
“อาสะใภ้เล็ก ผมหนานเซิงครับ ผมมาสำนึกผิดกับอาสะใภ้เล็กครับ”