“หรงหลิน?”
“ทำไมนายถึงนึกว่าเป็นเขา?”
ฉินโม่หานก็ยังยิ้ม “ลางสังหรณ์ ”
ซูสือเยว่เบะปาก “อะไรเนี่ย ฉันยังคิดว่านายมีหลักการสักอีก”
“เธอคิดว่าไม่ใช่เขา?”
“นั้นก็ไม่ใช่……..”
ซูสือเยว่หวนนึกถึงการต่อสู้อันสั้นระหว่างเธอกับหรงหลิน คนนั้นมองจากภายนอกมองอะไรไม่ออกเลย แต่ภายในใจนั้นกลับเป็นผู้หญิงที่ตอแหล เลเวลสูงจะตาย
“ฉันแค่รู้สึกว่า เขาบอกว่าลั่วเยี่ยนมีบุญต่อเขา แล้วทำไมเขาต้องทำแบบนั้นด้วย ถ้าเฉิงลู่รู้ข่าวเข้า ต้องห้ามไม่ให้หนานเซิงทำการผ่าตัด นั้นก็หมายความว่าทำร้ายแม่ของลั่วเยี่ยนทางอ้อมสิ แบบนี้มีประโยชน์อะไรต่อหรงหลิน?”
ฉินโม่หานเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่
ซูสือเยว่เตะมือของฉินโม่หาน
“ทำไมไม่พูดอะไรเลย?”
ฉินโม่หานจับมือของซูสือเยว่แล้วจู่ๆ ก็พูดขึ้นมาว่า “ถ้าบอกว่า เขาไม่ใส่ใจความปลอดภัยของคุณแม่ลั่วเยียนเลยล่ะ?”
ซูสือเยว่ตกตะลึง “ทำไมถึงพูดแบบนี้”
ฉินโม่หานส่ายหัว “ตอนนี้ฉันเองก็ไม่มีหลักฐาน แต่ฉันรู้สึกว่า หรงหลินคนนี้ให้ความรู้สึกที่เดาไม่ออกกับฉันเป็นอย่างมาก ฉันรู้สึกว่าเขาอันตรายมาก และเหตุผลที่เข้าใกล้ลั่วเยี่ยนก็ไม่ชัดเจน”
“เขาไม่ได้มาตอบแทนบุญคุณหรอ?”
ฉินโม่หานยิ้ม “เธอเชื่อหรอ?”
ซูสือเยว่คิดอย่างรอบคอบ สุดท้ายก็ส่ายหน้า “ฉันไม่รู้”
วันนั้นตอนที่หรงหลินและลั่วเยี่ยนเจอกัน แสดงให้เห็นถึงความจริงจัง ความรู้สึกที่มีต่อลั่วเยี่ยนนั้นแสดงไม่ออกมาหรอก
“เธอรู้ไหมว่าบางคน เขาเกิดมาพร้อมกับบุคลิกการแสดง?”
ซูสือเยว่พยักหน้า คนแบบนี้อยู่ที่วงการบันเทิงเยอะมาก
“จะลองพนันกันดูไหม?” ฉินโม่หานถาม
ซูสือเยว่เกิดสนใจขึ้นมาเล็กน้อย ถาม “พนันอะไร?”
“พนันว่า………คนที่บอกข่าวให้กับพี่ใหญ่ พี่สะใภ้ เป็นหรงหลินรึเปล่า”
“นายต้องลงว่าเป็นหรงหลินแน่นอน ถ้าอย่างนั้นฉันว่าไม่ใช่ เดิมพันอะไร?”
ฉินโม่หานยิ้มแล้วขยับเข้าใกล้หูของซูสือเยว่ แล้วพูดอะไรเบาๆ ไปสักคำ
หน้าของซูสือเยว่แดงขึ้นมาทันที จ้องเขม็งใส่ฉินโม่หานทีหนึ่ง
“ทำไมนายวันๆ เอาแต่คิดเรื่องแบบนี้?”
ฉินโม่หานจับมือของเธอแล้วลุกขึ้นมา “ใครให้ภรรยาของฉันน่ากินขนาดนี้ล่ะ ได้กินครั้งหนึ่งก็หยุดไม่ลงอีกเลย”
ซูสือเยว่ “…………..” ไร้ยางอาย
ตอนที่พวกเขาเตรียมจะเลี้ยวกลับไปในห้อง จู่ๆ ซิงหยุนก็เอาโทรศัพท์ของลั่วเยี่ยนมาหา
“หม่ามี๋ โทรศัพท์ของพี่สะใภ้ลั่วเยียนมีปัญหา
ซูสือเยว่และฉินโม่หานสบตากัน
ฉินโม่หาน “มีปัญหาอะไร?”
“ในโทรศัพท์ของน้ามีโปรแกรมเกี่ยวกับการติดตามเยอะมากเลย มีคนขโมยสิทธิ์หลังบ้าน
ทำการดักฟังการเคลื่อนไหวของเธอได้ทุกที่ทุกเวลา”
ซูสือเยว่ตกใจ
“ดักฟังมานานแค่ไหนแล้ว?”
“ผมทำการตรวจสอบระบบหลังบ้าน น่าจะครึ่งปีแล้ว”
“ครึ่งปีเลยหรอ!” ซูสือเยว่เบิกตาโต “นานขนาดนี้ยังไม่รู้ ลั่วเยี่ยนจะสะเพร่าเกินไปแล้ว!”
ฉินโม่หานกลับถาม “ตรวจสอบได้ไหมว่าใครดักฟังเธออยู่?”
ซิงหยุนส่ายหน้าบอกว่า “อีกฝ่ายตั้งค่าโปรแกรมป้อมกันการติดตาม ผมลองแก้ระบบการติดตามของเขาแล้ว แต่ยากหน่อย ผมกลัวว่าอีกฝ่ายจะรู้ตัว ก็เลยหยุดทำการแก้ไปก่อน”
“ทำได้ดีมาก” ฉินโม่หานจับหัวน้อยๆ ของเขา แล้วพาเข้าไปในห้องทำงาน”
ไม่นาน ซองกวงก็เอาโน๊ตบุ๊คของเขามาที่ห้องทำงาน ทำหน้าซึมเศร้าเหมือนกัน
“แด๊ดดี้ หนูแก้ไม่ได้เลย”
“ไม่เป็นอะไร อีกฝ่ายเป็นยอมฝีมือ”
ซิงหยุนและซิงหวงต่างพ่ายแพ้ให้กับอีกฝ่าย บอกว่าเขาเป็นยอมฝีมือนั้นไม่เกินไปเลย
แต่ซิงหยุนและซิงกวงก็ยังรู้สึกไม่สบายใจ
มีแด๊ดดี้ที่โรคจิตคนนี้มากดทับพวกเขาก็ช่างเถอะ ตอนนี้ยังมียอดฝีมือขึ้นมาอีกคน แฮกเกอร์ในช่วงนี้ยิ่งอยู่ยิ่งไม่มีค่าขึ้นแล้ว
ซิงเฉินอยู่ในห้องเองไม่ไหวแล้ว ก็ได้ตามมาที่ห้องทำงานด้วย
เขาเถียงซิงกวงอย่างเป็นนิสัย “ทำไมพวกนายถึงจับไม่ได้แม้แต่ซาแซงแฟนเพียงคนเดียว ยังกล้าบอกว่าจะช่วยหม่ามี๊ดูแลแฟนคลับและกำจัดพวกซาแซงแฟน เดี๋ยวถ้าถึงเวลาหลุดแล้วทำยังไง?”
ซิงหยุนขมวดคิ้ว
ซิงกวงกลับโต้กลับ “นายเก่ง งั้นนายลองไปจับดูสิ!”
“ดูสิว่านายจะสู้กับอีกฝ่ายได้หนึ่งรอบไหม รู้แต่ว่าจะพูดอะไรง่ายๆ อยู่อย่างนั้น”
ซิงเฉิน “ฉันพูดตามความจริง เป็นเพราะพวกนายทักษะไม่ดีเอง”
“เอาล่ะ” ซูสือเยว่เดินขึ้นไปขัดการเถียงกันของทั้งสองคน “ซิงหยุนซิงหวงเก่งมากแล้ว ครั้งนี้ไม่ใช่ความผิดของพวกลูก”
ซิงหวงทำปากจู๋ แล้วมองไปทางซูสือเยว่ด้วยตาที่เต็มไปด้วยน้ำตา
“หม่ามี๊ หม่าม๊ผิดหวังต่อผมและพี่ชายไหม?”
“พูดอะไรเนี่ย หม่ามี๊ไม่มีทางผิดหวังต่อพวกลูกหรอก”
ซิงหวงถึงจะพอใจ ขยับเข้าไปแล้วจูบซูสือเยว่ทีหนึ่ง พูดว่า “หม่ามี๊ดีจังเลย”
ในเวลานี้เองฉินโม่หานก็ได้เปิดโน๊ตบุ๊ค เชื่อมกับโทรศัพท์ของลั่วเยี่ยนแล้วเริ่มทำการลบล้างโปรแกรมดักฟังหลังระบบ จากนั้นก็ได้การติดตามกลับ
เทียบกับซิงหยุนซิงเฉินแล้ว เห็นได้ชัดว่าทักษะของฉินโม่หานจะเหนือกว่าเป็นอย่างมาก
ชุดรหัสวิ่งผ่านบนคอมเร็วมาก แถบความคืบหน้าในการแก้ก็วิ่งไปข้างหน้าอย่างเร็ว
ซองกวงจ้องแถบเปอรืเซ็นนั้นแล้วพูดว่า “หนูถอนไปถึงร้อยละ20ก็ถอนต่อไปไม่ไหวแล้ว พี่ใหญ่ยังดีกว่าหนูหน่อย ร้อยละสามสิบ เยอะกว่านี้อีกฝ่ายก็ใช้ไวรัสม้าในการโจมตีกลับแล้ว”
กลัวถูกอีกฝ่ายจะรู้ ซิงกวงและซิงหยุนได้ทำการตัดขาดได้ทันเวลา
และแล้วปัยหาที่กวนใจพวกเขา กลับทำอะไรฉินโม่หานไม่ได้เลย
เห็นแค่นิ้วมือของฉินโม่หานกดอยู่บนคีย์บอร์ดอย่างเร็ว ไวรัสที่ถูกอีกฝ่ายซ้อนไว้ข้างล่างระบบก็ถูกแก้ออกทีละอัน แถบความคืบหน้าก็ได้วิ่งไปถึงร้อยละ50 จากนั้นก็ร้อยละ70
80
90
95
ในที่สุด แถบความคืบหน้าก็ได้หยุดลงที่ร้อยละ95สักพัก หลังจากผ่านไป 10 วินาที ก็วิ่งไปถึง 100 ทันที
“แก้ได้แล้ว!”
ซิงกวงและซิงเฉินไชโย ซิงหยุนก็ได้ขยับไปอยู่ตรงหน้าหน้าจอคอมแล้วจ้องอยู่อย่างนั้น
โปรแกรมติดตามกลับถูกแก้ออกแล้ว ฉินโม่หานก็ได้ทำต่อ ทำลายฟร์วอลล์คอมพิวเตอร์ของอีกฝ่าย
หลังจากนั้น 10 นาที ฉินโม่หานได้ควบคุมการใช้คอมพิวเตอร์ของอีกอย่างโดยสมบูรณ์
“แด๊ดดี้เก่งจังเลย!” ซิงกวงมองไปทางฉินโม่หานด้วยตาที่สั่นวิบวับ
ฉินโม่หานยิ้มเล็กน้อย เพลิดเพลินไปกับสายตานับถือที่ซูสือเยว่มองมา
ซิงหยุนเม้มปาก แล้วเตือนฉินโม่หานว่า “แด๊ดดี้ สัญญาว่าจะสอนผม”
ฉินโม่หานหัวเราะ “แด๊ดดี้ไปสัญญากับลูกตอนไหน”
ซิงหยุนหันหน้า “หม่ามี๊…….”
“เอาล่ะเอาล่ะ หลังจากนี้ค่อยสอนละกัน รู้แต่จะฟ้องนะ ไอเด็กนี้”
เรื่องจัดการเสร็จแล้ว อารมณ์ของฉินโม่หานเองก็เบาลงเยอะมาก
เขารีบเปิดแฟ้มในคอมของอีกฝ่ายอย่างเร็ว ไม่นานก็รู้ในตัวตนของคนที่ดักฟังคนนั้น
ฉินโม่หานได้หันหน้าจอไปทางซูสือเยว่ แล้วพูดทั้งยิ้มว่า “เธอแพ้แล้ว”
ซูสือเยว่มองดูชัดๆ ก็เห็นว่านั้นเป็นเอกสารวิชาการและรายงานการวิเคราะห์ต่างๆ เป็นพวกเกี่ยวกับการแสดงและบรรจุดาว และชื่อหรือนามของรายงานพวกนั้น ก็คือหรงหลิน
“คาดไม่ถึงว่าจะเป็นหรงหลินที่คอยดักฟังลั่วเยี่ยนอยู่!”
ซูสือเยว่รู้สึกไม่น่าเชื่อเลย
ฉินโม่หานขมวดคิ้วเล็กน้อย “หรงหลินเหมือนจะรู้ตัวแล้วว่าถูกติดตามกลับ ฉันจะทำการตัดการเชื่อมต่อกับอีกฝ่ายภายในสามนาที รีบเปิดคอมของมันดูว่าข้างในมีความลับอะไรที่ให้คนอื่นรู้ไม่ได้อีกไหม”