ซูสือเยว่หัวเราะ “ฉันไม่บอกออกไปหรอก”
เธอไม่ได้แฉเรื่องส่วนตัวของใครเพื่อความสนุก อีกอย่าง เรื่องแบบนี้ถ้าเกิดว่าปล่อยข่าวออกไป ที่จะโดนทำลายมากที่สุดนั้นไม่ใช่จี้หนานเฟิง แต่เป็นเด็กผู้หญิงคนนึงที่ชื่อว่าจี้ซิงกวง
แต่แค่สงสัยกับนิสัยของเธอ จี้หนานเฟิงมองดูหน้าเธอ แล้วทันใดนั้นก็พูดไม่ออกทันที
ฉินโม่หานยักคิ้วเล็กน้อย แล้วก็ดึงซูสือเยว่เข้ามาในอ้อมกอด
และไม่นาน ตำรวจก็มา
“คุณอาจี้……”
ในตอนที่ซูสือเยว่และในตอนที่ฉินโม่หานเตรียมตัวจะไปทำบันทึกกับตำรวจ ซิงกวงที่อยู่บนเตียงนั้นกลับลืมตาขึ้น
เธอดึงแขนเสื้อของจี้หนานเฟิงด้วยสายตาพร่ามั่ว “คุณอาจี้……”
“พวกเขาไม่ได้ทำอะไรหนู หนูแอบหนีไปเอง อยากจะเข้าใกล้คุณน้าคนสวยน่ะ……”
คำพูดของเด็กน้อย ทำให้จี้หนานเฟิงขมวดคิ้วอย่างแรงๆ
เขาหันกลับไปมองซูสือเยว่โดยอัตโนมัติทีนึง
ผู้หญิงคนนี้……ก็คือคนที่ซิงกวงบอกเขาว่า “คุณน้าคนสวย” หลายๆ ครั้งงั้นหรอ
“คุณน้าคนสวย ขอโทษนะคะ”
ในดวงตาคู่นั้นของเด็กน้อยนั้นมีน้ำตาคลอเบ้าอยู่ด้วย “หนูแค่คิดว่าคุณเหมือนหม่ามี๊ของหนูมากๆ เลย……”
แววตาที่ท่วมไปด้วยน้ำ ทำเอาใจของซูสือเยว่นั้นแทบจะสบายอยู่แล้ว เธอจะถือโทษเธอลงได้ยังไง
หญิงสาวยิ้มให้ซิงกวง “ไม่เป็นไรจ้ะ”
“ดูแล้วคงจะเป็นเรื่องเข้าใจผิดกันนะครับ”
ตำรวจยิ้มแล้วตบไปที่ไหล่ของจี้หนานเฟิงเบาๆ “คุณดาราครับ ต่อไปต้องดูแลลูกของตัวเองให้ดีหน่อยนะครับ แล้วก็ตรวจสอบให้แน่ชัดก่อนจะแจ้งความด้วยนะครับ”
พูดจบ ตำรวจก็จากไป
จี้หนานเฟิงยืนอยู่ที่เดิม แล้วอารมณ์บนใบหน้าก็ดูไม่ได้หน่อยๆ
“ไปได้แล้ว”
ฉินโม่หานเหลือบไปที่จี้หนานเฟิงด้วยใบหน้าที่เย็นชาทีนึง แล้วก็ดึงซูสือเยว่หันหลังแล้วเดินไป
ในตอนที่เดินไปถึงหน้าประตูแล้ว ชายหนุ่มก็ยักคิ้ว หันกลับมามองเด็กผู้หญิงที่นอนอยู่บนเตียงไปทีนึง
“เป็นอะไรไป”
พอเห็นว่าเขาไม่หยุด ซูสือเยว่ขมวดคิ้ว แล้วก็ถามเสียงเบา
ชายหนุ่มชะงักไป แล้วก็หันกลับมาจับมือของเธอ แล้วเดินไปข้างนอกต่อ
ซิงหยุนและซิงเฉินพูดอยู่ตลอด ว่าจะให้เขากับซูสือเยว่มีน้องสาวให้พวกเขาคนนึง
สำหรับเรื่องนี้แล้ว เมื่อก่อนเขาก็ไม่ได้เคยสนใจมาก่อน
แต่คืนนี้ เด็กผู้หญิงที่อ่อนโยนคนนั้น กลับทำให้ฉินโม่หานรู้สึกขึ้นอย่างกะทันหันว่า มีลูกสาวสักคน……ก็ดูเหมือนจะไม่แย่
พอกลับไปถึงโรงแรมแล้ว ซูสือเยว่และฉินโม่หานก็ลงลิฟต์ไปพร้อมกัน
ฉินโม่หานยืนอยู่หน้าประตูห้องของเขาไป๋ลั่ว แล้วก็รีบค้นคีย์การ์ดออกมาจากกระเป๋า
“ราตรีสวัสดิ์”
ซูสือเยว่โบกมือไปที่เขา ก้มหน้าแล้วหยิบคีย์การ์ด
จากนั้น เธอยังไม่ทันได้เปิดประตู ชายหนุ่มก็ยื่นมือมา แล้วก็ลากเธอเข้าไปที่ห้องข้างๆ ทันที
“ปึง” ดังขึ้นทีนึง แล้วประตูก็ปิดไป
ไป๋ลั่วที่นังคงหาคีย์การ์ดอยู่นั้นตกใจไปที พอเงยหน้าขึ้นอีกที ตรงหน้าก็ไม่ได้มีเงาของคุณผู้ชายและคุณผู้หญิงอีกแล้ว มีแค่ห้องที่แง้มๆ ประตูไว้
ไป๋ลั่วยกมือขึ้นมาเคาะประตู “คุณผู้ชายครับ คุณผู้ชาย……”
ในประตูนั้นมีเสียงของชายหนุ่มที่แหบๆ ดังขึ้นว่า “ออกไป”
ไป๋ลั่วอึ้งไปทันที แล้วจู่ๆ ก็เข้าใจขึ้น “ครับ”
“งั้นก็ขอให้คุณผู้ชายและคุณผู้หญิงมีความสุขในค่ำคืนนี้นะครับ”
พูดจบ เขาก็ยังใส่ใจและเขียนการ์ดให้ใบหนึ่งด้วยตัวเอง แล้วก็หย่อนไปในห้องของฟู๋เชียนเชียน
แล้วในห้องในตอนนั้น
ซูสือเยว่ก็โดนกางอยู่ที่ประตู
ด้านหลังเป็นแผ่นประตูที่เย็นเฉียบ ด้านหน้าคือฉินโม่หานที่เร่าร้อน
ชายหนุ่มจับไปที่คางของเธอ แล้วแววตานั้นที่ลึกซึ้งนั้นก็มีความใคร่อยู่ด้วย “ซูสือเยว่”
ใจของเธอเต้นแรงขึ้น ใบหน้าแดงขึ้น แล้วเนื้อตัวก็เริ่มควบคุมไม่ได้
เธอได้ยินเสียงสั่นๆ ของตัวเองกำลังพูดว่า “เป็นอะไรไป……”
“เด็กผู้หญิงคนนั้นน่ารักไหม”
เขาหอมไปที่หูของเธอ แล้วเสียงทุ้มมีเสน่ห์รดมาที่หูของเธอ
เสียงหนาทุ้มต่ำที่เหมาะกับลมหายใจที่เร่าร้อนและพ่นออกมาจากชายหนุ่ม แล้วซูสือเยว่ก็หดคอโดยสัญชาตญาณ
เธอเม้มปากที่แห้ง “น่ารัก”
“เรามาคลอดกันสักคนเถอะ”
มือของชายหนุ่มโอบไปที่เอวคอดของเธอ พูดน้ำเสียงโน้มน้าวว่า “ซิงหยุนกับซิงเฉินอยากมีน้องสาวน่ะ”
ซูสือเยว่รู้สึกว่าสติปัญญาของตัวเองนั้นตามฉินโม่หานไม่ทันแล้ว
เธอเหมือนปลาที่อยู่ตรงชายฝั่ง ที่น้ำใกล้จะแห้งแล้ว แต่กลับหลงระเริงอยู่ที่ที่น้ำตื้นๆ
ในตอนที่เขากดเธออยู่บนเตียงนั้น เธอคว้าไปที่มือของเขา “ฉินโม่หาน”
มือของชายหนุ่มค่อยๆ นิ่งไป
เธอมองเขาด้วยดวงตาที่เปื้อนน้ำตา “ฉัน……กลัวอยู่หน่อยๆน่ะ”
พวกเขาเคยมีสัมพันธ์กันตั้งแต่คืนที่แต่งงานแล้ว
แต่ครั้งนั้นเป็นเพราะเธอเมา สมองเลอะเลือน
แต่เธอในตอนนี้นั้น มีสติชัดเจนดี
ในสมองนั้นมีแต่สิ่งที่ผู้ชายคนนั้นทำกับเธอทั้งหมดเมื่อห้าปีก่อนขึ้นมาโดยอัตโนมัติ……
ความเจ็บปวดนั้นตอนนั้น ยังสลักอยู่ในกระดูกของเธอ
“ไม่ต้องกลัวนะ”
เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่ทุ้มต่ำและมีความอดทนอยู่ “เธอทำได้”
หน้าของซูสือเยว่ร้อนผ่าวไปจนหมด เธอกัดริมฝีปาก “แต่……”
“เธอก็ตอบตกลงกับซิงหยุนและซิงเฉินไปแล้วไม่ใช่หรอ”
เขาจับไปที่คางของเธอ แล้วดวงตาสีดำก็ทำให้คนหลงเสน่ห์ “จะเป็นผู้ใหญ่ที่โกหกไม่ได้นะ”
เสียงของเขานั้นมียาพิษอยู่
ซูสือเยว่ก็เชื่อ เธอโดนวางยาแล้ว
เธอพยักหน้าเบาๆ “อื้ม”
ได้คำตอบตกลงของเธอแล้ว ชายหนุ่มหัวเราะเบาๆ แล้วก็ก้มหน้าจูบลงไปที่ริมฝีปากของเธอ “ที่รัก เธอหวานจัง”
…………
ค่ำคืนที่แหลกร้าว พอตื่นเช้ามาวันรุ่งขึ้น ซูสือเยว่รู้สึกว่าตัวเองนั้นกลายเป็นคนที่ไร้ประโยชน์ไปแล้ว
เจ็บป่วยมาทั้งคืน บนตัวของเธอนั้นปวดไปทุกที่ เมื่อยไปทุกที่
เธอหลับตาด่าไป “สัตว์เดรัจฉานชัดๆ ……”
“หรอ”
เธอเพิ่งจะพูดจบ ก็มีเสียงทุ้มต่ำเฉื่อยชาก็ดังมาจากในห้อง
แล้วซูสือเยว่ก็ตัวแข็งทื่อไปทันที
เธอลืมตาขึ้นด้วยความอึ้ง แล้วก็มองไป
ทันใดนั้น เขาก็นั่งลงแล้วไขว่ห้างอยู่บนเก้าอี้อย่างสง่างาม แล้วแววตาก็มีความอยากหัวเราะอยู่ด้วย
แสงอาทิตย์ในยามเช้าสาดส่องมาบนตัวของเขา มีความขี้เกียจแล้วก็เย่อหยิ่งอยู่
ชายหนุ่มมองเธอ แล้วริมฝีปากก็เปิดขึ้น “คุณนายฉิน ฉันว่าฉันยับยั้งชั่งใจไว้มากแล้วนะ”
พูดจบ เขาก็ลุกขึ้น เดินมาข้างเตียง แล้วแววตาที่เย่อหยิ่งก็กวาดมาที่หญิงสาวตัวเล็กๆ ที่นอนอยู่บนเตียง “ถ้าสนใจก็ลองมาลิ้มรสหน่อยก็ได้นะ ว่าอะไรที่เป็นว่าแท้จริง……”
เขาโน้มตัวลง แล้วก็ขยับมาใกล้หูของเธอ “สัตว์เดรัจฉานหรอ”
ซูสือเยว่สะดุ้งทันที แล้วก็ขยับถอยหลังไป “ไม่……ไม่ต้องแล้ว”
แล้วในตอนนี้ เสียงโทรศัพท์ของซูสือเยว่ก็ดังขึ้น
เธอเหมือนคว้าความหวังสุดท้ายมาได้ยังไงอย่างงั้น ก็รีบคว้าโทรศัพท์ แล้วก็รับ “ฮัลโหล เชียนเชียน”
เสียงของฟู๋เชียนเชียนที่อยู่ปลายสายนั้นพูดหดหู่สุดๆ “สือเยว่สามทุ่มแล้วนะ วันนี้เธอยังจะออกไปเที่ยวกับฉันอยู่ไหมเนี่ย”
“พรุ่งนี้ก็จะกลับแล้ว พวกเราเหลือเวลาอีกแค่วันเดียวเองนะ”
เมื่อคืนที่ไม่เจอจี้หนานเฟิงที่เทศกาลดนตรี ฟู๋เชียนเชียนก็เสียใจจนแทบจะขาดใจอยู่แล้ว ถึงตอนนี้แม้แต่เสียงก็หมดแรงแล้ว
“ไปเร็วๆๆ ไปเดี๋ยวนี้เลย”
ซูสือเยว่รีบเอ่ยปาก กลัวว่าถ้าช้ากว่านี้ฉินโม่หานจะห้ามเธอ
“ฉันจะรีบไปหาเธอเดี๋ยวนี้เลย”
พูดจบ เธอก็รีบวางสายทันที เงยหน้าขึ้นแล้วมองไปที่ฉินโม่หาน แล้วยิ้มอย่างดุร้าย “ฉัน……ฉันจะพาเชียนเชียนไปมีความสุขบนท้องทะเลแล้ว”
ความระแวดระวังทั้งหมดได้เขียนเอาไว้บนหน้าของเธอแล้ว
มุมปากของฉินโม่หานเหมือนจะยิ้มขึ้น “ปล่อยเธอไปก่อนละกัน”
“แต่……”
เขายกมือขึ้น แล้วก็เอาผมทัดไปที่ข้างหูของเธอ “ผมก็ไม่สามารถทำให้ติดได้ในครั้งเดียว ถูกไหมล่ะ”
“จะผลิตลูกผู้หญิงนั้น ต้องค่อยเป็นค่อยไป”
ซูสือเยว่: “……”
จะมีใครมาช่วยชีวิตเธอได้ไหมเนี่ย