ซูสือเยว่ขมวดคิ้ว เฉิงเซวียนเขาเอาความมั่นใจมากจากไหน ถึงได้คิดว่าจนถึงตอนนี้เธอจะมาช่วยเซี่ยงหวั่นฉิง?
“สือเยว่”
เฉิงเซวียนดึงเซี่ยงหวั่นฉิงไปเดินเข้ามาหาเธอ แล้วก็ดึงการ์ดออกมาจากกระเป๋าและยื่นให้เธอ “สุดท้ายแล้วเธอก็จะได้เป้นนักแสดง ตอนที่จะเข้าไปในกองถ่าย ก็ต้องมีชุดสวยๆ ”
“ในนี้มีเงินแสนหยวน เธอเอาไปสิ ขอแค่วันนี้หวั่นฉิงได้บทบาทนี้มา ต่อไปฉันจะให้เธอได้มากกว่านี้อีก”
ซูสือเยว่มองดูการ์ดในมือของเฉิงเซวียนแล้วก็ยิ้ม “นายคิดว่า ในฐานะที่ฉันเป็นภรรยาของฉินโม่หาน จะขาดเงินแสนหยวนเนี่ยเหรอ? ”
“เธอคือภรรยาของฉินโม่หานจริงๆ ”
เซี่ยงหวั่นฉิงที่อยู่ด้านข้างหัวเราะเยาะ สายตาที่มองซูสือเยว่นั้นมีแต่ความดูถูก “แต่ว่าท่านชายฉินจะให้เงินเธอใช้ยังงั้นเหรอ? ”
“ดูทั้งหัวจรดเท้าของเธอนี่สิ มีชิ้นไหนที่เกินหนึ่งพันหยวนบ้างไหม? ”
“โทรมจะตายอยู่แล้ว!”
ซูสือเยว่ค่อยๆ หรี่ตาลง
ตั้งแต่แต่งงานกับฉินโม่หานมานั้น เธอก็ไม่เคยขอเงินจากฉินโม่หานเลยจริงๆ
พ่อบ้านจะให้เงินอุดหนุนที่เธอซื้อกับข้าวตั้งหลายรอบ แต่ว่าก็ถูกเธอปฏิเสธ
เธอแต่งงานกับฉินโม่หาน ไม่ใช่เพราะว่าเงินของเขา และก็ไม่อยากสนุกกับชีวิตของภรรยาที่ร่ำรวยด้วย
แต่ไม่นึกเลยว่า มันจะกลายเป็นเหตุผลให้เซี่ยงหวั่นฉิงดูถูกเธอได้
ผู้หญิงคนนี้ยกมุมปากขึ้น แล้วก็เหลือบมองเสื้อผ้าบนร่างกายของเซี่ยงหวั่นฉิงด้วยสายตาที่เย็นชา
“ของเธอมันไม่โทรมเลยเนอะ”
“นี่มันคือเสื้อผ้าที่เฉิงเซวียนซื้อให้เธอยัีงงั้นเหรอ? ”
บังเอิญมาก ถึงแม้ว่าเสื้อผ้าที่เซี่ยงหวั่นฉิงใส่วันนี้จะดูแพง แต่ว่า……
เสื้อผ้าชุดนี้ ซูสือเยว่เคยเห็นแล้ว
เมื่อก่อนตอนที่อยู่ที่ริมทะเลในเมืองถงที่เธอถ่ายรูปตอนที่เซี่ยงหวั่นฉิงกับผู้กำกับเฉินอยู่ด้วยกันได้นั้น เธอใส่ชุดนี้
เมื่อก่อนฟู๋เชียนเชียนเคยพูดแล้วว่า ครั้งที่แล้วตอนที่เซี่ยงหวั่นฉิงวางแผนให้เธอแพ้นั้น เฉิงเซวียนเกือบหมดตัว ตอนนี้ก็แบ่งหาเงินและแบ่งใช้
เซี่ยงหวั่นฉิงขมวดคิ้ว แล้วก็ฮัมเสียงอย่างเย็นชา “แน่นอนว่าต้องเป็นชุดที่เฉิงเซวียนซื้อให้ฉันสิ!”
ซูสือเยว่ยกมุมปากขึ้นนิ่งๆ “เฉิงเซวียนช่างฟุ่มเฟือยกับเธอจริงๆ ชุดนี้เป็นแบรนด์ใหญ่จากยุโรป-อเมริกา ดูแล้วน่าจะประมาณสองแสนใช่ไหม? ”
เซี่ยงหวั่นฉิงเงยหน้าขึ้นอย่างภูมิใจ “แน่นอนอยู่แล้ว”
“เธอนึกว่าเฉิงเซวียน จะขี้เหนียวกับฉันเหมือนที่เป็นกับเธอตอนแรกอย่างงั้นเหรอ? ”
ซูสือเยว่ยังคงยิ้มอย่างไม่รีบไม่ร้อน “แต่ทำไมฉันถึงจำได้ว่า กระเป๋าในมือของเธอนั้น……ที่เมืองหรงไม่มีแบรนด์นี้นะ มีแค่ในเมืองถงข้างๆ ”
“กระเป๋าใบนี้เป็นรุ่นใหม่ที่เปิดตัวเมื่อเดือนที่แล้ว”
พอพูดจบ เธอก็เงยหน้ามองตาของเซี่ยงหวั่นฉิง “ดังนั้น ช่วงนี้เธอไปเมืองถงมาเหรอ? ”
เซี่ยงหวั่นฉิงหน้าซีดลงทันที!
เมื่อไม่กี่วันก่อนเธอไปที่สวนน้ำกับผู้กำกับเฉินที่เมืองถงจริงๆ แต่ว่าเรื่องที่เธอไปเมืองถง เธอปิดบังเฉิงเซวียน!
ตอนนี้มาโดนซูสือเยว่จี้แบบนี้ ใบหน้าของเธอก็ดูอึดอัด “ฉันไม่ได้ไป!”
เซี่ยงหวั่นฉิงกลอกตา “ฉันให้เพื่อนฉันที่เมืองถงซื้อมาให้น่ะ”
“เธอมีเพื่อนที่เมืองถงด้วยเหรอ? ”
ไม่ว่าจะพูดยังไงเธอก็เป็นเพื่อนสนิทของเซี่ยงหวั่นฉิงมาหกปีแล้ว เซี่ยงหวั่นฉิงมีญาติหรือเพื่อนคนไหน ซูสือเยว่นั้นย่อมรู้ดี
พอเธอพูดแบบนี้ เฉิงเซวียนก็ขมวดคิ้ว “ใช่ หวั่นฉิง เธอมีเพื่อนที่เมืองถงตั้งแต่เมื่อไหร่? ”
“ฉัน……”
เซี่ยงหวั่นฉิงหลบสายตาของเฉิงเซวียน สุดท้ายก็แย่งการ์ดจากในมือของเฉิงเซวียนมา “ไม่เต็มใจจะรับเงินที่พวกเราให้ก็ช่างมันสิ เธอจะมายุ่งอะไรว่าฉันจะซื้อกระเป๋ายังไง? ”
พอพูดจบ เธอก็ดึงเฉิงเซวียนให้เดินเข้าไปในอาคารสถานีโทรทัศน์เหลยถิง “พวกเราไปกันเถอะ”
เฉิงเซวียนหยุดเดินอย่างไม่เต็มใจ “แต่ว่าหวั่นฉิง……การออดิชั่นที่จะถึง……”
เขารู้ดีว่า ดูจากระดับการแสดงของเซี่ยงหวั่นฉิงแล้วนั้น เธอไม่มีทางได้บทบาทนางเอกของ《ความทรงจำที่ขาดหาย》ได้หรอก
“ฉันทำได้!”
เซี่ยงหวั่นฉิงมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยม “เดี๋ยวรอดูเลย”
“ไม่มีซูสือเยว่ ยังไงฉันก็จะต้องได้บทนางเอกอยู่แล้ว!”
ผู้กำกับเฉินรับปากเธอแล้ว ขอแค่ต่อไปเธอไปกับผู้กำกับเฉินเดือนละครั้ง บทนางเอกในหนังของเขา จะเป็นของเซี่ยงหวั่นฉิงทั้งหมด!
การออดิชั่นในครั้งนี้ ก็แค่เป็นการทำแบบขอไปที่เท่านั้น ไม่ว่าคนอื่นจะพยายามขนาดไหน สุดท้ายคนที่ชนะ มีแค่เธอเท่านั้น!
เฉิงเซวียนหันกลับไปมองซูสือเยว่อย่างลังเล สุดท้ายก็ส่ายหน้า แล้วก็เดินเข้าไปพร้อมกับเซี่ยงหวั่นฉิง
เซี่ยงหวั่นฉิงยืนอยู่ที่เดิม มองดูแผ่นหลังของเซี่ยงหวั่นฉิง แล้วก็ยกมุมปากขึ้นอย่างเย็นชา
……
เวลาเก้าโมงเช้า
การออดิชั่นเริ่มขึ้นอย่างตรงเวลา
ซูสือเยว่ เซี่ยงหวั่นฉิงและนักแสดงหญิงหลายคนถูกจัดให้อยู่ในห้องรับแขกขนาดเล็ก
ทีมงานของสถานีโทรทัศน์เหลยถิงส่งสคริปต์สั้นๆ มาให้แต่ละคน สคริปต์พวกนี้จะทำให้ศึกษาและเข้าใจในตัวละครและไปแสดงได้
ตอนที่แจกสคริปต์นั้น ซูสือเยว่ก็สังเกตเห็นอย่างรวดเร็วว่า ในบรรดาตัวละครทั้งห้าฉบับในมือของพนักงานนั้น มีฉบับหนึ่ง ที่ถูกพับมุมไว้
เธอเดาว่า สคริปต์ที่ถูกพับมุมไว้นั้น น่าจะเป็นของเซี่ยงหวั่นฉิง
ดูเหมือนว่าเซี่ยงหวั่นฉิงกับผู้กำกับเฉินเองก็ไม่ได้โง่ เพื่อที่จะรับมือกับการออดิชั่นในครั้งนี้ ก็เลยเตรียมไว้ก่อนยังงั้นเหรอ?
“ขอโทษทีค่ะ ฉันอยากจะเปลี่ยนสคริปต์”
ตอนที่พนักงานมอบสคริปต์ของซูสือเยว่ให้เธอนั้น เธอก็คว้าสคริปต์ในมือของเธอ “ฉันคิดว่าสคริปต์นั้นพวกเราที่จะออดิชั่นควรได้เลือกเองนะคะ”
“คุณคิดว่าไง? ”
เซี่ยงหวั่นฉิงที่อยู่ด้านข้างกลอกตา “เธอคิดว่ายังไงแล้วมันมีประโยชน์อะไร? ”
“ฉันยังคิดว่าฉันจะควรจะได้เป็นนางเอกเลย คนอื่นจัดเตรียมไว้ยังไงเธอก็แสดงแบบนั้นแหละ!”
พอพูดจบ เธอก็ยิ้มและมองซูสือเยว่อย่างเยาะเย้ย “ทำไม กลัวว่าตัวเองจะแสดงไม่ดี ก็เลยเรื่องกังวลแล้วยังงั้นเหรอ? ”
“ฉันนึกว่าเธอจะได้รับบทบาทนี้จริงๆ ”
ดาราสาวคนหนึ่งยิ้มอย่างคล้อยตาม “นั่นสิ คนที่พึ่งเปลี่ยนจากแสตนด์อินมาเป็นนักแสดง ก็คิดจะอยากเป็นนางเอกซะแล้ว ช่างเป็นคนที่หวังสูงแต่ความสามารถต่ำจริงๆ ”
ซูสือเยว่หรี่ตา ไม่ได้พูดอะไร แต่ว่ามือยังคงจับสคริปต์ในมือของพนักงานอยู่ไม่ยอมปล่อย
“คุณผู้หญิง อย่าก่อความวุ่นวายเลยค่ะ”
พนักงานกลอกตาใส่ซูสือเยว่ ดึงสคริปต์ที่เหลือออกมาจากมือของซูสือเยว่ แล้วก็แจกต่อ
พอเธอไปแล้ว ซูสือเยว่ก็หัวเราะออกมาเบาๆ เอนตัวลงพิงเก้าอี้อย่างสบายๆ เตรียมชมการแสดง
คนต่อจากซูสือเยว่ ก็คือเซี่ยงหวั่นฉิง
หลังจากพนักงานและเซี่ยงหวั่นฉิงส่งสายตาให้กันนั้น ก็เตรียมส่งสคริปต์ที่ทำเครื่องหมายไว้ให้เซี่ยงหวั่นฉิง
ตอนที่เธอก้มหน้าลงไปถึงได้พบว่า……
สคริปต์ทั้งสี่ฉบับที่เหลืออยู่ในมือของเธอนั้น ถูกพับมุมไว้ทั้งหมด!
พนักงานเริ่มตื่นตระหนก
เซี่ยงหวั่นฉิงยังไม่รู้เรื่องนี้ แล้วก็เอาแต่เร่งให้ส่งสคริปต์ให้เธอ
“เร็วหน่อยสิ ฉันรีบเตรียมตัว”
สคริปต์ของเธอวันนี้ เมื่อคืนเธอฝึกฝนมานับครั้งไม่ถ้วนต่อหน้าผู้กำกับเฉิน ไม่มีทางเกิดข้อผิดพลาดอย่างแน่นอน
พนักงานก็เหงื่อออกอย่างร้อนรน
แล้วก็ทนต่อการเร่งเร้าของเซี่ยงหวั่นฉิงและคนต่อไปไม่ไหว
สุดท้าย เธอก็กัดฟันและสุ่มเลือกสคริปต์ให้เซี่ยงหวั่นฉิง
“โอเค ครั้งนี้ฉันต้องได้บทนางเอกมาอย่างแน่นอน!”
เซี่ยงหวั่นฉิงเปิดสคริปต์อย่างภาคภูมิใจ แล้วก็ต้องตะลึงไปในทันที
……ทำไมนี่ มันไม่เหมือนกับในแผน?!