เห็นสีหน้าของเซี่ยงหวั่นฉิงที่ซีดยิ่งกว่ากำแพง ซูสือเยว่ก็ยิ้มมุมปาก เธอรู้ว่าตัวเองทายถูกแล้ว
สคริปต์ที่ถูกพับมุมอยู่นั้น คือสิ่งที่ผู้กำกับเฉินเตรียมไว้ให้เซี่ยงหวั่นฉิงจริงๆ ด้วย
เธอเริ่มเตรียมบทอย่างอารมณ์ดี
เวลาสำหรับเตรียมตัวคือสิบนาที
หลังจากผ่านไปสิบนาที คนแรกที่จะได้แสดงก็คือซูสือเยว่
หลังจากที่เธอเข้าไปในห้องแสดงแล้วนั้นถึงได้รู้ว่า ในบรรดาผู้ตัดสินทั้ง 5 คนในวันนี้ คนที่เธอรู้จักมีอยู่สองคน
คนหนึ่งคือหนักแสดงหญิงดีเด่น ลั่วเยียน อีกคนหนึ่งก็คือฉินหนานเซิง
สามคนที่เหลือ นอกจากผู้กำกับเฉินแล้ว ยังมีโปรดิวเซอร์มากประสบการณ์อีกสองคน
หลังจากหายใจเข้าลึกๆ ซูสือเยว่ก็เริ่มการแสดง
ถึงแม้ว่าจะมีเวลาเตรียมตัวเพียงแค่สิบนาที แต่ว่าจากการที่หลายปีมานี้ซูสือเยว่ได้วิเคราะห์บทให้กับเฉิงเซวียนและเซี่ยงหวั่นฉิง ดังนั้นเธอจึงแบ่งอารมณ์และจิตใจของตัวละครออกเป็นสี่ระดับอย่างรวดเร็ว ค่อยๆ ก้าวหน้าไปทีละขั้น
จากการหัวเราะอย่างบ้าคลั่งไปสู่ความสิ้นหวัง ภายในเวลาเพียงสองนาที เธอก็ได้แสดงบทบาทที่เธอได้รับอย่างมีชีวิตชีวาเหมือนกับของจริง
พอเธอแสดงเสร็จ ในห้องแสดงก็มีเสียงปรบมือดังสนั่น
“ไม่คิดเลยว่าซูสือเยว่จะเก่งขนาดนี้!”
ในห้องรอด้านนอก นักแสดงทั้งสามมองดูไปด้วยและทอดถอนใจอย่างหดหู่ “สแตนด์อินพึ่งผันตัวมาเป็นนักแสดงอย่างเป็นทางการ แล้วแสดงได้ขนาดนี้ เก่งมากจริงๆ!”
“ฉันรู้สึกว่าฉันสู้เธอไม่ได้……”
“ฉันคิดว่าฉันก็เหมือนกัน……”
พอพูดจบ นักแสดงทั้งสามคนนั้นก็หันไปมองเซี่ยงหวั่นฉิง “เธอคิดว่าไง? ”
เซี่ยงหวั่นฉิงกัดริมฝีปากแน่น
ต้องยอมรับว่า ความสามารถของซูสือเยว่นั้น……เก่งกาจจริงๆ
แต่ว่า บทนางเอกคือหนังเรื่องนี้ เธอต้องคว้ามาให้ได้!
ถ้าเกิดไม่ใช่เพราะว่าต้องการตำแหน่งของบทนางเอง แล้วทำไมเธอต้องขึ้นเตียงกับผู้กำกับเฉินด้วยล่ะ?
ผู้กำกับเฉินอายุเยอะและก็วิปริต ทุกครั้งที่อยู่กับเขาเธอต้องฝืนตัวเองไม่ให้อาเจียนออกมา!
เธอทุ่มเทไปเยอะเพื่อบทบาทนี้ แล้วเธอจะปล่อยไปได้ยังไง?
แล้วยิ่งไปกว่านั้น……
เซี่ยงหวั่นฉิงหรี่ตา
กรรมการทั้ง 5 คนในวันนี้ นอกจากลั่วเยียนกับฉินหนานเซิง ผู้กำกับเฉินก็ได้ซื้อตัวอีกสองคนมาเรียบร้อยแล้ว
ถ้าสามคนนี้ให้คะแนนเธอสูง เธออาจจะไม่แพ้ซูสือเยว่
เพื่อความยุติธรรมและไม่กระทบต่อการแสดงของนักแสดงคนอื่น จะประกาศคะแนนตอนสุดท้ายอย่างพร้อมเพรียงกัน
หลังจากที่ซูสือเยว่แสดงเสร็จแล้ว พนักงานก็เก็บใบคะแนนของเธอไป
ถัดมา ก็เป็นนักแสดงคนต่อไป
พอนักแสดงคนนี้เริ่มการแสดง ผู้กำกับเฉินก็อึ้งไปในทันที
นี่มันคือบทที่เมื่อวานเขาเตรียมไว้ให้เซี่ยงหวั่นฉิง!
แต่กลับนักแสดงหญิงคนนี้กลับได้แสดงยังงั้นเหรอ?
ถ้ายังงั้นสาวน้อยเซี่ยงหวั่นฉิงจะทำยังไงกันล่ะ?
ท่าทางจิตใจฟุ้งซ่านของผู้กำกับเฉิน ลั่วเยียนเห็นทั้งหมดแล้ว
ผู้หญิงคนนั้นยิ้มจางๆ “ผู้กำกับเฉิน เป็นมืออาชีพหน่อยค่ะ”
ผู้กำกับเฉินถึงได้ดึงสติกลับมาอย่างกระสับกระส่าย
นักแสดงสาวก็แสดงต่อไปทีละคน
เซี่ยงหวั่นฉิงเป็นคนสุดท้าย
ตอนที่เซี่ยงหวั่นฉิงขึ้นเวทีนั้น ผู้กำกับเฉินก็ให้กำลังใจเธอเป็นพิเศษ “นักแสดงสาวท่านนี้ ผมชอบคุณนะ”
“อารมณ์และรูปลักษณ์ของคุณ สอดคล้องกับบทบาทนางเอกของผม”
“หวังว่าต่อไปพวกเราจะได้ร่วมงานกันบ่อยๆ ”
คำพูดนี้ที่จริงแล้วมันชัดเจนมาก
เป็นการให้กำลังใจเซี่ยงหวั่นฉิง ต่อให้ครั้งนี้ไม่ได้ร่วมงานกัน ครั้งนี้ก็ยังมีโอกาส
ซูสือเยว่นั่งไขว่ห้างอยู่ด้านนอกอย่างสง่างาม และยิ้มมุมปากอย่างเยาะเย้ย
ได้ร่วมงานกันในอนาคตบ่อยๆ งั้นเหรอ?
รอเธอเปิดเผยรูปของผู้กำกับเฉินกับเซี่ยงหวั่นฉิงเมื่อไหร่ อย่าว่าแต่เซี่ยงหวั่นฉิงเลย ต่อไปผู้กำกับเฉินก็อยู่ไม่ได้ แล้วจะพูดเรื่องร่วมงานได้ยังไงกัน?
ในห้องแสดงนั้น เซี่ยงหวั่นฉิงแสดงได้เละเทะมาก
นักแสดงสาวหลายคนตะลึงไป
“ไม่ใช่ว่า เธอคือนักแสดงหญิงหน้าใหม่ที่ดีที่สุดที่จะเข้าชิงรางวัลวัวทองในปีนี้ไม่ใช่เหรอ? ”
“แค่เนี่ย? ”
“อาศัยทางลัดเข้ามารึเปล่า? หมาบ้านฉันยังแสดงได้ดีกว่านี้อีก!”
พอคนพวกนี้พูดจบ ก็หันมามองซูสือเยว่ “ยินดีด้วยนะ”
“ดูเหมือนว่าบทบาทนี้จะเป็นของเธอ”
ซูสือเยว่ยิ้มจางๆ “ขอบคุณนะ”
หลังจากจบการออดิชั่น ทุกคนก็ต่างแสดงความยินดีกับซูสือเยว่ มั่นใจว่าซูสือเยว่ต้องชนะการออดิชั่นในครั้งนี้อย่างแน่นอน
แต่ไม่คิดเลยว่า ตอนที่ประกาศคะแนนออกมานั้น คะแนนของซูสือเยว่กลับไม่เยอะเลย
ต่อให้ฉินหนานเซิงกับลั่วเยียนให้คะแนนเธอสูง แต่ว่าที่เหลือทั้งสามคนนั้น ให้คะแนนเธอสอบตก
นักแสดงสาวสามคนที่เหลือนั้นต่างมองหน้ากัน
เซี่ยงหวั่นฉิงที่อยู่ด้านข้างหัวเราะออกมา
เธอรู้อยู่แล้ว!
ตอนนี้ซูสือเยว่ได้คะแนนสูงสองคะแนน ส่วนให้ตกสามคน
แต่เธอ จะได้รับคะแนนสูงอย่างน้อยก็สามคะแนน!
ยังไงในบรรดาคณะกรรมการนั้น นอกจากลั่วเยียนกับฉินหนานเซิงนั้น ก็คือคนของเธอทั้งนั้น!
สุดท้าย ตำแหน่งของบทนางเอก ก็ต้องเป็นของเธอเซี่ยงหวั่นฉิง!
พอคิดแบบนี้แล้ว เธอก็เดินเข้ามาหยุดอยู่ข้างๆ ซูสือเยว่อย่างภูมิใจที่ได้รับชัยชนะ แล้วก็ตบไหล่เธออย่างสงสาร “อย่าเศร้าไปเลยนะ”
“ตอนนี้รู้สึกเสียดายแล้วนี่นะ ว่าเมื่อกี้ตอนอยู่ข้างนอกควรจะรับเงินแสนหยวนจากเฉิงเซวียนไป? ”
“แต่ว่าความเสียดายนั้นมันจบลงแล้ว”
พอพูดจบ เธอก็ก้มหน้า แล้วก็มองเล็บของเธอ “ฉันต้องกลับไปศึกษาให้ดีหน่อย ว่าบทนางเอกนี้มันแสดงยังไง”
“ใช่สิ”
แล้วเธอก็ขยับเข้าไปข้างหูของซูสือเยว่ “รางวัลวัวทองอาทิตย์หน้า รางวัลนักแสดงหญิงหน้าใหม่ยอดเยี่ยมปีนี้ ก็เป็นของฉัน”
“ต่อให้ครั้งที่แล้วเธอจะชนะ แต่ว่าฉันก็สามารถอาศัยหนังเรื่อง《ความทรงจำที่ขาดหาย》 บวกกับรางวัลวัวทองของฉัน มายืนอยู่บนหัวเธอได้อีกครั้ง”
“ซูสือเยว่ เธอสู้ฉันไม่ได้หรอก”
ระหว่างที่พูดอยู่นั้น คะแนนของเซี่ยงหวั่นฉิงก็ถูกประกาศออกมา
มันเหมือนอย่างที่เซี่ยงหวั่นฉิงคิดไว้เลย
คะแนนสูงสามคน คะแนนตกสองคน
พนักงานตื่นเต้นมากที่จะประกาศ “ทุกท่านคะ คะแนนได้ออกมาแล้ว บทบาทนางเอกของหนังเรื่อง《ความทรงจำที่ขาดหาย》ของพวกเราก็คือ——”
“คุณเซี่ยงหวั่นฉิง!”
เซี่ยงหวั่นฉิงที่คาดการณ์ตอนจบไว้อยู่แล้วยิ้มแล้วก็ลุกขึ้นมา เอามือทาบอกแล้วทำหน้าประหลาดใจ “ไม่คิดเลยว่าจะเป็นฉันจริงๆ!”
“ขอบคุณที่คณะกรรมการทุกท่านเชื่อใจฉัน ฉันจะ……”
เธอยังไม่ทันจะพูดจบ ฉินหนานเซิงที่นั่งอยู่ที่นั่งกรรมการก็ยืนขึ้น “เดี๋ยวก่อน”
เขากอดอก พร้อมกับยิ้มอย่างเยือกเย็น “ตอนแรกผมก็กะว่าจะให้โอกาสทุกท่าน แต่ไม่คิดเลยว่าทุกท่านจะไม่รู้จักรักษาชื่อเสียงของตัวเองเลย”
“ถ้ายังงั้นก็อย่าหาว่าผมไม่เกรงใจนะ!”
พอพูดจบ ฉินหนานเซิงก็ยืนขึ้น แล้วก็ดึงม่านด้านหลังของพวกเขาออก
เบื้องหลังพวกกรรมการนั้น ยังมีอีกห้องหนึ่งอยู่!
ในห้องนั้น มีผู้กำกับอาวุโสและโปรดิวเซอร์ในวงการบันเทิงหลายคน แล้วก็……พระเอกของเรื่อง《ความทรงจำที่ขาดหาย》 จี้หนานเฟิง
พอเห็นกลุ่มคนที่อยู่ด้านหลัง ผู้กำกับเฉินก็หน้าซีดลงทันที
ผู้กำกับอาวุโสท่านหนึ่งก็ยืนขึ้น “การออดิชั่นเมื่อกี้นี้ พวกเราเห็นหมดแล้ว”
“ผมไม่เข้าใจเลย ทำไมทั้งสามท่านไม่ยอมให้การแสดงที่ยอดเยี่ยมของซูสือเยว่ผ่าน แต่กลับให้เซี่ยงหวั่นฉิงที่แกล้งร้องไห้คะแนนเต็ม”
“ไม่ใช่แค่พวกเราไม่เข้าใจ แม้แต่พระเอกของพวกเราคุณจี้หนานเฟิงก็ยังแทบไม่อยากจะเชื่อ”
“อธิบายเหตุผลให้พวกเราหน่อยได้ไหม? ”
ผู้กำกับเฉินหน้าซีด “คือ……”
“คือ……”
ตอนนี้เอง จี้หนานเฟิงค่อยๆ ยืนขึ้นแล้วก็หันหลังจะเดินออกไป “ถ้าเกิดว่านักแสดงหญิงอยู่ระดับนี้ละก็”
“บทพระเอกของเรื่องนี้ ไม่เอาก็ได้ครับ”