คือคุณปู่ที่แก่มากแล้ว……
ฉินโม่หาขมวดคิ้วอย่างรุนแรง วางหนังสือพิมพ์ลง แกล้งทำเป็นสบายๆ และถามด้วยน้ำเสียงเรียบงานว่า “ครูฉินอะไรกัน? ”
“คนที่ลั่วเยียนแนะนำให้ฉันรู้จักน่ะ”
ซูสือเยว่เก็บกล่องของขวัญอย่างเรียบร้อย “ที่ฉันได้เข้าร่วมการออดิชั่นอย่างราบรื่นในครั้งนี้ แถมสุดท้ายยังได้คะแนนดีๆ อีก ทั้งหมดต้องขอบคุณความช่วยเหลือที่ครูฉินมีให้ฉัน”
พอพูดจบ เธอก็มองและยิ้มให้ฉินโม่หาน “ครูฉินก็คือผู้ใหญ่ที่น่าสนใจคนหนึ่ง”
“ตอนแรกฉันคิดว่าเขาและเราเป็นคนรุ่นเดียวกัน แต่แล้วฉันก็พบว่าเขาไม่รู้จักอิโมจิ”
“ทุกครั้งที่ฉันส่งอิโมจิไปให้เขา ผ่านไปครึ่งวันกว่าเขาจะตอบ”
ฉินโม่หานขมวดคิ้วเบาๆ ถือหนังสือพิมพ์ขึ้นมาปิดหน้าของตัวเองไว้ เสียงทุ้มพูดอย่างแผ่วเบา “ไม่รู้จักอิโมจิแสดงว่าเป็นคนแก่ยังงั้นเหรอ? ”
ซูสือเยว่ขมวดคิ้ว “ถ้าไม่งั้นจะอะไรล่ะ? ”
เธอส่งอิโมจิให้ครูฉินที่มันสื่อความหมายอย่างชัดเจน แต่ครูฉินใข้เวลานานมากในการตอบสนองทุกครั้ง ก็น่าจะเป็นคนแก่ไม่ใช่เหรอ?
พอพูดจบ เธอก็มองฉินโม่หานอย่างสงสัย “ทำไมจู่ๆ พูดเรื่องนี้ล่ะ? ”
มีลางสังหรณ์ที่ไม่ดีโผล่ขึ้นมาในใจ……
ผู้หญิงคนนั้นเห็นฉินโม่หานถือหนังสือพิมพ์กลับด้าน แล้วก็พูดเบาๆ “คือว่า……คุณฉิน”
“หรือว่าคุณเอง……ก็ไม่รู้จักอิโมจิเหมือนกัน? ”
“จะเป็นไปได้ยังไง”
น้ำเสียงของผู้ชายคนนั้นเย็นชา “ของที่ไม่ได้มีความหมายอะไร ฉันก็แค่ขี้เกียจเสียเวลาเท่านั้นเอง”
พอพูดจบ ฉินโม่หานก็พบว่าตัวเองถือหนังสือพิมพ์กลับด้าน
เขาขมวดคิ้ว รีบลุกขึ้นแล้วก็เดินขึ้นไปชั้นบน
ซูสือเยว่นั่งอยู่ที่เดิม มองดูแผ่นหลังของผู้ชายที่จากไป ใบหน้าดูงงงวย
ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ทำไมเธอถึงรู้สึก เหมือนว่าเขา……โกรธ?
ด้านหลังของซูสือเยว่ ซิงหยุนและซิงเฉินสบตากัน
ดูเหมือนว่า แด๊ดดี้จะถูกรังเกียจซะแล้ว!
ดังนั้นซิงเฉินก็เลยกระแอม “หม่ามี๊ ผมคิดว่า เราไม่สามารถตัดสินว่าครูฉินนั้นเป็นคนแก่ได้จากเรื่องที่เขาแค่ไม่รู้จักอิโมจินะ”
“บางที เขาอาจจะเป็นหนุ่มหล่อที่ไม่ชอบเล่นอินเทอร์เน็ตก็ได้!”
ซูสือเยว่เม้มปาก “แต่ว่า……งานของครูฉินน่าจะถูกกำหนดไว้ เขาไม่เล่นเน็ตไม่ได้มั้ง”
“ปัง!”พอสิ้นเสียงของซูสือเยว่ ก็มีเสียงปิดประตูห้องอ่านหนังสือจากชั้นบน
ซิงหยุนส่ายหน้าอย่างจนปัญญา แล้วก็ปิดแล็ปท็อป ลุกขึ้น “ผมไปข้างบนนะ”
ตอนนี้แด๊ดดี้ของพวกเขาต้องการการปลอบใจ
ซิงเฉินส่งสายตาให้เขา พูดต่อเพื่อให้ซูสือเยว่เตรียมใจให้พร้อม “ถ้ายังงั้นหม่ามี๊ จะไปเจอกับคุณฉินคนนั้นเหรอ? ”
ซูสือเยว่พยักหน้า “แน่นอนอยู่แล้ว!”
ครูฉินช่วยเหลือเธอครั้งใหญ่ขนาดนั้น จะไม่ไปขอบคุณต่อหน้าได้ยังไงกัน?
ซิงเฉินสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เหมือนกับว่านึกอะไรขึ้นมาได้ แล้วก็คลี่ยิ้มขึ้นมา “ถ้ายังงั้นหม่ามี๊ พอถึงเวลาผมจะช่วยหม่ามี๊เลือกเสื้อผ้าที่จะไปเจอครูฉินนะ!”
ซูสือเยว่อึ้งไป “ไม่จำเป็นหรอกมั้ง? ”
ก็แค่ไปเจอผู้ใหญ่คนหนึ่งเท่านั้นเอง……
“จำเป็นสิ!”
ใบหน้าของซิงเฉินดูเคร่งขรึม “ยังไงครูฉินสำหรับหม่ามี๊แล้ว ก็คือคนที่สำคัญมากนะ!”
และตอนนี้ ก็อยู่ในห้องอ่านหนังสือชั้นบนด้วย
ซิงหยุนปันขึ้นไปบนโต๊ะทำงานของฉินโม่หาน แล้วก็นั่งลงบนโต๊ะทำงาน หลังจากนั้นก็เปิดแล็ปท็อปของตัวเองขึ้นมา
ในแล็ปท็อปของเขานั้น มีรูปภาพอิโมจินับพัน “แด๊ดดี้ เป็นคนจริงจังเกินไปแล้ว”
“เพื่อที่จะหลีกเลี่ยงการเคอะเขินครั้งต่อไป”
เด็กน้อยหันหน้าจอไปหาฉินโม่หาน “นี่คือสิ่งที่พวกวัยรุ่นเขาชอบใช้กัน ลองศึกษาดูสิ”
ฉินโม่หานมองอย่างเย็นชา “ไม่เรียน”
เขาจะไม่ลำบากตัวเองเพราะผู้หญิงคนเดียวขนาดนั้นหรอก
แก่ก็แก่สิ เขาจะไม่เสียเวลากับเรื่องไร้สาระแบบนี้!
ซิงหยุนกอดอก ดวงตาสีดำจ้องมาที่เขา “แด๊ดดี้ ไม่เรียนจริงเหรอ? ”
ผู้ชายคนนั้นมองเธอนิ่งๆ หันหน้าไป เปิดคอมพ์ แล้วก็คลิกที่รายงานการเงินในเมล และอ่านอย่างจริงจัง
ซิงหยุนเองก็ไม่ได้รีบร้อน
เด็กน้อยเทน้ำให้ตัวเอง นั่งอยู่บนโต๊ะทำงาน หยิบโทรศัพท์ออกมาเหมือนผู้ใหญ่ตัวน้อย โทรหาฉินหนานเซิง
“พี่หนานเซิง”
“ซิงหยุน!”
อีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์นั้น น้ำเสียงของฉินหนานเซิงเต็มไปด้วยความตกใจ “โทรหาพี่ได้ยังไงกัน!”
“ในที่สุดน้องชายที่เย็นชาของฉันก็มีวันหนึ่งที่โทรมาหา!”
“ฉันรู้สึกเป็นเกียรติมาก……”
“พี่หนานเซิง พี่นี่เสียงดังเอะอะจริงๆ เลยนะ”
ประโยคเดียวของเด็กน้อย ฉินหนานเซิงที่อยู่ปลายสายนั้นก็รีบปิดปากทันที “ปีศาจน้อย คงไม่ได้ติดต่อมาเพื่อกระชับความสัมพันธ์หรอกใช่ไหม? ”
“มีเรื่องอะไรที่ต้องการความช่วยเหลือก็บอกพี่หนานเซิงได้เลย พี่จะพยายามให้ถึงที่สุด!”
ฉินหนานเซิงเข้าใจดีว่า เด็กน้อยอย่างซิงหยุนเนี่ย ว่าเขาได้ก๊อบปี้ฉินโม่หานมาเลย อนาคตไม่มีที่สิ้นสุด!
เขาต้องอาศัยตอนที่เด็กน้อยคนนี้ยังไม่โต เกาะขาเขาเอาไว้
“อยากถามอะไรพี่หน่อย”
ซิงหยุนคลี่ยิ้มเบาๆ น้ำเสียงก็นิ่งเรียบ “ผู้ชายที่อ่านอิโมจิไม่ออก จะจีบผู้หญิงที่ชอบส่งอิโมจิได้ไหม? ”
ปลายสายเงียบไปอยู่ครู่หนึ่ง
ผ่านไปครู่หนึ่ง ฉินหนานเซิงก็ยิ้ม “แค่นี้เหรอ? ”
“อืม”
“ล้อเล่นอะไรกัน! จีบไม่ได้อยู่แล้วสิ!”
น้ำเสียงฉินหนานเซิงที่อยู่ปลายสายเต็มไปด้วยการดูถูก “เขาอ่านอิโมจิไม่ออกก็ถือว่าเชยสินะ? ”
ซิงหยุนยกมุมปากขึ้นอย่างเย็นชา แล้วก็เอามาไว้ที่ข้างกายของฉินโม่หาน
“ได้โปรดเถอะ ผู้ชายที่ไม่เข้าใจอิโมจิ อยากจีบผู้หญิงที่ชอบใช้อิโมจิ นี่กำลังฝันอยู่เหรอ”
“สาวๆ ต้องไม่ชอบเขาเพราะว่าดุอย่างแน่นอน เรื่องนี้แทบไม่ต้องคิดเลยมั้ง?
ทันใดนั้นอากาศในห้องอ่านหนังสือก็เริ่มเย็นลง
ที่ปลายสายนั้นฉินหนานเซิงก็ยังคงพูดต่อไม่หยุด
เขารู้ว่าซิงหยุนถามเขาแบบนี้ ก็เพราะว่าต้องการให้เขาตอบแบบนี้ เพื่อที่จะเอาใจซิงหยุน ฉินหนานเซิงก็จงใจพูดเกินจริง “ตอนนี้แม้แต่วัยคนแก่อย่างคุณปู่ก็ยังสามารถใช้อิโมจิเป็น คนที่หนูพูดถึงว่าไม่เข้าใจอิโมจินั้น แย่กว่าคนแก่อีก!”
“ทำไมนายไม่แนะนำผู้หญิงคนนั้นให้พี่ดูล่ะ พี่เข้าใจอิโมจิและใช้ได้ดี เธอจะตกหลุมรักพี่อย่างแน่นอน! “
“งั้นเหรอ? ”
เสียงทุ้มต่ำที่พยายามกดความเยือกเย็นเอาไว้ดังขึ้น “แกตายแน่นอน”
เสียงของฉินหนานเซิงหยุดลงทันที
“อา…… อาเล็ก?”
“ฉันเอง”
ฉินโม่หานหรี่ตาอย่างเย็นชา “ได้ยินมาว่า แกจะล่อลวงอาสะใภ้เล็ก?”
ฉินหนานเซิง:“!!”
เขาปากสั่นด้วยความตกใจ อา อา อาเล็ก!”
“อาฟังผมเถียงก่อน ไม่สิ ฟังผมอธิบายก่อน!”
“ผม……”
ฉินโม่หานขมวดคิ้วอย่างเย็นชา แล้วก็ตัดสายทันที
ซิงหยุนกอดอกแล้วก็เงยหน้าขึ้นมองเขา “แด๊ดดี้ ยังคิดว่ามันไร้ประโยชน์ที่จะเรียนรู้สิ่งนี้หรือไม่? “
ผู้ชายคนนี้เงยหน้าขึ้นมามองเขา ไม่ได้พูดอะไร
พ่อและลูกชายจ้องตากัน ท่าทางไม่ยอมแพ้เหมือนกัน และท่าทางดื้อรั้นก็เหมือนกันยังกับแกะ
“ติ๊ง——!”
ทันใดนั้น โทรศัพท์ที่ฉินโม่หานวางไว้ในลิ้นชักก็ดังขึ้น
ซูสือเยว่ส่งข้อความมาว่า “ครูฉิน”
เป็นอิโมจิกระต่ายน่ารัก
ผู้ชายคนนั้นยื่นโทรศัพท์ให้ซิงหยุนดูด้วยใบหน้าที่เย็นชา “จะตอบยังไง? ”