สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ – ตอนที่ 69 จะเหมือนไปเดทได้ยังไง

ซิงหยุนกลั้นยิ้มไว้ และเริ่มแนะนำฉินโม่หาน

ฉินโม่หานคืออัจฉริยะทางธุรกิจ เมื่อก่อนไม่รู้จักอิโมจิ ทั้งหมดเป็นเพราะไม่เข้าใจมันอย่างถ่องแท้

ซิงหยุนแนะนำอยู่สองสามครั้ง เขาก็สามารถเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง

ด้านล่าง ซูสือเยว่นั่งอยู่บนโซฟา ขมวดคิ้วและมองดูอิโมจิที่ครูฉินส่งมาให้

เธอขอคำพูดของเธอก่อนหน้านี้ที่บอกว่าครูฉินไม่รู้จักอิโมจิคืน!

ครูฉินคนนี้ไม่ใช่แค่รู้จักอิโมจิ สามารถใช้ได้อย่างคล่องตัว เขามีการอิโมจิมากมายที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อน!

ผู้หญิงถือโทรศัพท์ แล้วก็คุยกับครูฉินอย่างตื่นเต้นอยู่นาน แล้วสุดท้ายก็ถึงเวลากินข้าว เธอเลยจำเป็นต้องวางโทรศัพท์ลงอย่างไม่เต็มใจ

ไม่รู้ว่าทำไม ครูฉินที่เมื่อก่อนคุยไม่เก่งนั้น เหมือนกับเปลี่ยนคนยังไงยังงั้น

ตอนที่กินข้าวนั้น ฉินโม่หานนั่งอยู่ตรงข้ามซูสือเยว่ กินข้าวไปด้วย แล้วก็ถามแบบส่งๆ ไป “งั้นเธอนัดเวลาเจอกับครูฉินแล้วรึยังล่ะ? ”

“อืม”

ซูสือเยว่พยักหน้า “มื้อเย็นน่าจะไม่ได้กินข้าวที่บ้านนะ ฉันนัดไปกินข้าวเย็นกับครูฉิน”

พอพูดจบ เธอก็ยิ้มและคีบผักให้ซิงหยุน “กินเยอะๆ หน่อย”

ผู้ชายที่นั่งอยู่ตรงข้ามเธอขมวดคิ้วเล็กน้อย เขาคุยกับเธอในฐานะของครูฉินตั้งนาน เธอแค่พูดแค่นี้ก็จบแล้วเหรอ?

ผู้ชายคนนี้ยังเสแสร้งทำเป็นคีบผักอย่างไม่ใส่ใจ “คุยอะไรกับเขาบ้างล่ะ? ”

“ก็ไม่ได้อะไรหรอก เกี่ยวกับเรื่องการถ่ายทำในอนาคตน่ะ”

พอซูสือเยว่พูดจบ ก็มองไปที่ฉินโม่หานอย่างอธิบายไม่ถูก “ทำไมถึงได้สนใจครูฉินจัง? ”

จิตใจของผู้หญิงคนนี้เปลี่ยนไป หรือว่าฉินโม่หานคิดว่าเธอกับครูฉิน……

ดังนั้นเธอเลยกระแอมหนึ่งที แล้วก็พยายามไขข้อสงสัยยของเขา “เมื่อก่อนฉันนึกว่าครูฉินใช้อิโมจิไม่เป็น แต่ตอนนี้กลับพบว่าครูฉินสามารถใช้ได้ดีทีเดียว”

คำพูดของเธอ ทำให้ฉินโม่หานอดไม่ได้ที่จะคลี่ยิ้มออกมา

เขาเหลือบมองซิงหยุนอย่างมีชัย

ซิงหยุนส่ายหน้าอย่างจำใจ แล้วก็กินข้าวต่อไป

แต่ว่าประโยคต่อไปของซูสือเยว่ เกือบทำให้เด็กสองคนบนโต๊ะหัวเราะ

เธอพูดอย่างจริงจัง “ดูเหมือนว่าถึงแม้ว่าครูฉินจะแก่ แต่ว่าทัศนคติยังวัยรุ่นมากอยู่เลย”

“ฉันหวังว่าตอนที่ฉันอายุเท่าครูฉิน จะมีทัศนคติที่วัยรุ่นแบบนี้บ้าง

ซิงเฉิน:“……”

ซิงหยุน:“……”

สองพี่น้องมองหน้ากัน พวกเขาหยิบชามข้าวขึ้นมาแล้วใช้ข้าวกั้นเสียงหัวเราะที่พวกเขาแทบกลั้นไว้ไม่อยู่

ฉินโม่หานอีกด้านหนึ่งนั้นหน้าซีดทันที

ซูสือเยว่มองซิงหยุนและซิงเฉินที่พยายามกินข้าวอย่างสุดชีวิต “กินช้าๆ หน่อย อย่าสำลักนะ”

“ไม่หรอกครับ”

ซิงเฉินวางชามลง เคี้ยวข้าวไปด้วย พร้อมกับมองหน้าฉินโม่หานไปด้วย “แด๊ดดี้ ผมพยายามสุดความสามารถแล้ว”

ฉินโม่หานมองซูสือเยว่อย่างเย็นชา พยายามเก็บอารมณ์ของตัวเองไว้ มองไปที่ซูสือเยว่แล้วยิ้มอย่างเสแสร้ง “ฉันเองก็หวังว่า เมื่อเธออายุเท่าครูฉิน”

“จะมีความใจเย็นที่ไม่ค่อยโกรธ สงบนิ่งเหมือนกับครูฉินด้วย”

พอพูดจบ ผู้ชายก็วางตะเกียบลงแล้วก็เดินจากไป

ซูสือเยว่มองดูแผ่นหลังของผู้ชายที่เดินออกไปอย่างงุนงง

เหมือนกับว่าเธอพูดอะไรที่ไม่ควรจะพูดยังงั้นเหรอ……

ทำไมเขาดูเหมือนโกรธอีกแล้วล่ะ

“เขาเจอปัญหานิดหน่อยน่ะครับ”

ซิงหยุนพูดนิ่งๆ

ซูสือเยว่ขมวดคิ้ว “เรื่องธุรกิจของเขาน่ะเหรอ? ”

“ประมาณนั่นแหละครับ”

ซิงหยุนปลอบเธอ “แต่ว่าหม่ามี๊วางใจเถอะ”

“ปัญหาของแด๊ดดี้คืนนี้ก็ถูกแก้ไขแล้ว”

พอพูดจบ เขาก็หันไปมองซิงเฉิน “หม่ามี๊ไม่ได้บอกว่า เตรียมจะไปเจอครูฉินตอนเย็นนี้ไม่ใช่เหรอ? ”

“อย่าลืมช่วยหม่ามี๊เลือกเสื้อผ้านะ”

“ได้เลย!”

ซิงเฉินยิ้มแฉ่ง “ปล่อยให้ผมทำได้เลย!”

……

16.30 น. ช่วงบ่าย.

ซูสือเยว่มองดูตัวเองในกระจก แล้วก็ค่อยๆ ขมวดคิ้วเข้าหากัน “ซิงเฉิน หม่ามี๊จะไปเจอผู้ใหญ่ แบบนี้มันไม่เหมาะสมมั้ง? ”

ในกระจก เธอสวมกระโปรงผ้าซาตินผ้าไหมสีชมพูตัวเล็ก เอวแคบ เอวเรียว ขายาวสีขาว

ที่สำคัญที่สุดก็คือ กระโปรงตัวเล็กตัวนี้ คือเกาะอก……

ซูสือเยว่ไม่ชินกับการเผยผิวกระดูกไหปลาร้าและลำคอ ก็เลยจะรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย

ชุดเล็กๆ นี้จับคู่กับรองเท้าส้นสูงคริสทัล ผมหยิกยาว และต่างหูผ้าไหมซาตินและของประดับตกแต่ง

เธอไม่คิดว่าเธอเหมาะกับการแต่งตัวไปเจอผู้ใหญ่ แต่เหมาะกับการออกเดตมากกว่า

“โถ่เอ้ย เชื่อผมเถอะ!”

ซิงเฉินหยิบริบบิ้นพันรอบข้อมือของซูสือเยว่ “หม่ามี๊ก็บอกเอง ว่าครูฉินท่านนั้นเป็นครูจากบริษัทภาพยนตร์ ความต้องการด้านความงามต้องสูงมาก”

“หม่ามี๊ต้องแสดงด้านที่หวานที่สุดของตัวเอง ถึงจะทิ้งความประทับใจที่ลึกซึ้งให้ครูฉินได้!”

ซูสือเยว่ขมวดคิ้ว เธอรู้สึกว่าซิงเฉินพูดบางอย่างไม่ถูกต้อง แต่ว่าเธอก็ไม่รู้จะโต้ตอบยังไง ก็เลยสวมใส่เสื้อผ้าที่ซิงเฉินเลือกให้ แล้วก็เดินออกมาจากห้องอย่างไมาค่อยเต็มใจเท่าไหร่นัก

ครูฉินกับเธอนัดกันที่ร้านอาหารหลันซี

คนขับรถบ้านของฉินพาเธอไปที่ประตูร้านอาหารเป็นการส่วนตัว

ซูสือเยว่ถือกล่องอยู่ในมือ ยืนอยู่หน้าประตูร้านอาหาร รู้สึกตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูก

ไม่ใช่แค่เพราะว่าครูฉินเป็นผู้ใหญ่ แต่มากกว่านั้นก็เป็นเพราะว่าครูฉินเป็นคนใหญ่คนโตของสถานีโทรทัศน์เหลยถิง มีทรัพยากรภาพยนตร์และโทรทัศน์มากมายอยู่ในมือ

ถ้าเกิดไม่ใช่เพราะว่าตัวตนของเขาใหญ่พอ เขาจะเกลี้ยกล่อมให้ผู้กำกับเฉินที่มีนางเอกอยู่ในใจอยู่แล้วยอมออดิชั่นได้ยังไงกัน?

ซูสือเยว่แต่งตัวค่อนข้างฉูดฉาด คนที่ผ่านไปผ่านมาที่ร้านอาหารหลันซีมองเธออย่างอึ้งทึ่ง

“พี่โม่น่าทึ่งมาก เจรจาสำเร็จอีกแล้ว!

“แน่นอน! พี่โม่คือลูกสาวของประธานซูของพวกเรา ถ้าพ่อเป็นเสื้อลูกก็ต้องไม่เป็นหมาอยู่แล้ว!”

ทันใดนั้นเสียงประจบสอพลอก็ดังขึ้นในหูของเธอ

ซูสือเยว่ขมวดคิ้ว แล้วก็มองเข้าไป

แล้วก็เห็นซูโม่ถูกล้อมรอบด้วยผู้หญิงสองสามคน กำลังเดินเข้าไปในร้านอาหาร

“วันนี้เจรจาธุรกิจสำเร็จ ฉันดีใจมาก คืนนี้ฉันเลี้ยงเอง!”

ซูโม่หัวเราะออกมา พึ่งจะเดินไปไม่กี่ก้าว ก็เห็นซูสือเยว่ที่ยืนอยู่หน้าประตูร้านอาหาร

เธอแต่งตัวเหมือนตุ๊กตากระเบื้อง

แค่ยืนอยู่ตรงนั้น ก็เหมือนวิวทิวทัศน์แล้ว

“ว้าว……”

เสียงตกใจของพนักงานหญิงพวกนั้นดังขึ้น “เธอสวยจังเลย……”

“ขานี้ เอวนี้ อวัยวะบนใบหน้า……เลิศล้ำเกินไปแล้ว!”

“เลิศล้ำอะไรกัน”

ซูโม่หัวเราะอย่างเยือกเย็น “มันก็แค่คนขี้ขลาดจากสลัม ใส่เสื้อผ้าแบรนด์เนม ก็ไม่สามารถปกปิดความบ้านนอกและความจนได้หรอก!”

เธอพูดแบบนี้ พนักงานหญิงที่ชมซูสือเยว่เมื่อกี้นี้ก็มองหน้ากัน แล้วก็รีบพูดเสริมว่า “ใช่ค่ะ”

“ธรรมดา และบ้านนอกมาก!”

“ยังใส่สีชมพูอีก ทุกวันนี้ผู้หญิงที่โตแล้วไม่ใส่สีชมพูหรอกนะ lowมาก!”

พวกเธอพูดแบบนี้ ในที่สุดคิ้วของซูโม่ก็คลายออกจากกัน

เธอฮัมเพลงและเดินไปหาซูสือเยว่ “จึ๊ๆๆ ”

“ซูสือเยว่ เธอใส่เสื้อผ้าแบบนี้แล้วมายืนอยู่ตรงนี้……หรือว่า มาหาแขก? ”

สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ

สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ

หลังข่าวลือที่เสียโฉม ท่านชายฉินโหดร้ายอำมหิต ทำคู่หมั้นตายติดต่อกันสองคน ผู้หญิงทั้งเมืองไม่มีใครกล้าแต่งงานด้วย แต่ซูสือเยว่กลับแต่งสาวน้อย ต่อไปให้ฉันปกป้องเธอเองเพิ่งแต่งงาน เธอก็ถูกลูกน้อยน่ารักน่าหยิกสองคนแย่งกันอย่างคลั่งใคล้ซะแล้ว……

Comment

Options

not work with dark mode
Reset