“แต่…”
ซูสือเยว่มองภาพที่จำกัดอยู่บนจอขนาดใหญ่ “คุณรู้ได้อย่างไร…”
เธอวางแผนเอาไว้ว่าจะเปิดโปงเรื่องราวความสัมพันธ์ระหว่างเซี่ยงหวั่นฉิงกับผู้กำกับเฉิน มีเพียงฟู๋เชียนเชียนคนเดียวเท่านั้นที่รู้เรื่อง แล้วฉินโม่หานรู้เรื่องได้อย่างไร?
“คุณวางแผนอะไรเอาไว้ ผมรู้อย่างกระจ่างแจ้งดี”
ชายหนุ่มนั่งไขว่ห้าง จากนั้นเอนกายพิงเก้าอีกด้วยท่วงท่าที่สง่างามเหมือนกับตอนที่จี้หนานเฟิงนั่งคุยกับซูสือเยว่เมื่อก่อนหน้านี้ “จู่ ๆ ก็นึกถึงนักแสดงนำของหนังเรื่อง《ความทรงจำที่ขาดหาย》ขึ้นมา ที่จู่ ๆ ก็เป็นฝ่ายอยากจะเข้าร่วมงานพิธีมอบรางวัลในคืนนี้”
หัวใจของซูสือเยว่ก็พลันเต้นช้าลง
ฉินโม่หานเขา…
เพียงแค่พฤติกรรมสองอย่างของเธอ ก็ทำให้คาดการณ์ได้แล้วว่าวันนี้เธอจะทำอะไร
แม้กระทั่ง ยังเพิ่มหลักฐานเพิ่มให้เธอเป็นพิเศษอีกด้วย…
จู่ ๆ หัวใจก็พลันสั่นไหวขึ้นมาเล็กน้อย แต่พออ้าปาก เธอกลับพูดได้แค่เพียง “ขอบคุณ” สองคำ
“ขอบคุณผมทำไมกัน”
ฉินโม่หานยกมือขึ้นพิงพนักเก้าอี้ของซูสือเยว่ แล้วมองดูจากไกล ๆ แล้วเหมือนเขากำลังโอบซูสือเยว่อยู่
ส่วนไป๋ยู่หนานที่กำลังมอบหมายให้คนตามหาตัวสายลับอยู่ไกล ๆ ก็ถึงกับต้องกลอกตามองบนอย่างเย็นชา
ความออดอ้อนออเซาะน่าตายนี้ วิ่งโร่ไปนั่งที่ของจี้หนานเฟิงแล้วจริง ๆ ด้วย
หลังจากที่ปล่อยคลิปวิดีโอบนหน้าจอใหญ่เสร็จแล้ว เฉิงเซวียนก็รู้สึกเหมือนกับถูกฟ้าผ่านิ่งอึ้งไปประมาณหนึ่งนาที
หลังจากผ่านไปหนึ่งนาที เขาก็ได้สติกลับมา แล้วพุ่งตัวออกไปเหมือนกับคนบ้า จากนั้นร้องตะโกนราวกับคนบ้าว่า
“หยุดได้แล้ว ห้ามออกอากาศแล้ว!”
“หยุดนะ!”
เขาพุ่งออกไปด้วยความโกรธ ยื่นแขนออกไป เพราะต้องการที่จะปิดบังภาพที่ไม่สวมใส่เสื้อผ้าของเซี่ยงหวั่นฉิงที่อยู่บนหน้าจอใหญ่ แต่ว่าหน้าจอนั้นใหญ่เกินไปแล้ว เขาจะปิดอย่างไรก็ไม่มิด
“ไม่ต้องมองแล้ว!”
“ทั้งหมดนี่เป็นของปลอม เป็นของปลอมทุกอย่าง!”
“หวั่นฉิงกับผมอยู่ด้วยกันมาห้าปี เพื่อเธอแล้ว ผมถึงกับยอมทรยศซูสือเยว่ที่รักผมมากที่สุด แล้วเธอจะหักหลังผมได้อย่างไร!”
“รูปพวกนี้ตัดต่อทั้งนั้น วิดีโอเองก็ตัดต่อ เสียงนั่นก็ตัดต่อด้วย!”
พวกนักข่าวพากันหันกล้องไปที่เขา “เฉิงเซวียน คุณช่วยบอกหน่อยว่าคุณกับซูสือเยว่มีความสัมพันธ์อะไรกัน?”
เฉิงเซวียนเพิ่งจะรู้สึกตัวว่าเมื่อครู่นี้ตัวเองพูดผิดไปแล้ว
สีหน้าของเขาดูขาวซีดแล้วจ้องไปที่นักข่าวแวบหนึ่ง “ผมกับเธอไม่ได้เป็นอะไรกัน!”
ในเวลานี้เอง หน้าจอก็ดับลงแล้ว วิดีโอหยุดออกอากาศแล้ว
เฉิงเซวียนถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ คิดว่าฉากเหล่านี้มันคงจะสิ้นสุดลงแล้ว
แต่กลับนึกไม่ถึงเลยก็คือ หน้าจอเพิ่งจะดำไปได้สองวินาที ก็ฉายวิดีโออีกตอน
ยังคงเป็นเซี่ยงหวั่นฉิงอีกเช่นเคย
แต่ครั้งนี้ คนที่อยู่บนเตียงของเธอ กลับเปลี่ยนเป็นอีกคน
ก็คือผู้กำกับที่เคยร่วมงานกับเซี่ยงหวั่นฉิงก่อนหน้านี้นั่นเอง
เซี่ยงหวั่นฉิงนั่งนิ่งอยู่บนพื้น แม้แต่เรี่ยวแรงที่จะลุกขึ้นมาก็ยังไม่มีเลย
เป็นไปได้อย่างไร…
มีคนถ่ายของพวกนี้ไปได้อย่างไร…
เห็นอยู่ชัดๆ ว่าเธอปิดบังเอาไว้เป็นอย่างดี!
“คุณเซี่ยงหวั่นฉิง…”
“คุณเซี่ยง!”
ราวกับว่าพวกนักข่าวกลัวว่าเรื่องมันจะวุ่นวายไม่มากพอ กลุ่มคนจึงเข้าไปล้อมเซี่ยงหวั่นฉิง ส่วนอีกกลุ่มหนึ่งก็เข้าไปล้อมเฉิงเซวียน
คนสองคนที่เดิมทีดูสง่างามสมบูรณ์แบบทั้งยังดูสูงส่ง ตอนนี้กลับจนตรอกจนแทบจะเหมือนกับหมาข้างถนน ดูน่าสมเพชเวทนา
ขนตาของเซี่ยงหวั่นฉิงหลุดออกแล้ว ผมเพ้าก็ยุ่งเหยิง ชุดกระโปรงที่สวมใส่อยู่บนร่างยังเต็มไปด้วยรอยเท้าของพวกนักข่าว
ส่วนเฉิงเซวียนก็ดูไม่ดีสักเท่าไหร่ ทั่วใบหน้าของเขาเห่อร้อน ดูราวกับเจ้าลิงที่กำลังโกรธ
ถ้าแค่ผู้กำกับเฉินคนเดียวเขาก็ยังบอกได้ว่าเป็นการตัดต่อ เป็นเหตุสุดวิสัย เป็นเพราะผู้กำกับเฉินบังคับเซี่ยงหวั่นฉิง
แต่มาตอนนี้ ยังมีเพิ่มมาอีกหนึ่งคน!
จนกระทั่งตัวเขาเองก็ยังไม่รู้ด้วยว่าเบื้องหลังจะมีอีกสักกี่คน!
ห้าปีมานี้ เพื่อเซี่ยงหวั่นฉิงแล้ว เขาจึงทำเมินเฉยและห่างเหินกับซูสือเยว่
ต่อให้เขาจะรู้ว่าซูสือเยว่ทุ่มเทให้เขาทุกอย่าง แต่เขาก็ยังถูกเซี่ยงหวั่นฉิงล่อลวงไป
ก็เพราะซูสือเยว่สกปรก ส่วนเซี่ยงหวั่นฉิงนั้นสะอาด!
แต่พอมาตอนนี้ ได้สวมหมวกเขียวอยู่เต็มหัวขนาดนี้ มันเลยทำให้เขาต้องการเป็นที่น่าขบขันยกใหญ่!
เขายอมละทิ้งคนที่ทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่างเพื่อเขาอย่างซูสือเยว่ ทั้งยังคิดว่าจะสามารถครองคู่กับเซี่ยงหวั่นฉิงได้ตลอดไป
สุดท้ายล่ะ?
เขากำลังเดินผ่านกลุ่มพวกนักข่าว แล้วมายืนอยู่ตรงหน้าเซี่ยงหวั่นฉิง
“เซวียน”
เครื่องสำอางบนใบหน้าของเซี่ยงหวั่นฉิงหลุดออกแล้ว เธอน้ำตาไหลพรากมองดูเฉิงเซวียน แล้วหันไปสู่อ้อมอกของเขา “เซวียน ฉันกลัวมากเลย ฉัน…”
“เพี๊ยะ——!”
เสียงดังลั่น เซี่ยงหวั่นฉิงถูกเฉิงเซวียนตบหน้าอย่างรุนแรงไปหนึ่งฉาดก่อนจะล้มลงไปกับพื้น ถึงขนาดกลิ้งไปบนพื้นถึงสองครั้งด้วย
“เซี่ยงหวั่นฉิง!”
เฉิงเซวียนจ้องมองเธอด้วยความโกรธเสียจนดวงตาจะลุกเป็นไฟ “เธอหักหลังฉัน!”
“เธอบอกฉันว่าซูสือเยว่ไม่สะอาด บอกว่าเธอสะอาดกว่าหล่อน!”
“แม่งเอ๊ยนี่เหรอความบริสุทธิ์ของเธอ?”
“แม่งเอ๊ยเธอบริสุทธิ์ขนาดนี้เลยเหรอ!?”
ฟันของเซี่ยงหวั่นฉิงหลุดไปหนึ่งซี่ คุกเข่าถ่มเลือดลงบนพื้น “เฉิงเซวียน นายฟังอธิบายก่อน…”
“ฉันไม่อยากฟังเธออธิบาย!”
เฉิงเซวียนพุ่งเข้าไปคว้าคอเสื้อเธอเอาไว้ “เพื่อเธอแล้ว ฉันถึงกับทิ้งผู้หญิงที่รักฉันมากที่สุด รวมถึงเงินทั้งหมดของฉัน!”
“ฉันจะฆ่าเธอ!”
พอพูดจบแล้ว เขาก็บีบคอของเซี่ยงหวั่นฉิงอย่างคลุ้มคลั่ง
เดิมทีพวกนักข่าวที่อยู่ในงานก็แค่รอดูความสนุก แต่พอตอนนี้เห็นว่าทะเลาะจนถึงขั้นเอาชีวิตแล้ว ทุกคนต่างก็พากันเข้าไปดึงตัวเฉิงเซวียนออกมา
“พอได้แล้ว”
จี้หนานเฟิงที่ยืนเคร่งขรึมไม่พูดไม่จาออกมาห้ามฉากที่วุ่นวายนี้ “แจ้งตำรวจ ส่งโรงพยาบาล”
“งานพิธีมอบรางวัลของพวกเรายังต้องดำเนินต่อไป”
ลั่วเยียนขมวดคิ้วแน่น รู้สึกไม่สบอารมณ์ที่มีคนมาปิดหน้าจอขนาดใหญ่นั้น
เห็นอยู่ชัด ๆ ว่าเธอยังชมความสนุกไม่หนำใจเลย
หลังจากผ่านไปแล้วสิบนาที
เซี่ยงหวั่นฉิงก็ถูกรถพยาบาลนำตัวไป
ส่วนเฉิงเซวียนก็ถูกตำรวจนำตัวไป
“สือเยว่!”
ในตอนที่ถูกตำรวจคุมตัวเดินไปที่ประตูนั่นเอง เฉิงเซวียนก็หันกลับมายิ้มให้ “ฉันรู้ว่าเธอจะต้องรักฉันอยู่แน่นอน”
“จำเอาไว้ว่าต้องรีบช่วยฉันออกมาเร็ว ๆ นะ หลังจากนี้ฉันจะทำดีกับเธอ!”
“ฉันไม่รังเกียจที่เมื่อก่อนเธอไม่สะอาด แต่เซี่ยงหวั่นฉิงสกปรกกว่าเธอเยอะ ให้โอกาสผมสักครั้ง ผมจะทำดีกับคุณ…”
เขายังพูดประโยคนี้ไม่จบ ฉินโม่หานก็ส่งสายตาที่คมปลาบไป ประโยคด้านหลังของเฉิงเซวียนจึงได้หยุดชะงักอยู่ในลำคอ
เป็นเขาอีกแล้ว!
ครั้งก่อนคนที่เปลี่ยนละครให้ซูสือเยว่ก็เป็นเขา!
“ไอ่ไก่อ่อน อย่าคิดว่าแกเด็กกว่าฉัน หน้าตาดีแล้วจะมาล่อลวงแฟนของคนอื่นได้!”
“ในไม่ช้าก็เร็วฉันจะแย่งซูสือเยว่กลับมา…”
เฉิงเซวียนร้องตะโกนไปด้วย พร้อมถูกตำรวจจับกุมตัวไปด้วย
ซูสือเยว่ : “……”
เฉิงเซวียน นี่นายคงยังไม่รู้สินะว่าฉันเป็นคนที่อยากส่งนายเข้าไปเอง
เรื่องนำตัวนายออกมา ไม่มีทางอยู่แล้ว
“ไปกันเถอะ”
ฉินโม่หานขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วพูดเสียงต่ำ
ซูสือเยว่อึ้งไปสักพัก “ไปไหน?”
“เฉิงเซวียนฉลาดมาก”
ชายหนุ่มชี้ไปยังพวกนักข่าวที่กำลังเกาะกลุ่มกันอยู่ไม่ไกล “เขาพูดที่เขาเพิ่งจะพูดไปพวกนั้น ไม่ได้พูดให้คุณฟัง แต่พูดให้พวกเขาฟังต่างหาก”
ซูสือเยว่เม้มริมฝีปาก เพราะเพิ่งจะเข้าใจเดี๋ยวนี้เอง มาถึงตอนนี้แล้ว เฉิงเซวียนยังอยากจะเบนหัวข้อสนทนามาที่เธออยู่อีก!
กี่ครั้งแล้วที่เขาจงใจพูดออกมาว่าเขาเคยรังเกียจที่เธอสกปรกทำนองนี้ออกมา ก็เพื่อที่จะดึงดูดความประหลาดใจของทุกคน
เขาอยากจะบอกความจริงกับทุกคน เขาอยากจะทำลายเธอ!
พอคิดถึงตรงนี้ สีหน้าของซูสือเยว่ก็ขาวซีด
ฉินโม่หานกุมมือเธอเอาไว้ แล้วก้าวยาว ๆ พาเธอขึ้นไปที่ชั้นบน
เหล่าผู้รักษาความปลอดภัยขวางทางนักข่าวพวกนั้นเอาไว้
“คุณซู ที่เฉิงเซวียนพูดเมื่อสักครู่นี้เป็นความจริงหรือเปล่า?”
“ก่อนหน้านี้คุณกับเฉิงเซวียนมีความสัมพันธ์อะไรกัน?”
“เฉิงเซวียนบอกว่าเคยรังเกียจที่คุณสกปรก หรือเป็นเพราะว่าคุณเหมือนกับเซี่ยงหวั่นฉิง?”
นักข่าวที่อยู่ข้างนักยิ่งถามก็ยิ่งเกินเลย
ฉินโม่หานหยุดเดินเล็กน้อย แล้วหันไปมองดูผู้จัดการใหญ่ที่อยู่ด้านข้าง “โยนพวกเขาออกไป”
ผู้จัดการใหญ่ออกคำสั่งให้คนไปจัดการนักข่าวพวกนั้นและยังคงอยู่ด้านหลังฉินโม่หาน “คุณฉินครับ คนของผมหาคุณซูสือเยว่ที่คุณบอกท่านนั้นไม่เจอครับ…”
ถ้อยคำนี้ทำให้ซูสือเยว่อึ้งไป
เธอหันไปมอง
นี่มันคนที่ยืนอยู่ตรงลานจอดรถนั้นไม่ใช่เหรอ?
ดังนั้น…
หญิงสาวขมวดคิ้วเล็กน้อย “ที่คุณพูดไว้ก่อนหน้านี้ ว่าต้องการหาตัวแทนนักแสดงที่ทั้งเฉยแล้วก็ดูธรรมดา…”
“หมายถึงฉันเหรอ?”