สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ – ตอนที่ 83 หุบปากของแกให้พี่หน่อย

ซูสือเยว่เริ่มรุกรนแล้ว

ตอนนั้นที่เจี่ยนเฉิงได้สอนทักษะการป้องกันตัวให้กับเธอ ก็พูดกำชับย้ำแล้วย้ำเล่าว่า ท่าพวกนี้สามารถใช้ได้แค่กับสถานการณ์ที่คับขันเท่านั้น จะให้คนรู้กันเยอะไม่ได้

เหตุผลก็เหมือนกับไฝที่หลังของเธอ : ที่จะนำพาความวุ่นวายมาให้เธอ

ในซีนฉากใหญ่เมื่อกี้มีแค่เขากับเฉิงเซวียนสองคน ถ้าเธอไม่ลงมือก็ไม่มีใครมาช่วยเธอได้ แล้วเธอจะปล่อยให้เฉิงเซวียนมารังแกตัวเองไม่ได้ ก็เลยลงมือ

แต่เธอนึกไม่ถึงว่า ทั้งหมดนี้ถูกจี้หนานเฟิงเห็นหมดแล้ว

อีกอย่างเขาก็ไม่ได้แค่เห็นอยากเดียวด้วย แล้วก็ยังถามอีกว่าเธอเรียนจบมาจากที่ไหน

หญิงสาวเลยกระแอมอย่างประหม่าไปทีนึง “คุณดูผิดแล้วล่ะ

พูดจบ เธอก็รีบเปลี่ยนเรื่องทันที “เจ้าชายแห่งวงการบันเทิงจี้ ทำไมคุณถึงได้มาอยู่ที่กองของพวกเราแต่เช้าขนาดนี้ล่ะคะ”

“ก็เหมือนพวกคุณไงล่ะ”

จี้หนานเฟิงไม่ได้ถามจี้เรื่องฝีมือต่อ “มาเช้าเกินไป ในกองถ่ายไม่มีคนเลย น่าเบื่อเลยมาเดินเล่นน่ะ”

เขาสูดบุหรี่เข้าไปทีนึง “ไม่คิดเลยว่าเดินเที่ยวแค่แป้บเดียว ก็เห็นเรื่องลึกลับแบบนี้ได้”

“ไม่แปลกที่ก่อนหน้านี้ฉันคิดว่าเฉิงเซวียนนั้นทักษะการแสดงของเฉิงเซวียนลดลง”

“ตอนนี้พอมาคำนวณดูแล้ว คงเป็นเพราะหลังจากที่เขาประกาศว่าคบหากับเซี่ยงหวั่นฉิงแล้ว ก็มักจะเกิดเหตุเวลาที่เขาถ่ายทำไม่หยุด”

ในขณะที่พูดนั้น ชายหนุ่มก็มองซูสือเยว่อย่างลึกซึ้งไปทีนึง “นึกไม่ถึงเลยว่าคุณหนูซูจะไม่ยอมเผยใบหน้าที่แท้จริง ฉันรอคอยที่เราจะได้ร่วมมือกันไม่ไหวแล้ว”

ความหมายจากคำพูดนี้ของเขานั้นชัดเจนมากแล้ว

บทสนทนาทั้งหมดก่อนหน้านี้ของพวกเขานั้น เขาได้ยินหมดแล้ว

ซูสือเยว่เม้มปากด้วยความรู้สึกประหม่า “นักแสดงชายยอดเยี่ยมจี้คุณทานข้าวรึยัง ให้ฉันเลี้ยงอาหารเช้าคุณนะ”

จี้หนานเฟิงถึงกับหัวเราะ “ก็ดี”

แล้วทั้งสองก็มาที่ร้านอาหารใกล้ๆ

เพราะเป็นร้านอาหารเล็กๆตรงทางเข้าโรงหนัง เพราะฉะนั้นเรื่องที่ดารามาทานข้าวแบบนี้ สำหรับพวกเจ้านายแล้วก็เห็นเป็นปกติไปแล้ว

พอเห็นจี้หนานเฟิงแล้ว เขายังเสนอห้องส่วนตัวบนชั้นสองให้อีกด้วย “นักแสดงชายยอดเยี่ยมโด่งดังมาก ระวังไว้ก่อนจะดีกว่า”

ประตูห้องส่วนตัวก็ปิดลง ซูสือเยว่สูดหายใจเข้าลึกไปทีนึง แล้วก็วางอาหารไปตรงหน้าของจี้หนานเฟิง “นักแสดงชายยอดเยี่ยม”

“คุณคงไม่ใช่คนที่จะเอาเรื่องส่วนตัวของคนอื่นเปิดเผยออกไหนหรอกนะ”

ที่ซูสือเยว่เชิญเขามาทานข้าว ก็เพราะกลัวว่าในกองถ่ายจะมีคนแอบฟังอีก

เธอไม่อยากจะมีข่าวที่ไม่ควรจะแพร่ออกไปกับเฉิงเซวียนอีก

จี้หนานเฟิงค่อยๆเงยหน้าขึ้นมามองเขา “อย่าลืมสิ ว่าคุณมีความลับของผมอยู่ในมืออยู่”

ซูสือเยว่ชะงักไป แล้วถึงนึกขึ้นได้ว่า ก่อนหน้านี้เธอก็เคยเห็นสาวในสังกัดของจี้หนานเฟิงเหมือนกัน……

แล้วในที่สุดหัวใจของหญิงสาวที่ห้อยเอาไว้ก็หล่นลงมากับพื้น

เธอสูดหายใจเข้าลึก ยิ้มแล้วก็มองจี้หนานเฟิง “ฉันจะเก็บความลับของคุณเป็นอย่างดีเลยค่ะ”

“แต่ว่า”

จี้หนานเฟิงค่อยๆเงยหน้าขึ้นมองเธอไปทีนึง “ผมมีเรื่องนึงอยากจะถามคุณหน่อย”

“อะไร”

“คุณเคยมีลูกมาก่อนรึเปล่า”

ซูสือเยว่ “……”

เธอพูดเบาๆ แล้วก็หันหน้าไป “ฉันขอไม่ตอบได้ไหม”

ถ้าบอกว่าไม่เคยมี เธอก็จะรู้สึกขอโทษต่อลูกที่ได้เสียไป

แต่ถ้าตอบว่าเคย เธอก็ไม่อยากจะอธิบายให้กับคนที่ไม่ได้สนิทมากอย่างจี้หนานเฟิงมากขนาดนั้น

“ได้สิ”

จี้หนานเฟิงก้มหน้าลง แล้วก็กวนโจ๊กในถ้วยไป “ซิงกวงบอกว่าอยากให้คุณเป็นแม่ของเธอน่ะ”

พูดแล้ว ชายหนุ่ยก็เงยหน้าขึ้นมามองเธอ “สนใจไหม”

ซูสือเยว่ “……”

“ไม่ ไม่ดีกว่า”

เธอกระซิบเบาๆทีนึง “ฉันมีลูกอยู่สองคนแล้วน่ะ”

“แบบนี้นี่เอง”

จี้หนานเฟิงถอนหายใจเบาๆ แล้วก็ไม่ได้พูดเรื่องนี้ต่อ

พอทั้งสองทานอาหารเช้ากันเสร็จแล้ว ก็กลับไปที่กองถ่ายของใครของมัน

ในตอนที่ซูสือเยว่กลับมาที่กองถ่ายอีกครั้ง หมอที่จัดกระดูกให้กับเฉิงเซวียนก็เพิ่งจะกลับไป

เขาพิงอยู่ที่เก้าอี้อย่างอ่อนล้า แล้วก็มองไปที่ซูสือเยว่อย่างดุดันไปทีนึง

การถ่ายทำในวันนี้ก็ถือว่าผ่านไปด้วยดี

ถึงแม้ว่า เฉิงเซวียนอยากจะลวนลามซูสือเยว่อยู่หลายครั้ง แต่เขาก็โดน ซูสือเยว่ หลบได้ หรือไม่ก็โดนผู้กำกับจับได้และด่าเขาไปทีนึง

พอกลับจากเลิกงานในตอนกลางคืน ซูสือเยว่ก็ไปตลาดสดเพื่อซื้อผักตามปกติ

เธอไม่ได้ดูโทรศัพท์ของเธอทั้งวัน ดังนั้นเธอเลยไม่รู้ว่ารูปถ่ายของเธอกับจี้หนานเฟิง ที่ออกมาจากร้านอาหารเช้าในตอนเช้า ได้เริ่มแพร่กระจายอย่างเงียบ ๆ ตั้งแต่เย็นแล้ว

มีชาวเน็ตบางคนที่ไม่เชื่อ บางคนก็รู้สึกว่าพวกเขากำลังหารือกันอยู่ เพราะยังไงพวกเขาก็ต้องถ่ายละครด้วยกันอยู่ดี

แต่ส่วนใหญ่นั้น ก็พากันด่าซูสือเยว่อยู่

โยงเธอเข้ากับเรื่องของเฉิงเซวียนกับเซี่ยงหวั่นฉิง ตอนนี้มีชาวเน็ตหลายคน ได้ตราหน้าว่า“มือที่สาม”ให้กับซูสือเยว่ไปแล้ว

จนบางคนคิดว่าเธอตั้งใจอ่อยเฉิงเซวียนไปแล้ว พอเห็นว่ากำลังร่วง ก็เริ่มอ่อยจี้หนานเฟิงต่ออีก

แล้วก็มีคนนึกขึ้นได้ถึงคนที่ช่วยพูดแทนซูสือเยว่ที่ใช้ชื่อบัญชีว่า “จ้งซินก่งเยว่” แล้วก็เริ่มด่าแอคเคาท์นี้ แล้วก็ไปด่าในห้องแชทส่วนตัวด้วย

“ให้ตายเถอะ”

ในคฤหาสน์ตระกูลฉิน พอซิงเฉินเห็นคอมเมนต์ที่ไม่เข้าตาแล้ว ก็โมโหจนเกือบจะขว้างโทรศัพท์ไป “พี่ แบบนี้จะทำยังไงต่อล่ะเนี่ย”

“จี้หนานเฟิงนี่ใครกัน ฉันล่ะเกลียดจริงๆ”

“ทำไมต้องมาทานข้าวเช้ากับแม่ด้วย”

ซิงหยุนนั้นกำลังแคปรูปคอมเมนต์อย่างจดจ่ออยู่ รวมถึงรูปภาพทั้งหมดด้วย แล้วก็ทำเป็นเอกสสารเล่มนึงขึ้นมา

ซิงเฉินนั้นไม่เข้าใจจริงๆ “พี่ พี่เป็นแฮกเกอร์ไม่ใช่หรอ”

“พี่ก็ช่วยแม่ก็ได้แล้วนี่ ทำไมต้องแคปรูปด้วยล่ะ พี่อยากจะทำร้ายแม่หรอ”

ซิงหยุนใช้ตาดำโตคู่นั้นมองบนให้กับซิงเฉินไปทีนึง แล้วก็ทำหน้าตาที่ดูหมิ่นไปทีนึง “ที่พี่ทำแบบนี้ แน่นอนว่าก็ต้องมีเป้าหมายของพี่อยู่แล้วสิ”

พูดจบ เขาก็เอาเอกสารส่งไว้ในอีเมลของฉินโม่หาน

หลังจากนั้นหนึ่งนาที ฉินโม่หานก็โทรศัพท์มาทันที

“เกิดอะไรขึ้น”

“ก็เป็นแบบที่พ่อเห็นนั่นแหละ”

ชายที่อยู่ปลายสายถามขึ้นด้วยเสียงเย็นชา แลวซิงหยุนก็สงบสติอารมณ์ “แด๊ดดี้ อย่าหาว่าผมไม่เตือนแด๊ดดี้นะ”

“หม่ามี๊ส่งข้อความมา บอกว่าจะไปซื้อผัก”

“เธอคงยังไม่รู้ ว่าเธอโด่งดังในเน็ตไปแล้ว”

แล้วเสียงของฉินโม่หานที่อยู่ปลายสายก็ค่อยๆหายไป

ยัยโง่นี่

แฟนคลับของจี้หนานเฟิงเต็มไปหมดทุกที่

เธอไปศูนย์รวมตลาดสดที่เป็นที่สาธารณะแบบนั้น ถ้าโดนแฟนคลับของจี้หนานเฟิงเห็นเข้าล่ะก็……

เขาชะงักไป “เธออยู่ตลาดใกล้ๆกับสตูดิโอภาพยนตร์หรอ”

“ใช่”

“บอกเธอว่าอย่าไปไปเรื่อย พ่อจะไปหาเธอเดี๋ยวนี้”

พูดจบ ชายหนุ่มก็วางสายไปทันที

ได้ยินเสียงตู้ดๆจากปลายสายแล้ว ซิงหยุนถึงจะโล่งใจไปที แล้วนิ้วมือก็ค่อยๆระบำไปบนแป้นพิมพ์

ซิงเฉินที่มองอยู่อีกฝั่งก็งงไปหมด “พี่ นี่พี่กำลังทำอะไรอีกล่ะเนี่ย”

“จัดการพวกชาวเน็ตที่ละเมิดกฎในกลุ่มน่ะสิ”

ซิงเฉินนั่งงงอยู่ข้างๆเขาไปสักพัก แล้วก็ตบไปที่อกเบาๆ เข้าใจแล้ว

พี่ชายของเขาเป็นเด็กอัจฉริยะ ตั้งใจให้คอมเมนต์ว่อนอยู่สักพัก เพื่อให้พ่อสนใจแม่ จากนั้นค่อยเริ่มต่อสู้เพื่อหม่ามี๊

พอนึกถึงพวกนี้แล้ว เขาก็ออกแรงตักน้ำให้กับซิงหยุนแล้วก็วางไว้ข้างๆคอมพิวเตอร์ “พี่ พี่นี่มันคนแก่จอมวางแผนจริงๆ”

ซิงหยุนแอบมองเขาไปทีนึง “ฉันเพิ่งจะห้าขวบ”

“แต่พี่แก่กว่าฉัน สำหรับฉันแล้ว พี่ก็คือคนแก่”

“แค่นาทีเดียวก็ถือว่าแก่”

ซิงหยุน“……”

“พี่ พี่เก่งมากเลย สู้ๆนะ”

“พี่……”

ซิงหยุนก็ดื่มน้ำไปอึกหนึ่งอย่างจำใจ “ซิงเฉิน ช่วยอะไรพี่หน่อย”

พอได้ยินพี่ชายบอกให้ตัวเองช่วยแล้ว ซิงเฉินก็ดีใจขึ้นทันที ลืมตาโตจ้องมองไป“ให้ผมช่วยอะไรพี่หรอ”

“ช่วยหุบปากของแกให้พี่หน่อย”

“พูดมากเกินไปแล้ว”

ซิงเฉิน“……”

สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ

สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ

หลังข่าวลือที่เสียโฉม ท่านชายฉินโหดร้ายอำมหิต ทำคู่หมั้นตายติดต่อกันสองคน ผู้หญิงทั้งเมืองไม่มีใครกล้าแต่งงานด้วย แต่ซูสือเยว่กลับแต่งสาวน้อย ต่อไปให้ฉันปกป้องเธอเองเพิ่งแต่งงาน เธอก็ถูกลูกน้อยน่ารักน่าหยิกสองคนแย่งกันอย่างคลั่งใคล้ซะแล้ว……

Comment

Options

not work with dark mode
Reset