ฉินโม่หานเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ยกมือขึ้นแล้วเกี่ยวซูสือเยว่เข้ามาในอ้อมกอด ริมฝีปากบางแนบข้างหูเธอ “ดีขึ้นโดยไม่ต้องใช้ยา?”
แก้มของซูสือเยว่แดงขึ้น เธอพยักหน้าเงียบๆ “ใช่”
แท้จริงเธอไม่รู้ว่าเพราะอะไร เหมือนว่าตั้งแต่แรกเริ่ม เธอไม่เคยรังเกียจที่ฉินโม่หานจะสัมผัสโดนตัวของเธอ
สถานการณ์แบบนี้นั้น ไม่เคยเกิดขึ้นกับเธอมาก่อน
ผู้ชายคนนี้ เหมือนมีพลังบางอย่าง……
ฉินโม่หานกอดเธอเอาไว้ มือใหญ่ของเขายกคางของเธอขึ้น จูบลงบนฝีปากของเธอเบาๆ “แสดงว่าเราสองของเป็นยาของกันและกัน”
โรคกลัวผู้หญิงของเขา หายขาดอย่างน่าอัศจรรย์ หลังจากที่ได้เจอกับเธอ
บนโลกใบนี้ คนที่จะมีปัญหาเดียวกับตัวเอง แล้วยังสามารถช่วยรักษาอีกฝ่ายได้นั้น นี่คงถือว่าเป็นพรหมลิขิตสินะ?
ท่าทางหวานแหววของพวกเขาทั้งสองที่นั่งอยู่เบาะหลัง ทำให้ไป๋ลั่วที่ขับรถอยู่นั้นรู้สึกอึดอัดขึ้นมา
เขาปล่อยที่คั่นระหว่างในรถลงเงียบๆ แล้วมองตรงไปข้างหน้าโดยที่ไม่มองพวกเขา
พอที่คั่นถูกปล่อยลง ห้องโดยสารภายในรถถูกแบ่งเป็นสองส่วน
ซูสือเยว่ตกใจ “นี่คือ……”
“คนโสดบางคนไม่อยากมองหน่ะสิ”
น้ำเสียงทุ้มต่ำของฉินโม่หานแฝงไปด้วยความเยาะเย้ย
พูดเสร็จ เขาก็เอนตัวลง แล้ววางซูสือเยว่ไว้ระหว่างบนร่างกายของเขากับเบาะหนังของรถ แล้วจูบริมฝีปากของเธอ
ความรู้สึกที่ลึกซึ้งและไม่อยากแยกออกจากกัน
ช่วงเวลาโรแมนติกมักจะผ่านไปเร็วเสมอ
แม้ว่าไป๋ลั่วจะเร่งคันเร่งให้ช้าลงแล้วก็ตาม แต่ยังไงโรงพยาบาลของไป๋ยู่หนานกับวิลล่าของตระกูลฉินไม่ได้ไกลกันมาก ใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็ถึงแล้ว
หลังจากที่รถหยุดลง ฉินโม่หานก็ได้ลงจากรถด้วยสีหน้าหงุดหงิด แล้วอ้อมไปทางซูสือเยว่ก่อนจะปิดประตูรถ
หญิงสาวที่หน้าแดงก่ำลงจากรถ กำลังจะก้าวเท้าไปเอาวัตถุดิบที่หลังรถ
ฉินโม่หานขมวดคิ้วเบาๆ “ไป๋ลั่ว”
ไป๋ลั่วตอบรับ รีบเขาไปห้ามเธอเอาไว้ “คุณนาย เดี๋ยวผมจัดการเองครับ”
ภายในห้องรับแขกของวิลล่า
ซิงหยุนวางโน๊ตบุ๊คลง “หิวน้ำ”
ซิงเฉินรีบเทน้ำให้เขาอย่างขยันขันแข็ง “เป็นไงบ้าง พี่ จัดการเรียบร้อยไหม?”
“เรียบร้อยแล้ว”
ซิงหยุนยกแก้วขึ้นมาจิบน้ำหนึ่งคำ เหมือนผู้ใหญ่ที่ไม่ค่อยเข้าใจเทคโนโลยี “ฉันเจอIPหลักที่ปล่อยข่าวลือแล้ว ฉันแฮกคอมคนนั้นไปด้วย”
“ฉันล็อคคอมเขาเอาไว้ แล้วทิ้งช่องทางติดต่อไว้ให้เขา รอเขามอบตัวก็เท่านั้น”
ซิงเฉินยกนิ้วให้เขาเงียบๆ “พี่เก่งมาก!”
“ชมได้แบบไม่เต็มใจมาก”
ในเวลาเดียวกัน ภายในห้องชั้นสองของวิลล่าตระกูลซู
ซูโม่มองคอมพิวเตอร์ที่ควบคุมไม่ได้ของตัวเอง ก่อนที่จะขว้างแก้วน้ำใส่หน้าจอด้วยอารมณ์โมโห!
เธอเพิ่งจะเปิดคอมมา ตอนแรกเธอกะจะมาเช็คว่าข่าวลือที่เกี่ยวกับซูสือเยว่ไปถึงไหนแล้ว
แต่เธอยังไม่ทันที่จะได้กดเปิดเวยป๋อ หน้าจอคอมของเธอกลับดับสนิท พอภาพจอปรากฏอีกครั้ง กลับกลายเป็นหนังสยองขวัญที่ฉายวนอยู่บนจอ!
มุมล่างซ้ายของหนังสยองขวัญ มือตัวหนังสือเล็กๆแถวหนึ่ง “คอมของเธอโดนฉันควบคุมแล้ว ถ้าอยากจะปลดล็อค ติดต่อฉันพร้อมกับเงิน”
เธอกวาดของทุกอย่างที่อยู่บนโต๊ะลงพื้นอย่างรู้สึกโมโห
โคร้ม—— !
เสียงที่ดังมากทำให้เฉินฟางที่กำลังเดินผ่านเปิดประตูอย่างช่วยไม่ได้
พอเดินเข้ามา เธอก็เห็นกับภาพหนังสยองขวัญที่ฉายบนจอ เธอตกใจจนวิญญาณแทบออกจากร่าง!
เธอรีบเข้าไปปิดคอม “โม่โม่ เกิดอะไรขึ้น?”
“แม่คะ คอมหนูโดนแฮก!”
ซูโม่ที่สีหน้าเศร้าสร้อยโผล่เข้ากอดเฉินฟาง ร้องไห้จนพูดไม่เป็นศัพท์ “ทำไมหนูทำอะไรก็ไม่ราบรื่นเลย!”
“เดิมทีคนที่ควรแต่งงานกับท่านชายฉินคือหนู แต่พ่อก็ดื้อรั้นให้ซูสือเยว่แต่งกับเขา ทำให้หนูพลาดการแต่งงานที่ดีขนาดนั้นไป!”
“ประธานหวางที่หนูเพิ่งเซ็นสัญญากับเขาไปเมื่อไม่นานนี้เพราะซูสือเยว่ไปทำให้เขาไม่พอใจ ก็เลยไม่ต่อสัญญากับซูซื่อกรุ๊ปของพวกเราอีกแล้ว!”
“แล้วก่อนหน้านี้มีดาราสองคนที่หนูเป็นคนลงทุน เพราะไปพัวพันกับ คนหนึ่งโดนเรื่องอื้อฉาวจนหวนกลับคืนวงการไม่ได้ แล้วอีกคนก็พังทลายจนลุกไม่ได้……”
“ทำไมหนูถึงลำบากแบบนี้……”
แม้แต่ได้รูปซูสือเยว่มานิดหน่อยกะปล่อยข่าวลือ คอมก็ยังโดนแฮกอีก!
พอได้ยินเสียงร้องไห้ของลูกสาว หัวใจของเฉินฟางรู้สึกเจ็บปวดอย่างมาก
เธอยกมือขึ้นลูบหลังซูโม่เบาๆ “โม่โม่ ที่ลูกพูดคือเรื่องจริงหรอ?”
“เรื่องที่ทำให้ลูกอารมณ์ไม่ดีช่วงนี้ เกี่ยวข้องกับซูสือเยว่?”
“ใช่ค่ะ!”
น้ำตาของซูโม่ที่ควบคุมไว้ไม่ได้จนไหลเหมือนเขื่อนแตก “ทั้งหมดเป็นเพราะซูสือเยว่! มันเป็นตัวกาลกิณี!”
เฉินฟางหรี่ตาลง สายตาที่ดุร้ายมองไปยังด้านหน้า “แม่ว่ามันไม่น่าจะใช่ตัวกาลกิณี แต่มันต้องการขัดขวางลูก”
“โม่โม่ ไม่ต้องกลัวนะ ลูกยังมีพ่อกับแม่ซัพพอร์ตนะ ยังมีคนทั้งตระกูลซู!”
“ซูสือเยว่มันอกตัญญู เราก็ไม่จำเป็นต้องไปไว้หน้ามัน!”
พูดจบ เฉินฟางก้มหัวลง มองใบหน้าของซูโม่อย่างรู้สึกสงสาร “แบบนี้ แม่จะให้พ่อเป็นคนออกหน้า หาโอกาสนัดท่านชายฉินมาที่บ้านแล้วกัน”
“ถ้าท่านชายฉินตกลงที่จะลงโทษและสั่งสอนซูสือเยว่ดีๆ พวกเราก็จะไม่ถือโทษโกรธมัน”
“แต่ถ้าเขาไม่ยอมตกลง เราก็เอาหลักฐานที่ซูสือเยว่เคยท้องกับคนอื่นมาให้เขาดู!”
ซูโม่ที่ซุกอยู่ในอกของเฉินฟาง น้ำตาไหลอย่างไม่หยุด มีแต่เสียงร้องไห้ของเธอดังไปทั่ว แต่มุมปากของเธอกลับยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ “ค่ะ ทำตามที่แม่ว่าเลยค่ะ”
“แต่ว่า……”
เธอเงยหน้าที่เปื้อนไปด้วยคราบหน้าตาขึ้น “หลักฐานรูปภาพที่ซูสือเยว่คลอดลูก อยู่ในคอมหมดเลยค่ะ”
“ตอนนี้คอมเปิดไม่ได้แล้ว……”
เฉินฟางยิ้มแห้ง “ซูซื่อกรุ๊ปของพวกเราหน่ะใหญ่จะตาย จะช่วยตามหาแฮกเกอร์ที่ล็อคคอมลูกไม่ได้หรือไง?”
“แม่จะไปบอกพ่อให้ไปตามคนมาปลดล็อคคอมลูกเดี๋ยวนี้เลย!”
พูดจบ เธอก็ยกเท้า ก้าวเท้าใหญ่เดินจากไป
นั่งอยู่บนเก้าอี้ซูโม่มองแผ่นหลังของเฉินฟางที่เดินจากไป มุมปากเกี่ยวยิ้มอย่างเยาะเย้ย
……
ซูสือเยว่ทำอาหารเย็นอย่างเลิศรส
แม้แต่ลูกชายทั้งสองก็กินอย่างมีความสุข
พอกินอาหารเย็นเสร็จ หลังจากที่เธอทำความสะอาดห้องครัวไปลวกๆ ก็ได้กลับเข้าไปในห้องนอน
ส่วนฉินโม่หานไปทำงานต่อที่ห้องอ่านหนังสือแล้ว บนเตียงใหญ่ที่สบายมีเพียงเธอคนเดียว
หญิงสาวนอนอยู่บนเตียง เธอกลิ้งไปมาบนเตียงอย่างมีความสุข พลางเอาโทรศัพท์ขึ้นมาดูข่าวสาร
บนเวยป๋อก็ดูสงบไม่มีอะไรเกิดขึ้น
มีเพียงไม่กี่คนที่จะพูดถึงเรื่องของเธอกับจี้หนานเฟิงบ้าง แต่ก็จะมีคนตอบกลับพวกเขาว่าเป็นเพราะการร่วมงานของหนังเรื่อง《ความทรงจำที่ขาดหาย》
ซูสือเยว่เลื่อนเวยป๋อไปเรื่อยๆ แล้วรู้สึกว่าคนพวกนั้นที่ตลาดสดเมื่อตอนเย็นค่อนข้างแปลก
ในโซเชียลไม่มีข่าวลือของเธอกับจี้หนานเฟิงแม้แต่น้อย ทำไมคนพวกนั้นถึงได้พูดอะไรแปลกๆกัน?
หลังจากที่เช็คข่าวเสร็จ เธอก็เตรียมตัวเข้านอน แต่ดันนึกเรื่องที่ฟู๋เชียนเชียนโทรมาเมื่อตอนเย็นขึ้นมา
หญิงสาวขมวดคิ้ว หาเบอร์ตรงรายชื่อติดต่อที่เธอเมมเอาไว้ว่า “ที่รัก” แล้วส่งข้อความที่หวานแหววไป
ภายในห้องอ่านหนังสือ
ชายเย็นชาที่ดูสูงสง่ากำลังขมวดคิ้วฟังคลิปการรายงานอย่างตั้งใจ
“ติ๊ง” เสียงโทรศัพท์เขาดังขึ้น
ฉินโม่หานขมวดคิ้วพร้อมกดเปิดข้อความ
“ที่รัก ฉันพักผ่อนก่อนนะ ฝันดี!”
ในตอนที่เขาเห็นข้อความแถวนี้ หัวคิ้วของชายหนุ่มเลิกขึ้นทันที
เขายกมือขึ้นแล้วกดหยุดคลิปเสียงการรายงาน
บรรยากาศภายในห้องหนังสือเงียบลงทันที
ฉินโม่หานจ้องโทรศัพท์อยู่ครู่หนึ่ง ในที่สุดก็สูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วลุกขึ้นยืน
ซูสือเยว่ที่รอข้อความตอบกลับของฟู๋เชียนเชียนมานาน ท้ายที่สุดก็วางโทรศัพท์ลง เธอเพิ่งจะเอนตัวลงนอน ประตูห้องนอนกลับถูกเปิดออกอย่างกะทันหัน
เธอมองไปยังทางประตู
ไฟทางเดินส่องไปทางตัวชายหนุ่ม มีความเซ็กซี่แบบยั่วยวนใจ
เขายืนอยู่ตรงนั้น ราวกับกำลังลังเลอะไรอยู่
เพียงไม่นาน ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้น ดวงตาที่ลึกจนมองไม่เห็นพื้นนั้นจ้องไปยังใบหน้าของซูสือเยว่ “ฝันดี”