เควินหัวเราะขบขันในลำคอ ก่อนจะหักพวงมาลัยให้เลี้ยวเข้าไปในซอยเล็กแคบที่ด้านในสุดเป็นที่ตั้งห้องเช่าของวรันธารา
“ได้เงินจากผมแล้ว ย้ายห้องเช่าเสียด้วยนะ ที่นี่ดูไม่ปลอดภัยเลย”
“ฉันอยู่จนชินแล้วล่ะค่ะ อ้อ จอดตรงนี้แหละ จะได้กลับรถง่ายๆ”
รถสปอร์ตหรูจอดสนิทตามที่วรันธาราสั่ง
“แล้วนั่นรถใคร?”
วรันธารามองตามสายตาคมกริบของเควินไป และก็ได้เห็นกระบะสีขาวที่ติดสติกเกอร์เอาไว้รอบคัน
“ไม่รู้ค่ะ ฉันไม่เคยเห็นเหมือนกัน สงสัยเจ้าของห้องเช่าส่งให้มาซ่อมอะไรมั้งคะ”
พูดจบวรันธาราก็เปิดประตูรถ และก้าวลงไป เควินรีบปลดเข็มขัดนิรภัยและกระโดดตามลงไปทันที
“คุณลงมาทำไมคะ เดี๋ยวคนอื่นเห็นเข้า คุณจะกลายเป็นข่าวดังนะคะ”
เควินอยากจะบีบปลายจมูกโด่งรั้นของแม่สาวสวยตรงหน้านัก ดูเถอะ เวลานี้ยังจะมาห่วงกลัวว่าเขาจะเป็นข่าวอีก ทั้งๆ ที่ตัวเองน่าห่วงกว่าเป็นไหนๆ
“ถ้าผมเดาไม่พลาด รถคันนี้ผู้ชายขับ”
“ก็น่าจะใช่ค่ะ แล้วทำไมคะ”
“ผมไม่ไว้ใจให้ผู้ชายคนไหนก็ตามอยู่ใกล้คุณ”
วรันธารารู้สึกว่าตัวเองสะท้านราวกับอยู่ท่ามกลางพายุฝน เขาพูดเหมือนกำลังหวงหล่อน
“คุณ… ห่วงใยห่วงฉันหรือคะ”
“ใช่ ผมเป็นห่วงคุณ และที่สำคัญของๆ ผมใครก็แตะต้องก่อนที่ผมจะเบื่อไม่ได้้”
จากที่เคยปลื้มปริ่มตอนนี้เหี่ยวแห้งลงแทบไม่ทัน วรันธาราหน้างอง้อ ก่อนจะหันหนี
“ไม่ต้องเป็นห่วงฉันหรอกค่ะ ฉันอยู่ได้ และที่สำคัญคงไม่มีผู้ชายคนไหนตาบอดมาแตะต้องฉัน เหมือนกับที่คุณทำหรอก”
เควินหรี่ตามองอย่างประหลาดใจกับสิ่งที่ได้ยิน “ถามจริงๆ เถอะ ไม่มีผู้ชายจีบคุณมาก่อนเลยหรือ”
“ฉันไม่รู้ เพราะไม่ได้สนใจ”
หล่อนตอบเสียงห้วน และงมหากุญแจห้องในกระเป๋าเป้ใบเล็กที่สะพายอยู่ สองเท้าก็เดินเข้าไปยังห้องของตัวเองที่อยู่เกือบท้ายสุดของแถว เควินเดินตามไปติดๆ
“ผู้ชายพวกนั้นตาบอดสิไม่ว่า คุณสวยจะตายไป”
“อย่ามาชมเลยค่ะ ฉันไม่มีรางวัลอะไรให้คุณหรอก”
“จูบ…”
เท้าของวรันธาราชะงักกึก ก่อนที่หล่อนจะหมุนตัวกลับมามองผู้ชายที่ตัวโตกว่ามากมายด้วยความแคลงใจ
“คุณจูบฉันไปเป็นร้อยๆ รอบแล้วนะคะ ไม่เบื่อบ้างหรือไง”
เควินส่ายหน้า พร้อมกับกระชากร่างอรชรเข้ามากอดแนบอก “ปล่อยค่ะ เดี๋ยวใครมาเห็นเข้า”
“ต่อให้เป็นล้านจูบ ผมก็คงไม่มีวันเบื่อความหวานจากปากอิ่มของคุณได้ ผมรัก… ผมคลั่งไคล้ปากของคุณ วรันธารา…”
“เค… เควิน…”
หล่อนเหมือนตกอยู่ในมนต์สะกด แค่เพียงเขาจ้องตาเท่านั้น “คุณ… จะเป็นข่าวนะคะ ถ้า… ถ้าจูบฉัน… ตรงนี้…”
“ผมไม่สน”
แล้วเขาก็ยืนยันคำว่า ‘ไม่สน’กับหล่อนด้วยการตะโบมจูบลงมาหาอย่างดุดัน ดุเดือด จูบที่เรียกได้ว่าแทบจะสูบวิญญาณให้หายไปจากร่าง จูบที่ทำให้สติสัมปชัญญะของหล่อนปลิวหายไปในพริบตา
เขาจูบแล้วก็จูบ ดันร่างของหล่อนจนแผ่นหลังกระแทกเข้ากับกำแพงปูน ปากยังคงประกบติดราวกับกาว ลิ้นแกร่งตวัดรูดรัดภายในช่องปาก และฝ่ามือใหญ่ขยำบั้นท้ายอวบเต็มแรง
“ผม… ไม่มีวันเบื่อจูบกับคุณ”
“อ๊า… เคน…”
เควินเกลียดตัวเองที่ไม่มีอำนาจพอที่จะเนรมิตพื้นที่ต้องหน้าให้กลายเป็นห้องนอนหรือห้องสูทในโรงแรมเจ็ดดาวได้ เขาต้องการจะฝากฝังกายลงไปในแอ่งรักของวรันธาราเดี๋ยวนี้ ต้องการหล่อนเหลือเกิน ต้องการจนลืมเลือนสถานที่ และเวลาไปได้อย่างน่าอัศจรรย์
“อ่ะ แฮ่ม…”
เสียงกระแอมของใครบางคนทำให้วรันธาราได้สติ หล่อนรีบผลักเควิน ออกห่างจากตัว และรีบหันไปเผชิญหน้ากับเจ้าของเสียงกระแอม
“เอ่อ ขอโทษด้วยค่ะที่ขวางทาง” มือเล็กผลักให้คนตัวโตหันหลังเอาไว้ เพราะไม่ต้องการให้ใครเห็นหน้าของเขาในตอนนี้
“พวกเรากำลังจะกลับพอดีครับ พอดีเจ้าของห้องเช่าให้ผมพวกเรามาล้างแอร์ให้กับทุกห้องครับ”
“เชิญ… เชิญค่ะ” วรันธารารีบขยับหลีกทางให้กับผู้ชายสองคนเดินจากไป จากนั้นก็หันมาทำเสียงดุใส่เควิน
“เห็นไหมคะว่ามีคนเห็น นี่ถ้าพวกนั้นเห็นหน้าคุณจะทำยังไงคะ”
เควินหมุนตัวกลับมา และก้มลงมาจูบแก้มนวลเบาๆ “ก็คุณจับผมหันหลังขนาดนั้น ถ้าเห็นก็มีตาทิพย์แล้วล่ะ”
“ยังจะมาพูดดีอีก กลับไปได้แล้วล่ะคะ ฉันจะเข้าห้องแล้ว”
หญิงสาวขยับไปที่หน้าห้องของตัวเอง และจะไขกุญแจ แต่ประตูดันเปิดออกได้อย่างง่ายดาย
“อ้าว… ลืมล็อกได้ยังไงเนี่ย”
เควินที่ยืนอยู่ด้านหลังอมยิ้ม “ช่างที่มาล้างแอร์ให้คงลืมล็อกล่ะมั้ง”
วรันธาราพยักหน้ารับ “คงใช่ค่ะ เอ่อ และคนในห้องเช่าก็จะกลับมาจากที่ทำงาน”
“ผมไม่กลับหรอก คืนนี้คิดว่าจะอยู่กับคุณที่นี่ทั้งคืน”
วรันธาราอ้าปากค้าง “จะบ้าหรือไงคะ”
“ไม่บ้าหรอกครับ ผมพูดจริง” เควินยืนยันและแทรกตัวเข้ามาภายในห้องเล็กแคบของวรันธารา
“ตะ… แต่… ถ้าคุณอยู่… คุณก็ต้อง…” หญิงสาวหน้าแดงก่ำ
เควินอมยิ้มเพราะรู้ทันความคิดของอีกฝ่าย “ถูกต้อง ผมจะต้องนอนกับคุณ” เขามองเลยไปที่เตียงนอนขนาด 3.5 ฟุต และทำหน้าลำบากใจเล็กน้อย “แต่คงไม่ใช่บนเตียงหรอก มันเล็กเกินไป คงจะเป็นพื้นห้องมากกว่าที่เราจะสนุกกัน”
“คนบ้า… อย่ามาล้อฉันเล่นแบบนี้นะคะ”
“ก็บอกแล้วไงว่าผมไม่ได้ล้อเล่น ผมจะอยู่กับคุณที่นี่ทั้งคืนจริงๆ”
“แต่… เวลาเรา… เอ่อ… ฉันหมายถึงว่า… เวลานอนด้วยกัน คุณทำให้ฉันกรีดเสียงดัง… ฉันเกรงว่าข้างห้องจะ…”
เควินแทบกลั้นความขบขันเอาไว้ไม่อยู่ “ผมจะเอามืออุดอดปากคุณเอาไว้ เวลาที่คุณครางเสียงดังเกินไป โอเครไหมครับ”
“มะ ไม่โอเครหรอกค่ะ ทางออกที่ดีที่สุด คุณควรกลับออกไป ได้โปรดเถอะนะคะ คุณกลับไปก่อน แล้วพรุ่งนี้… ฉันจะไปหาคุณเอง”
เควินส่ายหน้ายืนยันคำเดิม “ผมทนไม่ไหวหรอก อยู่ห่างจากคุณแค่ชั่วโมงเดียวผมก็จะตายอยู่แล้ว” พ่อเจ้าประคุณพูดจบก็ตรงปรี่เข้ามากระชากร่างเล็กเข้าไปกอดแนบอก “และที่เราทำกันที่หน้าห้องอีก คุณคิดว่าผม… จะสงบลงง่ายๆ หรือไง ถ้าไม่ต่อให้จบน่ะ”
“คุณก็คิดแต่เรื่องนี้เท่านั้นแหละ” วรันธาราผลักคนตัวโตออกห่าง ก่อนจะถอยหลังหนี แต่มือเล็กปัดไปโดยกรอบรูปของตัวเองที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ ปลายเตียงพอดี
“อุ๊ย…”
หญิงสาวตกใจหันไปคว้าขึ้นมาจากพื้น และวางไว้ที่เดิม แต่เควินเดินเข้ามากระชากออกไปจากมือเสียก่อน
“คุณทำอะไรน่ะเควิน”
“ชูว์…”
วรันธาราไม่เข้าใจกับท่าทางของเควิน แต่ก็จำต้องยอมทำตามคำสั่งของเขาแต่โดยดี
“เมื่อกี้คนพวกนั้นบอกว่าเป็นช่างล้างแอร์ใช่ไหม”
“ค่ะ มีอะไรเหรอคะ”
“แล้วไอ้กล่องดำๆ ที่โต๊ะหลังกรอบรูปที่ร่วงเมื่อกี้ของคุณหรือเปล่า”
หญิงสาวมองไปตามนิ้วของคนตัวโต ก่อนจะส่ายหน้า “ไม่น่าจะใช่ค่ะ ฉัน… ไม่มีกล่องแบบนี้หรอก”
“แล้วกล่องของใครล่ะ”
“ฉันไม่รู้”
เควินไม่พูดออกอีกนอกจากเดินเข้าไปหยิบสิ่งที่สงสัยขึ้นมามองใกล้ๆ ก่อนจะกัดฟันแน่น
“กล้องแอบถ่าย”
“กล้องแอบถ่าย?!” วรันธาราอุทานตกใจ และเหลือเชื่อ “แล้วมันจะมาอยู่ในห้องของฉันได้ยังไงกันคะ นี่ฉัน… ไม่ได้คิดจะแอบถ่ายคุณหรอกนะเควิน…”
“ไอ้สองคนเมื่อกี้นี่ไง นึกแล้วเชียวว่าทำไมสติกเกอร์ท้ายรถถึงติดว่ารับติดตั้งกล้องและสัญญาณกันขโมย”
วรันธาราแทบทรุด หล่อนยกมือขึ้นทาบอก
“เกือบไปแล้ว”
“โดนไปแล้วต่างหาก สิ่งที่ผมพูดกับคุณเมื่อครู่นี้พวกมันได้ไปแล้วล่ะ”ชายหนุ่มโยนกล้องแอบถ่ายลงกับพื้น และขยี้แรงๆ จนพังพินาศ
หญิงสาวหน้าซีดเผือด “แล้วเราจะทำ… ฉันหมายถึง… คุณจะแก้ข่าวนี้ยังไงคะ ฉันไม่อยากให้คุณเดือดร้อน”
“ไม่ยากหรอก แค่สั่งปิดซันไทมส์ ง่ายไหม”
“ไม่ได้นะคะ!”
“ทำไมจะไม่ได้ล่ะ ในเมื่อเจ้าของที่นี่เป็นอันตรายกับผม”
“แต่พนักงานที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ด้วยจะต้องตกงานกันไปด้วยนะคะ แล้วไหนจะลูก จะเมีย พ่อแม่ของพวกเขาอีก”
“ไม่น่าเชื่อว่าผมจะได้แม่ชีมาเป็นเมีย”
“ฉันไม่ใช่แม่ชีหรอกค่ะ แต่ฉันแค่สงสาร…”
“โอเคผมจะไม่ปิดซันไทมส์ พอใจหรือยัง” เควินฉวยโอกาสที่วรันธารากำลังสับสนเข้ามาสวมกอด ก่อนจะก้มลงดูดเบาๆ ที่ซอกคอระหง จนเนื้อนุ่มแดงช้ำ
“อื้อ… อย่าค่ะ ถ้ามีกล้องอีกจะทำยังไงคะ”
“ผมไม่สน ผมต้องการคุณ…”
“อ๊า… เคน…” มือใหญ่ขยำเต้าอวบแรงๆ จนสาวน้อยครางกระสัน “อย่า… อย่าพึ่ง… อ๊า… เคน…”
“น้องธาร… น้องธารอยู่หรือเปล่าครับ” เสียงเคาะประตู พร้อมกับเสียงผู้ชายที่ตะโกนเรียกเข้ามาทำให้ เควินชะงัก หันนไปมองที่ประตูก่อนจะหันกลับมาทำตาดุใส่วรันธารา
“นัดผู้ชายไว้ใช่ไหมเนี่ย”
“ปละ เปล่าสักหน่อยค่ะ”
“ถึงไล่กันจริงจังแบบนี้”
“มันไม่ใช่แบบนั้นสักหน่อย” วรันธาราพยายามอธิบาย แต่คนแม็กเวลล์ก็ยังเรียกไม่หยุด
“แล้วมันแบบไหนกันล่ะ”
“คือว่า…”
“น้องธาร…”
“มีอะไรกับธารหรือคะพี่แม็ก” ในที่สุดก็จำต้องขานรับออกไป
“พี่ขอเข้าไปหาได้ไหมครับ”
วรันธาราหน้าตาซีดเผือด คิดไม่ตกว่าทำไมแม็กเวลล์ถึงพูดแบบนั้น ทั้งๆ ที่ร้อยวันพันปีไม่เคยคิดจะเข้ามาในห้องของหล่อนแม้แต่นิดเดียว
หญิงสาวหันไปมองคนตัวโต ก็เห็นเขากอดอกเอาสะโพกพิงกับขอบเตียงอยู่ และหน้าตาบูดบึ้ง
“มันไม่มีอะไรจริงๆ ค่ะ” หล่อนพยายามอธิบาย
“เอ่อ ได้ค่ะ รอสักครู่นะคะ”
“เฮ้… วรันธารา นี่คุณกล้าให้ผู้ชายคนอื่นเข้ามาในห้องเชียวหรือ มันเป็นชู้รักของคุณใช่ไหม”
“คุณบ้าไปแล้วเควิน ที่ฉันกล้าให้พี่แม็กเข้ามาในห้อง ก็เพราะว่ามีคุณอยู่ด้วยต่างหากยังไงล่ะ” หล่อนสวนกลับอย่างโมโหที่เขาแปลเจตนาของหล่อนผิดพลาดไปไกล