หลังจากจบเซ็กซ์ร้อนฉ่าภายในรถหรูแล้ว วรันธาราก็นั่งก้มหน้าด้วยความอับอายมาตลอดทาง ซึ่งเควินเองก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาเช่นกัน เขาก็คงกำลังรู้สึกแย่เหมือนกับที่หล่อนเป็นล่ะมั้ง
วรันธาราบีบมือเล็กที่วางอยู่บนตักของตัวเองแน่น รู้สึกอึดอัดกระอักกระอ่วนเป็นที่สุด เกลียดที่ตัวเองต้านทานเขาไม่ได้ เกลียดที่ร่างกายมีปฎิกิริยาตอบสนองทันทีแค่เพียงถูกจูบ
“ฉันรู้ว่าคุณ… กำลังเครียดที่เผลอ… ทำเรื่องนั้นลงไป”
ในที่สุดหล่อนก็เป็นฝ่ายพูดมันขึ้นมา พูดไปหน้าตาแดงก่ำไป ในขณะที่คนขับรถยังคงนั่งนิ่งเฉย
“คุณ… คุณคงไม่พอใจมาก”
“ใช่ ผมไม่พอใจมาก”
เขาตอบกลับมาเสียงเย็นชา นั่นยิ่งทำให้วรันธารารู้สึกเสียใจ ปวดใจจนน้ำตาแทบเล็ด
“ถ้า… ถ้าไม่มีฉันสักคน… คุณก็คงไม่ทำแบบนั้น”
“ใช่”
“ฉัน… ฉันสัญญาว่าจะไม่บอกเรื่องนี้กับใครหรอก คุณลืมไปได้เลย มันไม่เคยเกิดขึ้นหรอก”
คราวนี้สายตาคมกริบของเควินตวัดมามองหล่อน “ผมไม่ใช่คนความจำสั้น และไม่มีทางลืมเซ็กซ์ในรถครั้งแรกได้หรอก”
“ก็… ก็… แค่เลิกคิดถึงมัน”
“ผมทำไม่ได้!” เขาตวาด หล่อนสะดุ้งตกใจ น้ำตาไหลออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่แต่ก็อดที่จะเถียงไม่ได้
“แต่คุณทำได้… เพราะถึงมันจะเป็นเซ็กซ์ในรถครั้งแรกของคุณ แต่มันเกิดขึ้นกับผู้หญิงที่คุณไม่ได้พิศวาสอย่างฉัน ยังไงคุณก็ลืมได้อยู่แล้ว ฉันเชื่อแบบนั้น”
รถหรูจอดที่ข้างทางอีกครั้ง และเขาก็หันหน้ามาหาหล่อน จ้องมองด้วยสายตามืดดำอ่านความรู้สึกไม่ออก “ที่ผมลืมไม่ได้ ไม่ใช่เซ็กซ์ แต่เป็นคุณต่างหาก”
“เค… เควิน…”
“เลิกพล่ามได้แล้ว ถ้าไม่อยากมีประสบการณ์ในรถซ้ำเป็นครั้งที่สอง”
เขาไหวไหล่น้อยๆ
“เอาจริงๆ นะ ผมไม่ชอบเป็นฝ่ายตั้งรับสักเท่าไหร่ ผมชอบรุก”
คนฟังหน้าแดงซ่านขึ้นมาในทันที ดวงตากลมโตเบิกกว้าง ภาพที่ตัวเองควบขี่อยู่บนร่างกำยำฉายชัดเต็มสมอง
“ฉัน… ฉัน…”
“และก็เลิกทำหน้าตาไร้เดียงสาแบบนี้สักที ผมเห็นแล้วของขึ้นตลอด รู้ไหม” แล้วรถหรูก็ถูกบังคับให้ขึ้นไปวิ่งบนถนนอีกครั้ง พร้อมๆ กับความวาบหวามในช่องท้องที่กำลังทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ
ได้กลับมาที่นี่อีกครั้ง… คฤหาสน์คาสโตรเซ่น
“ลงมาสิ หรือว่าต้องให้อุ้ม หึ…”
หล่อนไม่รู้ว่าเควินลงจากรถไปตอนไหน มารู้อีกทีก็ตอนที่เขากระชากประตูรถฝั่งที่หล่อนนั่งให้เปิดกว้างออก พร้อมกับโน้มใบหน้าที่หล่อเกินมนุษย์เข้ามา
“ฉัน… ลงเองได้ค่ะ”
เขาอมยิ้มและยืดตัวตรง
“งั้นก็รีบลงมาเถอะ”
คนถูกจ้องหน้าแก้มแดงซ่าน รีบก้าวลงจากรถ “คุณให้ฉันมาที่นี่อีกทำไมคะ”
“ก็คุณบอกเองว่าจะอยู่ที่นี่กับผม จนกว่าเราสองคนจะเบื่อซึ่งกันและกัน”
“คุณต่างหากล่ะที่เบื่อ”
หล่อนบ่นอย่างโมโห และจะเดินหนี แต่เขาก้มหน้าลงมาหาเสียก่อน
“คุณว่าอะไรนะ”
“เปล่า ฉันจะขึ้นไปอาบน้ำแล้ว ขอตัวค่ะ”
“ถ้าอาบช้า ผมจะขึ้นไปอาบให้”
“คนบ้า!”
เควินหัวเราะตามหลังร่างอรชรของวรันธาราที่เดินเร็วๆ จากไปอย่างขบขัน แปลกที่เขาจะอารมณ์ดีเสมอยามที่ได้ต่อปากต่อคำกับผู้หญิงคนนี้ ผู้หญิงที่กล้า… ตบเขาต่อหน้าคนอื่น
เขาควรจะโกรธ ควรจะลงโทษหล่อน แต่สิ่งที่ทำดันตรงกันข้ามกับสิ่งที่คิดเหลือเกิน
ไม่โกรธ แถมยังรู้สึกโหยหารุนแรงอีกต่างหากนี่เขาเป็นบ้าอะไรไปนะ ทำไมถึง… รู้สึกดีแบบนี้
เควินถอนใจออกมาแรงๆ ก่อนจะส่งกุญแจรถให้กับคนรับใช้ชายที่มายืนรอด และเดินเข้าบ้านไปอีกคน
วรันธาราใช้เวลาอาบน้ำเพียงแค่สิบนาทีกว่าๆ เพราะเกรงว่าเควินจะทำอย่างที่พูดจริงๆ ตอนนี้หล่อนจึงก้าวออกมาจากห้องน้ำในสภาพที่สวมเสื้อผ้าเรียบร้อย
เสียงเคาะประตูดังขึ้นสองครั้ง วรันธาราคิดว่าเป็นเควินจึงทำเสียงแข็งต่อว่าออกไป
“จะเร่งกันไปถึงไหนคะ แค่นี้ฉันก็แทบไม่ได้ขัดเนื้อขัดตัวแล้ว”
“เอ่อ… ป้าเองค่ะ คุณธาร”
เสียงของป้าเดซี่นี่…
วรันธาราเบิกตากว้างตกใจ
“ป้า… ป้าเดซี่” ก่อนจะรีบวิ่งตรงดิ่งไปเปิดประตูห้อง
“ป้าเดซี่…” หญิงสาวยิ้มกว้างพลางสวมกอดร่างท้วมของผู้มีพระคุณเอาไว้แน่น “ธารคิดถึงป้าเดซี่จึงเลยค่ะ”
ป้าเดซี่ยิ้มตอบ แต่ขยับออกห่าง “ป้าก็คิดถึงคุณธารค่ะ และก็ขอบคุณมากที่ไม่ซัดทอดมาถึงป้า”
“ป้าเดซี่หมายถึง…”
“ก็ตอนที่คุณธารถูกจับได้น่ะค่ะ คุณธารยอมรับผิดเอาไว้คนเดียว ขอบคุณมากนะคะ”
วรันธาราอึ้งไปเล็กน้อย ในหัวกำลังประมวลผลกับสิ่งที่กำลังได้ยินอย่างขะมักเขม้น
ถ้าป้าเดซี่พูดแบบนี้ ก็แสดงว่าเควินไม่ได้บอกเรื่องที่หล่อนเป็นนักข่าวปลอมตัวเข้ามากับป้าเดซี่น่ะสิี่
บางที… ผู้ชายเถื่อนๆ อย่างเควินก็มีน้ำใจเหมือนกันนะ
หญิงสาวอมยิ้มบางๆ ก่อนจะคว้ามือของป้าเดซี่ขึ้นมากุมเอาไว้ “ธารบอกแล้วไงคะว่าธารจะไม่มีวันทำให้ป้าเดซี่เดือดร้อน”
ป้าเดซี่พยักหน้ารับก่อนจะอมยิ้ม “ว่าแต่… คุณธาร เอ่อ… มาเป็นแฟนคุณเคนได้ยังไงกันคะ”
คนถูกถามหน้าตาแดงก่ำ “ฟง… แฟนที่ไหนกันคะป้า…” และก็บิดตัวอายม้วนเลยทีเดียว
“ถ้าไม่ใช่แฟน ทำไมคุณเคนถึงพามาที่นี่อีกล่ะคะ ทั้งๆ ที่น่าจะโกรธเรื่องที่ถูกหลอก”
วรันธารายิ่งหน้าแดงมากยิ่งขึ้น หล่อนจะบอกป้าเดซี่ออกไปได้ยังไงกันล่ะว่าเพราะอะไร หล่อนถึงถูกลากกลับมาที่นี่อีกครั้ง
‘เพราะเควินต้องการเซ็กซ์จากหล่อน’
“คือ… ไม่มีอะไรหรอกค่ะป้าเดซี่ เอ่อ ว่าแต่เจ้านายของป้าอยู่ที่ไหนคะตอนนี้ ธารมีเรื่องจะคุยด้วยน่ะค่ะ”
ป้าเดซี่อมยิ้มและไม่อยากคาดคั้นมากเพราะแค่นี้วรันธาราก็หน้าแดงก่ำแล้ว “คุณเคนนั่งรอคุณธารกินมื้อเที่ยงด้วยที่ระเบียงทางปีกซ้ายค่ะ เดี๋ยวป้าจาจะพาไป”
“ขอบคุณค่ะป้าเดซี่”
แล้ววรันธาราก็เดินคุยกับป้าเดซี่ไปเรื่อยๆ จนไม่นานก็เดินมาถึงระเบียงทางปีกซ้ายที่ตกแต่งเอาไว้อย่างร่มรื่น และเควิน คาสโตรเซ่นก็นั่งรออยู่ตรงนั้น
สองเท้าของหล่อนถูกตรึงด้วยสายตาคมกริบสีน้ำเงินเกือบดำคู่นั้นอีกครั้ง และมันก็ทำให้หล่อนสั่นเทาเสียทั้งตัว ไม่ต้องให้เดาก็อ่านออกว่าในหัวของเควินกำลังคิดอะไรอยู่
หิวกระหาย โหยหา และต้องการจะทำให้หล่อนหลอมละอายอยู่ใต้ร่างกำยำอีกครั้ง
วรันธาราหน้าแดงมากที่สุดในชีวิต สองมือกำกระโปรงบานข้างตัวเพื่อลดความประหม่า แต่มันกลับช่วยไม่ได้เลย
“มานั่งตรงนี้สิ ข้างๆ ผม”
“เอ่อ…” หญิงสาวอึกอัก หันไปสบตากับป้าเดซี่ที่มองมาแล้วอมยิ้มด้วยความขัดเขิน
“ฉัน… ไม่หิวหรอกค่ะ”
“แต่ผมหิว มากินด้วยกันก่อน” เขาสั่งอย่างเผด็จการ และลุกขึ้นยืน ก้าวเพียงแค่สามครั้งก็ดึงตัวหล่อน
โอ้… กลิ่นกายของเควินช่างเซ็กซี่เหลือเกิน แค่อยู่ใกล้ๆ มันก็โชยฟุ้งเข้ามาในจมูกอย่างรุนแรงเสียแล้ว เนื้อตัวของหล่อนจึงร้อนฉ่าขานรับความหล่อร้ายของเขาอย่างน่าละอาย
“ถ้าไม่กินข้าว ผมจะกินคุณแทน” เขาโน้มศีรษะลงมากระซิบชิดหู ด้วยคำพูดชวนสะท้าน
“คุณ…”
หล่อนเงยหน้าขึ้นอย่างตกใจกับสิ่งที่ได้ยิน และนั่นก็ทำให้สองตาสบประสานกันในระยะกระชั้นชิด เขายังคงโน้มศีรษะอยู่เช่นเดิม ปลายจมูกโด่งชนกับแก้มนวลอย่างไม่ได้ตั้งใจ
“ผมชัก… กินข้าวไม่ลงเสียแล้วสิ”
“ฉัน… ฉันหิวค่ะ หิวข้าว…” หญิงสาวละล่ำละลัก และถอยออกห่าง เควินหัวเราะพึงพอใจ และยืดตัวตรง
“งั้นก็มานั่งตรงนี้สิ ใกล้ๆ ผม” เขาเดินกลับไปที่โต๊ะอาหาร และเลื่อนเก้าอี้ตัวให้
วรันธาราไม่มีทางเลือกจำต้องทำตามคำสั่ง ขืนถ้าไม่ทำ อาจจะถูกปล้ำตรงระเบียงนี้ก็เป็นได้
หญิงสาวคิดหวาดๆ และก็อดที่จะหวามไหวไปกับรสสวาทคุ้นเคยของ เควินไม่ได้
ถ้าเขาทำแบบนั้นอีก… หล่อนคงละลาย…
หล่อนทรุดกายลงนั่งบนเก้าอี้ที่เขาเลื่อนให้ ในขณะที่เขาทรุดนั่งลงข้างกายสาว วรันธาราหวั่นไหวอย่างหนัก พยายามจะที่จะไม่มองไปที่เขาตรงๆ แต่ในที่สุดก็ทำไม่ได้ เพราะสุดท้ายแล้วก็จำต้องจ้องมองพ่อสุดหล่อตาแป๋ว
หญิงสาวแก้มแดงแล้วแดงอีกจนแทบไหม้ นัยน์ตาสีน้ำเงินเกือบดำยามนี้เข้มข้นขึ้นด้วยกระแสสวาทจนคนถูกมองเช่นหล่อน รู้สึกราวกับกำลังถูกเปลื้องผ้าจนเกลี้ยงเกลา ไม่มีเรี่ยวแรงพอที่จะขัดขืนแรงดึงดูดจากมนุษย์จอมเถื่อนได้เลย
“หิวมากไหม” เขาถามเสียงนุ่ม และจับจ้องมองดวงหน้าที่แดงซ่านราวกับผลตำลึงสุกด้วยความพึงพอใจ
หญิงสาวรีบส่ายหน้าน้อยๆ
“มะ ไม่เท่าไหร่ค่ะ”
เขาอมยิ้มบางๆ แค่เพียงบางๆ เท่านั้นแต่กลับทำให้คนมองเช่นหล่อนแทบหยุดหายใจ พ่อเจ้าประคุณหล่อเหลาเหลือเกิน หล่อจนไม่อาจจะหาคำบรรยายใดๆ มาเทียบเทียมได้ หล่อเหลาราวกับไม่ใช่มนุษย์จริงๆ แต่… แต่เควินก็คือมนุษย์จริงๆ หล่อนสำรวจมาแล้วนี่ กายสาวไหวระทึกตอบรับความคิดชวนวามไหว
หล่อนพยายามแล้ว… พยายามที่จะลืมบทรักเร่าร้อนที่เคยกระทำร่วมกับเควินมา แต่กลับล้มเหลว พ่ายแพ้ไม่เป็นท่า เพราะความหิวกระหายร้อนแรงจากเรือนกายทรงพลังของเควินยังคงถาโถมเข้าใส่หนักหน่วง ภาพความสนิทสนมยามสองร่างหลอมละลายเข้าหากันยังชัดเจน ภาพที่เขาบดเบียดความแข็งขึงราวกับท่อนเหล็กลงมาหา ภาพที่เขาเคลื่อนไหวเป็นจังหวะบ้าคลั่งอยู่เหนือร่าง และภาพที่เขาคำรามกระหึ่มอยู่ด้านบนยามที่สุขสม
โอ้… นี่หล่อน… นี่หล่อนจะคิดถึงเรื่องอื่นไม่ได้เลยหรือไง ยาม… ยามที่เผชิญหน้ากับเควิน คาสโตรเช่น!
“แต่ผมเตรียมอาหารไว้ให้คุณตั้งเยอะ” เขาผายมือไปข้างหน้า มือใหญ่สีแทน นิ้วเรียวนี่ไง ที่… ที่บีบเค้น คลึงเคล้า และสอดแทรกทำให้หล่อนสั่นพร่าไปทั้งตัว
หล่อน… หล่อนกำลังถูกไฟสวาทแผดเผาอย่างน่าละอาย ทำไมต้อง… ต้องเอาแต่คิดถึงเรื่องพวกนี้ด้วย
“ฉัน… มีเรื่องจะคุยกับ… คุณ…”
เควินอมยิ้ม มองใบหน้าแดงซ่านอย่างรู้ทัน
“ใช่เรื่องในรถหรือเปล่า”