ทำไมวันนี้รู้สึกว่าเวลาเดินช้านักนะ ไม่เหมือนกับตอนที่มีวรันธาราอยู่ข้างกายเลย เควินนั่งกระสับกระส่ายอยู่ภายในห้องรับแขก แม้ว่าห้องจะเย็นฉ่ำ แต่ภายในกายกลับร้อนราวกับถูกสุมด้วยไฟ
เขาจำเป็นต้องมาเสียเวลานั่งเฝ้าผู้หญิงคนหนึ่งขนาดนี้เชียวหรือ ต้องทำแบบนี้เลยหรือ เพื่อผู้หญิงธรรมดาอย่างวรันธารา แล้วทำไมถึงทำ? เขาทำแบบนี้ทำไม?
คำถามมากมายระเบิดอยู่ในหัว และความเกลียดชังตัวเองก็ทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อระดับการควบคุมของตัวเองลดต่ำลงจนน่าสะพรึง
วรันธารา… แม่นักข่าวสาวฝีปากกล้า ตั้งแต่ได้พบหล่อน ตารางชีวิตของเขาก็ดูท่าจะบิดเบี้ยวไม่สมประกอบ อะไรที่ไม่เคยทำ กลับทำมันขึ้นอย่างไร้สติ แม้กระทั่งการมานั่งเสียเวลาเฝ้าหล่อนอยู่แบบนี้
ห่วง… ใช่… ที่เขายอมสละเวลาอันมีค่ามาทำแบบนี้ก็เพราะเป็นห่วงหล่อน เขาไม่ต้องการที่จะทนอยู่บนความกระวนกระวายโดยมีวรันธาราเป็นฉนวนเหตุอีกแล้ว
แค่มีหล่อนอยู่ในสายตา… หัวใจของเขาก็จะผ่อนคลาย… ผ่อนคลายลงอย่างน่าอัศจรรย์
นาฬิกาที่ข้อมือถูกยกขึ้นมาจ้องเป็นครั้งที่สามร้อยสิบ ก่อนที่ชายหนุ่มจะอมยิ้มบางๆ
เหลืออีกแค่ชั่วโมงครึ่งก็จะได้กินมื้อเที่ยงกับหล่อนแล้ว แต่ให้ตายเถอะ ตอนนี้เขาคงอดทนที่จะนั่งไร้สาระอยู่แบบนี้ต่อไปไม่ได้อีก ร่างกำยำสมบูรณ์แบบผุดลุกขึ้นจากโซฟานุ่ม
“เข้าไปหาสักหน่อยดีกว่า”
สองเท้าก้าวยาวๆ ออกจากห้องไป และมุ่งหน้าตรงไปส่วนที่เป็นออฟฟิศทันที
วรันธาราไม่ได้อยู่ที่โต๊ะทำงาน?
เควินรู้สึกแปลกใจ แต่ก็คาดเดาว่าหญิงสาวคงจะเดินเข้าไปทำธุระส่วนตัวในห้องน้ำ หรือไม่ก็หายเข้าไปในห้องครัวเพราะหิวนั่นแหละ ชายหนุ่มอมยิ้ม ทิ้งตัวลงบนเก้าอี้ของหญิงสาว พลางฮัมเพลงเบาๆ ในลำคออย่างอารมณ์ดี
ถ้าวรันธารากลับมาเห็นเขานั่งอยู่แบบนี้ ดวงตาโตๆ ของหล่อนคงจะเบิกกว้างจนแทบจะถลนเลยทีเดียว จากนั้นแก้มนวลก็จะแดงก่ำ… อืมมม์… แดงซ่านเหมือนตอนที่หล่อนสุขสมอยู่ใต้ร่างของเขาทุกค่ำคืนเลย
เควินครางเบาๆ ในลำคอ ความหิวกระหายที่พยายามควบคุมเอาไว้เริ่มดื้อด้านขึ้นมาเสียแล้ว สงสัยหลังจากกินมื้อเที่ยงเสร็จ เขาคงต้องพาแม่นักข่าวคนงามกลับไปจัดการที่บ้านสักสองสามรอบก่อน ค่อยส่งกลับมาทำงานอีกครั้ง
ความคิดวาบหวามทำให้เลือดหนุ่มเดือดดาล และมันก็มีผลต่อบางส่วนที่ซ่อนอยู่ภายในกางเกงขายาว เควินจำต้องต้องตวัดขาขึ้นไขว่ห้างเอาไว้เพื่อปกปิดการตื่นตัวของมันเลยทีเดียว
จากนั้นก็นั่งรอ… รอผู้หญิงที่โหยหาทุกลมหายใจจะเดินกลับมา แต่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่มา จนเขาหมดความอดทน
“คุณวิลเลี่ยม เห็นวรันธาราบ้างหรือเปล่า”
วิลเลี่ยนที่โต๊ะทำงานอยู่ห่างออกไปไม่ไกลเงยหน้าขึ้นมองเมื่อเห็นว่าเป็นเควินก็ ก่อนจะตอบเสียงสุภาพ
“ไม่เห็นเลยครับ ผมกลับมาจากทำงานภาคสนามก็ไม่เห็นธารแล้ว”
คำตอบของวิลเลี่ยมทำให้เควินต้องหันไปถามคนอื่นแทน “แล้วคุณล่ะ เห็นเมียผมหรือเปล่า”
เควินไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมจะต้องป่าวประกาศให้ทุกคนรู้สถานภาพระหว่างตัวเองกับวรันธาราด้วย ทั้งๆ ที่ตัวเองหวงแหนอิสรภาพมากมายยิ่งนัก
“ผมเห็นคุณธารกับวาเนสซ่าตอนสายๆ น่ะครับ แล้วก็ไม่เห็นอีกเลย”
ไปไหนของคุณนะ วรันธารา?
เควินรู้สึกไม่ค่อยสบายใจ เขาลุกขึ้นจากเก้าอี้ของหญิงสาวเดินตรงไปยังโต๊ะทำงานของวาเนสซ่า แต่เจ้าของโต๊ะไม่อยู่
“ไปตามคุณวาเนสซ่ามาพบผมด่วน” แม่บ้านเดินผ่านมาพอดีจึงถูกสั่งให้ไปตามวาเนสซ่า
“ค่ะ”
ไม่นานวาเนสซ่าที่กำลังดื่มกาแฟอย่างมีความสุขอยู่ภายในห้องครัวก็เดินออกมา หล่อนยิ้มหวานให้กับเควิน
“คุณเควินมีอะไรให้เนสรับใช้หรือคะ”
“วรันธาราหายไปไหน”
สีหน้าของวาเนสซ่ามีพิรุธอยู่ชั่วขณะก่อนจะยิ้มกลบเกลื่อน “เนสจะทราบได้ยังไงกันล่ะคะ”
“แต่มีคนเห็นว่าคุณอยู่กับวรันธาราเป็นคนสุดท้าย”
วาเนสซ่าเริ่มหน้าซีด แต่ก็ยังพยายามหาทางเอาตัวรอด
“เอ่อ เนสไม่ทราบจริงๆ ค่ะ ว่าแต่ทำไมคุณเคนไม่ลองโทรหาดูล่ะคะ”
“ผมโทรแล้วแต่เครื่องถูกปิด”
คนฟังลอบยิ้มสะใจ ก็หล่อนเป็นคนสั่งให้วรันธาราปิดโทรศัพท์มือถือด้วยตัวเองนี่น่า
“งั้นเนสก็ช่วยอะไรไม่ได้หรอกค่ะ เนสขอตัว…”
“อย่าพึ่งไป”
เควินเดินเข้ามาใกล้ๆ กลิ่นไอความอำมหิตทำให้วาเนสซ่าต้องถอยหลังหนีโดยอัตโนมัติ
“บอกความจริงกับผมมา อย่าให้ผมรู้ด้วยตัวเอง เพราะคุณจะตายทั้งเป็น”
วาเนสซ่าสั่นงั่กราวกับเจ้าเข้า แต่ก็ยังคงยืนกรานปากแข็ง
“เนส… เนสไม่รู้จริงๆ ค่ะ เนส…”
“ก็ได้…”
เควินกัดฟันกรอด รู้สึกเป็นห่วงวรันธารามากขึ้นเป็นเท่าตัวเลยทีเดียว
“ผมต้องการดูกล้องวงจรปิด เดี๋ยวนี้!”
“ครับคุณเควิน”
เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องรีบกุลีกุจอทำตามคำสั่ง ในขณะที่วาเนสซ่าถอยหลังกลับไปนั่งที่โต๊ะด้วยความหวาดกลัว หล่อนจะทำยังไงดี ถ้า… ถ้าเควินรู้ หล่อนต้องแย่แน่ๆ
วาเนสซ่ากังวลหนักรีบส่งข้อความทางไลน์ไปหาวรัญญา
“พี่เรยา สำเร็จหรือยังคะ ตอนนี้คุณเควินรู้แล้วนะคะว่านังธารมันหายตัวไปจากซันไทมส์”
ไม่มีการตอบรับจากวรัญญา แต่กลับมาเสียงแตกโพล๊ะดังขึ้นตรงหน้า วาเนสซ่ากรีดร้องตกใจเจียนช็อก
“คุณ… คุณเควิน!”
เควินหน้าตาแดงก่ำ จ้องหน้าหล่อนเขม็ง ในมือยังถือเก้าอี้ที่พึ่งฟาดลงกับโต๊ะทำงานของหล่อนไปเอาไว้แน่น
“สารภาพมาซะดีๆ คุณให้วรันธาราไปที่ไหน!”
“เนส… เนสไม่รู้… ไม่รู้ค่ะ ว๊ายยย…”
โต๊ะทำงานของวาเนสซ่าถูกเก้าอี้ฟาดลงมาอีก จนกระจกบนหน้าโต๊ะแตกเป็นเสี่ยง บางส่วนกระเด็นมาบาดที่ใบหน้าของวาเนสซ่าโดยบังเอิญ แต่กระนั้นก็ยังไม่สามารถดับโทสะของเควินได้
“บอกผมมาเดี๋ยวนี้! อย่าให้ผมต้องฆ่าคุณเลย…”
“เนส…”
“บอกมาสิ เอาเมียของผมไปไว้ที่ไหน! บอกมาสิโว๊ย!”
ร่างของวาเนสซ่าถูกกระชากจนลอยข้ามโต๊ะออกมา จากนั้นมือใหญ่ของเควินก็กุมลำคอเล็กเอาไว้แน่น ท่ามกลางสายตาของคนในสำนักพิมพ์ แต่ไม่มีใครกล้ายื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเกิน
“บอกมา! บอกมาสิ”
“บอก… บอกแล้วค่ะ บอกแล้ว…”
แม้จะอยู่ข้างเดียวกับวรัญญา และจงเกลียดจงชังวรันธารามากแค่ไหนก็ตาม แต่สถานการณ์ตรงหน้าทำให้หล่อนไม่อาจจะต่อกรได้เลย เควินกำลังเป็นบ้า เขาฆ่าหล่อนแน่ ถ้าไม่ยอมบอกความจริง
“บอกมาสิ!”
“ห้าง…”
“บอกมาสิว่าที่ไหน?!”
“ ห้างดับบลิวเวิร์ลค่ะ โอ๊ย…”
ร่างของวาเนสซ่าถูกผลักจนกลิ้งลงไปกับพื้น พร้อมกับการเคลื่อนไหวที่แสนรวดเร็วของเควิน ชายหนุ่มออกไปแล้ว แต่ภายในสำนักพิมพ์ยังคงเต็มไปด้วยความเงียบกริบเช่นเดิม มีแต่เสียงร้องไห้ของวาเนสซ่าเท่านั้นที่ดังขึ้นแผ่วเบา