เอาจริงๆ วรันธาราแปลกใจตั้งแต่เห็นสถานที่ที่ใช้ในการสัมภาษณ์ตั้งแต่อ่านไลน์ของวาเนสซ่าแล้ว แต่ตอนนั้นรีบร้อนทำให้ไม่ทันได้ถามไถ่อะไรออก แต่พอมาถึงห้างดับบลิวเวิร์ลเข้าจริงๆ ยิ่งรู้สึกถึงความวุ่นวายมากยิ่งขึ้น
สถานที่แบบนี้น่ะหรือที่จะใช้สัมภาษณ์นักธุรกิจอย่างโคเซ่ อัซลาน
“คุณวรันธาราใช่ไหมคะ”
เสียงผู้หญิงดังขึ้นด้านหลัง และวรันธาราก็หมุนตัวกลับไปมอง ผู้หญิงตัวสูงกว่า ผิวขาว ใบหน้าเต็มไปด้วยกระกะ อายุน่าจะสักสามสิบปลายๆ ยืนมองหล่อนอยู่
“ใช่ค่ะ เอ่อ คุณคงเป็นเจ้าหน้าที่ของ…” หล่อนยังพูดไม่ทันจบ ข้อมือก็ถูกกระชากแรงๆ
“นี่คุณจะทำอะไรคะ”
“ถามตามมาเถอะค่ะ เดี๋ยวก็จะรู้เอง”
วรันธาราถูกลากเข้าไปยังบริเวณที่เต็มไปด้วยผู้คนมากมาย และขึ้นไปบนเวลาที่ถูกจัดเตรียมเอาไว้
“ปล่อยนะคะ” หล่อนพยายามสะบัดมือจนหลุด “พวกคุณทำบ้าอะไรกันคะ ฉันจะมาสัมภาษณ์คุณโคเซ่ ไม่มีเวลามาเล่นพิเรนพิเรนทร์อะไรด้วยหรอกค่ะ”
“ยินดีต้อนรับครับคุณวรันธารา”
เสียงของผู้ชายดังขึ้น พร้อมๆ กับเสียงดนตรีดังขึ้นตามหลัง หญิงสาวตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
“นี่มันอะไรกันคะ”
ผู้คนที่เดินผ่านไปมาเริ่มหยุดให้ความสนใจ
“พวกคุณเข้าใจผิดอะไรกันหรือเปล่า”
“พวกเรามาจากสำนักข่าวของเทกซัสไลฟ์ครับ วันนี้เป็นเกียรติอย่างสูงที่คุณวรันธารายอมเป็นแขกรับเชิญให้กับพวกเราครับ”
“แขกรับเชิญ?”
“ใช่ครับ”
วรันธารามึนงง และรู้สึกราวกับถูกดูดลงไปในหลุมอากาศ หล่อนมองไปรอบๆ ตัวก็เห็นสายตามากมายจับจ้องมองมา
นี่มันเรื่องอะไรกัน? หล่อนงงไปหมดแล้ว…?
“เชิญนั่งครับ”
“มันต้องมีเรื่องเข้าใจผิดแน่ๆ เลยค่ะ ฉัน…”
ผู้ชายคนนั้นจับหล่อนให้นั่งลงบนเก้าอี้ที่ถูกเตรียมเอาไว้ และไม่สนใจความมึนงงของหล่อนเลย “บทสัมภาษณ์ในวันนี้จะเป็นหัวข้อที่ทุกคนอยากรู้นะครับ ผมหวังว่าคุณวรันธาราจะตอบตามความเป็นจริงทุกอย่าง”
“คือฉัน…”
“ตอนนี้คุณยังทำงานอยู่ที่ซันไทมส์ใช่ไหมครับ”
วรันธาราไม่มีทางเลือก จำต้องตอบ
“ใช่ค่ะ ฉันยังคงทำงานอยู่ที่เดิมค่ะ”
“ที่คุณยังทำงานอยู่ที่เดิม เพราะว่าคุณรักซันไทมส์ หรือว่าเพราะว่าสามีลับๆ ของคุณ อย่างเควิน คาสโตรเซ่นเข้ามาบริหารกันครับ”
วรันธาราหน้าแดงจัด มองคนตั้งคำถามอย่างตกใจ เสียงโห่ไม่พอใจดังขึ้นเป็นระยะ
“ฉัน… รักซันไทมส์”
“แต่ข่าววงในที่ผมได้รับทราบมา คุณอยู่ที่ซันไทมส์ก็เพราะว่าต้องการที่จะสานสัมพันธ์ต่อกับคุณเควิน คุณไม่ต้องการปล่อยมหาเศรษฐีคนนี้ให้หลุดมือไปใช่ไหมครับ”
“ไม่จริงค่ะ”
“แต่การที่คุณยอมนอนกับคุณเควิน แล้วถ่ายรูปเอาไว้เพื่อแบล็กเมล์เมย์นั่น มันบอกเจตนารมณ์ของคุณได้เป็นอย่างดีนะครับ คุณวรันธารา”
วรันธาราหน้าซีดเผือด และอับอายที่สุดในชีวิต หล่อนลุกขึ้นจากเก้าอี้ และมองหน้าคนตั้งคำถาม
“คุณไม่ใช่นักข่าวของเทกซันไลฟ์ เพราะนักข่าวที่แท้จริงจะต้องมีจรรยาบรรณมากกว่านี้ ขอตัวนะคะ” หญิงสาวกัดฟัน และสะบัดหน้าเดินหนีลงจากเวที แต่เสียงตะโกนด่าดังลั่นเสียก่อน
“อีนักข่าวสารเลว มึงใช้วิธีแบบนี้จับผู้ชายได้ยังไง” พอคนแรกด่าจบก็มีคนที่สอง ที่สามตามมาไม่รู้จบ และนั่นก็ทำให้คนที่มุ่งดูอยู่คล้อยตามอย่างง่ายดาย ทุกคนต่างกู่ก้องด่าทอหล่อนอย่างหยาบคาย
“อีสารเลว มึงทำแบบนี้ได้ยังไง มึงทำกับเควินสุดที่รักของพวกกูได้ยังไง”
วรันธารายกมือขึ้นปิดหู และถดถอยหนีเมื่อคนพวกนั้นกรูกันเข้ามา ไม่มีใครห้ามปรามเลยสักคน ราวกับว่าทุกอย่างมันถูกเตรียมพร้อมเอาไว้เพื่อฆ่าหล่อนทั้งเป็นโดยเฉพาะ
“พวกคุณ… เข้าใจผิด… โอ๊ย…” มือของใครคนหนึ่งขยุ้มลงมาบนเส้นผม ทึ้งแรงๆ จนหล่อนน้ำตาไหล
“อีเลว อีผู้หญิงเลว”
“จัดการมันเลย จัดการมันให้สาสมกับสิ่งที่มันทำกับเควินยอดรักของพวกเรา”
เสียงหนึ่งตะโกนสั่ง และเมื่อวรันธาราพยายามเอียงหน้าไปมองก็เห็นว่าเป็นวรัญญานั่นเอง
“คุณ… โอ๊ย…”
วรัญญาหัวเราะสะใจ เมื่อคู่แข่งหัวใจกำลังถูกยำเละด้วยฝูงชนจำนวนไม่น้อย หล่อนจ้างมาแค่สามสี่คน แต่ที่เหลือคือการคล้อยตามที่ยิ่งใหญ่เหลือเกิน
“ปล่อย… ปล่อย… ฉัน… ฉันเจ็บ…”
วรันธาราครางขอความเห็นใจ ท่ามกลางคนมุ่ง ท่ามกลางการทำร้าย ศีรษะของหล่อนถูกจับโขลกกับพื้นแรงๆ จนเลือดไหลออกมา
“ปล่อย… ปล่อยฉัน… ช่วยด้วย…”
แต่คนพวกนั้นหาได้พอใจไม่ ยังคงทุบตี และขว้างปาสิ่งของที่พอจะหาได้ใกล้ตัวใส่หล่อนตลอดเวลา
“อย่า… ทำร้ายฉัน…”
วรันธาราดิ้นรนจนหลุด และไปซุกตัวอยู่ที่ขอบเวที มองฝูงชนที่ยืนห้อมล้อมด้วยความหวาดกลัว
“มึงต้องโดนหนักกว่านี้” คนที่วรัญญาจ้างมาควักมือคัตเตอร์ออกมาจากกระเป๋าสะพาย และเลื่อนใบมีดขึ้นสุดจุด
“อย่า…”
วรันธาราพยายามดิ้นหนี แต่ผู้หญิงคนนั้นก็เดินเข้ามาหา พร้อมกับจิกเส้นผมของหล่อนอีกครั้ง
“ออกไปจากชีวิตของเควินซะ”
“อย่า… อย่าทำอะไรฉันเลย อย่า… ได้โปรด…”
คำวิงวอนของหล่อนไร้เสียง หยาดน้ำตาแห่งความหวาดกลัวไร้ความหมาย ในที่สุดจุดจบของหล่อนก็คือการถูกคนพวกนี้ทำลายอย่างนั้นหรือ
เงาสะท้อนของใบมีดใกล้เข้ามาเรื่อยๆ หล่อนเบี่ยงหน้าหนี แต่ก็ไม่พ้น มีดกำลังจะกดลงบนผิวหน้าของหล่อน อีกนิดเดียว อีกนิดเดียว
“อย่า…”
“อย่าแตะต้องคนของผม!”
เสียงวี๊ดร้องด้วยความตกใจ พร้อมๆ กับผู้หญิงที่กำลังจะกรีดหน้าของหล่อนที่กระเด็นหวือออกไปกระแทกกับพื้น
“เควิน…”
วรันธาราโผเข้ากอดร่างกำยำเอาไว้แน่น กอดและร้องไห้อย่างเสียขวัญ
“ไม่เป็นไรแล้ว… ไม่เป็นไรแล้วคนดี” เควินกอดตอบ ห่วงใยสุดหัวใจ ก่อนจะตวัดมองหน้าทุกคน
“ผมจะแจ้งความจับทุกคน ข้อหาทำร้ายผู้หญิงของผม”
“อ้าว ไหนนักข่าวคนนั้นบอกว่า… คุณถูกแบล็คเมล์เมย์จากผู้หญิงคนนี้ไงคะ แล้วยังจะคนนั้นอีก…”
หนึ่งในคนชุมชนชี้ไปยังวรัญญาที่ตอนนี้หมุนตัวเดินหนีออกไปอย่างรวดเร็ว แต่เควินจำได้แม้จะแค่แผ่นหลังก็ตาม
“ฟังเอาไว้ และอย่าโง่เชื่อคำพูดของคนบ้าที่ไหนอีก” เควินกอดร่างของวรันธาราแน่นขึ้น พลางก้มลงจูบเบาๆ ที่หน้าผากมน “ผมกับวรันธารากำลังจะแต่งงานกัน ดังนั้นไม่มีทางที่เธอจะแบล็คเมล์เมย์ผม”
“งั้นพวกเราก็เข้าใจผิดสิคะ”
เควินกัดฟันกรอด เมื่อเห็นเลือดที่ไหลออกจากหน้าผากของวรันธารา
เขาอยากจะฆ่าคนพวกนี้หมดสิ้นนัก!
“เตรียมเงินประกันตัวเอาไว้กันได้เลย เพราะผมจะเอาเรื่องทุกคน โดยเฉพาะเธอ…” เควินจ้องหน้าผู้หญิงที่จะกรีดหน้าวรันธารา ถ้าเขามาไม่ทัน… ถ้าเขามาไม่ทัน ไม่อยากจะคิดเลยว่าวรันธาราจะยับเยินแค่ไหน
“ฉัน… ฉันถูกจ้างมาค่ะ ฉัน…”
“เอาไว้คุยกับตำรวจก็แล้วกัน” เควินตวาดลั่น ก่อนจะก้มลงถามหญิงสาวในอ้อมแขนอย่างห่วงใย “ผมจะพาคุณไปโรงพยาบาล วรันธารา”
หญิงสาวมองเขาด้วยความซาบซึ้งใจ “ฉัน… ฉันขอโทษ… ที่ผิดสัญญากับคุณอีกแล้ว”
“อย่าพึ่งพูดถึงมันเลย ตอนนี้ขอแค่คุณปลอดภัยก็พอ”
แล้วเควินก็ช้อนร่างอรชรขึ้นมาอุ้มเอาไว้แนบอก ก่อนจะเดินผ่าฝูงชนออกไป ซึ่งก็เป็นจังหวะเดียวกันที่ตำรวจมาพอดี
“ทุกคนห้ามขยับ เชิญตัวไปให้ปากคำที่โรงพักทั้งหมด”