วรันธาราสะดุ้งตื่นเมื่อเสียงฝีเท้าดังใกล้เข้ามา หยุดที่ข้างเตียง หญิงสาวลืมตาขึ้นทันที และก็ได้เห็นเขา
“เควิน…”
“ผมทำคุณตื่นใช่ไหม” น้ำเสียงของเขาช่างอ่อนโยนเหลือเกิน
“ไม่ใช่หรอกค่ะ ฉันยังไม่ได้หลับเลยต่างหาก”
เควินทรุดกายลงบนเก้าอี้ข้างเตียง ก่อนจะกุมมือเล็กเอาไว้ “แล้วทำไมไม่ยอมพักผ่อน แบบนี้เมื่อไหร่จะได้กลับบ้านกันล่ะ”
“ฉันไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย ความจริงวันนี้ก็กลับได้แล้ว แต่คุณนั่นแหละไม่ยอมให้กลับ” หล่อนพ้อเสียงเบา
เควินส่ายหน้า “จะไม่เป็นอะไรได้ยังไงกัน หน้าผากก็แตก แก้มก็ช้ำ ไหนจะรอยเขียวตามเนื้อตัวคุณอีก อยู่ใกล้หมอนั่นดีแล้ว”
นัยน์ตาสีน้ำเงินอมดำของเควินจับจ้องไปตามร่องรอยบนเนื้อตัวของหญิงตรงหน้า และความรู้สึกเหมือนใจจะขาดก็ระเบิดขึ้น
“ถ้าผมไปไม่ทันจะทำยังไง ผมไม่อยากคิดเลย”
“ฉันก็คงเละมากกว่านี้มั้งคะ”
หญิงสาวตอบติดตลก แต่เควินไม่ได้รู้สึกเช่นนั้น
“ผมคงขาดใจ”
ดวงตากลมโตเหลือบมองคนพูด ก่อนจะก้มหน้าหนีสายตาละมุมของผู้ชายเจ้าของคำพูด
“รู้ไหมว่าผมแทบบ้า ตอนที่หาตัวคุณไม่เจอ”
“ฉัน… ฉันโง่มากใช่ไหมคะ ที่ไปที่นั่น”
“ใช่โง่มาก โง่ซ้ำซาก จนผมอยากจะเขกเขลกกะโหลกคุณเลยทีเดียว”
วรันธาราน้ำตารื้นในดวงตา “ฉัน… ขอโทษค่ะ ที่ทำให้คุณเดือดร้อน ต่อไปจะพยายาม…”
“จะไม่มีครั้งต่อไปอีกแล้ว เพราะเราจะแต่งงานกัน”
“แต่ง… แต่งงาน?” หล่อนได้ยินคำพูดนี้ของเควินตอนที่อยู่ในวงล้อมของฝูงชน แต่ไม่คิดว่าเขาจะจริงจังอะไร
“มันเป็นวิธีเดียวที่จะทำให้ผมได้ดูแลคุณทุกฝีก้าว”
แก้มนวลแดงซ่าน “เอ่อ ความจริงฉันก็ไม่ใช่คนอ่อนแออะไรแบบนั้นสักหน่อย ฉัน… ดูแลตัวเองมาได้ตั้งยี่สิบกว่าปี คุณไม่ต้องเสียสละตัวเองมาปกป้องฉันแบบนั้นหรอกค่ะ”
“ถ้าผมไม่ทำ… คุณก็จะถูกคนพวกนั้นทำร้ายอีก อย่าลืมสิว่าคนพวกนั้นถูกปั่นหัวสำเร็จไปแล้ว พวกเขายังเชื่อว่าคุณแบล็คเมล์เมย์ผมอยู่ สักวันคุณจะต้องถูกทำร้ายอีก”
วรันธาราช้อนตาขึ้นมองคนพูด เขาเหมือนห่วงใย แต่กลับยิ่งทำให้หล่อนรู้สึกห่างไกลเหลือเกิน
แต่งงานเพราะต้องการปกป้อง?
“แต่… ถ้าฉันระวังตัวมากขึ้น…”
“มันไม่พอหรอก และไม่ใช่ทางออกที่ดี เชื่อผมสิ แต่งงานกับผม และถ้าเมื่อไหร่เราเบื่อกัน เราก็จะหย่าขาดจากกันทันที”
“เควิน… นี่คุณกำลังจะริดลิดรอนอิสรภาพของตัวเองเพื่อผู้หญิงที่เคยหลอกลวงคุณนะคะ”
ดวงตาของเควินไหววูบ ก่อนที่เขาจะเสมองไปทางอื่น พร้อมกับปล่อยคำพูดออกมา
“มันก็แค่ชั่วคราวน่า ผมแค่ไม่อยากมาโรงพยาบาลบ่อยๆ เพียงเพราะต้องมาเฝ้าคู่นอนแบบคุณ”
นี่หล่อนควรยินดีไหมเนี่ย?
“คุณ… คิดดีแล้วหรือคะ เควิน”
“แน่นอน ผมคิดดีแล้ว และจะไม่มีอะไรผิดพลาดอีก เราจะแต่งงานกันให้เร็วที่สุด”
“ฉัน… ฉันอยากให้คุณตัดสินใจอีกครั้ง อย่างน้อยๆ ก็ให้คิดถึงความเป็นจริงก่อน”
เควินนั่งเงียบรับฟัง
“คุณมองฉันสิคะ… ฉันไม่ได้สวยขนาดที่คุณจะเลือกเอามาเป็นคู่นอนได้ด้วยซ้ำ คนรักเก่าของคุณสวยกว่าฉันเป็นพันเท่า และเธอก็กลับมาแล้ว ทำไมคุณไม่…”
“แต่คุณสวยมาก… เวลาอยู่ใต้ร่างของผม วรันธารา”
เขาพูดให้หล่อนแก้มแดงจัดเลยทีเดียว วรันธาราขัดเขิน จนต้องดึงมือหนี “ฉัน… ฉันไม่ได้หมายถึงเรื่องแบบนั้นสักหน่อย”
“ในความหมายของผมมันคือทุกเรื่อง” แล้วเขาก็ตรึงปลายคางของหล่อนอีกครั้ง พร้อมกับจ้องหน้า
“ความสุขคือสิ่งที่ผมต้องการในชีวิต และการมีคุณอยู่ข้างๆ ทำให้ผมมีความสุข”
“เควิน…”
เหมือนเขากำลังจะสารภาพรัก?
“ดังนั้นอยู่ด้วยกันก่อน… จนกว่าจะเบื่อหน่ายกัน”
หัวใจของวรันธาราเหี่ยวแห้งลงกับประโยคต่อมาของเควิน
“ค่ะ ถ้าคุณต้องการแบบนั้น ฉันก็ตกลง ขอบคุณนะคะที่พยายามทำทุกอย่างเพื่อปกป้องฉัน”
“ผมไม่มีวันยอมให้ใครทำลายของที่เป็นของตัวเองได้หรอก คุณสบายใจได้ วรันธารา”
หญิงสาวเอียงหน้าหนี จนปลายคางหลุดจากนิ้วแกร่ง “ฉัน… ฉันง่วงแล้วค่ะ ขอพักผ่อนนะคะ”
เควินมองนิ่ง ก่อนจะพูดออกมา
“งั้นนอนเถอะ ผมไม่กวนแล้ว”
วรันธารามองร่างสูงใหญ่ที่ลุกขึ้นจากเก้าอี้ตรงไปนั่งลงบนโซฟาริมห้องแทนด้วยความประหลาดใจ
“คุณ… จะทำอะไรคะ”
เขาหันหน้ามามอง ก่อนจะอมยิ้ม “ก็จะนอนไงครับ เหนื่อยมาทั้งวันเหมือนกัน”
“แต่คุณ… คุณควรกลับไปนอนที่บ้าน โซฟานั่นคงไม่สบายสักเท่าไหร่”
“ใช่ โซฟานี่มันแข็งเกินไป แต่ที่ผมอดทนก็เพราะไม่อยากทิ้งให้คุณนอนเหงาอยู่ตามลำพัง”
“แต่ฉัน… อยู่ได้ค่ะ”
“ผมรู้ว่าคุณอยู่ได้ แต่ผมไม่ยอมให้คุณอยู่คนเดียวต่างหาก เอาล่ะ นอนได้แล้ว ง่วงไม่ใช่หรือ” แล้วพ่อเจ้าประคุณก็ล้มตัวลงนอน เปลือกตาหนาปิดลงในเวลาต่อมา
วรันธารานอนตะแคงข้างหันหน้าไปทางเขา ก่อนจะอมยิ้มอย่างมีความสุข แม้เควินจะไม่เคยบอกว่ารัก บอกว่าปรารถนา แต่ทุกการกระทำของเขาทำไมถึงทำให้หล่อนแอบคิดไปไกลนักนะ
“คุณคิดยังไงกับฉันกันแน่คะ เควิน…”
หญิงสาวพึมพำในลำคอด้วยความสงสัย ก่อนจะนอนมองใบหน้าหล่อเหลาของคนเฝ้าไข้จนเผลอหลับไปโดยไม่รู้ตัว
เควินค่อยๆ ปรือตาขึ้นมอง และคราวนี้ก็เป็นเขาบ้างที่แอบมองดวงหน้าหวานเงียบๆ ตลอดทั้งคืน
ช่วงสายของวันถัดมา วรันธาราก็ได้กลับบ้านสมใจ ร่างของหล่อนถูก เควินอุ้มขึ้นมาแนบอกทันที เมื่อรถสปอร์ตราคาแพงระยับจอดสนิทที่หน้าคฤหาสน์หรู
“ฉันเดินเองได้ค่ะ เควิน”
“ผมรู้ แต่ผมอยากอุ้มคุณนี่”
คนตัวโตตอบกลับอย่างพาลเกเร ขณะพาหล่อนก้าวเข้าไปภายในตัวตึกใหญ่
“คุณ… คุณเคนคะ”
ป้าเดซี่วิ่งหน้าตาตื่นมาหยุดตรงหน้า
เควินเลิกคิ้วอย่างสงสัยกับท่าทางของแม่บ้านเก่าแก่ ซึ่งหล่อนเองก็รู้สึกเช่นเดิมกัน
“มีอะไรหรือป้าเดซี่”
“คือ… คือว่า…”
ป้าเดซี่ยังไม่ทันพูด เสียงของผู้หญิงอีกคนก็ดังขึ้นด้านหลังเสียก่อน เควินหมุนตัวไปมองทั้งๆ ที่อุ้มวรันธาราอยู่ในอ้อมแขน
“สวัสดี เควิน”
“คุณแม่…”
เควินเบิกตากว้างรู้สึกแปลกใจไม่น้อย “ผมไม่คิดว่าคุณแม่จะแวะมาที่นี่อีก”
แคลอรีน่ามารดาแท้ๆ ของเควินเดินมาหยุดตรงหน้าลูกชาย ก่อนจะปรายตามองผู้หญิงที่อยู่ในอ้อมแขนของลูกชายด้วยสายตามืดดำ
“ถ้าแม่ไม่มา… แล้วจะได้เห็นภาพที่ลูกชายสุดที่รักของแม่อุ้มผู้หญิงเอเชียเอาไว้ในอ้อมแขนเหรอ”
“เอ่อ สวัสดีค่ะคุณแม่” วรันธารารู้สึกหน้าชาดิกกับสายตาไม่เป็นมิตรของแคลอรีน่า
“วรันธารายังไม่แข็งแรง เธอพึ่งออกจากโรงพยาบาล”
“เหรอ”
“ครับ”
ผู้มีมารดาแค่นยิ้ม ก่อนจะช้อนตาขึ้นสบประสานกับลูกชาย
“แม่หวังว่าลูกจะไม่จริงจังกับผู้หญิงคนนี้เกินกว่าคู่นอนทั่วๆ ไปนะ เควิน”
“ผมขอตัวครับ”
แล้วเควินก็อุ้มวรันธาราเดินหนีเอาเสียดื้อ แคลอรีน่ามองตามหลังบุตรชายไปด้วยสายตาไม่พอใจ
“ป้าเดซี่ ผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร”
“เอ่อ…”
“เอ่ออะไร ฉันถามว่านังผู้หญิงที่ออเซาะเควินเป็นใคร?!”
“ปะ เป็น… ผู้หญิงของคุณเคนค่ะ”
“ฉันรู้แล้วว่าเป็นผู้หญิงของเควิน! แต่ที่ฉันถาม เพราะฉันอยากรู้ว่ามันเป็นใคร พื้นเพมาจากที่ไหน เควินถึงได้ทำท่าหลงใหลมันขนาดนี้”
แคลอรีน่าอาละวาด
“เธอ… เป็นนักข่าวค่ะ”
“นักข่าว?”
“ชะ ใช่ค่ะคุณนาย”
“เควินเกลียดนักข่าวไม่ใช่เหรอ”
“ใช่ค่ะ แต่ว่าสำหรับคนนี้คุณเคน… ไม่ได้เกลียด แต่…”
“หุบปากไปเลย แล้วก็ไสหัวไปได้แล้ว”
ป้าเดซี่ก้มหน้าเป่าปากโล่งอก ที่ถูกไล่ออกมา เพราะทุกคนที่นี่ต่างไม่มีใครอยากรองรับอารมณ์ของแคลอรีน่าแม้แต่คนเดียว
“ดิฉันขอ… ขอตัวค่ะ”
แคลอรีน่าเดินกลับไปกลับมาอย่างไม่พอใจ
“เราต้องคุยกัน เควิน!”