อากาศในค่ำคืนนี้หนาวเย็นกว่าทุกคืนที่ผ่านมา…
วรันธารายิ้มบางๆ ขณะดันประตูห้องนอนให้ปิดสนิทลงแผ่วเบาที่สุด สองเท้าขาวสะอาดก้าวไปตามพื้นเย็นเฉียบ ตรงไปยังระเบียงไม้ที่อยู่เยื้องออกไปทางด้านขวา
สายลมพลิ้วโชยแม้แต่ผิวกาย จนร่างอรชรต้องห่อไหล่และยกมือขึ้นกอดอกเพื่อให้ความอบอุ่นกับตัวเอง
หล่อนควรจะนอนอยู่บนเตียง เคียงข้างกายสูงใหญ่ของเควิน ควรจะซุกร่างอยู่ในอ้อมแขนกำยำคู่นั้นของเขา ไม่มีเหตุผลอะไรเลยที่จะเดินออกมายืนมองท้องฟ้ายามมืดครึ้มเช่นนี้เพียงลำพัง แต่หล่อนก็เลือกที่จะเดินออกมา อะไรบางอย่างจากภายในรุ่มร้อนและเต็มไปด้วยความวิตกกังวล
สายตาของแคลอรีน่าสินะ?
ความหวาดหวั่นน่าสะพรึงแทรกลึกเข้ามาในเนื้อหัวใจ มันแผ่ซ่านความเย็นชาลงไปในก้นบึ้งดวงฤดีอย่างล้ำลึก
แคลอรีน่าไม่ชอบหล่อน… ไม่ใช่แค่ไม่ชอบ แต่แคลอรีน่าเกลียดชังหล่อนเข้าไส้เลยล่ะ
วรันธารารู้สึกเศร้าหมองนัก แม้เควินจะไม่ได้รักหล่อน และไม่ได้ต้องการจะใช้ชีวิตคู่กับหล่อนยืดยาว แต่กระนั้นหล่อนก็อดที่จะหวั่นเกรงต่อความรู้สึกที่แคลอรีน่ามีให้ไม่ได้
หญิงสาวปล่อยลมหายใจออกมาทางริมฝีปาก ตัดใจหยุดความฟุ้งซ่านทั้งหมดลง และหมุนตัวจะกลับเข้าห้องนอน แต่เท้าบอบบางก็ต้องชะงัก เมื่อใครบางคนตรงหน้าทำให้หล่อนตกใจ
“คุณแม่…”
“ฉันมีลูกชายเพียงแค่คนเดียว”
วรันธาราก้มหน้า และพึมพำแก้คำพูดของตัวเอง
“คุณแคลอรีน่า”
แม้จะอยู่ภายใต้ความมืดครึ้มของคืนข้างแรม แต่กระแสความชิงชังในสายตาของแคลอรีน่ากลับชัดเจนเต็มความรู้สึกของหล่อน
“ฉันไม่คิดว่าเธอจะมีเวลาออกมายืนรับลมในยามค่ำคืนเหมือนกับคนอื่นหรอกนะ”
หล่อนรู้ดีว่าแคลอรีน่ากำลังจะหาเรื่อง จึงได้แต่ก้มหน้า และเอ่ยขอตัว “ฉันขอตัวก่อนนะคะ”
“เดี๋ยวสิ ฉันมีเรื่องจะคุยกับเธอ”
ข้อมือเล็กถูกคว้าเอาไว้ พร้อมๆ กับน้ำเสียงกระด้างไร้มิตรที่ดังขึ้นตรงหน้า วรันธารารู้สึกใจหาย แต่ก็พยายามที่จะเข้มแข็ง
“คุณแคลอรีน่ามีอะไรกับฉันหรือคะ”
เจ้าของชื่อระบายยิ้มหยัน พลางปล่อยมือของหล่อน “ฉันก็แค่มีเรื่องของเควินจะคุยกับเธอ”
แคลอรีน่าเดินตรงไปหยุดที่ริมระเบียง ในขณะที่วรันธารายืนอยู่ห่างๆ
“เรื่องอะไรเหรอคะ”
“เรื่องคู่ครองของเควิน”
วรันธาราช้อนตาขึ้นสบประสานกับคู่สนทนา และก็ได้เห็นรอยยิ้มหยันในดวงตาของแคลอรีน่าชัดเจน
“ถ้าเป็นเรื่องนี้… ฉันคงไม่มีอะไรจะคุยหรอกค่ะ”
เป็นอีกครั้งที่วรันธาราพยายามจะเดินหนี แต่ทุกครั้งก็ถูกเรียกเอาไว้เสมอ
“เธอรู้ใช่ไหมว่าเควินเป็นลูกชายคนเดียวของฉัน”
“ค่ะ ฉันทราบ”
แคลอรีน่าระบายยิ้ม หรี่ตาจ้องหน้าคู่สนทนาอย่างรังเกียจ “และฉันก็คาดหวังเอาไว้ว่าลูกชายเพียงคนเดียวของตัวเองจะต้องมีคู่ครองที่ดี ที่สมน้ำสมเนื้อกัน ไม่ใช่ต่ำเตี้ยเรี่ยดินแบบเธอ” ท้ายประโยคแคลอรีน่าจงใจกระทบกระเทียบหล่อนเต็มๆ
วรันธาราโกรธแต่ก็พยายามสะกดกลั้นเอาไว้ ท่องเอาไว้ว่าแคลอรีน่าคือมารดาของเควิน ผู้ชายที่หล่อนตกหลุมรัก
“ฉันทราบค่ะ”
“ทราบ? แล้วทำไมถึงไม่ไปจากชีวิตของเควินล่ะ มาทู่ทู้ซี้(ทน)อยู่ทำไม หรือว่าต้องการเงิน”
แคลอรี่น่าหยุดพูดเล็กน้อย พร้อมกับยิ้มหยันตลอดเวลา
“แต่ความจริงเธอน่าจะได้จากเควินมากโขอยู่แล้ว”
คนฟังโกรธจนตัวสั่น กำมือข้างตัวแน่น “ฉันไม่เคยรับเงินจากเควิน ค่ะ”
แทนที่แคลอรีน่าจะเชื่อ แต่หญิงวัยกลางคนกลับหัวเราะเยาะ
“ให้ฉันเชื่อเหรอ”
“ก็แล้วแต่คุณแคลอรีน่าก็แล้วกันค่ะ ฉันขอตัว”
“เดี๋ยว!”
“ฉันไม่มีอะไรจะพูดกับคุณแล้วล่ะค่ะ”
แคลอรีน่าก้าวมาขวางทางเอาไว้
“แต่ฉันมี…”
วรันธาราเมินหน้าหนี กลีบปากเม้มเข้าหากันแน่น
“ฉันมีเงินจะให้เธอ แลกกับการที่เธอจะต้องไปจากชีวิตของเควิน ตลอดกาล”
คนฟังคอแข็ง โกรธจนแทบจะสะกดกลั้นเอาไว้ไม่อยู่
“ฉันจะคิดว่าไม่ได้ยินคำพูดแบบนี้จากปากของคุณก็แล้วกัน”
“ห้าล้าน สำหรับการจากไปของเธอ”
“ต่อให้ร้อยล้านฉันก็ไม่ไปค่ะ เพราะฉันจะได้มากกว่านั้นถ้าอยู่กับคุณเควิน จริงไหมคะ”
เพราะความโกรธจนไม่สามารถควบคุมเอาไว้ได้ ทำให้วรันธาราตอกกลับไปบ้าง
แคลอรีน่าอึ้งไป ก่อนจะกัดฟันพูดออกมา
“แกมันแผนสูง คอยดูเถอะ สักวันแกก็ต้องถูกเขี่ยทิ้ง เควินไม่มีทางนอนกับแกนาน จำเอาไว้ด้วย นังนักข่าวชั้นต่ำ!”
“แต่เรากำลังจะแต่งงานกันค่ะ”
“ก็แค่งานเลี้ยงงานหนึ่ง เธอคิดหรือว่ามันมีความหมายอะไรกับเควินน่ะ เพราะขนาดฉันเป็นแม่ เควินยังไม่เคยเล่าเรื่องของเธอให้ฉันฟังเลย ดังนั้นอย่าทระนงว่าตัวเองได้นอนเตียงเดียวกับลูกชายของฉันแล้วเธอจะชนะ เควินก็แค่ต้องการปลดปล่อย ต้องการความแปลกใหม่ เพราะผู้หญิงตัวจริงของเควินถูกกำหนดเอาไว้แล้ว”
วรันธารากัดฟันแน่น หยาดน้ำตาเอ่อซึมจนต้องรีบกะพริบตาเร็วๆ “ถ้าหมดธุระของคุณแล้ว ฉันขอตัวนะคะ”
“พรุ่งนี้หนูไครี่ย์จะเดินทางมาที่นี่ และก็คงไม่ต้องให้ฉันบอกเธอนะว่าหนูไครี่ย์เป็นใคร”
วรันธาราหมุนตัวหันหลัง ตั้งใจจะรีบเดินหนีออกไปให้เร็วที่สุด แต่สองเท้ากลับก้าวไม่ออก หัวใจเจ็บปวดราวกับถูกเชือดด้วยคมมีแหลม
แคลอรีน่าหัวเราะชอบใจ เดินมาหยุดข้างตัว
“เชื่อฉันสิ ไปจากเควินซะ พร้อมกับเงินจากฉัน”
“ขอบคุณสำหรับความหวังดีค่ะ แต่ฉันไม่ต้องการ”
“อีกเดี๋ยวเธอก็จะต้องการ เชื่อฉันสิ”
แล้วแคลอรีน่าก็ก้าวเท้าเดินผ่านหน้าไป ทิ้งความปวดร้าวเอาไว้ให้หล่อนอย่างมหาศาล วรันธาราน้ำตาไหลอาบแก้ม ปรายตามองไปยังบานประตูห้องนอนด้วยความเจ็บช้ำ
‘เพราะผู้หญิงตัวจริงของเควินถูกกำหนดเอาไว้แล้ว’
เพราะผู้หญิงของเควินถูกกำหนดเอาไว้แล้วอย่างนั้นหรือ? น้ำตาไหลไม่หยุด และมันก็ยากเกินไปที่จะก้าวเข้าไปหาคนตัวโต ในที่สุดวรันธาราก็เลือกที่จะเดินผ่านห้องนอนไปทั้งน้ำตา
วรันธาราค่อยๆ เผยอเปลือกตาขึ้นเมื่อ แสงอาทิตย์ของเช้าวันใหม่สะท้อนเข้ามารอบกายร่างอรชรขยับช้าๆ ด้วยความเมื่อยขบ เพราะเมื่อคืนหล่อนไม่ได้กลับไปนอนบนเตียงกับเควิน แต่เลือกที่จะมานอนขดอยู่บนโซฟาตัวนี้แทน
เมื่อคิดถึงเขา คำพูดของแคลอรีน่าก็พุ่งเข้ามาใส่หัวอีกครั้ง
‘เพราะผู้หญิงตัวจริงของเควินถูกกำหนดเอาไว้แล้ว’
ความเจ็บช้ำเต้นระส่ำอยู่ภายในอก และมันก็ทำให้หล่อนเลือกที่จะอยู่ให้ห่างจากผู้ชายคนนั้น
หญิงสาววางเท้าลงกับพื้นห้อง กำลังจะลุกขึ้นยืน แต่ก็ต้องชะงักเมื่อสายตารับภาพใครบางคนยืนอยู่ที่ปากประตู
“เควิน…”
ร่างสูงใหญ่ในชุดลำลองเรียบหรูยืนกอดอก อิงสะโพกกับวงกบประตูด้วยท่าทางผ่อนคลาย
“คุณ… มาอยู่ตรงนี้ได้ยังไงกันคะ”
เขายืดตัวตรง และเดินตรงเข้ามาหา
“ผมต่างหากที่ต้องถามคำถามนี้ คุณมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง และทำไมไม่กลับไปนอนบนเตียง…” สายตาของเขาเต็มไปด้วยความหงุดหงิด “กับผม”
“คือ…” หล่อนอึกอัก ก่อนจะทำใจแข็งเชิดหน้าสูง “ก็เพราะฉัน… อยากนอนคนเดียวบ้างไงคะ”
“อยากนอนคนเดียว” เขาทำคำพูดของหล่อน ก่อนจะทำหน้าดุดัน “อยากนอนคนเดียว ทั้งๆ ที่มีผัวเป็นตัวเป็นตนแล้วเนี่ยนะ บ้าไปแล้วมั้งแม่คุณ”
“ฉันไม่ได้บ้าสักหน่อย และที่สำคัญ… เราไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย”
เควินส่ายหน้าก่อนจะหัวเราะเยาะ “นอนด้วยกันทุกคืนเนี่ยนะ ไม่ได้เป็นอะไรกัน”
“ก็… ก็ใช่น่ะสิคะ ก็เหมือนที่คุณนอนกับสาวคนอื่นนั่นแหละ ก็คล้ายๆ กัน หรือว่าไม่จริงคะ” หล่อนเมินหน้าแดงซ่านหนีเขา การพยายามพูดในเรื่องพวกนี้ช่างทำให้หล่อนรู้สึกแย่เหลือเกิน แต่ก็จำต้องพูดมันออกไป
“ไม่จริง”
“ไม่… ไม่จริง…?”
“อืมมม์ เพราะจำนวนครั้งที่ผมนอนกับคุณ มันมากกว่ายอดรวมของสาวๆ ครึ่งปีของผมเสียอีก”
“คุณ… คุณหมายถึง…”
“ผมต้องการคุณมากยังไงล่ะ” แล้วเขาก็ฉวยโอกาสตอนที่หล่อนเผลอรวบเอวคอดเข้าไปกอดแนบอก “ผมไม่เคยต้องการผู้หญิงคนไหนมากเท่าคุณมาก่อน” แล้วก็กอดแน่นจนทรวงอกของหล่อนแทบจะหลอมละอายรวมกับแผงอกกว้างเลยทีเดียว
“ปละ ปล่อยค่ะ”
“เอาจริงๆ ผมเบื่อนะที่จะต้องมานั่งสาธยายความรู้สึกงี่เง่าแบบนี้ให้กับใครสักคนฟัง โดยเฉพาะผู้หญิง”
“คุณก็ไม่ต้องพูดสิคะ”
“แต่เพราะเป็นคุณ… ผมจึงจำเป็นต้องพูด”
วรันธารานิ่งอึ้งไป พยายามทำใจแข็ง แต่ก็ทำได้ไม่ตลอดรอดฝั่ง “ฉันไม่ได้มีค่าอะไรกับคุณขนาดนั้นหรอกค่ะ”
“ผมสามารถตัดสินใจเองได้สำหรับเรื่องนั้น”
หญิงสาวเสหลบสายตาคมกริบ ลงมองที่แผงอกกว้างแทน หัวใจเต้นระส่ำรุนแรง
“อย่ากังวลอะไรเกินเหตุ คิดแค่วันนี้ก็พอ…”
คางมนถูกเชยขึ้น สองดวงตาสบประสานกัน “คิดถึงแค่วันที่เราสองคนอยู่ด้วยกันก็พอแล้ว เข้าใจไหม วรันธารา”
ดวงตาของเขามีเวทมนตร์โดยแท้ เพราะมันสะกดหัวใจของหล่อนได้อยู่หมัด จากที่พยายามถอนใจ กลับยิ่งถลำลึกรุนแรง
“เควิน…”
“ไปอาบน้ำด้วยกันเถอะ ผมจะถูหลังให้”
พวงแก้มนวลแดงซ่าน ก้มหน้าหลบสายตาหิวกระหายด้วยความขัดเขิน
เควินหัวเราะชอบใจ “ผมชอบจัง เวลาที่เห็นคุณแดงไปทั้งตัว… โดยเฉพาะเวลาที่ผม…” เขาหยุดพูดเล็กน้อย หอบเบาๆ ครางหูของหล่อน “เคลื่อนไหวอยู่ในตัวของคุณ”
“เควิน…”
ชายหนุ่มย่อตัวลงช้อนร่างอรชรขึ้นมาแนบอก “คราวหน้าถ้าคุณหนีออกมานอนคนเดียวแบบนี้อีก ผมจะปล้ำคุณสามวันสามคืนไม่หยุด เอาให้ตายคาเตียงกันไปข้างเลย”
“คนลามก”
“กับคุณคนเดียว” เควินอมยิ้ม ก่อนจะพาร่างอรชรเดินผ่านปากประตูห้อง และตรงไปยังห้องนอนของตัวเองด้วยความรีบร้อน วรันธาราโอบรอบลำคอแกร่งเอาไว้ ซุกหน้ากับแผงอกกว้างด้วยความขัดเขิน
พอมาถึงห้องนอน ร่างของวรันธาราก็ถูกปล่อยให้ยืนกับพื้นห้อง ในขณะที่คนตัวโตถอยออกห่าง เพียงเพื่อจะฉีกทึ้งชุดลำลองออกจากตัว หญิงสาวแก้มแดงก่ำ เสหลบสายตาจากความงดงามสมชายชาตรีของเควินพัลวัน
“มองผมสิ… ผมชอบเวลาเห็นภาพตัวเองเต้นระริกอยู่ภายในดวงตาของคุณ วรันธารา” เขาในสภาพเปลือยเปล่าเดินเข้ามาหา ความเป็นชายชี้พุ่งคึกคะนอง
“คือ… เค… เควิน…” หญิงสาวสั่นเทาไปทั้งตัว ถดถอยหลังหนีความใหญ่โตที่กำลังจะพุ่งเข้ามาใส่
“อุ๊ย…” เสียงอุทานดังขึ้น เมื่อร่างสั่นเทาถูกกระชากไปกอดรัด “ไหน… ไหนว่าจะอาบน้ำยังไงล่ะคะ”
“ต้องแก้ผ้าก่อน ถึงจะอาบน้ำได้ไม่ใช่หรือ” เควินหัวเราะร่วน จับร่างอรชรเปลื้องผ้าอย่างชำนาญ ไม่ช้าร่างเปลือยก็ตะหง่านเต็มสองตา
“ว้าว…”
หล่อนได้ยินเสียงคำรามพึงพอใจของเควินดังอย่างต่อเนื่องยามที่สายตาจับจ้องมาที่ร่างเปลือยของหล่อน
“อย่า… อย่ามองแบบนั้นสิคะ” มือเล็กยกขึ้นปิดหน้าอกแต่ก็ทำได้ไม่นานเพราะไม่ช้าก็ถูกกระชากออกไป พร้อมๆ กับการกอดรัดที่แน่นหนั่นมากยิ่งขึ้น