ไม่เคยมีช่วงเวลาใดที่การมีชีวิตอยู่จะยากเย็นถึงเพียงนี้… ยากแม้กระทั่งการเวลาหายใจ
ร่างสูงนอนนิ่งอยู่บนเตียงนุ่ม ดวงตาคมกริบเบิกโพลงจ้องอยู่ที่ฝ้าเพดาน สิ่งรอบตัวไม่มีอะไรน่าสนใจ ไม่มีสิ่งใดน่าพึงพอใจอีกแล้ว ตั้งแต่… ตั้งแต่วันที่ผู้หญิงคนนั้นเลือกที่จะทิ้งเขาไป
วรันธารา…
ชื่อของผู้หญิงคนนั้นยังคงติดตรึงอยู่ในสมอง ร้อยครั้งพันครั้งที่เขาเฝ้าบอกตัวเองให้ลบและลืมหล่อนไป แต่ทุกครั้งก็เป็นเช่นเดิม คือยังโหยหา อาลัยอาวรณ์ และปวดหนึบไปทั้งหัวตัวใจ
กรามแกร่งขบกันแน่นเมื่อนึกถึงความเย็นชาที่วรันธาราฟาดใส่ในวันที่เดินจากไป หล่อนเดินจากเขาไปอย่างไร้เยื่อใย
ร่างสูงกำยำผุดลุกขึ้นนั่ง ตวัดขาลงไปแตะกับพื้นห้อง ในขณะที่ดวงตาจ้องมองผ่านบานหน้าต่างออกไปอย่างไร้จุดหมาย กลิ่นหอมของความเสน่หายังคงวนเวียนอยู่รอบกายของเขา และมันก็ทำให้เขาเจ็บปวดจนแทบขาดใจ
มือใหญ่ถูกยกขึ้นลูบใบหน้าแรงๆ เพื่อลดความฟุ้งซ่าน แต่ก็เห็นได้อย่างชัดเจนว่าความตัวเองไม่อาจจะควบคุมความรู้สึกได้อีกแล้ว
หัวใจที่เคยคิดว่าไม่มีทางที่หญิงใดจะเข้าถึง ยามนี้กลับตื้นเขินจนมองเห็นความรู้สึกแท้จริงได้อย่างน่าสังเวชใจ
ลมหายใจถูกผ่อนออกจากริมฝีปากหยักสวยแรงๆ ก่อนที่คนตัวโตจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูง และหายเข้าไปในห้องน้ำ นานแสนนาน
แคลอรีน่านั่งจิบกาแฟอยู่กับไครี่ย์อย่างอารมณ์ดีในห้องรับแขกหรู ใบหน้าของทั้งสองคนยิ้มแย้มพึงพอใจ
“คุณป้าคิดว่าคืนนี้ หนูควรจะเผด็จศึกพี่เคนเลยดีไหมคะ” ไครี่ย์ยิ้มร่าทำหน้าตาระริกระรี้
“ถ้าคืนนี้เควินเมา หนูก็จัดการได้เลย เพราะเราปล่อยเวลาให้ผ่านมาตั้งเป็นอาทิตย์แล้ว”
ไครี่ย์ยิ้มกว้างกับการสนับสนุนของแคลอรีน่า แต่ไม่ช้าก็ต้องหุบยิ้มและทำหน้าขยาดเมื่อนึกถึงตอนที่ตัวเองถูกโยนออกมาจากรถอย่างไม่ไยดีด้วยฝีมือของเควิน “แล้วถ้าพี่เคน… จับหนูโยนออกมาอีกล่ะคะ”
แคลอรีน่ากุมมือของไครี่ย์ บีบให้กำลังใจ “ตอนนี้นังนักข่าวชั้นต่ำมันไม่อยู่แล้ว ทางสะดวกของหนูไครี่ย์แล้วล่ะ”
“แต่หนูก็ยังเห็นพี่เคนหน้าตาบอกบุญไม่รับเหมือนเดิมนะคะ มองก็รู้ว่ายังอาลัยอาวรณ์ผู้หญิงคนนั้นอยู่”
“ก็แค่อาลัยอาวรณ์ แต่ไม่ได้ออกไปตามสักหน่อย หนูไครี่ย์ไม่ต้องกังวล ยังไงป้าก็อยู่ข้างหนู” แคลอรีน่าบีบมือของไครี่ย์อีกครั้ง “หนูคนเดียวที่ป้าอยากได้มาเป็นลูกสะใภ้”
แม้จะยังวิตกกังวลกับท่าทางไม่ไยดีของเควิน แต่พอได้กำลังใจจากแคลอรีน่า ไครี่ย์ก็รู้สึกหึกเหิมขึ้นไม่น้อย “ขอบคุณคุณป้ามากค่ะ งั้นคืนนี้ หนูจะเข้าไปปล้ำพี่เคน”
เด็กสาวพูดออกมาอย่างภาคภูมิใจ จนป้าเดซี่ที่เดินนำขนมมาเสิร์ฟต้องลอบส่ายหน้าน้อยๆ อย่างอ่อนใจ
“วางไว้ตรงนั้นแหละ และไปได้แล้ว”
“ค่ะ คุณแคลอรีน่า”
ป้าเดซี่ก้มรับคำสั่ง ก่อนจะหมุนตัวเดินออกไป ปล่อยให้สองสาวต่างวัยหัวเราะต่อกระซิกกับแผนการลวงสวาทในค่ำคืนที่จะมาถึงกันต่อไป
“ทำไมป้าเดซี่ทำหน้าแบบนั้นล่ะคะ” เสียงสาวใช้ดังขึ้นด้านหลัง และนั่นก็ทำให้ป้าเดซี่ต้องหันไปมอง และเมื่อเห็นว่าเป็นใครก็อดที่จะถอนใจยาวเหยียดไม่ได้
“ก็จะไม่ให้ทำหน้าแบบนี้ได้ยังไงกัน ในเมื่อความคิดแต่ละอย่างของคุณแคลอรีน่ากับคุณไครี่ย์ไม่น่ารักแบบนั้นน่ะ”
“ความคิดไม่น่ารัก?” สาวใช้ทวนคำอย่างสงสัย
“ก็ใช่น่ะสิ คุณเคนไม่รักไม่ชอบก็พยายามยัดเหยียดตัวให้อยู่ได้ สงสารก็แต่คุณธาร ป่านนี้ไม่รู้เป็นตายร้ายดียังไงบ้าง” ป้าเดซี่หน้าเศร้า นัยน์ตามีน้ำตาคลอ
“ก็คงเศร้าเหมือนๆ กับคุณเคนของเรามั้งป้า”
หญิงวัยกลางคนร่างท้วมถอนใจออกมาอีก “ทำไมคุณเคนไม่ไปตามก็ไม่รู้”
“ป้าก็พูดไป ผู้ชายอย่างคุณเคนหยิ่งในศักดิ์ศรีจะตายไป ทั้งชีวิตมีแต่ผู้หญิงวิ่งตาม ไม่มีทางไปตามฉุดตามลากผู้หญิงคนไหนหรอก”
“แต่คุณเคนรักคุณธาร”
ป้าเดซี่แย้งออกมา ก่อนจะทำหน้าเศร้าลงไปอีกเมื่อนึกถึงความจริง
“แต่บางที… ข้าอาจจะเข้าใจผิดไปก็ได้ ผู้ชายอย่างคุณเคนคงไม่มีทางหลงรักผู้หญิงคนไหนง่ายๆ แม้ว่าผู้หญิงอย่างคุณธารจะน่ารักมากก็เถอะ”
“น่ารักแต่ก็ใช่ว่าจะรักนะป้าเดซี่”
ป้าเดซี่เหลือบตามองคู่สนทนา ก่อนจะถอนใจออกมาอีกครั้งเฮือกใหญ่
“ข้าก็แค่ลุ้นอยากให้คุณเคนกับคุณธารรักกัน แต่ในเมื่อมันไม่ใช่ เราก็ต้องยอมรับความจริง”
ทำทำไมท้องฟ้าของวอชิงตันไม่สวยงามเหมือนกับท้องฟ้าที่เทกซัสเลยนะ วรันธารากะพริบตาเร็วๆ เพื่อขับไล่หยาดน้ำตาให้ไหลกลับเข้าไปภายใน แต่ไม่ว่าจะพยายามแค่ไหน น้ำตาก็ยังคงไหลพรากอย่างไม่ไยดีต่อความอับอายของหล่อนเหมือนเดิม
คิดถึง… คิดถึงเควินเหลือเกิน…
ความรู้สึกนี้มันกรีดร้องอยู่ในอกทุกวินาที หัวใจของหล่อนเหมือนตายทั้งเป็น ยามที่ต้องก้าวออกมาจากไออุ่นของเควิน หล่อนรักเขา คิดถึงเขา หล่อนต้องนอนทรมานในทุกๆ ค่ำคืน ต่อสู้กับความโหยหาที่ไม่มีวันได้สัมผัสมันอีกแล้ว
หัวใจปวดร้าว หยาดน้ำตารินไหลตลอดเวลา…
“ทำไมฉัน… ถึงลืมคุณไม่ได้สักที เควิน…”
หญิงสาวกัดปากแน่นจนลิ้นเล็กได้ลิ้มรสเลือดฝาด น้ำตายังคงไหลพรากอาบแก้มอย่างต่อเนื่อง
ตั้งแต่วันนั้น… วันที่ตัดสินใจก้าวออกมาจากชีวิตของผู้ชายอันเป็นที่รัก หล่อนก็เตรียมใจเอาไว้ว่าจะต้องพบเจอกับความทุกข์ทรมานมากมายแค่ไหน แต่พอได้เผชิญหน้ากับมันจริงๆ ความรู้สึกที่เตรียมพร้อมเอาไว้ กลับไม่อาจจะทัด ทานความปวดร้าวในอกได้เลย
หล่อนเจ็บ… เจ็บเจียนแทบขาดใจ…
“ฉันคิดถึงคุณ… คิดถึงคุณเหลือเกิน…”
ท้องฟ้ายามมองผ่านม่านน้ำตาช่างหม่นหมองจนน่าปวดใจ วรันธาราสะอื้นเบาๆ แต่กลับทำให้ทำให้ร่างทั้งร่างสั่นสะท้านอย่างรุนแรง
ป่านนี้เควินคงจะอยู่ในโลกของเขาเรา… มีความสุขกับชีวิตที่เต็มไปด้วยแบบแผนและระเบียบวินัยเหมือนกับตอนก่อนที่หล่อนจะก้าวเข้าไปในชีวิตล่ะมั้ง
มือเล็กยกขึ้นป้ายหยาดน้ำตาทิ้ง ขณะพยายามหยุดคิดเรื่องของเควิน แต่ก็ทำไม่สำเร็จ เมื่อภาพในอดีตย้อนเข้ามาในหัวไม่หยุดหย่อน ภาพรอยยิ้มแสนโหยหา อ้อมกอดที่เต็มไปด้วยความอบอุ่น และสายตาที่เต็มไปด้วยความต้องการมากมาย
ไม่มีอีกแล้ว… ทุกอย่างมันจบลงแล้ว… จริงๆ
วรันธาราสะอื้นฮักแรงขึ้นเรื่อยๆ ความเจ็บปวดแผ่ซ่านไปทั่วทั้งร่างกาย โดยเฉพาะที่หัวใจช่างรุนแรงนัก หล่อนควรจะลืม แต่กลับจำทุกอย่างที่เกี่ยวกับ เควินได้เป็นอย่างดี
ลำคอของหญิงสาวตีบตัน ปวดแสบร้อนผ่าวจนไม่สามารถกลืนน้ำลายลงไปในลำคอได้อีก หยาดน้ำตาทะลักไม่หยุด หล่อนกำลังเจ็บปวดเจียนตาย แล้วเควินล่ะ ตอนนี้เขากำลังรู้สึกยังไงอยู่
เขาอาจจะกำลังหัวเราะ มีความสุข กับผู้หญิงคนนั้น… ไครี่ย์ ผู้หญิงที่ถูกเลือกเอาไว้แล้ว ให้เป็นคู่ชีวิตของเควิน คาสโตรโตเซ่น
หัวใจกรีดร้องด้วยความทรมาน สองมือถูกยกขึ้นปิดหน้า รองรับคราบน้ำตาแห่งความเจ็บปวดอย่างอ่อนล้าอ่อนแรง
“ธาร…”
เสียงเรียกแผ่วเบาด้านหลังทำให้วรันธาราจำต้องลดมือลง ภาพของณดาเลือนลางอยู่หลังม่านน้ำตา
“ณดา…”
“ธารไม่เป็นไรใช่ไหม”
ณดาถามเสียงแผ่วเบา มองเพื่อนด้วยความสงสารจับใจ ขณะทรุดกายลงนั่งข้างๆ
วรันธาราส่ายหน้าน้อยๆ หยาดน้ำตายังคงไหลพรากตลอดเวลา “ฉัน… ฉันไม่เป็นไร… ไม่เป็นไรจริงๆ”
ณดาผ่อนลมหายใจแผ่วเบา พลางดึงร่างสั่นสะท้านของเพื่อนรักเข้ามากอดปลอบประโลม
“ถ้าลืมไม่ได้ ทำไม… ไม่กลับไปหาล่ะ”
คนที่กำลังร้องไห้อยู่ส่ายหน้าน้อยๆ อย่างสิ้นหวัง
“กลับไปก็เจ็บอยู่ดี…”
“แต่เธอรักเขามากนะธาร บางทีการได้พูดคุยกันอาจจะทำให้เข้าใจกันมาขึ้นก็ได้ ฉันว่า…”
ณดาพยายามจะหาทางออกให้เพื่อนรัก
“มันไม่มีประโยชน์อะไรอีกแล้วล่ะ ในเมื่อ… เขามีผู้หญิงที่เพียบเพรียบพร้อมอยู่แล้ว ในขณะที่ฉัน… เป็นได้แค่ผู้หญิงคั่นเวลาเท่านั้น”
“ธาร…”
“ณดา… ได้โปรดอย่าพูดถึงเขาอีกเลย… ฉันขอร้อง…” วรันธารามองเพื่อนอย่างวิงวอน
“ถ้าการไม่พูดถึงคุณเควินจะทำให้เธอรู้สึกดีขึ้น ฉันจะไม่พูดถึงเขาอีก ฉันสัญญา…”
ณดาพยักหน้ารับ รู้สึกไม่สบายใจเลยกับสภาพของวรันธารายามนี้นักแต่ก็ไม่อาจจะช่วยเหลืออะไรเพื่อนรักได้เลย