วรันธารารีบยกมือขึ้นป้ายน้ำตาทิ้ง เมื่อเห็นณดาหิ้วถุงใส่กับข้าวและผลไม้พะรุงพะรังอยู่เต็มมือ หญิงสาวรีบวิ่งไปช่วยถืออย่างมีน้ำใจ
“ทำไมวันนี้ซื้อของมาเยอะจังเลยล่ะณดา”
ผู้หญิงผมสีดำขลับแต่ขมวดเป็นปมเอาไว้ด้านบนตลอดเวลาอย่างณดาอมยิ้มเอียงอาย ดวงตากลมโตใต้กรอบแว่นหนาหน้าอารมณ์เดียวกับคุณครูบ้านนอกเป็นประกายหวานฉ่ำ
“พี่ขุนยอมมากินมื้อเย็นกับพวกเราน่ะ”
วรันธาราอยากจะทำหน้าหงิกใส่นัก แต่พอเห็นความดีใจของเพื่อนรักแล้วก็จำต้องสะกดกลั้นเอาไว้
ขุนศึกเป็นผู้ชายจำพวกไม่หล่อแถมยังเห็นแก่ตัวเป็นที่สุด ณดาเป็นผู้หญิงคนเดียวที่ยอมถูกไอ้หมอนี่มันหลอกใช้
“ถ้าเธอดีใจขนาดนี้ ก็แสดงว่าหมอนั่น… เอ่อ พี่ขุนศึกของเธอไม่ได้มากินข้าวกับเธอนานแล้วใช่ไหมล่ะ”
ณดาพยักหน้ารับน้อยๆ
“น่าจะเกือบเจ็ดเดือนแล้วล่ะธาร แต่ช่างมันเถอะ วันนี้พี่ขุนยอมมาแล้ว ฉันดีใจมากเลย”
“ไม่ต้องบอกก็รู้น่า ยิ้มปากแทบฉีกขนาดนั้นน่ะ”
วรันธาราหมุนตัวไปหยิบจานมาวางบนพื้น และช่วยณดาแกะอาหารออกมาจากถุง
“ฉันถามอะไรหน่อยสิได้ไหม ณดา”
ณดาที่กำลังอารมณ์ดีพยักหน้ารับน้อยๆ “ได้สิ ถามมาเถอะ ฉันไม่มีความลับกับเธออยู่แล้วล่ะ”
“เธอไม่เคยคิดจะเลิกกับพี่ขุนเลยเหรอ ทั้งๆ ที่หมอนี่ทำเธอเจ็บมาไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งแล้ว ทั้งหลอกใช้ทั้งหลอกเอาเงิน แต่เธอก็ท๊นทน ทนยังกับสีทนได้เลยนะ”
ความรู้สึกเจ็บปวดถูกซ่อนเอาไว้ใต้กรอบแว่นหนาอย่างรวดเร็ว ก่อนที่ ณดาจะกลบเกลื่อนมันออกมา
“ช่วงนี้พี่ขุนดีขึ้นมากแล้วล่ะธาร ตอนที่ฉันโทรหาเมื่ออาทิตย์ก่อน พี่ขุนเกริ่นเรื่องแต่งงานด้วยแหละนะ”
วรันธาราลอบถอนใจออกมาด้วยความกังวล “ถ้าหมอนั่นขอแต่งงาน อย่าพึ่งแต่งได้ไหมณดา”
เจ้าของชื่อเงยหน้าขึ้น มองเพื่อนรักนิ่ง คำว่า ‘ทำไม’ ดังอยู่ภายในอก แต่ก็ยังไม่ได้พูดออกมา เพราะวรันธาราพูดขึ้นก่อน
“ฉันหวังดีกับเธอเสมอนะณดา แต่กับพี่ขุน ฉันว่าเขาไม่เหมาะสมกับผู้หญิงไร้เดียงสาแบบเธอหรอก เธออ่อนต่อโลกเกินไป ซื่อมากจนถูกหลอกมาไม่รู้กี่ครั้งแล้ว”
ณดาตาเศร้า พลางก้มหน้า ตอบเสียงเบา “ผู้หญิงเชยๆ เฉิ่มๆ อย่างฉัน ไม่มีสิทธิ์เลือกหรอกธาร”
“ทำไมจะไม่มีสิทธิ์เลือกล่ะ เธออย่าตีค่าตัวเองต่ำนักสิ”
ณดาน้ำตาซึมขอบตา พลางพูดถึงอดีต “เพราะฉันโง่ ไม่ฉลาด ทำให้ฉันมักถูกเพื่อนๆ แกล้งเสมอ และถ้าวันนั้น… พี่ขุนไม่เข้ามาขวางเอาไว้ ฉันอาจจะถูกตบทำร้ายจนตายไปเลยก็ได้”
วรันธารากุมมือเพื่อนรักเอาไว้ และบีบเบาๆ อย่างเห็นใจ “วันนั้นใครเห็นก็ต้องเข้าไปช่วยกันทั้งนั้นแหละ แต่แค่บังเอิญเป็นพี่ขุนเท่านั้นแหละ”
“แต่ยังไงซะพี่ขุนก็ช่วยฉันเอาไว้จากเพื่อนเกเรพวกนั้น ฉันจึงไม่อาจจะโกรธพี่ขุนได้ แม้ว่าเขาจะนอกใจฉันมากมายก็ตาม”
“เธอทำได้สิ ณดา ฟังฉันนะ บุญคุณของเธอกับพี่ขุนน่ะมันจบกันไปแล้ว ตั้งแต่วันที่เธอให้พี่ขุนยืมเงินเก็บทั้งหมดไปนั่นแหละ”
ณดานิ่งเงียบ
วรันธาราจึงพูดขึ้นอีก “เชื่อฉันสิ ผู้ชายดีๆ ยังมีอีกมากมาย สักวันเธอต้องเจอผู้ชายคนนั้น”
“แต่ฉัน… คิดว่าตัวเองอาจจะรักพี่ขุน”
“มันไม่ใช่ความรักหรอก มันก็แค่ความรู้สึกดีๆ เท่านั้น ถ้าวันหนึ่งวันใดเธอตื่นนอนขึ้นมาแล้วอยากเจอผู้ชายคนนั้นทุกวินาที ในหัวของเธอเต็มไปด้วยภาพของเขา หัวใจของเธอก็เต้นแรงทุกครั้งเมื่อได้สบตากับเขา และเธอยอมทำได้ทุกอย่างในสิ่งที่เขาคนนั้นต้องการ นั่นแหละคือความรัก…”
ณดานิ่งเงียบ อึ้งไปสักพัก จึงพูดออกมาอีกครั้ง “ฉัน… ก็อยากให้พี่ขุนมีความสุข”
“แล้วในหัวของเธอมีพี่ขุนอยู่ตลอดเวลาหรือเปล่า หัวใจของเธอเต้นแรงไหมเวลาอยู่กับพี่ขุนน่ะ”
“ไม่…”
ณดาตอบออกมาตามความจริง
“แล้วเธอยอมให้พี่ขุนทุกอย่างหรือเปล่า แต่ฉันว่าไม่… เพราะเธอไม่ยอมนอนกับพี่ขุน”
ณดาแก้มแดงก่ำ ก้มหน้าหลบสายตาของเพื่อนรัก
“ฉันคิดว่า… มันยังไม่ถึงเวลา…”
“เธอไม่ได้รักพี่ขุนหรอก แค่ยึดติดเอาไว้เท่านั้นเอง”
คำพูดของวรันธาราดังก้องอยู่ในสองหู ณดาพยายามไม่คิดถึงมัน แต่ก็อดที่จะระลึกถึงไม่ได้
ใช่… หล่อนไม่เคยหัวใจเต้นแรงยามอยู่ใกล้ขุนศึกเลย และไม่เคยมีขุนศึกอยู่ในหัวตลอดเวลาอย่างที่วรันธาราว่าจริงๆ และที่สำคัญที่สุด… หล่อนไม่เคยให้ขุนศึกล่วงเกินมากกว่าการจับมือเลยแม้แต่ครั้งเดียว
“เอาเป็นว่าเธอค่อยๆ คิดก็แล้วกัน ถ้าสิ่งที่ฉันพูดเป็นเรื่องจริง เธอก็รีบเลิกกับผู้ชายคนนี้เถอะ”
“ปล่อยให้มันเป็นแบบนี้ก็ดีแล้วนี่ธาร อย่างน้อยๆ ฉันก็ยังมีคนให้คิดถึงเวลาที่เหงา”
วรันธาราถอนใจออกมาเบาๆ อย่างอ่อนใจ ภายนอกณดาดูบอบบาง แต่ข้างในเด็ดเดี่ยวเหลือเกิน
“ตามใจ แต่ห้ามใจอ่อนตกลงแต่งงานกับหมอนั่นเด็ดขาด อย่างน้อยๆ ก็ก่อนที่ฉันจะเห็นด้วยน่ะ”
“อืมมม์… ฉันสัญญา”
แล้วสองสาวก็ช่วยกันจัดอาหารและผลไม้ใส่จานจนเสร็จ จากนั้นก็รอคอยการมาเยือนของขุนศึก