หลิวชิวเซียงมองดูอาเล็กของตนเองรังแกน้องสาว น้ำตาค่อยๆ เอ่อออกมาจากเบ้าแต่ก็ต้องอดกลั้นไว้ไม่หลั่งมันออกมา เพราะว่าหลิวเสี่ยวหลันหันกลับมาแล้วถลึงตาใส่นางอยู่ขณะนี้ เป็นสายตาที่ดูร้ายกาจยิ่ง
หลิวเต้าเซียงขมวดคิ้ว ความทรงจำที่ได้รับมาค่อยๆ ปรากฏ… ไม่ผิดแน่ หลิวเสี่ยวหลันคนนี้ช่างใจไม้ไส้ระกำถึงที่สุด
หลิวเต้าเซียงศึกษาความทรงจำแปลกใหม่ในสมอง แม่ของร่างที่เธอมาอาศัยอยู่น่าจะคลอดก่อนกำหนด ในตอนนั้นหลิวซานกุ้ยกำลังไปทำนากับหลิวต้าฟู่ จากนั้นเด็กทารกผู้หญิงก็คลอดออกมา หลิวฉีซื่อตะโกนอย่างร้อนใจอยากจะจับเด็กทารกกดน้ำให้ตาย เหตุเพราะบ้านหลังนี้มีปากท้องที่รอกินอาหารมากเกินไป ไม่อยากเลี้ยงตัวกินล้างกินผลาญเพิ่มอีกคน
แต่อุปนิสัยของร่างเดิมนั้นต่างจากพี่ใหญ่ของตนเอง ตรงที่ตัวนางเป็นเด็กก๋ากั่น ชนิดที่กล้ากระโดดพุ่งเข้าไปกัดที่หลังมือของย่า หลิวฉีซื่อตีให้ตายก็ไม่ยอมปล่อยง่ายๆ
แต่แขนเรียวเล็กย่อมสู้ขาที่ใหญ่ยักษ์ไม่ได้ นางถูกหลิวฉีซื่อสะบัดอย่างรุนแรงไปอัดกระแทกกับเสาไม้
ท้ายที่สุดก็ทำให้ หลิวเหม่ยจวิน ที่ข้ามมิติมาได้สิงร่างนี้อย่างสมปรารถนา แล้วสวมรอยเป็นหลิวเต้าเซียงที่ชื่อออกแนวชนบทเต็มตัว
เธอนึกสงสัยว่าทำไมตัวเองถึงได้ข้ามมิติมาเป็นชาวนา แล้วก็ได้แต่ปลอบใจตัวเองไว้ก่อน โชคดีแค่ไหนที่อย่างน้อยก็ไม่ได้ข้ามมิติไปรับบทมารยาหญิงแย่งชิงตบตี แบบนั้นเธอคงกลายเป็นผุยผงภายในครู่เดียว
เมื่อหลิวชิวเซียงกับหลิวเสี่ยวหลันออกไปแล้ว หลิวซานกุ้ยก็ปลอบจางกุ้ยฮัวในห้องต่อ
หลิวเต้าเซียงทั้งปวดศีรษะและวิงเวียนจึงนอนอยู่ตรงนั้น อาจเป็นเพราะเหนื่อยเกินไป หรือเพราะว่าเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ส่งผลกระทบกับเธออย่างหนัก
เธอค่อยๆ ผล็อยหลับ แต่ก่อนหน้านั้นก็ลืมไปว่ารูปร่างภายนอกของตัวเองได้เปลี่ยนไปแล้วจึงเผลอยื่นมือไปสัมผัสศีรษะที่บวมปูดขึ้นมา
“โอ๊ย!”
หลิวเต้าเซียงเจ็บจนน้ำตาไหล ในใจมีคำพูดนับพันที่กล่าวโทษว่า ‘ท่านเทพข้ามมิติ หากท่านโผล่มา ข้ารับประกันได้เลยว่าจะเล่นงานท่านแน่นอน!’
หลิวซานกุ้ยได้ยินเสียงนางจากในห้องจึงรีบเดินมาดู “เต้าเซียง เจ้าเป็นอะไร? ยังปวดหัวอยู่หรือ?”
“อือ!” หลิวเต้าเซียงที่เพิ่งข้ามมิติมาได้ครึ่งวัน ในที่สุดก็ได้เอ่ยคำแรกด้วยเสียงแหบพร่าเล็กน้อย
“มา พ่อป้อนน้ำให้เจ้า” หลิวซานกุ้ยกอดนางอย่างระมัดระวังแล้วยกน้ำเย็นที่ผ่านการต้มมาแล้วเข้าใกล้ริมฝีปากของนาง
หลิวเต้าเซียงลืมตาโตมองดูถ้วยแหว่งที่อยู่ตรงหน้า คอที่แห้งผากทำให้นางลืมนิสัยเดิมจนหมดสิ้นแล้วรีบดื่มน้ำด้วยความกระหาย เสียงที่รีบดื่มลงไปนั้นราวกับเสียงวัวดื่มน้ำ
“ฟู่!”
แต่ไม่ทันไร นางก็พ่นน้ำที่เพิ่งดื่มออกมาทั้งหมด นี่มันน้ำอะไรกัน? กลิ่นช่างไม่น่าอภิรมย์เอาเสียเลย
ด้วยความเคยชินกับการดื่มน้ำแร่ที่มีรสชาติเปรี้ยวๆ หวานๆ ทำให้ตอนนี้หลิวเต้าเซียงรู้สึกท้องไส้ปั่นป่วนไปหมด
ที่แท้น้ำต้มในถ้วยนั้นมีกลิ่นควันที่ไม่น่าดม หลิวเต้าเซียงที่ไม่เคยมีชีวิตลำบากพอได้ดื่มน้ำแบบนี้เข้าจึงสำลักออกมาจนหมด
“ลูกเป็นอะไรไป?” จางกุ้ยฮัวได้ยินเสียงเคลื่อนไหว
หลิวซานกุ้ยมองดูผ้าห่มผืนบางที่เปียกชุ่มอย่างเงียบๆ “ไม่มีอะไรจ้ะ เมียจ๋า ลูกคงดื่มเร็วไปหน่อย เลยสำลักน่ะ”
หลิวเต้าเซียงมองภาพข้างหน้าอย่างพร่ามัว ตอนนี้เธอเปลี่ยนใจแล้ว อยากจะยื่นคำขอเปลี่ยนสนาม ขอเป็นแนวตบตีแย่งชิง หรือเป็นเซียน หรือในวันสิ้นโลก แต่ไม่ขอข้ามมิติมาทำนาแบบนี้
เมื่อหลิวซานกุ้ยยื่นถ้วยแหว่งๆ มาที่ริมฝีปากอีกครั้ง เธอรีบส่ายหน้าปฏิเสธอย่างหนักแน่น
ตอนนี้เธออยากตะโกนเสียงดังๆ ต่อจากนี้ก่อนนอนจะไม่อ่านนิยายบนมือถืออีก ใครจะรู้ว่าอ่านอยู่ดีๆ ก็เผลอหลับไป พริบตาเดียวที่ตื่นขึ้นมาทิวทัศน์รอบข้างก็เปลี่ยนไป
ในตอนที่หลิวเต้าเซียงกำลังบ่นงึมงำในใจ จู่ๆ ก็รู้สึกว่าหน้าผากตนเองที่บวมเป่งเหมือนไข่นั้นค่อยๆ เย็นลง ทำให้ศีรษะของนางที่ก่อนหน้านี้ยังมีอาการวิงเวียนอยู่ก็รู้สึกดีขึ้น มีสติรับรู้ได้มากขึ้น ความเย็นนั้นแผ่กระจายไปทำให้นางไม่รู้สึกทรมานอีก นี่อาจเป็นเพราะท่านเทพข้ามมิติเริ่มมีความเห็นใจขึ้นมาบ้าง
หลิวซานกุ้ยเพิ่งสังเกตว่าบุตรสาวคนรองของตนในอ้อมกอดเวลานี้ช่างดูผอมบาง ตัวเบาเหมือนไม่มีน้ำหนัก เขาพูดขึ้นด้วยความจุกอยู่ในใจ “เต้าเซียง นอนต่ออีกหน่อยเถอะ พ่อจะไปดูว่าโจ๊กต้มเสร็จหรือยัง”
หลิวเต้าเซียงไม่ได้มีแก่ใจฟังว่าเขาพูดอะไร เพียงแต่กำลังทำความเข้าใจว่าตนเองไม่ได้ข้ามมิติมาเพื่อเป็นนางเอกที่เปล่งประกายระยิบระยับ จึงพยักหน้ารับแบบขอไปทีแล้วแสร้งทำเป็นนอนต่อ
เมื่อเสียงฝีเท้าของหลิวซานกุ้ยเดินออกไปไกล หลิวเต้าเซียงจึงสังเกตไปที่รอยบวมบนหน้าผาก
“สัตว์ปีศาจศูนย์ศูนย์เจ็ด กำลังจับคู่ให้กับโฮสต์ ห้าสิบเปอร์เซ็นต์… เก้าสิบเปอร์เซ็นต์… เก้าสิบเก้าเปอร์เซ็นต์… ยินดีด้วยครับโฮสต์ คุณได้ความสามารถระดับสูงในโลกใหม่แห่งราชวงศ์โจว”
ถัดจากนั้น ในสมองของหลิวเต้าเซียงเหมือนจะมีภาพปรากฏ ต้นถั่วงอก?
จริงตามนั้น นางไม่ได้เบลอไปเอง
“เนื่องจากการฟื้นฟูเซลล์ของโฮสต์ใช้พลังงานเยอะเกินไป ขอให้โฮสต์รีบดำเนินการกลายเป็นเด็กสาวแสนสวยในชนบท จิตใจดีและขยัน ไม่อย่างนั้นจะไม่สามารถคงสภาพเช่นนี้ได้”
ประเด็นสำคัญคือคำสุดท้าย “ขยัน” !
กลีบสองใบบนถั่วงอกไหวไปมา ภาพในสมองของหลิวเต้าเซียงก็เปลี่ยนตาม
“นี่คือ?”
เสียงอ่อนเยาว์ของสัตว์ปีศาจศูนย์ศูนย์เจ็ดดังขึ้นในสมองเธออีกครั้ง “นี่คือห้วงมิติสัตว์ปีศาจ”
สัตว์ปีศาจ? ห้วงมิติ?
หลิวเต้าเซียงอยากกระชากท่านเทพข้ามมิติเข้ามาอัดรัวๆ สักที
มารดามันเถอะ ใครก็ได้บอกหน่อยว่าห้วงมิติอันคับแคบขนาดสูงสองเมตร กว้างหนึ่งเมตรแบบนี้คือตัวช่วยของเธออย่างนั้นหรือ?
ไอเท็มของคนอื่นมีแต่ของเด็ดๆ แต่ทำไมเธอกลับได้สิ่งที่เปรียบดั่งไส้เดือนเล็กๆ หนึ่งตัว?
“โฮสต์ที่รัก อย่าเพิ่งเศร้าไปครับ! มองเห็นมุมตรงนั้นที่เป็นพื้นเขียวเสมือนจริงหรือเปล่า? นั่นก็คือสถานที่ที่สัตว์ปีศาจสามารถพักอาศัยอยู่ได้ ส่วนที่เหลือก็คือสถานที่สำหรับให้คุณใช้เก็บของและขาย”
พื้นที่ขนาดห้าสิบคูณห้าสิบเซนติเมตรแบ่งเป็นคอกเลี้ยงหนึ่งคอก ส่วนที่เหลืออีกครึ่งหนึ่งแบ่งเป็นสองฝั่ง ฝั่งหนึ่งเป็นคลังเก็บของ อีกหนึ่งแห่งคือโซนค้าขาย
ห้วงมิติที่เหมือนกับของเล่นเด็กแบบนี้จะมีประโยชน์อะไร? เลี้ยงหมูยังรู้สึกแคบเกินไปเลย
“เจ้าถั่วงอก ทำไมมันเล็กแบบนี้?”
“โฮสต์ ได้โปรดเรียกผมว่าสัตว์ปีศาจศูนย์ศูนย์เจ็ด!” ปีศาจน้อยเอ่ยเสียงเข้มขึ้นมา ราวกับว่าการไม่เรียกเขาว่าสัตว์ปีศาจศูนย์ศูนย์เจ็ดจะเป็นการดูถูกอย่างยิ่ง
หลิวเต้าเซียงรู้สึกโมโหจนแทบกระอักเลือด ท่านเทพข้ามมิติช่างขี้เหนียวเสียจริง
“พื้นที่เล็กแค่นี้จะไปทำอะไรได้?”
ห้วงมิติในความคิดของเธอคือ พื้นที่นานับไม่ถ้วน มีภูเขาแม่น้ำ ต้นไม้นานาพรรณ มีเรือนตั้งตระหง่าน มีกลิ่นหอมของไม้ไผ่ตลบอบอวล…
“โฮสต์ที่รัก นี่คือห้วงมิติสัตว์ปีศาจที่ขยายขนาดได้เชียวนะครับ!”
หลิวเต้าเซียงรีบเก็บความเศร้ากลับไปทันที ขณะเดียวกันในสมองก็มีข้อมูลมากมายหลั่งไหลเข้ามา ที่แท้ถั่วงอกคือกุญแจ เป็นเครื่องมือสื่อสารที่มาจากดาวบางดวงที่มีเทคโนโลยีก้าวไกล
เนื่องจากเป็นยุคแห่งหุ่นยนต์จึงขาดแคลนสิ่งของที่ทำมาจากงานฝีมือมนุษย์ อย่างเช่น การทำนา การเลี้ยงพืช งานฝีมือ ดังนั้นจึงมีการปรับเปลี่ยนดาวร้างที่ไม่ได้ใช้ โดยแบ่งออกเป็นชิ้นส่วนเล็กๆ เหมือนเต้าหู้ ขณะที่ข้ามมิติอยู่ก็สามารถปล่อยเช่าให้แก่คนในดวงดาวนั้นได้
“ทำไมถึงไม่ใช่ห้วงมิติทำนา?” นั่นคือสิ่งที่หลิวเต้าเซียงต้องการแม้อยู่ในความฝัน เพราะการมีผืนนาอยู่ในมือเปรียบดั่งความรุ่งโรจน์ใต้ผืนนภาแห่งนี้เลยนะ!
สัตว์ปีศาจศูนย์ศูนย์เจ็ดได้แต่ตอบกลับตามหน้าที่ “โฮสต์ที่รัก จะโทษผมก็ไม่ได้ ใครใช้ให้นิยายออนไลน์ต่างประโคมข้อดีของห้วงมิติผืนนากันล่ะ ตอนนี้ห้วงมิติผืนนาถูกปั่นราคา แย่งชิงกันอย่างบ้าระห่ำ ส่งผลให้กรมการเกษตรกรรมของดาวเราอยากได้ผลกำไรอย่างร้อนใจจนประโคมขายในเวลาต่อมา ราคาจึงร่วงลงมาเรื่อยๆ ตอนนี้ห้วงมิติผืนนาแบบนั้นกลายเป็นของแถมสมนาคุณ พร้อมโยนทิ้งได้ทุกเมื่อไปแล้ว”
“ถ้าอย่างนั้นของฉันล่ะ?” ในเมื่อเป็นของแถมสมนาคุณ อย่างน้อยก็น่าจะมีให้เธอสักอันสิ!
กลีบใบไม้เหนือศีรษะสองกลีบของสัตว์ปีศาจศูนย์ศูนย์เจ็ดห้อยลงมา พร้อมกับน้ำเสียงที่เอ่ยอย่างรู้สึกผิด “สถานที่ที่คุณอยู่นี้ระยะทางไกลเกินไป ระหว่างทางผมเอาไปแลกกับเชื้อเพลิงแล้วเรียบร้อย”
จากนั้นสัตว์ปีศาจศูนย์ศูนย์เจ็ดก็เล่าถึงคนซื่อบื้อที่ยอมแลกห้วงมิติผืนนามาอย่างภูมิใจ โชคดีที่เขาแลกเชื้อเพลิงมาได้ไม่น้อย ไม่อย่างนั้นเขาคงตามหาโฮสต์ที่หลบซ่อนอยู่ในหลืบคดเคี้ยวแห่งนี้ไม่เจอแน่
หลิวเต้าเซียงถอนหายใจเฮือกใหญ่ รู้สึกเหมือนเรี่ยวแรงหดหาย นี่มันอะไรกัน อยากได้สิ่งใดก็ขาดแคลนสิ่งนั้น…
ขณะที่รู้สึกหมดอาลัยตายอยาก เธอก็พลิกดูคำแนะนำการใช้สินค้าห้วงมิติของสัตว์ปีศาจศูนย์ศูนย์เจ็ด
ห้วงมิติสัตว์ปีศาจ ในความเป็นจริงคือดาวอีกดวงหนึ่ง สื่อสารกันผ่านสิ่งที่เหมือนกับถั่วงอกก็จะสามารถเชื่อมเข้าสู่สถานที่ที่สัตว์ปีศาจศูนย์ศูนย์เจ็ดแสดงให้เห็นได้ ห้วงเวลาของทางนั้นแตกต่างกับทางนี้ โดยหนึ่งวันของโลกนี้จะเทียบเท่ากับสิบวันในห้วงมิตินั้น
หรือถ้าจะพูดอีกแบบก็คือ ผู้ผลิตสัตว์ปีศาจศูนย์ศูนย์เจ็ดก็คือเจ้าของที่ ส่วนเธอคือเจ้าของนาที่เช่าพื้นที่แห่งนี้ ไม่รู้เพราะอะไร จู่ๆ เธอก็คิดถึงเรื่องของหยางไป๋เหลา [1] ขึ้นมา
แต่ที่รู้สึกว่าจะเอาเปรียบกันมากที่สุดก็คือ ในระหว่างการใช้งานห้วงมิติสัตว์ปีศาจ เธอจะต้องจ่ายค่าเช่าและค่าดูแลที่แพงหูฉีก แถมยังต้องคอยรับใช้บรรดาเหล่านกและสัตว์ปีศาจที่เปรียบเสมือนเจ้านายก็ไม่ปาน
ข้อหนึ่ง ต้องปัดกวาดทำความสะอาดมูลที่เจ้าพวกนี้ได้ถ่ายไว้ หมั่นเติมอาหารและน้ำให้ตรงเวลา และต้องระลึกอยู่เสมอว่าอาหารและน้ำอยู่กับทางผู้ให้เช่า ซึ่งเธอก็ต้องคอยรับมาจากเจ้าของที่อีกที
ข้อสอง คือการสังเกตอาการของสัตว์ปีศาจต่างๆ หากพบความผิดปกติต้องรีบรับมือ เช่น การเตรียมวัคซีน การฉีดยาหรือป้อนยาต่างๆ
นอกจากนี้หากต้องการจะอัพเกรดคุณภาพของห้วงมิติโดยการขยายพื้นที่ให้กว้างขึ้น จะต้องใช้สัตว์จำนวนที่เพิ่มขึ้นในการแลกเปลี่ยน
ดังนั้นหลิวเต้าเซียงจึงถูกใช้แกมบังคับให้กลายเป็นผู้เช่าของสัตว์ปีศาจศูนย์ศูนย์เจ็ด ส่วนผู้ควบคุมที่ชั่วร้ายก็คือเจ้าสัตว์ปีศาจนั่นแหละ สิ่งที่ทำให้เธอแทบสำลักเลือดก็คือเรื่องข้อบังคับ หากหนึ่งเดือนหลังจากนี้เธอไม่เริ่มทำงาน ห้วงมิติของสัตว์ปีศาจก็จะหายไป!
สัตว์ปีศาจศูนย์ศูนย์เจ็ดเองรู้ว่าตัวเองกินเก่งมากมันจึงหดตัวอยู่ในหลืบ มองดูหลิวเต้าเซียงที่กำลังจะเป็นบ้าอยู่อีกฟาก
“อันที่จริง ถึงแม้ว่านี่จะเป็นภารกิจแกมบังคับ แต่ว่าคุณลองคิดดูสิครับ ตอนนี้คุณอาศัยอยู่ในบ้านหญ้าฟาง สวมเสื้อผ้าขาดๆ ออกจากบ้านก็ต้องอาศัยการเดินเท้า กลับเข้าบ้านก็ต้องทำงานหนัก ไม่มีบ้านเรือนหรูหราให้เข้าออก ไม่มีคนใช้ที่คอยบริการ ไม่มีรถม้าสวยหรูที่ช่วยร่นระยะทางให้ ไม่มีหนุ่มหล่อที่คอยเรียกหาได้ตลอด การมีห้วงมิติสัตว์ปีศาจเช่นนี้จะทำให้ฝันกลายเป็นจริงได้คุณจะกลายเป็นสาวโสดมีฐานะดีในราชวงศ์โจวแต่เพียงผู้เดียว”
ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าคำพูดของสัตว์ปีศาจศูนย์ศูนย์เจ็ดนั้นมีความน่าดึงดูดมาก ทำให้เธอนึกถึงพนักงานขายประกันในยุคปัจจุบันที่พูดจาไหลรื่น ชนิดที่ถ้าคิดจะทำจริงแล้วก็ต้องพูดโน้มน้าวให้อีกฝ่ายยอมตกปากรับคำให้ได้
—–
คำอธิบายเพิ่มเติม
[1] หยางไป๋เหล่า(杨白劳)หมายถึง เรื่องราวของหนุ่มคนหนึ่งที่ต้องทำงานภายใต้การกดขี่ข่มเหงของเจ้าของที่ เป็นคำอุปมาว่า ตนเองเป็นผู้ที่ลงแรงทำงานมากมายแต่กลับไม่ได้อะไรตอบแทน ถูกกดขี่ให้เป็นแรงงาน