บทที่ 126 ตัดขาดจากครอบครัวนั้นแล้ว ข้าต้องการคืนดีกับแม่ของเจ้า
บทที่ 126 ตัดขาดจากครอบครัวนั้นแล้ว ข้าต้องการคืนดีกับแม่ของเจ้า
“เสมียนลู่ นายอำเภอฉินเรียกให้เข้าพบ”
มีเสียงหนึ่งดังมาจากด้านนอก
ลู่อี้มองถังซานอวี่แล้วกล่าวอย่างไม่แยแส “หากเสมียนถังไม่พึงพอใจในตัวข้า ก็ควรพยายามเอาชนะข้าในเรื่องการงานอย่างสัตย์ซื่อ แทนที่จะเอาแต่ใจและใช้วิธีการไร้เหตุผลเหมือนสตรี”
“เจ้า!!” ถังซานอวี่ตบโต๊ะด้วยความโกรธพลางลุกขึ้นยืน
ลู่อี้ไม่สนใจ ชายหนุ่มเดินออกไป ปล่อยให้เสมียนหลายคนจ้องมองกันด้วยความตกตะลึง
ถึงแม้ลู่อี้จะได้รับการยกย่องอย่างมากจากนายอำเภอ แต่ครอบครัวของถังซานอวี่ก็มีภูมิหลังอันดีงาม ดังนั้นจึงไม่มีผู้ใดสามารถยุ่งกับพวกเขาได้
“คอยดูเถิดว่าเจ้าจะภาคภูมิใจได้นานเพียงใด!” ถังซานอวี่ตะคอกอย่างเย็นชา เขาเตะโต๊ะโครมหนึ่งก่อนจะจากไปด้วยความโกรธ
อีกด้านหนึ่ง ลู่อี้ที่มาเข้าพบนายอำเภอได้แต่ยืนสับสน
หญิงผู้นั้นเดินทางมาศาลาว่าการแล้วเจรจาข้อตกลงกับนายอำเภอฉิน นี่นางพยายามต่อสู้เพื่อคนของภัตตาคารเจียงซื่องั้นหรือ?
หญิงผู้นี้มีนิสัยอย่างไรกันแน่?
“เสมียนลู่ เหตุใดจึงมาอยู่ที่นี่?” ผู้คุมทักทายเขาด้วยรอยยิ้ม
ลู่อี้จึงตอบว่า “ใต้เท้าให้ข้ามาคุยกับนักโทษจากภัตตาคารเจียงซื่อ”
“ภรรยาของท่านเพิ่งกลับไป ไม่คิดว่าท่านจะมาด้วย พวกท่านช่างเป็นสามีภรรยาที่น่าชื่นชมเสียจริง”
“ภรรยาของท่านใจดี นางมาหาพวกเราเหล่านักโทษจากภัตตาคารเจียงซื่อหลายครา มีหญิงเพียงไม่กี่คนที่กล้าเข้ามาในสถานที่แห่งนี้ นางไม่ได้มาเพียงครั้งเดียว นางมาเยี่ยมเยียนเราสองสามครั้งแล้ว ช่างมีเมตตาจริง ๆ”
นักโทษจากภัตตาคารเจียงซื่อจ้องไปยังลู่อี้
“พี่ลู่อี้ พี่เฟิงเจิงไม่สบาย”
“วางใจเถอะ เขาจะได้ออกจากคุกแล้ว” ลู่อี้กล่าว “นายอำเภอฉินบอกว่าพวกเจ้ายินดีลงนามในสัญญาชำระหนี้ใช่หรือไม่? นอกจากเฟิงเจิงแล้ว มีผู้ใดอีกหรือไม่?”
“ข้า!”
“ข้าด้วย!”
ทางด้านมู่ซืออวี่นั้นติดเกวียนชาวบ้านกลับมายังหมู่บ้าน นางไปหาหัวหน้าหมู่บ้านต่อเพื่อปรึกษาเรื่องการสร้างบ้าน
นางวาดภาพแบบไว้เมื่อนานมาแล้ว ตอนนี้จึงนำภาพแบบนั้นไปให้หัวหน้าหมู่บ้าน เพื่อที่เขาจะได้ดูว่ามีคนงานพอจะสร้างบ้านเช่นนี้ให้นางหรือไม่
ใช่แล้ว นางวางแผนที่จะ ‘ว่าจ้างบุคคลภายนอก’ สำหรับการทำงานนี้
หัวหน้าหมู่บ้านนึกถึงชายในหมู่บ้านที่มีประสบการณ์ทางด้านนี้หลายคน รวมถึงต้าหนิวและเอ้อร์หนิว
“แม่นางอวี่ หากเจ้าต้องการช่างฝีมือที่มีประสบการณ์ ข้ารู้จักอยู่ผู้หนึ่ง แต่เขามีนิสัยแปลกประหลาด เอาไว้ข้าจะนำภาพแบบของเจ้าให้เขาดู หากเขาเต็มใจ เขาจะสร้างให้เจ้าได้ดีอย่างแน่นอน”
“หากเป็นเช่นนั้นข้าต้องขอรบกวนท่านหัวหน้าหมู่บ้านด้วย ตราบใดที่เขาตกลงสร้างและทำได้ดี ราคาก็ต่อรองได้”
จากนั้นมู่ซืออวี่ก็ตัดสินใจฝากหน้าที่นี้ไว้กับต้าหนิว
“ท่านแม่…” มู่ซืออวี่มาเคาะประตูที่ลานบ้าน
จากนั้นไม่นานประตูก็ถูกเปิดออก ถงซื่อจ้องมองมายังบุตรสาวด้วยความรู้สึกผิด
“ท่านทำอะไรอยู่?” มู่ซืออวี่เอ่ยถามพลางจ้องมองเข้าไปด้านใน
ทว่าเมื่อเห็นร่างของมู่ต้าซาน นางก็ขมวดคิ้วทันที
“เหตุใดเขาถึงอยู่ที่นี่?”
“ลูกอวี่…” มู่ต้าซานจ้องมองลูกสาวอย่างทนไม่ไหว “พ่อรู้ว่าพ่อผิด เจ้ายกโทษให้พ่อได้หรือไม่?”
“ไม่” มู่ซืออวี่หมดความอดทน
ความรักที่ล่วงลับไปนั้นไร้ค่ายิ่งกว่าเศษหญ้า จะไม่มีโอกาสหรือการให้อภัยสำหรับบุคคลผู้นั้นอีก นางไม่ต้องการให้อภัยพ่อที่ไม่สมควรเป็นพ่อเช่นเขา
“ข้าแยกออกมาจากพวกเขาแล้ว ได้รับที่ดินทำกินมาเจ็ดไร่ครึ่ง ข้ามีพื้นที่เพาะปลูก แต่ไม่มีบ้านที่จะอาศัยอยู่”
“แล้วเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับแม่ข้าอย่างไร? นี่คือที่อยู่ที่ข้าให้ท่านแม่อาศัย ท่านกับนางไม่ใช่สามีภรรยากันอีกแล้ว ท่านควรจากไปได้แล้ว เดี๋ยวผู้อื่นจะนินทาว่าร้ายแม่ข้าได้”
“ข้า… ข้าต้องการคืนดีกับแม่เจ้า”
มู่ซืออวี่หันมามองมารดาแล้วถามว่า “ท่านเห็นด้วยหรือไม่?”
ถงซื่อโบกมือพลางกล่าวอย่างกระวนกระวาย “ไม่ ๆ”
ดูจากสายตาที่พยายามหลบเลี่ยงของถงซื่อ เห็นได้ชัดว่าหากไม่มีผู้ใดอยู่ที่นี่และถูกมู่ต้าซานเกลี้ยกล่อมอีกสองสามคำ อดีตภรรยาผู้นี้ก็อาจถูกล่อลวงอีกครั้ง
“อย่าทำเช่นนั้นจะเป็นการดีที่สุด ไม่เช่นนั้นน้องชายของข้าจะต้องโกรธมากแน่” มู่ซืออวี่กล่าว “ตอนนี้น้องข้าเรียนอยู่ในสำนักศึกษา ท่านคงไม่อยากเห็นเขาเสียสมาธิในการเรียนใช่หรือไม่?”
“เจ้าอย่าบอกเขานะ” ถงซื่อรีบเอ่ยอย่างรวดเร็ว
มู่ซืออวี่เหลือบมองมู่ต้าซานพลางกล่าวว่า “ไปให้พ้นเสีย อย่ามาที่นี่อีก เราไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันแล้ว”
หากมู่ต้าซานเคยดีกับถงซื่อมาก่อน นางก็คงตอบตกลงกับเขาไปนานแล้ว
หลังจากที่ทั้งสองเลิกรากันก็ไม่มีผู้ใดทุบตีต่อว่านาง หรือทำร้ายจิตใจนางอีก นางได้กลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้ง เริ่มคุ้นเคยกับชีวิตในปัจจุบันมากขึ้น สามีจึงไม่ใช่สิ่งสำคัญสำหรับนางอีกต่อไป คงเป็นไปไม่ได้ที่นางจะรับเอาชายผู้นี้เข้ามาทำร้ายจิตใจลูกที่แสนกตัญญูของตน
“ภรรยา…”
“ไปเสีย!” ถงซื่อเอ่ยแทรกคำพูดอีกฝ่าย “หากไม่มีที่อยู่อาศัยก็ไปคุยกับหัวหน้าหมู่บ้าน ในหมู่บ้านเรายังมีที่ดินว่างเปล่าและบ้านร้างอีกหลายหลัง หัวหน้าหมู่บ้านเป็นคนดี เขาจะช่วยเหลืออย่างแน่นอน”
“ไม่ได้ยินที่แม่ข้าพูดหรือ?” มู่ซืออวี่จ้องมองมู่ต้าซาน
มู่ต้าซานกล่าวอย่างเศร้าโศก “ข้าเป็นพ่อของเจ้า แม้ข้าจะเลิกรากับแม่ของเจ้าแล้ว เจ้าก็ยังเป็นลูกสาวของข้าอยู่ เจ้าจะเกลียดชังพ่อของตนเช่นนี้หรือ?”
“ท่านมีจุดประสงค์ใดในการกล่าวเช่นนี้? ข้าไม่อยากเสียเวลาปะทะวาจากับท่าน เพราะเวลาของข้ามีค่ามาก” มู่ซืออวี่กล่าวอย่างเฉยเมย “ไม่จำเป็นต้องบอกเล่าเรื่องราวของท่านให้พวกเราฟังหรอก เพราะเราไม่ต้องการได้ยิน”
มู่ต้าซานจ้องมองถงซื่อ
ถงซื่อตัดสินใจผลักเขาออกไปในทันที “ออกไป! ไม่เช่นนั้นคนอาจเข้าใจผิดได้ ข้ายังอยากมีชีวิตที่ใสสะอาดไปอีกหลายปี”
ลูกชายของนางกำลังเรียนหนังสือ แม้เขาจะสอบไม่ผ่าน แต่ก็จะมีอนาคตที่ดีอย่างแน่นอน ดังนั้นนางจึงไม่ต้องการสร้างปัญหาใดที่ส่งผลกระทบต่ออารมณ์ของลูกชาย
มู่ต้าซานถูกผลักออกไปนอกประตู
ปัง!
ประตูถูกปิดลง
มู่ต้าซานตกตะลึง
เขารู้ว่าถงซื่อกำลังโกรธ แต่ก็คิดว่าการเกลี้ยกล่อมของเขาจะทำให้นางรู้สึกลังเลและใจอ่อนลงได้ แต่เขาไม่คาดคิดว่านางจะไร้ความรู้สึกเช่นนี้
นางทำราวกับว่าเขาเป็นคนอื่น
หญิงที่เคยเชื่อฟังและทำงานอย่างหนักในบ้านของตระกูลมู่เปลี่ยนไปแล้ว ความหดหู่และความเศร้าบนใบหน้าของนางหายไป อีกทั้งยังดูอ่อนเยาว์ลงหลายปี
“พี่ต้าซาน เจ้ามาทำอะไรที่นี่?” ชาวบ้านที่บังเอิญเดินผ่านมาเหลือบมองเขา ก่อนจะเอ่ยด้วยสีหน้าสดใส “เจ้า… มาขอคืนดีหรือ?”
มู่ต้าซานกล่าวอย่างเฉยเมย “ไม่ใช่ ข้าเพียงมาเพื่อขอยืมบางอย่างเท่านั้น”
“ข้าคิดเอาไว้แล้วเชียว! ก่อนหน้านี้แม่เฒ่าเจียงบอกว่าจะหาภรรยาสาว ๆ สวย ๆ ให้เจ้า เจ้าจะมาที่นี่เพื่อขอคืนดีได้อย่างไร! ฮ่าฮ่า!”
“อืม”
มู่ต้าซานกำลังจะจากไป แต่ชาวบ้านคนนั้นนึกได้ว่าอีกฝ่ายไม่ชื่นชอบตนมาก่อน จะปล่อยไปอย่างง่ายดายโดยไม่คว้าโอกาสไว้ได้อย่างไร?
“จริงสิ พี่ต้าซาน รู้แล้วใช่หรือไม่ว่าหานเอ๋อร์เข้าเรียนในสำนักศึกษา?”
“รู้แล้ว”
“ลูกชายของเจ้ากำลังจะประสบความสำเร็จ เขาอาจเป็นนายท่านใหญ่ในหมู่บ้านของเรา เวลานั้นลูกชายของเจ้าก็คงจะตอบแทนและให้เกียรติบรรพบุรุษของเขาไม่น้อย… โอ้ แต่ดูเจ้าเถิด เจ้าถูกตัดขาดความสัมพันธ์จากพวกเขาเสียแล้ว”
มู่ต้าซานเร่งฝีเท้า เดินตรงไปยังบ้านของหัวหน้าหมู่บ้านทันที
ตอนนี้พี่น้องทั้งสามของตระกูลมู่แยกทางกันแล้ว มู่ต้าไห่ขายที่ดินที่เป็นส่วนแบ่งของตนไป มู่ต้าซานถูกทอดทิ้งให้ไร้บ้าน แม่ผู้ใจร้ายก็เพิกเฉยและไม่สนใจ เพราะนางหวังจะพึ่งพาลูกชายคนที่สามผู้กำลังจะได้เป็นเจ้าคนนายคน ในเมื่อลูกคนที่สองไม่อาจทำอะไรได้นอกจากเป็นอุปสรรค ขวางหูขวางตานางทุกวัน นางจึงไม่ให้แม้แต่ที่พักอาศัยกับเขา
มู่ต้าซานแยกตัวออกมาได้สำเร็จก็จริง แต่เดิมทีเขาคิดว่าถงซื่อจะใจอ่อนและยอมคืนดี ทว่าทุกอย่างกลับไม่เป็นไปตามที่คาดคิด
ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงต้องขอความช่วยเหลือจากหัวหน้าหมู่บ้าน ยืมบ้านอันทรุดโทรมเพื่ออยู่อาศัยชั่วคราวไปก่อนเท่านั้น