สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย – บทที่ 376 ยังมีคนหลอกลวงอยู่อีกไม่น้อย

บทที่ 376 ยังมีคนหลอกลวงอยู่อีกไม่น้อย

บทที่ 376 ยังมีคนหลอกลวงอยู่อีกไม่น้อย

ต้าหนิวรีบส่งคนไปตรวจสอบโดยละเอียดทันที

มู่ซืออวี่แหวกผ่านกลุ่มคนเข้าไป

แผนงานครั้งนี้ใหญ่มาก ต้องใช้แรงงานคนและวัสดุจำนวนมหาศาล ไม่ต้องเอ่ยถึงห้าสิบปีก่อน เกรงว่าแม้แต่หนึ่งร้อยปีก่อนก็ไม่มีแผนงานเช่นนี้ออกมา

คนงานมากมายขนาดนี้อาหารการกินก็เป็นปัญหาเช่นกัน

มู่ซืออวี่จัดเตรียมสตรีกลุ่มหนึ่งคอยดูแลอาหารสามมื้อต่อวันให้คนงานเหล่านี้

ส่วนกลางคืนนั้น พวกเขาก็มีที่พักชั่วคราวเช่นกัน ถึงแม้จะสร้างจากผ้าเก่าและเหล็กอย่างง่าย ๆ ย่อมดีกว่าการที่พวกเขาจะออกมาแต่เช้าตรู่และกลับบ้านค่ำมืดดึกดื่นทุกวัน ใช้พลังกายไปมากมายระหว่างการเดินทาง

มู่ซืออวี่เดินสำรวจตรวจตรา เหล่านักการกังวลว่าจะมีคนที่ไม่รู้ตัวตนของนางชนเข้ากับนาง นักการห้าถึงหกคนจึงเดินตามหลัง ขอแค่เพียงมีตา เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ทางการเหล่านี้แล้ว ย่อมต้องรู้ว่าเป็นคนที่พวกเขาล่วงเกินไม่ได้

“ระวัง!” เสียงร้องดังขึ้นมาจากข้างบน

มู่ซืออวี่เห็นไม้ท่อนหนึ่งตกลงมาจากฟ้า

เจ้าหน้าที่ทางการด้านหลังนางผลักมู่ซืออวี่ออกไป รอดพ้นวิกฤตไปได้อย่างหวุดหวิด

ตึง!

ไม้ท่อนนั้นตกกระทบพื้นก่อให้เกิดเสียงดัง

“ขออภัย ๆ มือข้าลื่นน่ะ ข้าไม่ได้ตั้งใจ” เด็กหนุ่มผู้หนึ่งวิ่งเข้ามาขอโทษอย่างกระวนกระวายใจ “ฮูหยิน ท่านอภัยให้ข้าเถอะ ข้าจะโขกศีรษะให้ท่าน”

เด็กหนุ่มคนนั้นกล่าวจบก็คุกเข่าลงแล้วโขกศีรษะให้มู่ซืออวี่

“พอแล้ว ข้าไม่โทษเจ้า” มู่ซืออวี่ขัดการกระทำของเขา “เจ้าลุกขึ้นมาพูดเถอะ”

“ฮูหยินบอกให้เจ้าลุกขึ้น เจ้าก็แค่ลุกขึ้น เหตุใดต้องพูดพล่ามมากมาย?” เจ้าหน้าที่ทางการด้านหลังเอ่ยขึ้น

เด็กหนุ่มถึงได้ลุกขึ้นด้วยความหวาดกลัว

“ฮูหยิน ข้าต้องการงานนี้จริง ๆ นะขอรับ ท่านอย่าไล่ข้าไปเลย”

“ข้ายังไม่ได้บอกว่าจะไล่เจ้าไป” มู่ซืออวี่กล่าว “เหตุใดเจ้าไม่ได้ผูกเชือกนิรภัยตรงเอวของเจ้า?”

ถึงแม้ที่นี่จะไม่มีหมวกนิรภัย ทว่าเพื่อความปลอดภัยของทุกคน นางจึงทำเชือกนิรภัยขึ้นมาชุดหนึ่ง ตามหลักแล้วควรพันไว้รอบเอวเพื่อความปลอดภัยของร่างกาย แต่เมื่อครู่นี้เด็กหนุ่มก็ไม่ได้ผูกเชือกนิรภัยไว้

เจ้าหน้าที่พาคนที่รับผิดชอบดูแลมาที่นี่

“ฮูหยิน เชือกนิรภัยใช้หมดแล้วขอรับ เด็กคนนี้มาช้า จึงไม่มีให้ใช้”

มู่ซืออวี่กวาดสายตามองบุรุษสายตาล่อกแล่กผู้นั้นขึ้น ๆ ลง ๆ

นางละเลยไปหลายเรื่องแล้ว

งานใหญ่เช่นนี้ นางจัดเตรียมไว้ดีแล้ว ทว่าพอคนอื่นนำไปปฏิบัติ นางไม่มีเวลาสอบถามว่านำไปจัดการอย่างไร ผู้ใดเป็นคนนำไปจัดการ จึงมีบางคนต่อหน้าทำอย่าง ลับหลังทำอีกอย่าง

“เด็กคนนั้นอายุสิบห้าใช่หรือไม่?” มู่ซืออวี่ชี้ไปยังเด็กหนุ่มที่ยังคงวิตกกังวล

“ขอรับ” ชายคนนั้นตอบอย่างประจบ

“เจ้ารู้ผลของการหลอกข้ากระมัง?” มู่ซืออวี่มองชายคนนั้น “อย่าว่าแต่ถูกโบยไม่กี่สิบไม้ ส่งเข้าคุกไปสองสามปียังเบาไป”

“ผู้น้อยทำอะไรไม่ถูกหรือขอรับ หากมีที่ใดกระทำผิดพลาดไป ฮูหยินเพียงแค่สอนสั่ง ผู้น้อยย่อมฟังท่านอย่างแน่นอน”

มู่ซืออวี่มองเด็กหนุ่มคนนั้น “เจ้าตามข้ามา”

สีหน้าของเด็กหนุ่มซีดเผือด “ฮูหยินโปรดอภัยให้ข้า”

“เมื่อครู่นี้เจ้ากระโดดลงมาจากที่สูงถึงเพียงนั้น ไม่เจ็บเท้าหรือ? ข้าจะพาเจ้าไปทายา” มู่ซืออวี่ขมวดคิ้ว “เหตุใดเจ้าจึงหวาดกลัวข้าเพียงนี้?”

เด็กหนุ่มลอบชำเลืองมองชายข้าง ๆ เขา

ชายคนนั้นเอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์ “ฮูหยินมีพระคุณต่อเจ้า เจ้ายังไม่รีบขอบคุณฮูหยินอีก?”

“ขอบคุณฮูหยิน”

มู่ซืออวี่พาตัวเด็กหนุ่มคนนั้นไป ให้จื่อซูพาเขาไปทายา

จากนั้นนางก็เรียกเวินเหวินซงมา

ลู่อี้ไม่อยู่ เวินเหวินซงในฐานะปลัดนายอำเภอ จึงมีหน้าที่รับผิดชอบทุกอย่างที่นี่เต็มตัว

นางบอกเรื่องคนที่ปลอมแปลงตัวตนเข้ามาในบริเวณก่อสร้าง

“เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็ก” เวินเหวินซงได้ยินก็พลันเข้าใจทันที “ข้าจะส่งคนไปตรวจสอบทันที หากใครโกหก ย่อมต้องถูกลงโทษขั้นรุนแรง”

“ชายที่มีหน้าที่รับผิดชอบผู้นั้นมีที่มาอย่างไร?”

“เขาเป็นช่างไม้ชื่อเสียงโด่งดังของที่นี่ ในมือมีช่างที่อยู่ภายใต้อาณัติเขาหลายสิบคน แต่ก่อนมอบหมายให้เขาทำสิ่งใด มือไม้ของเขาก็ค่อนข้างคล่องแคล่ว ครั้งนี้เรื่องนี้สำคัญเป็นอย่างมาก จึงให้เขารับผิดชอบเต็มตัว”

“หากตรวจสอบออกมาพบว่าเรื่องนี้เขามีส่วน คนผู้นี้ไม่อาจใช้งานได้อีก”

“แน่นอน”

“พวกเราเริ่มจากเด็กหนุ่มคนนั้นก่อนก็ได้ เด็กยังเล็กเพียงนี้จะอายุถึงสิบห้าได้อย่างไร? อีกทั้งยังมีชายชราที่เราเพิ่งพบอีก มีริ้วรอยเหี่ยวย่นมากมายเพียงนั้นจะมีอายุเพียงสิบห้าได้อย่างไร?”

ไม่ใช่ว่านางไม่ชอบคนเหล่านี้ ทว่าเด็กคนนั้นยังเล็กเกินไปและอยู่ในวัยกำลังโต งานใช้แรงงานเช่นนี้ไม่ดีต่อร่างกาย เดิมทีเขาก็ไม่มีแรงมากมายอยู่แล้ว หากมีอะไรผิดพลาด เช่นนั้นชีวิตของเขาคงจบสิ้น

เขาไม่จำเป็นต้องทำร้ายร่างกายเพียงเพื่อเงินเล็กน้อย ส่วนคนแก่เหล่านั้น ไม่จำเป็นต้องอธิบายเหตุผลแล้ว

“ตรวจสอบคนเหล่านี้ บันทึกเอาไว้ ถึงตอนนั้นค่อยส่งมาให้ข้า”

นางจะจัดหาที่ทางอื่นให้พวกเขา

“ฮูหยิน ท่านช่างทุ่มเททั้งใจจริง ๆ” จื่อเยวี่ยนที่อยู่ข้างหลังเอ่ยขึ้น

“เมืองฮู่เป่ยเป็นสถานที่ที่อยู่ภายใต้การปกครองของสามีข้า คนที่นี่ย่อมเป็นคนของเขา ปกครองแบบบิดามารดาคืออะไรรู้หรือไม่ คือคิดอย่างราษฎรคิด กังวลเรื่องที่ราษฎรกังวล นี่คือการปกครองแบบบิดามารดา หากข้ากังวลเพิ่มขึ้นมากหน่อย เขาจะได้กังวลน้อยลงบ้าง”

“ฮูหยินเป็นศรีภรรยาของใต้เท้าจริง ๆ” เวินเหวินซงเผยสีหน้าอิจฉา

ใต้เท้ามีภรรยาเช่นนี้เป็นฮูหยิน การที่จะได้เลื่อนตำแหน่งสูงขึ้นร่ำรวยขึ้นเป็นเรื่องของเวลาแล้วจริง ๆ ไม่แปลกใจว่าเหตุใดคนรุ่นก่อนถึงได้กล่าวว่าแต่งภรรยาให้แต่งคนมีธรรมมีสติปัญญาที่ดี ฟังผู้อาวุโสย่อมไม่ผิด

หลังจากมู่ซืออวี่และคนอื่น ๆ จากไปแล้ว ชายหนุ่มผอมกะหร่องราวกับลิงผู้หนึ่งก็เดินท่าทางลับ ๆ ล่อ ๆ ไปหาคนที่มีหน้าที่รับผิดชอบเฉินหู่

“พี่ใหญ่ ฮูหยินลู่ผู้นี้ดูเหมือนจะสังเกตเห็นแล้ว”

“กลัวอะไรของเจ้า คนพวกนั้นจะกล้าเปิดปากรึ กัดฟันจนตายไม่ยอมรับหรอก เราแนบเนียนถึงเพียงนี้ หากคนของทางการไม่มีหลักฐาน พวกเขาจะทำอะไรข้าได้?” เฉินหู่เอ่ย “แต่ว่าเสี่ยวจู้จือถูกนางนำตัวไปแล้ว เจ้าส่งคนไปจับตาดูเสี่ยวจู้จือเอาไว้แล้วลอบเตือนเขา หากเขากล้าเปิดปาก น้องสาวของเขาจบเห่แน่”

“ได้ ผู้น้อยจะไปจัดการเดี๋ยวนี้”

เฉินหู่มองบริเวณก่อสร้างตรงหน้าเขา

ไม่ง่ายเลยกว่าเขาจะได้งานนี้ และยังทำกำไรเล็ก ๆ น้อย ๆ ได้ในระยะเวลาอันสั้น จะตัดใจจากมันไปง่าย ๆ ได้อย่างไร?

ฮูหยินนายอำเภออะไรกัน ก็เป็นแค่เพียงสตรีไม่รู้เรื่องรู้ราวผู้หนึ่ง ยังจะมองอะไรออกได้อีก?

มู่ซืออวี่เขียนจดหมายฉบับหนึ่ง ส่งให้คนของศาลาว่าการ

“เจ้าส่งคนไปส่งจดหมายนี้ให้นายช่างผิงในซูโจว” มู่ซืออวี่กล่าว “เรื่องนี้สำคัญมาก ดังนั้นรีบเร่งหน่อย”

“ขอรับ”

จื่อเยวี่ยนที่อยู่ด้านหลังเอ่ยขึ้นว่า “ฮูหยินตั้งใจจะเชิญนายช่างผิงและคนของเขามาดูแลรับผิดชอบเรื่องนี้หรือเจ้าคะ?”

“เขาสามารถรับผิดชอบกำกับดูแลเรือนย่อยของจงอ๋องได้ งานใหญ่เช่นนี้ย่อมไม่มีปัญหา” มู่ซืออวี่กล่าว “เพียงแต่ไม่รู้ว่าเขายินดีที่จะรับหรือไม่”

“สามารถหาเงินได้ เหตุใดเขาจะไม่รับเจ้าคะ นั่นไม่โง่มากหรอกหรือ” จื่อเยวี่ยนเอ่ย

“บางทีเขาอาจคิดว่าข้าจงใจสร้างความยุ่งยากให้เขา”

“ฮูหยินก็ไปคิดแทนเขา ยุ่งยากอะไรกัน ไม่เพียงแต่ได้ค่าแรง ยังได้รางวัลก้อนใหญ่อีกด้วย หากฮูหยินไม่กล่าวต่อหน้าจงอ๋อง พวกเขาจะได้เงินก้อนโตถึงเพียงนี้หรือ?”

มู่ซืออวี่ไม่ใส่ใจเรื่องเล็กน้อยเหล่านี้

ถึงแม้นายช่างผิงจะเข้าใจนางผิด อย่างไรก็ดีกว่าคนเมื่อครู่นี้

เรื่องสำคัญเช่นนี้ นางควรเฝ้าระวังตั้งแต่เนิ่น ๆ แต่ตอนนี้จะเฝ้าระวังก็สายไปเสียแล้ว

นี่ยังถือว่าอยู่ในช่วงแรก ๆ เพียงแค่นำตัวหนูเหล่านั้นออกมาก็พอแล้ว

เวินเหวินซงตรวจสอบพบเรื่องนี้อย่างรวดเร็ว

ถึงแม้ระหว่างขั้นตอนจะซับซ้อนไปเล็กน้อย ทว่าท้ายที่สุดก็ตรวจสอบออกมาแน่ชัดแล้ว

“มีคนไม่น้อยปลอมแปลงตัวตนเข้ามาจริง ๆ ขอรับ” ต้าหนิวเอ่ย “บางคนมีงานอยู่ในเมืองอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องทำงานต่างภาษี แต่มีบางคนที่ต้องการทำงานแลกภาษี คนพวกนี้อายุและสุขภาพไม่ดี จึงมาลงทะเบียนเท็จ ส่วนคนที่มาทำงานกลับเป็นผู้อื่น”

สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย

สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย

สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย
Status: Ongoing
อ่านนิยายสาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้ายเรื่องย่อ: 'มู่ซืออวี่ทะลุมิติมาเลี้ยงลูกตัวร้ายแบบนี้ เห็นทีจะต้องร้ายตามบทถึงจะมีชีวิตรอด แต่ลูกชายคนโตของนางกลับจับผิดได้ตั้งแต่วันแรก หากไม่อยู่ในบทเดิม เกรงว่าผู้คนจะคิดว่าวิญญาณสิงสู่ ชีวิตน้อยๆ ก็อาจจะรักษาเอาไว้ไม่ได้ มู่ซืออวี่จึงต้องเริ่มภารกิจแกล้งร้ายให้ครอบครัวตัวร้ายตายใจ จะว่าไป ลูกน้อยของนางก็ช่างน่ารักเสียนี่กระไร ใครจะไปใจร้ายใส่เด็กสองคนนี้ลง มู่ซืออวี่ตัดสินใจแล้วว่า ใครที่กล้าแกล้งวายร้ายตัวน้อยของนาง จะต้องโดนสั่งสอนเสียให้เข็ด!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset