สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 556 สาวใช้ตัวแสบ 460

ตอนที่ 556 สาวใช้ตัวแสบ 460
เธอมองเห็นแค่เงาด้านหลังของเขา มองไม่เห็นด้านหน้าของเขา ความรู้สึกภายในใจนั้นผิดหวังหรือว่าเป็นอะไรกันแน่ เธอไม่กล้าคิดเยอะ
“ฉันแค่อยากจะพูดว่า พวกเราแยกจากกันแล้ว ก็ตัดขาดอย่างจริงจังเถอะ ไม่ต้องมีอะไรเกี่ยวข้องกันอีก ”
เธอพยายามทำเสียงนิ่งๆ เย็นชา ในเวลานี้เธอพูดคำที่ไร้น้ำใจออกมา เพราะเธอกลัวว่าเขาจะลืมเธอไม่ลง
เธอทำสำเร็จ เย่เชินหลินรู้สึกว่าใจของเขาเหมือนถูกมีดที่แหลมคมมากๆปักเข้าไป ดวงตาของเขาเปลี่ยนเป็นโศกเศร้า มุมปากค่อยๆยิ้มรอยยิ้มที่เจ็บปวดขึ้นมา
เขาไม่หันกลับ เพราะฉะนั้นเธอเลยมองไม่เห็นอารมณ์ท่าทางของเขา
เซี่ยชีหรั่น คุณไม่ต้องกังวลความรู้สึกของผม ทุกอย่างเป็นสิ่งที่ผมสมควรที่จะได้รับ
“ที่อยากจะพูดก็คือเรื่องนี้เหรอ คือแยกจากกันอย่างเด็ดขาดแล้ว พวกเราดูเหมือนว่าไม่มีเกี่ยวข้องกันอีกใช่ไหม? ” เขาถามย้อนกลับ พยายามข่มน้ำเสียงที่เย็นชาเอาไว้
“คุณยังส่งคนรถให้มารับ ให้บอดี้การ์ดตามฉัน หลังจากนี้ไม่ต้องแล้ว และฉันก็จะไม่นั่งรถที่คุณส่งมาแล้ว ฉันจะเริ่มต้นใหม่ ไม่อยากเห็นคนหรือเรื่องที่เกี่ยวกับคุณอีกแล้ว ในเมื่อแยกจากกันแล้ว ก็ให้พวกเราลืมทุกสิ่งทุกอย่างของเราทั้งสองเถอะ ฉันมาพูดกับคุณก็แค่นี้ ฉันไปแล้ว คุณยังส่งให้พวกเขามาตามฉันอีก ฉันก็จะไม่ใช้พวกเขาหลอก ”
เซี่ยชีหรั่นบังคับตัวเอง เอาคำพูดพวกนี้พูดออกมารวดเดียวจบ พูดเสร็จก็เหมือนกับหนีไปอย่างนั้น หมุนตัวกลับเดินออกไปจากห้องทำงาน
“รอก่อน! ” เย่เชินหลินรีบหมุนตัวกลับมาอย่างรวดเร็ว เซี่ยชีหรั่นหยุดก้าวเดินไปโดยธรรมชาติ หันหน้ากลับไปหาเขา
สายตาของทั้งสองก็ประสานกัน เขาเก็บซ่อนความโศกเศร้าภายในดวงตาไม่ได้ และเธอก็เช่นกัน
เซี่ยชีหรั่นมองเห็นคางของเขามีเคราขึ้นมานิดหน่อย ผู้ชายที่สง่างามอย่างเขา แยกจากเธอแล้ว ตอนเช้าของวันนี้เขาเลยไม่โกนหนวดเครา
เขาดูเหมือนแห้งเหี่ยวต่างไปจากปกติ เป็นเพราะเธอคิดเยอะไป หรือว่าเขาวางไม่ลงจริงๆ?
น้ำตา เอ่อล้นขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว เซี่ยชีหรั่นพยายามควบคุมอย่างสุดความสามารถ ถามเสียงเบาว่า : “ยังมีเรื่องอะไรอีกไหม? ”
ยังมีเรื่องอะไรอีกไหม?
หลังจากนี้เป็นต้นไปเขาต้องมีเรื่องถึงจะพูดกับเธอได้แล้ว พวกเขาเลิกกันแล้ว แม้กระทั่งเพื่อนก็เป็นไม่ได้แล้ว

คนที่รักกันทั้งสองคน ตัดสินใจแล้วไม่เลิกกัน ก็รักกันต่อไป ความรักที่แข็งแกร่งระหว่างพวกเขาไม่มีใครสักคนที่จะเป็นเพื่อนที่อบอุ่นกันต่อได้

เขาไม่สามารถกินข้าวกับเธอได้ ไม่สามารถพูดคุยเล่นหัวเราะกับเธอได้ ระหว่างพวกเขาไม่มีทางที่จะหาเรื่องมาคุยกันได้อย่างธรรมชาติได้อีกแล้ว

“รถยังเป็นรถของคุณ บอดี้การ์ดก็ยังเป็นบอดี้การ์ดของคุณ คุณชอบที่จะนั่งก็นั่ง ไม่อยากนั่งก็ไม่ต้องนั่ง คนคุณก็สามารถไล่ออกได้ วางแผนให้คุณแล้ว ก็คือวางแผนให้คุณแล้ว ไม่เอาคืนแน่นอน นี้ไม่ใช่พัวพันกับคุณไม่หยุดไม่ชัดเจน ผมสัญญากับแม่ของคุณว่าจะดูแลคุณไปตลอดชีวิต เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะอยู่ด้วยกัน หรือแยกจากกัน ผมก็ต้องรักษาคำหมั้นสัญญา ไม่มีเรื่องอะไรแล้ว คุณกลับไปเถอะ ”

เย่เชินหลินพูดจบ ก็ไม่ได้มองเธออีก หมุนตัวกลับไปมองนอกหน้าต่างอีกครั้ง ตึกสูงเสียดฟ้า มองขึ้นไปด้านบน เต็มไปด้วยท้องฟ้าสีคราม แต่กลับทำให้ความเจ็บปวดไม่สบายใจหายไปไม่ได้ สายตาของเขายิ่งมองยิ่งเศร้า

“เย่……” เซี่ยชีหรั่นพูดออกมาแค่คำเดียว เย่เชินหลินยืนมือออกมา บอกใบ้ให้เธอไม่ต้องพูดแล้ว

การตัดสินใจของเขาไม่มีทางเปลี่ยนแน่นอน ไม่ว่าเธอจะพูดยังไง เขาก็ไม่ยอมเอาบอดี้การ์ดที่ปกป้องเธอกลับ

เซี่ยชีหรั่นรู้ว่าทำอย่างนี้ต่อไป พวกเขาทั้งสองก็ความคิดเห็นไม่เหมือนกัน เขาก็ยังคงยืนยันที่จะให้ เธอก็ไม่ต้องการ

ไม่ว่าในใจของเธอจะมีกี่หมื่นคำที่ร้องตะโกนออกมา อยากที่จะให้คุยกับเขานานหน่อย มองเขาให้นานกว่านี้ เธอกลับไม่ได้ยื้ออะไรเลยสักนิด หลังตรง เดินออกไปด้านนอก

ได้ยินเสียงปิดประตู ร่างกายของเย่เชินหลินก็นิ่งแข็งไม่ขยับเขยื้อนอีกครั้ง

เขาเอามือล้วงกระเป๋าหยิบโทรศัพท์ออกมา กดไปที่เบอร์โทรศัพท์ของหลินหลิง และสั่งเธอไป

เซี่ยชีหรั่นเดินออกประตูไป เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยต้อนรับเธออีกครั้ง เธอแค่ตอบกลับไปอย่างนิ่งๆ : “ขอบคุณมากๆนะคะ แต่ว่าฉันพูดกับคุณเย่แล้ว หลังจากนี้ฉันจะไม่นั่งรถคุณอีกแล้ว และก็จะไม่ยอมรับการรักษาความปลอดภัยจากคุณอีกแล้ว น้ำใจของพวกคุณฉันรู้แล้ว และฉันจะจำไว้ ขอบคุณมากนะ ฉันไปแล้ว ”

“คุณเซี่ย เดี๋ยวแป๊บหนึ่ง! ” เธอได้ยินเสียงที่ดังมาจากด้านหลังของเธอ น้ำเสียงมีความเย็นชา หมุนตัวกลับไป เห็นหลินหลิงที่ผมสั้นเท่าติ่งหู ใส่รองเท้าส้นสูงวิ่งมาทางเธอ

“สวัสดีค่ะ ผู้ช่วยหลิน ” เซี่ยชีหรั่นยิ้มเล็กๆทักทาย

ส่วนใหญ่แล้วหลินหลิงจะไม่ค่อยยิ้มให้คนอื่น ท่าทางเย็นชาเหมือนเย่เชินหลินแต่ก่อน แต่ว่าเซี่ยชีหรั่นมีความประทับใจต่อเธอ

เธอเก่งมีความสามารถ และยังซื่อสัตย์จริงใจคิดแทนเย่เชินหลิน

เธอชอบเย่เชินหลิน เธอรู้ เธอจากไปแบบนี้ ก็คงเป็นโอกาสของหลินหลิงแล้วแหละ?

เซี่ยชีหรั่นคิดถึงภาพที่เย่เชินหลินและหลินหลิงเดินไปด้วยกัน เธอรู้สึกว่าคงเป็นเรื่องที่ดีต่อเย่เชินหลิน หลินหลิงมีความสามารถมากกว่าเธอ เป็นคนเคียงบ่าเคียงไหล่ของเขา ต้องจัดการเรื่องทั้งในบ้านและนอกบ้านได้อย่างเหมาะสมแน่นอน

ตอนที่ในหัวสมองกำลังคิดถึงภาพที่เย่เชินหลินและหลินหลิงเดินจับมือกัน ในใจของเธอก็รู้สึกอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก

“คุณเย่ขอร้องให้ฉันส่งสิ่งของบางอย่างให้คุณ คุณสะดวกที่จะไปนั่งคุยที่ร้านกาแฟตรงข้ามแป๊บนึงไหม? ” หลินหลิงไม่รอให้เซี่ยชีหรั่นถามจุดประสงค์การมาของเธอ เธอพูดตัดขึ้นก่อน

เซี่ยชีหรั่นพยักหน้า “ได้! ”

ทั้งสองคนเดินตามกันไปที่ร้านกาแฟ เมื่อเดินเข้าไป ก็มีคนทักทายหลินหลิง สวัสดีค่ะคุณหลิน หลินหลิงพยักหน้าตอบรับไป

ร้านกาแฟนี้ก็อยู่ภายใต้ชื่อของบริษัทฝู้ซื่อกรุ๊ป สภาพแวดล้อมดีมาก ไม่เปิดบริการให้แขกด้านนอก มักจะบริการสำหรับการประชุมผู้บริหารระดับสูงโดยเฉพาะ เพราะฉะนั้นทุกคนก็ล้วนรู้จักหลินหลิง

หลินหลิงพาเซี่ยชีหรั่นนั่งลงที่เก้าอี้ที่หนึ่ง เซี่ยชีหรั่นไม่รู้ตำแหน่งที่นั่งของพวกเธอมีอะไรพิเศษอย่างอื่นหรือเปล่า

พนักงานเสิร์ฟอาหารให้ทั้งสองคน แน่นอนว่าไม่มีราคาเมนู แค่สั่งก็ได้แล้ว

เซี่ยชีหรั่นไม่อยากอยู่กับคนข้างกายของเย่เชินหลินนานมากนัก เธอไม่อยากมองเห็นภาพที่ทำให้สะเทือนใจ หลังจากที่ได้เจอเย่เชินหลิน ใจของเธอมักจะอยู่ไม่นิ่ง อยากที่จะหาที่บางที่สงบจิตสงบใจสักแป๊บ

“เอาน้ำมะนาวแก้วหนึ่งก็โอเคแล้ว ” หลินหลิงพูดอย่างเรียบง่าย เซี่ยชีหรั่นเห็นเธอสั่งเครื่องดื่ม ดูเหมือนว่าคงไม่ได้คุยกันแค่แป๊บเดียวแน่นอน ไม่อยากปฏิเสธน้ำใจของคนอื่น เธอก็เลยสั่งกาแฟไปแก้วหนึ่ง

ในมือของหลินหลิงถือซองเอกสารอยู่ หลังจากที่นั่งลง ก็เอาซองเอกสารวางลงบนโต๊ะ กลับไม่เหมือนทุกครั้งที่เธอจะพูดเข้าประเด็นเลย

ที่จริงนอกจากซองเอกสารที่อยู่ในมือเธอให้กับเซี่ยชีหรั่นแล้ว ก็ยังมีภารกิจบางอย่างอยู่ข้างกาย นั้นก็คือยื้อเซี่ยชีหรั่นให้นั่งอยู่ในร้านกาแฟแป๊บหนึ่ง

เธอไม่ชำนาญเรื่องการยื้อคนไว้ พูดบ้างไม่พูดบ้าง ชีวิตของเธอดูเหมือนว่านอกจากงานแล้วก็มีแค่งาน แค่กลัวว่าแม้แต่ฝันก็จะฝันถึงงาน

เซี่ยชีหรั่นรู้สึกไม่ค่อยเคยชินเท่าไรที่หลินหลิงนั่งอยู่ตรงนั้นแต่กลับไม่พูดอะไร ดูเหมือนอยากจะพูด แต่ก็ไม่รู้ว่าจะเริ่มจากตรงไหนประมาณนั้น

“ผู้ช่วยหลิน มีเรื่องอะไรคุณพูดมาเถอะ ” เซี่ยชีหรั่นนึกว่านอกจากให้สิ่งของเธอแล้ว เธอมีเรื่องบางเรื่องที่ไม่กล้าเปิดปากพูด

หรือว่าเกี่ยวกับเย่เชินหลิน? รู้ว่าเธอถอยออกมาแล้ว เธอเลยอยากที่จะรู้ว่าเย่เชินหลินชอบอะไร เลยมาถามเธอโดยเฉพาะ?

ก็ไม่ใช่ หลินหลิงรู้และเข้าใจเย่เชินหลินเป็นอย่างดี เกรงว่าอยากที่จะห่างๆคู่หมั้นในอดีตอย่างเธอมั้ง พวกเขาอยู่ด้วยกันมานาน

“ไม่มีเรื่องอะไร ฉันแค่……”หลินหลิงไม่เคยพูดกระตุกกระตักอย่างนี้มาก่อน เธอคิดในใจ ถึงแม้เธอจะเป็นผู้ช่วยพิเศษของเย่เชินหลิน ทำเรื่องแบบนี้ทำให้เธอรู้สึกไม่ค่อยเคยชินเลยสักนิด

“ที่จริงฉันชื่นชมคุณมากนะ คุณเซี่ย ฉันคิดว่าคุณกับคุณเย่ พวกคุณจะสามารถอยู่ด้วยกันไปตลอดชีวิต คิดไม่ถึง ว่าพวกคุณจะแยกจากกันเร็วขนาดนี้ ฉันพูดความจริง ฉันอยู่กับคุณเย่มาตั้งนาน ไม่เคยเห็นเขาจริงใจกับผู้หญิงคนไหนมาก่อน เรื่องของพวกคุณฉันพอได้ยินมาบ้าง ฉันคิดว่าคุณเป็นคนใจกว้าง ไม่ได้อะไรกับเรื่องนี้ของเขา ถึงแม้ว่าฉันจะไม่รู้รายละเอียดเรื่องราวที่เกิดขึ้นมากนัก แต่ฉันคิดว่า ถ้ารักกันจริง ก็ไม่ควรที่จะทิ้งกันไปง่ายๆแบบนี้ ” ในเมื่อหาเรื่องอื่นมาพูดไม่ได้แล้ว หลินหลิงเลยเอาคำพูดที่อยู่ในใจจริงของเธอพูดออกมา

เซี่ยชีหรั่นนิ่งเงียบไม่พูดอะไร เธอพูดต่อ : “คุณอาจจะรู้สึกว่าฉันพูดมันก็ง่ายนะซิไม่เหมือนคนเจอกับตัว พูดไม่มีมนุษยธรรมจริงๆ แต่ว่าฉันอยากที่จะถามคุณประโยคหนึ่ง บนโลกใบนี้มีความรักที่สมบูรณ์แบบไหม? ความรู้สึกใครไม่ซับซ้อนบ้างล่ะ? นี้คือความจริงอ่ะ ในโลกแห่งความจริงสามารถหาความรักที่ไม่เสียใจได้ไหม? เรื่องที่คุณส้งท้องนั้น ถ้านับตามเดือนที่ตั้งท้องนั้นก็น่าจะเป็นตอนที่คุณเย่และคุณส้งยังเป็นคู่หมั้นกันอยู่ ความสัมพันธ์ของพวกเขาในตอนนั้น เรื่องราวที่สนิทสนมของพวกเขาในตอนนั้นคงยากที่จะพูดป่ะ ”

โต๊ะที่อยู่ด้านหลังที่นั่งของพวกเธอ เย่เชินหลินขมวดคิ้ว เขาเรียกให้หลินหลิงยื้อเซี่ยชีหรั่นไว้ แค่อยากให้คุยอะไรกับเธอก็ได้ ไม่ได้ให้เธอพูดเรื่องนี้

เขาน่าจะบ้าไปแล้ว ตอนเจอที่อยู่บนตึกสูงนั้น เขาได้ยินเธอพูดแค่นิดเดียว เพราะฉะนั้นเขาเลยอยากฟังเสียงเธอพูดอีกหน่อย เขากับเธอ อยู่ห่างกันแค่โซฟาสองตัว

เขากดโทรศัพท์ ส่งข้อความไปหาหลินหลิง

“คุณเซี่ย เขาทำเพื่อคุณมาตั้งมากมาย เพราะว่าเรื่องแค่นี้คุณเลยยอมรับไม่ได้ และก็ไม่คิดที่จะพิจารณาเหรอ? ฉันรู้นิสัยของคุณเย่ ถึงแม้ว่าเขาจะมีลูกสักร้อยคน ก็จะไม่กระทบต่อชีวิตของคุณแน่นอน…… ” คำพูดของเธอพูดถึงเท่านี้ โทรศัพท์ก็ดังขึ้น เธอเปิดดู มีแค่ข้อความสั้นๆไม่กี่คำ : อย่าพูดมั่วซั่ว

หลินหลิงเงียบลง ไม่ได้พูดต่อ แต่ว่าเธอก็ไม่ยอม ถ้าเปลี่ยนเป็นเธอ ไม่ว่าเย่เชินหลินจะให้ความอบอุ่นกับเธอแค่นิดเดียว ไม่จำเป็นต้องทำอะไรมากมายเหมือนกับเซี่ยชีหรั่น ขอแค่เขาพูดชอบเธอก็โอเคแล้ว ถึงแม้ว่านะจริงหรือว่าไม่จริง แต่สามคำนี้ เธอก็สามารถยอมตายเพื่อเขาได้ ยินยอมหมดทุกอย่าง ยิ่งไม่ต้องพูดถึงลูกแค่คนเดียว

สีหน้าของเซี่ยชีหรั่นไม่ดี คำพูดของหลินหลิงแหลมคมมาก แต่ก็เป็นเรื่องจริงทั้งหมด

เมื่อตอนที่เธอจากไปนั้น ตัวเองยังรู้สึกว่าตัวเองเห็นแก่ตัวมากเกินไปเลย

แต่ก่อนตอนที่เย่เชินหลินคบกับส้งหลิงหลิงนั้น พวกเขาเป็นความสัมพันธ์ที่ถูกต้อง เธอเป็นคนที่สาม บุคคลที่สามที่สิทธิ์เรียกร้องให้คู่หมั้นที่ถูกต้องตามกฎหมายไม่นอนเตียงเดียวกัน?

ลูกก็เป็นตอนนั้นที่เกิดขึ้น ไม่ใช่สิ่งที่เขาอยากจะให้เกิดขึ้น เขาให้เธอกินยาคุ้ม ก็คงให้ส้งหลิงหลิงกินเหมือนกัน เป็นแผนการที่ส้งหลิงหลิงอยากที่จะเก็บเด็กเอาไว้ ตอนนี้ส้งหลิงหลิงท้องใหญ่กลับมา เย่เชินหลินไม่กล้าที่จะให้เธอเอาเด็กออกซะ นี้ก็เป็นเรื่องปกติ ทั้งที่เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ แต่ทำไมเธอถึงยอมรับไม่ได้?

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Recommended Series

Comment

Options

not work with dark mode
Reset